» เทคนิคในการบริหารเจ้านาย
» โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
เมื่อพูดถึงการบริหารจัดการ เกือบทุกคนจะนึกถึงการบริหารจัดการลูกน้อง หลายคนอาจนึกถึงการบริหารจัดการงาน มีบางคนที่นึกถึงการบริหารจัดการเพื่อนร่วมงาน แต่น้อยคนมากที่จะนึกถึงการบริหารจัดการเจ้านาย !
อันที่จริงศาสตร์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ นักบริหารหลายคนที่มีโอกาสทำงานกับต่างชาติ รู้ดีว่าเมืองนอกมีวิชาการบริหารจัดการหัวหน้า ที่เรียกว่า Managing Up หรือแปลเป็นไทยว่า การบริหารขึ้นข้างบน สอนกันเป็นเรื่องเป็นราวมานานแล้ว
วารสารวิชาการชื่อดังอย่าง Harvard Business Review ก็มีบทความชื่อ Managing Your Boss ซึ่งตีพิมพ์มาหลายปี แต่ยังเป็นบทความที่มียอดซื้อและ Download จากผู้สนใจทั่วโลก เป็นอันดับต้นๆ อย่างต่อเนื่องยาวนาน แสดงให้เห็นว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่มีแต่คนไทยเท่านั้นที่อยากรู้
การบริหารจัดการเจ้านาย เป็นเรื่องใกล้ตัวที่อาจถูกมองข้ามไป ลูกน้องหลายคนไม่ประสบความสำเร็จเพราะบริหารเจ้านายได้ไม่ดี ในขณะที่บางคนฉลาดกว่าสามารถจัดการเจ้านายได้อยู่หมัด
เทคนิคเหล่านี้มีคนพูดถึงกันมากมาย ไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไร เรียกว่า “ลูกน้องเรียนได้ เจ้านายเรียนดี”
วันนี้จึงขอนำเทคนิค 10 ประการในการจัดการเจ้านาย มาสาธยายให้ฟัง
◌◌◌◌◌◌
1. ค้นหาให้ได้ว่าหัวหน้าให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร
เจ้านายแต่ละคนมีสไตล์ในการทำงานไม่เหมือนกัน บางคนอยากให้ลงรายละเอียดเยอะ ๆ บางคนอยากได้แต่เนื้อ ๆ บางคนชอบอ่าน บางคนอยากคุยกันแบบเจอหน้า ฯลฯ
การทำงานให้ประสบความสำเร็จ ลูกน้องต้องรู้ให้ได้ว่าเจ้านายสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร
เทคนิคง่าย ๆ คือ “ไม่ต้องเดาถามตรง ๆ” ว่าหัวหน้าอยากให้รายงานความคืบหน้าบ่อยแค่ไหน ในรูปแบบใด เป็นต้น แล้วจงตอบสนองตามนั้น
◌◌◌◌◌◌
2. ให้หัวหน้ารับทราบว่าอะไรสำคัญสำหรับคุณ
ในทางกลับกัน การทำงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เจ้านายก็ควรทราบด้วยว่าอะไรสำคัญสำหรับลูกน้อง ดังนั้นไม่ต้องรอให้ถาม บอกตรง ๆ เลยว่าคุณอยากได้รับการสื่อสารและบริหารจัดการเช่นไร
ตัวอย่างเช่น...
“หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ขอให้พี่บอกผมตรงๆ ได้ทันที ไม่อยากให้เก็บไว้บอกภายหลัง”
ถ้าบังเอิญความเห็นของคุณกับหัวหน้าไม่ตรงกัน จงหาทางปรับจูนตั้งแต่แรกก่อนที่จะเริ่มต้นลงมือทำงาน คุยกันซะให้เคลียร์จะได้ไม่ต้องผิดใจกันทีหลัง !
◌◌◌◌◌◌
3. ส่งมอบงานที่ดีที่สุด เพื่อให้เจ้านายดูดี
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการ “เชลีย” !
ผมหมายถึงเมื่อได้รับมอบหมายงานมา จงตั้งใจทำให้ดีที่สุดและส่งมอบก่อนเวลาที่กำหนด
จำไว้ว่า...ผลงานของคุณก็คือ ผลงานของเจ้านาย หากงานที่ส่งไป ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไข เจ้านายนำไปใช้ต่อได้ทันที
นอกจากเจ้านายคุณจะดูดีแล้วเขายังมีเวลาไปทำงานอื่น ๆ ที่มีคุณค่ามากกว่า
หากทำได้เช่นนี้ … มีหรือที่คุณจะตกต่ำ !
วันหลังคุณขออะไร เจ้านายก็ให้ … เชื่อไหม ?
◌◌◌◌◌◌
4. ตอบสนองให้เร็วและให้มากกว่าที่ขอ 1 ขั้นเสมอ
เจ้านายหลายคนรู้สึกหัวเสียกับลูก น้องที่ทำตัวเป็นเหมือน “ทองไม่รู้ร้อน” สื่อสารด้วยก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ พอถาม...ก็ทำท่างง ๆ สั่งงานเสร็จ...ก็เงียบหายไป ส่งอีเมล์...ก็ไม่ตอบกลับมา ฯลฯ
ลูกน้องแบบนี้พูดอะไร เจ้านายก็ไม่ฟัง เพราะรู้สึกว่าเป็นคนเฉื่อยชาไม่เอาถ่าน
ดังนั้น หากอยากจะเป็นที่ยอมรับของหัวหน้า เป็นสมบัติล้ำค่าที่หัวหน้าไม่อยากเสียไป พูดหรือให้ความเห็นอะไร ก็ดูมีน้ำหนักเพราะหัวหน้าเชื่อใจ …
จงทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับที่กล่าวมาข้างต้น … ง่าย ๆ เท่านี้เอง
◌◌◌◌◌◌
5. ทำตัวให้น่าเชื่อถือและเป็นที่ไว้ใจ
หากต้องการทำงานอย่างเป็นอิสระ เจ้านายไม่มาก้าวก่ายหรือเจ้ากี้เจ้าการมากเกินไป ไม่มาคอยสั่งโน่นสั่งนี่จนน่ารำคาญ อยากทำอะไรก็ได้ทำเต็มที่ จงเริ่ิมต้นจาก... ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ทุกครั้ง
หากรับปากว่าจะส่งงานวันไหน...ก็ส่งตรงเวลา
หากรับปากว่าจะหาข้อมูลก่อนแล้วกลับมาแจ้งให้ทราบ...ก็กลับมาตามที่รับปาก
ทำแบบนี้ให้เสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช่สามวันดีสี่วันแย่ ! ค่อย ๆ ทำไป ความเชื่อมั่นคล้ายการลงทุนที่ต้องใช้เวลาสะสมทีละเล็กละน้อยแต่สม่ำเสมอ วันหนึ่งเมื่อจำเป็นต้องใช้ ก็จะมีดอกมีผลที่คุ้มค่า
◌◌◌◌◌◌
6. เน้นย้ำพฤติกรรมดี ๆ ของหัวหน้าที่อยากให้เกิดขึ้นอีก
หลายคนคงไม่ทันคิดว่าลูกน้องก็สามารถแสดงความชื่นชมหัวหน้าได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อหัวหน้าแสดงพฤติกรรมบางอย่างที่คุณชอบและอยากเห็นหัวหน้าทำแบบนั้นอีก
ตัวอย่างง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง เมื่อหลายปีก่อนผมมีเจ้านายคนหนึ่ง แกเป็นคนปากหนัก ชมใครไม่ค่อยเป็น วันหนึ่งไม่รู้อะไรดลใจ อยู่ดี ๆ แกเดินมาชมด้วยน้ำเสียงจริงจังและท่าทางจริงใจ
ผมรู้สึกตื่นเต้นและตื้นตันมาก เลยบอกแกไปตรง ๆ ว่า
“พี่ครับ ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา เพิ่งได้รับคำชมจากพี่เป็นครั้งแรก ผมรู้สึกดีใจมากและเป็นกำลังใจอย่างยิ่งให้ตั้งใจทำงานให้ดียิ่งขึ้น ถ้าโอกาสหน้าผมทำได้ดีอีก อยากให้พี่บอกผมเหมือนอย่างเมื่อกี้นะครับ”
เชื่อไหม เจ้านายผมอายม้วนต้วนไปเลย หลังจากนั้นแกชมมากขึ้นครับ … ไชโย !
◌◌◌◌◌◌
7. ให้หัวหน้าได้รับรู้ก่อนล่วงหน้า ถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
ไม่มีหัวหน้าคนไหนอยากรู้สึกประหลาดใจ (Surprise) ด้วยข่าวร้ายที่ไม่เคยระแคะระคายมาก่อน
ดังนั้น จงหาโอกาสบอกหรือเตือนหัวหน้าเสมอ ๆ ถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น
ที่สำคัญจงบอกด้วยว่า...คุณได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ และวางแผนจะทำอะไรต่อไปกับเหตุการณ์นี้ เพื่อจะได้ไม่ดูตื่นตระหนกจนเกินไป
◌◌◌◌◌◌
8. หากมี`ปัญหา´...จงพา`คำตอบ´ไปด้วย
ในฐานะหัวหน้า ผมพบว่าลูกน้องหลายคนมีแต่ “คำถาม” ไม่มี “คำตอบ” หรือถ้าไม่ถามกลับไป ก็ไม่คิดจะหาคำตอบมาก่อน
ลูกน้องเหล่านี้ ในสายตาผม เขาเป็นลูกน้องธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ไม่แตกต่างจากลูกน้องคนอื่น ๆ เพราะลูกน้องส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนี้ ดังนั้นสำหรับผม เขาคือ Nobody !
แต่มีลูกน้องบางคนที่แปลกกว่าคนอื่น ตรงที่ทุกครั้งที่มีคำถามก็มีคำตอบมาด้วยเสมอ แม้จะถูกบ้างผิดบ้างแต่ก็ตั้งใจไปคิดหาคำตอบมา สำหรับคนแบบนี้ เขาเป็น Somebody ในสายตามผม !
หลักการง่าย ๆ เวลา Somebody พูดอะไร ผมจะตั้งใจฟัง แต่ถ้า Nobody พูดอะไร ผมก็ปล่อยให้ผ่าน ๆ ไป
◌◌◌◌◌◌
9. เมื่อไม่มีความสุข จงรีบบอกหัวหน้า
อย่าปล่อยให้สถานการณ์บางอย่างที่ไม่พึงประสงค์ ค่อย ๆ กัดกินความสุขในการทำงานของคุณไปโดยไม่พูดอะไร เพียงเพราะหวังว่าเวลาน่าจะช่วยแก้ปัญหาได้
ในขณะเดียวกัน อย่าคาดหวังให้หัวหน้าเดาความรู้สึกของคุณ หากเป็นเรื่องสำคัญจงรีบบอกอย่างสร้างสรรค์และให้เกียรติ อย่าเล่นเกมหรือข่มขู่เด็ดขาด แต่จงหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน
นิสัยของคนไทยอย่างหนึ่งคือ ไม่ค่อยยอมบอกความรู้สึกของตนเอง แต่คาดหวังให้คนอื่นต้องรับรู้ พอเวลาผ่านไป รอจนทนไม่ไหวก็โพล่งออกไปว่า “อันที่จริงไม่อยากพูดแต่...” จึงอยากเสนอว่า “อันที่จริงควรพูดตั้งแต่แรก” จะดีกว่านะครับ
◌◌◌◌◌◌
10. จงพูดลับหลังเจ้านาย
เปล่าครับ ไม่ได้สอนให้นินทา แต่ต้องการจะบอกว่าเมื่ออยู่ลับหลังเจ้านาย จงพูดเกี่ยวกับเขาในทางสร้างสรรค์ โดยเฉพาะกับหัวหน้าโดยตรงของเจ้านายเราเอง
การให้เกียรติเจ้านายลับหลัง มีพลังมากกว่าที่คุณคิด เชื่อผมครับว่าหน้าต่างมีหูประตูมีตา คุณพูดอะไร ไม่นานก็ถึงหูเขา
◌◌◌◌◌◌
» คำเตือน :
จงทำด้วยความจริงใจเพราะใคร ๆ ก็ดูออกว่าคุณหมายความอย่างที่พูดหรือไม่
หากทำตาม 10 วิธีข้างต้น รับรองได้ว่าคุณจะเป็นขวัญใจที่เจ้านายทุกคนเกรงใจ ต่อไปพูดอะไรก็ดูน่าเชื่อถือ
ที่สำคัญจะมีอิสระในการทำงานอย่างที่อยากได้
ไม่เชื่อลองดู...
◌◌◌◌◌◌
Credit บทความ : อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา | กรรมการบริหาร สลิงชอท กรุ๊ป | SME Thailand (November 2014)
» โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
เมื่อพูดถึงการบริหารจัดการ เกือบทุกคนจะนึกถึงการบริหารจัดการลูกน้อง หลายคนอาจนึกถึงการบริหารจัดการงาน มีบางคนที่นึกถึงการบริหารจัดการเพื่อนร่วมงาน แต่น้อยคนมากที่จะนึกถึงการบริหารจัดการเจ้านาย !
อันที่จริงศาสตร์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ นักบริหารหลายคนที่มีโอกาสทำงานกับต่างชาติ รู้ดีว่าเมืองนอกมีวิชาการบริหารจัดการหัวหน้า ที่เรียกว่า Managing Up หรือแปลเป็นไทยว่า การบริหารขึ้นข้างบน สอนกันเป็นเรื่องเป็นราวมานานแล้ว
วารสารวิชาการชื่อดังอย่าง Harvard Business Review ก็มีบทความชื่อ Managing Your Boss ซึ่งตีพิมพ์มาหลายปี แต่ยังเป็นบทความที่มียอดซื้อและ Download จากผู้สนใจทั่วโลก เป็นอันดับต้นๆ อย่างต่อเนื่องยาวนาน แสดงให้เห็นว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่มีแต่คนไทยเท่านั้นที่อยากรู้
การบริหารจัดการเจ้านาย เป็นเรื่องใกล้ตัวที่อาจถูกมองข้ามไป ลูกน้องหลายคนไม่ประสบความสำเร็จเพราะบริหารเจ้านายได้ไม่ดี ในขณะที่บางคนฉลาดกว่าสามารถจัดการเจ้านายได้อยู่หมัด
เทคนิคเหล่านี้มีคนพูดถึงกันมากมาย ไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไร เรียกว่า “ลูกน้องเรียนได้ เจ้านายเรียนดี”
วันนี้จึงขอนำเทคนิค 10 ประการในการจัดการเจ้านาย มาสาธยายให้ฟัง
◌◌◌◌◌◌
1. ค้นหาให้ได้ว่าหัวหน้าให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร
เจ้านายแต่ละคนมีสไตล์ในการทำงานไม่เหมือนกัน บางคนอยากให้ลงรายละเอียดเยอะ ๆ บางคนอยากได้แต่เนื้อ ๆ บางคนชอบอ่าน บางคนอยากคุยกันแบบเจอหน้า ฯลฯ
การทำงานให้ประสบความสำเร็จ ลูกน้องต้องรู้ให้ได้ว่าเจ้านายสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร
เทคนิคง่าย ๆ คือ “ไม่ต้องเดาถามตรง ๆ” ว่าหัวหน้าอยากให้รายงานความคืบหน้าบ่อยแค่ไหน ในรูปแบบใด เป็นต้น แล้วจงตอบสนองตามนั้น
◌◌◌◌◌◌
2. ให้หัวหน้ารับทราบว่าอะไรสำคัญสำหรับคุณ
ในทางกลับกัน การทำงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เจ้านายก็ควรทราบด้วยว่าอะไรสำคัญสำหรับลูกน้อง ดังนั้นไม่ต้องรอให้ถาม บอกตรง ๆ เลยว่าคุณอยากได้รับการสื่อสารและบริหารจัดการเช่นไร
ตัวอย่างเช่น...
“หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ขอให้พี่บอกผมตรงๆ ได้ทันที ไม่อยากให้เก็บไว้บอกภายหลัง”
ถ้าบังเอิญความเห็นของคุณกับหัวหน้าไม่ตรงกัน จงหาทางปรับจูนตั้งแต่แรกก่อนที่จะเริ่มต้นลงมือทำงาน คุยกันซะให้เคลียร์จะได้ไม่ต้องผิดใจกันทีหลัง !
◌◌◌◌◌◌
3. ส่งมอบงานที่ดีที่สุด เพื่อให้เจ้านายดูดี
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการ “เชลีย” !
ผมหมายถึงเมื่อได้รับมอบหมายงานมา จงตั้งใจทำให้ดีที่สุดและส่งมอบก่อนเวลาที่กำหนด
จำไว้ว่า...ผลงานของคุณก็คือ ผลงานของเจ้านาย หากงานที่ส่งไป ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไข เจ้านายนำไปใช้ต่อได้ทันที
นอกจากเจ้านายคุณจะดูดีแล้วเขายังมีเวลาไปทำงานอื่น ๆ ที่มีคุณค่ามากกว่า
หากทำได้เช่นนี้ … มีหรือที่คุณจะตกต่ำ !
วันหลังคุณขออะไร เจ้านายก็ให้ … เชื่อไหม ?
◌◌◌◌◌◌
4. ตอบสนองให้เร็วและให้มากกว่าที่ขอ 1 ขั้นเสมอ
เจ้านายหลายคนรู้สึกหัวเสียกับลูก น้องที่ทำตัวเป็นเหมือน “ทองไม่รู้ร้อน” สื่อสารด้วยก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ พอถาม...ก็ทำท่างง ๆ สั่งงานเสร็จ...ก็เงียบหายไป ส่งอีเมล์...ก็ไม่ตอบกลับมา ฯลฯ
ลูกน้องแบบนี้พูดอะไร เจ้านายก็ไม่ฟัง เพราะรู้สึกว่าเป็นคนเฉื่อยชาไม่เอาถ่าน
ดังนั้น หากอยากจะเป็นที่ยอมรับของหัวหน้า เป็นสมบัติล้ำค่าที่หัวหน้าไม่อยากเสียไป พูดหรือให้ความเห็นอะไร ก็ดูมีน้ำหนักเพราะหัวหน้าเชื่อใจ …
จงทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับที่กล่าวมาข้างต้น … ง่าย ๆ เท่านี้เอง
◌◌◌◌◌◌
5. ทำตัวให้น่าเชื่อถือและเป็นที่ไว้ใจ
หากต้องการทำงานอย่างเป็นอิสระ เจ้านายไม่มาก้าวก่ายหรือเจ้ากี้เจ้าการมากเกินไป ไม่มาคอยสั่งโน่นสั่งนี่จนน่ารำคาญ อยากทำอะไรก็ได้ทำเต็มที่ จงเริ่ิมต้นจาก... ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ทุกครั้ง
หากรับปากว่าจะส่งงานวันไหน...ก็ส่งตรงเวลา
หากรับปากว่าจะหาข้อมูลก่อนแล้วกลับมาแจ้งให้ทราบ...ก็กลับมาตามที่รับปาก
ทำแบบนี้ให้เสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช่สามวันดีสี่วันแย่ ! ค่อย ๆ ทำไป ความเชื่อมั่นคล้ายการลงทุนที่ต้องใช้เวลาสะสมทีละเล็กละน้อยแต่สม่ำเสมอ วันหนึ่งเมื่อจำเป็นต้องใช้ ก็จะมีดอกมีผลที่คุ้มค่า
◌◌◌◌◌◌
6. เน้นย้ำพฤติกรรมดี ๆ ของหัวหน้าที่อยากให้เกิดขึ้นอีก
หลายคนคงไม่ทันคิดว่าลูกน้องก็สามารถแสดงความชื่นชมหัวหน้าได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อหัวหน้าแสดงพฤติกรรมบางอย่างที่คุณชอบและอยากเห็นหัวหน้าทำแบบนั้นอีก
ตัวอย่างง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง เมื่อหลายปีก่อนผมมีเจ้านายคนหนึ่ง แกเป็นคนปากหนัก ชมใครไม่ค่อยเป็น วันหนึ่งไม่รู้อะไรดลใจ อยู่ดี ๆ แกเดินมาชมด้วยน้ำเสียงจริงจังและท่าทางจริงใจ
ผมรู้สึกตื่นเต้นและตื้นตันมาก เลยบอกแกไปตรง ๆ ว่า
“พี่ครับ ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา เพิ่งได้รับคำชมจากพี่เป็นครั้งแรก ผมรู้สึกดีใจมากและเป็นกำลังใจอย่างยิ่งให้ตั้งใจทำงานให้ดียิ่งขึ้น ถ้าโอกาสหน้าผมทำได้ดีอีก อยากให้พี่บอกผมเหมือนอย่างเมื่อกี้นะครับ”
เชื่อไหม เจ้านายผมอายม้วนต้วนไปเลย หลังจากนั้นแกชมมากขึ้นครับ … ไชโย !
◌◌◌◌◌◌
7. ให้หัวหน้าได้รับรู้ก่อนล่วงหน้า ถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
ไม่มีหัวหน้าคนไหนอยากรู้สึกประหลาดใจ (Surprise) ด้วยข่าวร้ายที่ไม่เคยระแคะระคายมาก่อน
ดังนั้น จงหาโอกาสบอกหรือเตือนหัวหน้าเสมอ ๆ ถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น
ที่สำคัญจงบอกด้วยว่า...คุณได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ และวางแผนจะทำอะไรต่อไปกับเหตุการณ์นี้ เพื่อจะได้ไม่ดูตื่นตระหนกจนเกินไป
◌◌◌◌◌◌
8. หากมี`ปัญหา´...จงพา`คำตอบ´ไปด้วย
ในฐานะหัวหน้า ผมพบว่าลูกน้องหลายคนมีแต่ “คำถาม” ไม่มี “คำตอบ” หรือถ้าไม่ถามกลับไป ก็ไม่คิดจะหาคำตอบมาก่อน
ลูกน้องเหล่านี้ ในสายตาผม เขาเป็นลูกน้องธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ไม่แตกต่างจากลูกน้องคนอื่น ๆ เพราะลูกน้องส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนี้ ดังนั้นสำหรับผม เขาคือ Nobody !
แต่มีลูกน้องบางคนที่แปลกกว่าคนอื่น ตรงที่ทุกครั้งที่มีคำถามก็มีคำตอบมาด้วยเสมอ แม้จะถูกบ้างผิดบ้างแต่ก็ตั้งใจไปคิดหาคำตอบมา สำหรับคนแบบนี้ เขาเป็น Somebody ในสายตามผม !
หลักการง่าย ๆ เวลา Somebody พูดอะไร ผมจะตั้งใจฟัง แต่ถ้า Nobody พูดอะไร ผมก็ปล่อยให้ผ่าน ๆ ไป
◌◌◌◌◌◌
9. เมื่อไม่มีความสุข จงรีบบอกหัวหน้า
อย่าปล่อยให้สถานการณ์บางอย่างที่ไม่พึงประสงค์ ค่อย ๆ กัดกินความสุขในการทำงานของคุณไปโดยไม่พูดอะไร เพียงเพราะหวังว่าเวลาน่าจะช่วยแก้ปัญหาได้
ในขณะเดียวกัน อย่าคาดหวังให้หัวหน้าเดาความรู้สึกของคุณ หากเป็นเรื่องสำคัญจงรีบบอกอย่างสร้างสรรค์และให้เกียรติ อย่าเล่นเกมหรือข่มขู่เด็ดขาด แต่จงหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน
นิสัยของคนไทยอย่างหนึ่งคือ ไม่ค่อยยอมบอกความรู้สึกของตนเอง แต่คาดหวังให้คนอื่นต้องรับรู้ พอเวลาผ่านไป รอจนทนไม่ไหวก็โพล่งออกไปว่า “อันที่จริงไม่อยากพูดแต่...” จึงอยากเสนอว่า “อันที่จริงควรพูดตั้งแต่แรก” จะดีกว่านะครับ
◌◌◌◌◌◌
10. จงพูดลับหลังเจ้านาย
เปล่าครับ ไม่ได้สอนให้นินทา แต่ต้องการจะบอกว่าเมื่ออยู่ลับหลังเจ้านาย จงพูดเกี่ยวกับเขาในทางสร้างสรรค์ โดยเฉพาะกับหัวหน้าโดยตรงของเจ้านายเราเอง
การให้เกียรติเจ้านายลับหลัง มีพลังมากกว่าที่คุณคิด เชื่อผมครับว่าหน้าต่างมีหูประตูมีตา คุณพูดอะไร ไม่นานก็ถึงหูเขา
◌◌◌◌◌◌
» คำเตือน :
จงทำด้วยความจริงใจเพราะใคร ๆ ก็ดูออกว่าคุณหมายความอย่างที่พูดหรือไม่
หากทำตาม 10 วิธีข้างต้น รับรองได้ว่าคุณจะเป็นขวัญใจที่เจ้านายทุกคนเกรงใจ ต่อไปพูดอะไรก็ดูน่าเชื่อถือ
ที่สำคัญจะมีอิสระในการทำงานอย่างที่อยากได้
ไม่เชื่อลองดู...
◌◌◌◌◌◌
Credit บทความ : อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา | กรรมการบริหาร สลิงชอท กรุ๊ป | SME Thailand (November 2014)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น