โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2551 14:27 น.
“แกนนำพันธมิตรฯ” ย้ำสงครามครั้งสุดท้าย 23 พ.ย. ตอบโต้-กดดันทุกรูปแบบม้วนเดียวจบ! ประณามรัฐใช้อำนาจป่าเถื่อนยิ่งกว่าภาวะสงคราม ชี้บ้านเมืองพึ่งทหาร-ตำรวจไม่ได้ ผู้บริสุทธิ์ถูกเข่นฆ่าด้วยอาวุธสงคราม
วันนี้ (20 พ.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ผู้ชุมนุมถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่กลางเวท ีพันธมิตรฯ ว่าถือเป็นพฤติกรรมป่าเถื่อน การที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้อาวุธทำร้ายประชาชนเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า วันนี้ทหารและตำรวจดูแลความมั่นคงไม่ได้ ดังนั้น ประชาชนต้องออกมาปกป้องชีวิตตัวเอง และต้องขับไล่รัฐบาลทรราชออกไป
พล.ต.จำลอง ระบุว่า แม้ในภาวะสงครามข้าศึกที่ปราศจากอาวุธ ฝ่ายตรงข้ามยังไม่ยิงเลย อย่างดีก็จับเป็นเชลยศึก แต่นี่กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ออกมาชุมนุมตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่ถูกยิงด้วยอาวุธสงครามจนเสียชีวิตและได้บาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า โดยที่รัฐบาลไม่รับผิดชอบ การชุมนุม 180 วันนับจากนี้ถือว่าถึงจุดสิ้นสุดแล้ว พันธมิตรฯ จะต้องออกมาจากที่ตั้งเพื่อตอบโต้รัฐบาลทุกรูปแบบประเภทม้วนเดียวจบแต่อย่าง ไรก็ตามการเผด็จศึกของเราก็ไม่ได้หมายถึงต้องใช้ความรุนแรงเข้าฟาดฟัน แต่รายละเอียดนั้นคงยังตอบไม่ได้ แต่ก็รับรองว่าพันธมิตรฯ จะไม่เป็นฝ่ายใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาด “ไม่มีต่อไปแล้วครับวันนี้เป็นวันที่ 180 แล้ว วิธีการในรายละเอียดจะแจ้งให้ทราบภายหลัง แต่วิธีการนี่คือ ไม่ใช่ว่าเราจะไปถืออาวุธสู้กับเขานะ ไม่ใช่ว่าเค้าเตรียมปืนมาแล้วไปยิงกับเขาอย่างนั้นไม่ใช่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเรียกชุมนุมใหญ่ในครั้งนี้เกรงหรือไม่ว่า อาจจะทำให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมได้รับบาดเจ็บอีก พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่มีทางที่จะเกิดเหตุการณ์ การสูญเสียเลือดเนื้ออีก เพราะเมื่อประชาชนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก พลังของประชาชนก็มากพอที่รัฐบาลจะไม่สามารถสร้างความรุนแรงได้อีก และตนก็เชื่อว่าการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้จะมีผู้มาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ คนทั้งประเทศจะนิ่งดูดายปล่อยให้เกิดความรุนแรงขึ้นกับบ้านเมือง และหากรัฐบาลกระทำการรุนแรงขนาดนี้แล้ว ประชาชนยังจะนิ่งเฉยปล่อยให้รัฐบาลกระทำการที่ป่าเถื่อนเช่นนี้อีก โดยที่ไม่ได้ออกมาสู้ พันธมิตรฯ เองก็คงต้องขนของกลับบ้าน แล้วก็ปล่อยให้บ้านเมืองนี้เป็นของทรราชไป
พล.ต.จำลอง กล่าวด้วยว่า เรื่องของการรักษาความปลอดภัยนั้นถือเป็นรายละเอียดปลีกย่อย ที่อย่างไรเสียก็ต้องมีการป้องกันความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมให้มากที่สุด โดยมาตรการป้องกันความปลอดภัยในระยะแรกที่พอจะเปิดเผยได้นั่นคือตั้งแต่วันพ รุ่งนี้ (21 พ.ย.) เป็นต้นไป พันธมิตรฯ จะยุติการปราศรัยและถ่ายทอดสดทางเอเอสทีวี ในเวลา 24.00 น. เพื่อให้ผู้ชุมนุมได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และเพื่อให้หน่วยรักษาความปลอดภัยดูแลความปลอดภัยได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ทางพันธมิตรฯ ก็ได้ทำการส่งหนังสือไปยังหน่วยงานด้านความมั่นคงแล้วตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ค วามรุนแรงกับผู้ชุมนุมในครั้งที่แล้ว ว่าให้ช่วยออกมาดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้มาร่วมชุมนุม แต่เมื่อมาเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้อีก ตนจึงอยากถามว่าทหารยอมได้อย่างไรให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเช่นนี้ขึ้นใกล ้สถานที่สำคัญอย่างกองบัญชาการกองทัพบก และกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 เหตุใดทหารจึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามมาเข่นฆ่าประชาชนใน เมืองหลวงได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าทำให้ภาพลักษณ์ของทหารเสียหายไปมาก ดังนั้นในเรื่องนี้ตนคงไม่เรียกร้องให้ทหารออกมาทำอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่อยากบอกทหารว่าพึงสำนึกไว้ว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของทหารที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำร วจ
ด้านนายสมเกียรติ กล่าวว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการวุฒิสภาและคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนได้สรุปออก มาแล้วว่า รัฐบาลเป็นฝ่ายกระทำความรุนแรงต่อประชาชนดังนั้นในครั้งนี้ตนเชื่อว่าประชาช นคงจะทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ส่วนกรณีที่สื่อมวลชน จะมาตั้งคำถามกับพันธมิตรฯ ว่า หากเรียกคนมาชุมนุมใหญ่แล้ว จะมีการป้องกันความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมอย่างไรนั้น นายสมเกียรติกล่าวว่า สื่อมวลชนควรจะเอาคำถามนี้ไปถามตำรวจหรือรัฐบาลจะดีกว่า ว่าเมื่อใดจะเลิกกระทำรุนแรง โหดร้ายป่าเถื่อนกับประชาชน เพราะเรื่องนี้ต้องให้ฝ่ายผู้กระทำเป็นคนตอบว่าเมื่อไหร่จะหยุด ไม่ใช่มาถามฝ่ายที่ถูกกระทำย่ำยี มานั่งตอบคำถามว่า จะป้องกันอันตรายได้อย่างไร
“ประชาชนไม่มีวันที่จะปล่อยให้รัฐทรราช และฆาตกร ครองอำนาจอีกต่อไป แถลงการณ์ฉบับนี้จึงเป็นการหยุดยั้งทรราชฆาตกรหุ่นเชิด และสภาระบอบทักษิณ ดังนั้นสื่อมวลชนควรจะไปถามอำนาจรัฐเถื่อนว่าคุณจะเผด็จศึกประชาชนอย่างไรมา กกว่า”
ขณะที่นายภิภพ ธงไชย กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลทำกระทำการรุนแรงกับประชาชนมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนที่จะออกมาชุมนุมโดยปราศจากอาวุธเพื่อหยุดรัฐบาล ไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับประชาชนได้อีกต่อไป ซึ่งตนเชื่อว่าจากนี้รัฐบาลจะไม่สามารถก่อความรุนแรงได้อีกหากประชาชน ออกมารวมตัวกันหยุดยั้งรัฐบาล แต่หากประชาชนไม่ออกมารวมตัวกันรัฐบาลก็จะได้ใจ และกระทำความรุนแรงเช่นนี้กับประชาชนทุกกลุ่ม ที่ออกมาคัดค้านการกระทำอันไม่ชอบธรรมของรัฐบาล
ด้าน นายสาวิตย์ แก้วหวาน เลขาธิการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ในฐานะแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ สมาพันธ์จะนัดประชุมแกนนำทั่วประเทศที่ห้องประชุมสมาพันธ์ในเวลา 09.00 น. เพื่อกำหนดมาตรการตอบโต้ โดยเบื้องต้นจะกำหนดให้พนักงานรัฐวิสาหกิจทั่วประเทศพร้อมใจกันหยุดงานเพื่อ เข้าร่วมการชุมนุม
พันธมิตรฯ นัดบุก บชน.ร้องขอความเป็นธรรมเหยื่อบึ้ม
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2551 14:37 น.
5 แกนนำพันธมิตรฯ เตรียมบุกนครบาลฯ เรียกร้องความเป็นธรรม ให้เหยื่อเอ็ม 79 ถล่มทำเนียบ บ่าย 3 โมงครึ่งวันนี้ ก่อนเคลื่อนศพวีรชนจาก บช.น.ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 3 วัดมกุฏฯ 4 โมงครึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในเวลา 15.30 น. วันนี้ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้ง 5 คน ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพอภพ ธงไชย และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จะเดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายเจนกิจ กลัดสาคร พันธมิตรฯ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ที่ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลเมื่อเวลา 03.25 น. วันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา และเร่งรัดให้ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนกระทำผิดมารับโทษโดยเร็ว
ทั้งนี้ ในเวลาเดียวกันจะมีการเคลื่อนศพนายเจนกิจ จากโรงพยาบาลรามาธิบดีมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาลในช่วงที่แกนนำพันธมิตรฯ ไปเรียกร้องความเป็นธรรมด้วย หลังจากนั้นจะเคลื่อนศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลรดน้ำศพที่ศาลา 3 วัดมกุฏกษัตริยาราม ริมคลองผดุงกรุงเกษม ในเวลา 16.30 น.วันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น