++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ความสำคัญของวิตามิน เอ......

 ความสำคัญของวิตามิน เอ......
วิตามินเอมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพ ดดยมีบทบาทสำคัญต่อระบบการมองเห็น การเจริญเติบโต การสร้างภูมิคุ้มกันโรค รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของเซลเยื่อบุผิวต่างๆแหล่งอาหารที่มีวิตามินเอสูงได้แก่ ตับ ไข่แดง นม เนื้อสัตว์ ผักใบเขียวเข้ม ผักและผลไม้สีเหลือง
ภาวะขาดวิตามินเอ
เป็นกระบวนการต่อเนื่องจากการที่ร่างกายได้รับวิตามินเอจากอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้ปริมาณวิตามินเอที่สะสมในตับ เลือดและเนื้อเยื่อลดน้อยลง ซึ่งเป็นภาวะบกพร่อง วิตามินเอในระดับไม่แสดงอาการทางคลีนิก (Subclinic Vitamin A Deficiency) และจะแสดงอาการทางตา หากการขาดวิามินเอมีความรุนแรงยิ่งขึ้น เรียกว่า Xeropthalmia โดยในระยะแรกจะมีอาการตาบอดกลางคืน (Night Blindness) เยื่อบุตาขาวแห้ง เกล็ดกระดี่ (Bitot's spot) กระจกตาแห้ง (Corneal Xerosis) กระจกตาเป็นแผล (Keratomalacia) ทำให้ตาบอดในที่สุด
สาเหตุ
เกิดจากการที่ร่างกายได้รับวิตามินเอจากอาหารไม่เพียงพอ
อาการ
1. เจ็บป่วยบ่อยด้วยโรคติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคท้องร่วง ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หลอดลมอักเสบ หัดและอีสุอีใส
2. อาการแสดงทางตา
- ตาบอดกลางคืน หรือโรคตาฟางหรือมองไม่เห็นในที่มีแสงสลัวสังเกตได้จากตอนกลางคืนหรือเมื่ออยู่ในที่มีแสงน้อยจะเดินขนสิ่งหรือหกล้ม สะดุดหรือหาของไม่พบ
- เยื่อบุตาขาวแห้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านข้างของลูกตาจะเริ่มแห้ง บางครั้งจะมีรอยย่นและหนาตัวขึ้นอาจจะพบที่ตาทั้งสองข้างหรือข้างใดข้างหนึ่งก็ได้
- เกล็ดกระดี่( Bitot's spot) มีลักษณะเหมือนฟองโฟมเล็กๆ หรือเป็นแผ่นสีขาวหนาตัวขึ้นที่ตาขาว
- กระจกตา (ตาดำ) แห้ง หรือมีแผลถลอก
- กระจกตา (ตาดำ) ขุ่นเป็นฝ้าและเหลว ต่อมาตาข้างนั้นจะใช้การไม่ได้เลยทำให้ตาบอดแบบถาวร
ที่มา สถาบันโภชนาการ http://nutrition.anamai.moph.go.th
credit pic: www.flickr.com/photos/communityeyehealth

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น