...+

วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บทความเรื่อง :ศีล ข้อที่ ๔ ระวังวาจาคำพูด การบวชหน้าไฟ


บทความเรื่อง :ศีล ข้อที่ ๔ ระวังวาจาคำพูด  การบวชหน้าไฟ

 ........ กรรมอีกแบบหนึ่ง คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของสังคมไทยชาวพุทธ พอใน
   ครอบครัวมีปู่ย่าตายายหรือพ่อแม่ถึงแก่กรรม บรรดาญาติพี่น้องก็ให้ลูกหลาน
   ของตนเองบวชเณรหรือบวชพระหน้าไฟ เพื่อบวชอุทิศส่วนกุศลให้แก่คนที่จากไป


เขาเหล่านี้เมื่อทำพิธีบวชพระหรือบวชเณรกันเสร็จแล้ว ก็จะมาถ่ายรูปหมู่พร้อม
   ครอบครัว ถ่ายรูปกันเพียงครู่หนึ่ง แล้วจากนั้นก็ถือเป็นเสร็จพิธีบวชหน้าไฟ โดยที่
   ยังไม่ได้มีการปฏิบัติเรียนรู้ข้อธรรมะเลยสักข้อ นี่เรียกว่าเป็นการหลอก ต้มตุ๋น

   วิญญาณบรรพชน เพราะตอนเพลก็บวชลูกให้กับดวงวิญญาณบรรพชน พอตอนเย็น
   เผาเสร็จแล้วก็ทำพิธีสึก ผลที่ได้คือคนเหล่านี้จะล้มเหลว พอลูกเรียนจบแล้วก็จะไม่มี
   งานทำแม่ชีทศพรบอกกล่าวด้วยความเป็นห่วงว่าถ้าเป็นไปได้ หากไม่สามารถที่จะบวช

   หน้าไฟได้ก็ไม่เป็นไรไม่ต้องบวชก็ได้ สงสารเด็กๆที่โตขึ้นมาจะต้องรับกรรมที่ไม่ได้
   เจตนาทำ ก็ขอให้ถวายผ้าไตรจีวรแด่พระแทนการบวชหน้าไฟก็ใช้ได้ เพราะถือว่า
   อานิสงส์สูงสุดแล้ว ผ้าเหลืองเป็นธงชัยของพระอรหันต์


        การบวชหน้าไฟที่แท้จริงคือการบวชเพื่อสนองคุณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยให้
   การบวชมีการปฏิบัติเพื่อให้ผลของการปฏิบัติมีอานิสงค์ส่งให้ดวงวิญญาณของผู้ที่
   ล่วงลับไปแล้วได้อานิสงส์ไปเกิดในภพภูมิที่ดี การที่เราบวชลูกเราแล้วแต่ลูกเรา

   ไม่ได้ปฏิบัติ ก็เท่ากับทำให้ลูกเรามีรอยสักไว้ที่หน้า พอลูกเราไปไหนก็จะมีคนคอย
   ปฏิเสธตลอด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น