++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เรื่องง่ายๆ ที่มองข้าม



เด็กชายวิ่งตื๋อมาหาพ่อ “พ่อครับข้างบ้านเขาขโมยสอยมะม่วงเราครับ”
พ่อหัวเราะแล้วถาม “เราเหลืออีกหลายลูกไหม ลูก”
“ผมเห็นอีกหลายลูกเลยครับ”
“งั้นไปสอยมะม่วงสุกมาให้พ่อสักเจ็ดลูกสิ”

เด็กชายเข้าใจว่า พ่อคงใช้ให้สอยมะม่วง เพราะกลัวเพื่อนบ้านจะมาขโมยอีก จึงรีบสอยมะม่วงนั้นมาให้พ่อ เมื่อได้มะม่วง ก็หอบมาให้พ่อหวังว่าจะได้ทานกันอย่างเอร็ดอร่อย
แต่ปรากฏว่าผู้เป็นพ่อ นำมะม่วงนั้นใส่ตะกร้าสวยงาม จูงมือลูกชายไปกดกริ่ง รั้วเพื่อนบ้านที่ลูกชายบอกว่าสอยมะม่วงไป เด็กชายงง ไม่เข้าใจว่าพ่อจะทำอะไร เมื่อข้างบ้านเปิดประตูรั้วออกมา เป็นชายวัยกลางคน หน้าตามีพิรุธ เหมือนทำผิดอะไรบางอย่าง ผู้เป็นพ่อยื่นมะม่วงทั้งตะกร้าให้ แล้วกล่าวว่า “ผมเอามะม่วงมาฝากครับ เป็นเพื่อนบ้านอยู่บ้านข้างๆ นี่เอง มีอะไรก็บอกกันนะครับ จะได้ช่วยเหลือกัน”
ชายคนนั้น มีสีหน้าเสียใจอย่างเห็นได้ชัด เขาบอกให้พ่อรอสักครู่ พร้อมทั้งกลับมาด้วยตะกร้าใบเดิม แต่เปลี่ยนเป็นไข่ไก่เต็มตะกร้า “ผมเลี้ยงไก่ไข่ไว้หลายตัว ขอให้ไข่เป็นของตอบแทนน้ำใจนะครับ”

พ่อกล่าวขอบคุณ แล้วจูงมือเด็กชายกลับบ้าน เด็กชายถามพ่อด้วยความสงสัย
“ทำไมพ่อถึงเอามะม่วงไปให้เขา แทนที่จะไปทวงมะม่วงของเราคืนมา”
“ถ้าพ่อไปทวงมะม่วง เราอาจจะได้มะม่วงคืน แต่เราจะเสียเพื่อนบ้าน และอาจถึงกับโกรธกัน แต่นี่พ่อเอามะม่วงไปให้เขาเจ็ดลูก รวมที่เขาสอยไปหนึ่งลูกเป็นแปดลูก แต่เราได้ทั้งน้ำใจเขาซึ่งก็คือไข่ตะกร้าใหญ่ แถมยังได้เพื่อนบ้านเพิ่ม ลูกว่า แบบใหนดีกว่ากัน?”

การรู้จักใช้ปัญญา รู้จักเอื้อเฟื้อ แบ่งปัน ได้มิตรภาพ ได้สิ่งแวดล้อมดีๆ กลับมาแทนความโกรธ ความเกลียด ซึ่งทำให้ได้ความสุขสงบ เป็นเรื่องง่ายๆที่ทุกคนก็คิดได้ ทำได้ ถ้ามีสติ แล้วคุณล่ะ จะตัดสินใจเลือกแบบไหน ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น