++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2557

อันตรายของความเชื่อ




น่าเห็นใจผู้บริหารเอไอเอสที่โดนลูกค้าที่นิยมชมชอบ กปปส.แห่เปลี่ยนซิมโทรศัพท์มือถือ จนยอดพุ่งกว่าปกติเท่าตัว สร้างความลำบากใจให้กับผู้บริหาร ที่พยายามจะออกมาเคลียร์กับสาธารณะว่า "เอไอเอส" นั้นไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตรอย่างสิ้นเชิง

ในความเป็นจริง ธุรกิจในเครือ "อินทัช" หรือ "ชินคอร์ป" เดิมไม่ใช่ธุรกิจของตระกูลชินวัตร นับตั้งแต่ขายหุ้นมูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาทให้กับ "กลุ่มเทมาเส็ก" ของสิงคโปร์ แต่ปรากฏการณ์ "เลือดไหล" ไม่หยุด 2-3 วัน ที่ผ่านมามันสะท้อนว่า ยังมีคนกลุ่มหนึ่ง "ไม่เชื่อ"

เป็นความท้าทายของผู้บริหารเอไอเอสว่า จะบริหารจัดการวิกฤตและบริหาร "ความเชื่อ" นี้อย่างไร

ถามว่าทำไมคนกลุ่มหนึ่งถึงเชื่อว่า ธุรกิจนี้ยังเป็นของ "ตระกูลชินวัตร" เรามองเฉพาะชาวบ้าน ไม่ได้มอง "แกนนำ กปปส." ที่หวังผลทางการเมือง

ด้านหนึ่งอาจเป็นเพราะลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ชอบและไม่ไว้ใจ "อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร" เพราะการขายหุ้นให้กับเทมาเส็กครั้งนั้น มีความสลับซับซ้อนจนคนกลุ่มหนึ่งหวาดระแวงว่า ขายจริงหรือรู้กัน

เหนือสิ่งอื่นใดผู้บริหารเอไอเอสอาจจะมองข้ามความรู้สึกเล็กๆ น้อยๆ และอาจคาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นปัญหาตามมา นั่นคือ แม้ว่าธุรกิจนี้ไม่ได้เกี่ยวพันกับตระกูลชินวัตร แต่สำนักงานยังคงตั้งอยู่ในอาคารภายใต้ชื่อชินวัตร กลายเป็นจุดอ่อนให้โดนโจมตีได้

อันที่จริงที่ผ่านมาผู้บริหารทุกคนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจที่พยายาม "สร้างภาพลักษณ์" องค์กรใหม่ด้วยการ "รีแบรนดิ้ง" จาก "ชินคอร์ป" มาเป็น "อินทัช" แต่น่าคิดว่าทำไมไม่แรงพอจะ "ลบภาพ" เดิมๆ ได้

ที่สำคัญสิ่งที่ผู้บริหารอาจจะคาดไม่ถึง นั่นคือ บุคลากรของบริษัทหลายคนไปสมัครตำแหน่งต่างๆ ในรัฐวิสาหกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประธานบอร์ด กรรมการ หรือซีอีโอ แม้หลายคนเป็นอดีตผู้บริหารที่ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรแล้วก็ตาม แต่อาจจะถูกมองว่าเอไอเอสกับรัฐบาลยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จึงทำให้ตีความเลยเถิดเกินจริง

ทางออกจะต้องเร่งสร้างให้ลูกค้าเชื่อให้ได้ว่า ตระกูลชินวัตรไม่เกี่ยวข้อง เพราะความเชื่อผิดๆ นั้นอันตรายจริงๆ

เมืองไทย 25 น./ทวี มีเงิน
ข่าวสดออนไลน์, 26 ก.พ.2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น