บทความเรื่อง :ศีล ข้อที่ ๔ ระวังวาจาคำพูด การบวชหน้าไฟ
........ กรรมอีกแบบหนึ่ง คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของสังคมไทยชาวพุทธ พอใน
ครอบครัวมีปู่ย่าตายายหรือพ่อแม่ถึงแก่กรรม บรรดาญาติพี่น้องก็ให้ลูกหลาน
ของตนเองบวชเณรหรือบวชพระหน้าไฟ เพื่อบวชอุทิศส่วนกุศลให้แก่คนที่จากไป
เขาเหล่านี้เมื่อทำพิธีบวชพระหรือบวชเณรกันเสร็จแล้ว ก็จะมาถ่ายรูปหมู่พร้อม
ครอบครัว ถ่ายรูปกันเพียงครู่หนึ่ง แล้วจากนั้นก็ถือเป็นเสร็จพิธีบวชหน้าไฟ โดยที่
ยังไม่ได้มีการปฏิบัติเรียนรู้ข้อธรรมะเลยสักข้อ นี่เรียกว่าเป็นการหลอก ต้มตุ๋น
วิญญาณบรรพชน เพราะตอนเพลก็บวชลูกให้กับดวงวิญญาณบรรพชน พอตอนเย็น
เผาเสร็จแล้วก็ทำพิธีสึก ผลที่ได้คือคนเหล่านี้จะล้มเหลว พอลูกเรียนจบแล้วก็จะไม่มี
งานทำแม่ชีทศพรบอกกล่าวด้วยความเป็นห่วงว่าถ้าเป็นไปได้ หากไม่สามารถที่จะบวช
หน้าไฟได้ก็ไม่เป็นไรไม่ต้องบวชก็ได้ สงสารเด็กๆที่โตขึ้นมาจะต้องรับกรรมที่ไม่ได้
เจตนาทำ ก็ขอให้ถวายผ้าไตรจีวรแด่พระแทนการบวชหน้าไฟก็ใช้ได้ เพราะถือว่า
อานิสงส์สูงสุดแล้ว ผ้าเหลืองเป็นธงชัยของพระอรหันต์
การบวชหน้าไฟที่แท้จริงคือการบวชเพื่อสนองคุณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยให้
การบวชมีการปฏิบัติเพื่อให้ผลของการปฏิบัติมีอานิสงค์ส่งให้ดวงวิญญาณของผู้ที่
ล่วงลับไปแล้วได้อานิสงส์ไปเกิดในภพภูมิที่ดี การที่เราบวชลูกเราแล้วแต่ลูกเรา
ไม่ได้ปฏิบัติ ก็เท่ากับทำให้ลูกเรามีรอยสักไว้ที่หน้า พอลูกเราไปไหนก็จะมีคนคอย
ปฏิเสธตลอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น