โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2551 06:20 น.
วานนี้ (19 พ.ย.) นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวกรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รมว.ยุติธรรม ที่พยายามออกกฎกติกาเรือนจำใหม่ของนักโทษชาย เมื่ออ่านไปอ่านมา ก็ไปตรงสเปกกับอดีตนายกรัฐมนตรี ที่คาดว่าจะถูกพักการลงโทษ แต่เครือข่ายพันธมิตรฯ รู้ทันทุนสามานระบอบทักษิณตลอดเวลา ที่สำคัญนายนที จิตสว่าง ซึ่งถูกย้ายมาเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในสมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ ที่สำคัญภรรยาของนายนทีเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สอนหนังสือให้กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ฉะนั้นนายสมศักดิ์ จึงมีสายสัมพันธ์ที่จะวางกฎเกณฑ์ หรือแนวทางที่จะช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสมัคร
“ส่วนรายการของพวก นปก.นั้น ไม่มีสมองคิดเอง เพราะเวลาพันธมิตรฯ ทำมือตบออกมา เขาก็ทำตีนตบออกมาบ้าง แล้วพอพันธมิตรฯ แจกซีดีตำรวจฆ่าประชาชน เขาก็แจกซีดีพันธมิตรฯ ฆ่าประชาชน เขาลอกเลียนแบบเราตลอดเวลา แสดงให้เห็นว่าเขาคิดเองไม่เป็น” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีผลศึกษาของคณะกรรมาธิการวุฒิสภา กรณีมือปืนปลอมเป็นการ์ดพันธมิตรฯ แล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่ประชาชนในเหตุการณ์ 7 ต.ค.ว่า ภาพบุคคลดังกล่าว เป็นภาพของหนังสือพิมพ์มติชน ซึ่งระบุว่าเป็นการ์ดพันธมิตรฯ ซุ่มอยู่ในสวนสัตว์ดุสิต แล้วลอบใช้อาวุธปืนสั้นยิงเข้าใส่ประชาชน แต่ปรากฏว่า ป้ายชื่อของการ์ดพันธมิตรฯ ที่แขวนคอในภาพข่าวนั้น เขาไม่รู้ว่าพันธมิตรฯ จะเปลี่ยนป้ายชื่อตลอดเวลา แต่คนที่ตกเป็นภาพข่าวนั้น ยังใช้ป้ายชื่ออันเดิม ซึ่งพันธมิตรฯ ยกเลิกไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ก.ย. โดยวันเดียวกันนั้น พันธมิตรฯ ได้เปลี่ยนป้ายชื่อเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งสามารถยืนยันได้ว่า บุคคลในภาพข่าวดังกล่าว ไม่ใช่การ์ดพันธมิตรฯ อย่างแน่นอน
“คนพวกนี้ชำนาญเรื่องการกล่าวหาบุคคลอื่นมาโดยตลอด แต่โชคดีที่ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้น หมดความน่าเชื่อเถือไปตั้งแต่กรณีที่กล่าวหาว่า น้องโบว์ หนีบระเบิด รวมทั้งกรณีที่นายตี๋ ชิงชัย ขาขาด แต่กลับไปกล่าวหาว่านายตี๋กำลูกระเบิด ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะถ้าใครขาขาดแล้วยังกำระเบิดได้ แสดงว่าคนคนนั้นไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้นที่เราเอาชี้แจงเนื่องจากอยากให้พี่น้องพันธมิตรฯ หายสงสัยว่าพวกเราชุมนุมกันอย่างสงบและปราศจากอาวุธทุกครั้ง ที่สำคัญเวลาที่พันธมิตรฯ ป้องกันตัวตามกฎหมาย แต่เขาก็จะถ่ายภาพตอนที่เราป้องกันตัวไปเป็นข้ออ้าง ทั้งๆ ที่เราอยู่ในที่ของเรา แค่นี้คนที่รักความยุติธรรมก็ต้องรู้ว่า ใครรุกราน หรือใครรังแกใคร” นายสมศักดิ์ ระบุ
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 24 พ.ย.นี้ มีความชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลเตรียมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในวาระแรกเวลา 09.00 น. เพื่อช่วยเหลือพรรคพวกของเขา โดยเฉพาะผู้มีพระคุณของเขา ซึ่งหลบไปนอนเลียแผลอยู่ที่ประเทศดูไบ ดังนั้น ขอให้พี่น้องพันธมิตรฯ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะถ้าเขายังจะดึงดันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ต่อไป เราจะประกาศเชิญชวนพี่น้องพันธมิตรฯ มาร่วมชุมนุมทันทีในวันที่ 23 พ.ย.นี้ เนื่องจากเราตกลงกันแล้วว่า ถ้าหากจะเอาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเข้าสภาเมื่อไหร่ เราจะไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม เรายังเดินหน้าขับไล่รัฐบาลชุดนี้ เพราะเขาตั้งหน้าตั้งตาที่จะช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ และพวกพ้องของเขา มากกว่าที่จะบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย
“พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีหลักฐานใหม่ในการยื่นอุทธรณ์ แต่หลักฐานใหม่คงไม่มี เพราะเขาโกงจริง จึงไม่มีทางที่จะอุทธรณ์ได้ เพราะถ้ามีหลักฐานใหม่จริงเขาคงวิ่งหน้าตั้งไปยื่นอุทธรณ์แล้ว อีกทั้งถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับความจริงแล้วหนีทำไม รวมทั้งยังไปโววายว่า ศาลไม่ยุติธรรม ส่วนพวกลิ่วล้อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งระบุถึงสาเหตุที่หย่ากับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร นั้นเพราะต้องการที่จะมาต่อสู้ทางการเมืองอย่างเต็มที่นั้น ถามว่าภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นหนักตรงไหน ถ้าเป็นเช่นนั้นรัฐมนตรีทุกคนต้องหย่ากับเมีย เพื่อจะได้ต่อสู้ทางการเมืองอย่างเต็มที่” นายสมศักดิ์ ระบุ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า อาการดังกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าข่ายเกินอาการโรคจิต เพราะพูดไม่มีสาระ ชี้ให้เห็นว่าไม่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัว ดังนั้นการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่มีความหมายอะไร ส่วนกระแสข่าวที่จะเอานายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ มาโฟนอินแทน พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ถือว่าน่าสมเพชนายสมัคร เป็นอย่างมาก เพราะไม่มีเรื่องอะไรใหม่ อีกทั้งยังป่วยเป็นโรคมะเร็ง ดังนั้นอย่าไปให้ราคากับนายสมัคร เนื่องจากเป็นบุคคลที่เสื่อทรุด ชำรุดแล้ว
ยังไงฝ่ายทักษิณก็ต้องแก้ใขรัฐธรรมนูญให้ได้ จะต้องชนะให้ได้ไม่ว่าจะโดยวิธีไหน...แปลว่าพวกนี้ทำได้ทุกอย่างไม่ว่าวิธีชั่วร้ายใดๆ
ต ่อไปก็อยู่ที่พธม. จะต้องคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ว่าจะทำอย่างไร...? จะรุกอย่างไร? และต้องรุกรอบด้าน สงครามนี้ต้องไม่ตั้งรับเด็ดขาด เพราะมันเป็นสงครามแย่งมวลชน...
ที่ผ่านมาพธม. ใช้วิธีตั้งรับ ขณะที่ฝ่ายทักษิณกับตำรวจกำลังรุกอย่างหนัก ทุกระดับ...
1. ปล่อยรถขาย VCD เปิดแผ่น "พธม. ฆ่าตำรวจ" ตามตลาดนัดย่อยแทบทุกแห่ง
2. แจกใบปลิวโจมตีทั้งพธม. ทั้งสถาบัน
3. ปล่อยข่าวทำลาย พธม. กับเรื่องที่คิดไม่ถึง แม้แต่คลิปสนธิ
4. พยายามแก้กฏหมายนิรโทษกรรมของกระทรวงยุติธรรม
5. พยายามออกพระราชบัญญัติ "ปรองดองแห่งชาติ"
6. พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อพ้นผิด
7. ยิงระเบิดทำร้ายผู้ชุมนุม
8. ข่มขู่ คุกคาม พธม. ในต่างจังหวัด
9. ข้าราชการคอยสกัดกั้นการเติบโตของพธม. ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในหน่วยงานราชการ
10. การเสนอข่าวเท็จใน NBT
11. พยายามกระตุ้นปลุกเร้ามวลชนเสื้อแดงด้วยโฟนอินข้ามชาติ
12. บิดเบือน ให้ข้อมูลและการคิดแบบ นปช. ตามวิทยุชุมชนทั่วไปหมด แล้วคลื่นชัดกว่า เอเอสทีวี
13. รบกวนคลื่น เอเอสทีวี ถึลกับพยายามปิด
14. พยายามฟ้องร้องยัดคดีให้แกนนำ พธม. ทุกวิถีทาง
เตรียมรบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น