++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ข่าวที่น่าสนใจ 5 aug 2551 moph news

งานสัมมนาวิชาการประจำปี 2551 "พลังท้องถิ่นกับสุขภาพคนไทย"

งานสัมมนาวิชาการประจำปี 2551 "พลังท้องถิ่นกับสุขภาพคนไทย" 9 - 10 ตุลาคม 2551 ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.aihd.mahidol.ac.th/www-thai/index.asp


สถาบันพยาธิวิทยารับสมัครพนักงานขับรถยนต์

ประกาศสถาบันพยาธิวิทยา เรื่อง รับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างชั่วคราวจากเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินบำรุง -------------------------- ด้วยสถาบันพยาธิวิทยา จะดำเนินการรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อขึ้นบัญชีผู้สอบคัดเลือกได้เป็น ลูกจ้างชั่วคราวจากเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินบำรุง ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. ตำแหน่งที่รับสมัครคัดเลือก ตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์ อัตราเงินเดือน 7,100.-บาท 1 อัตรา 2. คุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการคัดเลือก 2.1 คุณสมบัติทั่วไป ผู้สมัครสอบจะต้องมีคุณสมบัติทั่วไป ตามข้อ 6 แห่งระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยลูกจ้าง ประจำของส่วนราชการ พ.ศ. 2537 โดยอนุโลม ดังนี้ (1) มีสัญชาติไทย (2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกินสามสิบปี (นับถึงวันปิดรับสมัคร) (3) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วยความบริสุทธิ์ใจ (4) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งกำนัน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน (5) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง (6) ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน (7) ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ลาออกจากราชการไว้ก่อน ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยลูกจ้างประจำของส่วนราชการหรือตามกฎหมายอื่น (8) ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม (9) ไม่เป็นกรรมการพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง (10) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย -2- (11) ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ (12) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงาน อื่นของรัฐ (13) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออกหรือปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตามระเบียบกระทรวง การคลังว่าด้วยลูกจ้างประจำของส่วนราชการหรือตามกฎหมายอื่น (14) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก เพราะกระทำผิดวินัยตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วย ลูกจ้างประจำของส่วนราชการ หรือตามกฎหมายอื่น (15) ไม่เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ 2.2 คุณสมบัติเฉพาะของตำแหน่ง ตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์ - เพศชาย - ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือไม่ต่ำกว่านี้ - มีใบอนุญาตขับขี่และประสบการณ์ด้านการขับรถยนต์ - มีความชำนาญในเส้นทางในกรุงเทพมหานครเป็นอย่างดี - ในกรณีว่างเว้นจากการขับรถยนต์สามารถช่วยงานด้านธุรการของฝ่ายตามที่ได้รับมอบหมายได้ 3. วัน เวลา และสถานที่สมัครสอบ ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สามารถกรอกใบสมัคร และส่งหลักฐานการสมัครทางไปรษณีย์ ที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ชั้น 2 สถาบันพยาธิวิทยา (ภายในบริเวณโรงพยาบาลราชวิถี) ราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-23548208-15 ต่อ 223 หรือสมัครด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2551 ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2551 4. เอกสารและหลักฐานที่จะต้องยื่นในการสมัครสอบ 4.1 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ ขนาด 3-4 ซม. ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 1 ปี จำนวน 1 รูป 4.2 สำเนาทะเบียนบ้าน ,สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ฉบับ 4.3 สำเนาหลักฐานการศึกษา จำนวน 1 ฉบับ 4.4 ใบผ่านการเกณฑ์ทหาร (ถ้ามี) 4.5 สำเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล (ถ้ามี) 4.6 สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ -3- 5. หลักสูตรและวิธีการสอบ คณะกรรมการฯ จะดำเนินการสอบโดยวิธีการสอบสัมภาษณ์ วิธีสอบปฏิบัติ หรือวิธีอื่นใด วิธีหนึ่งหรือหลายวิธีก็ได้ตามความเหมาะสม 6. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ วันที่ 18 สิงหาคม 2551 ณ สถาบันพยาธิวิทยา (ในบริเวณ รพ. ราชวิถี) ราชเทวี กรุงเทพ ฯ 10400 7. วัน เวลา และสถานที่สอบคัดเลือก วันที่ 20 สิงหาคม 2551 เวลา 10.00-12.00 น. สอบสัมภาษณ์และสอบปฏิบัติ ณ สถาบันพยาธิวิทยา (ในบริเวณ รพ. ราชวิถี) ราชเทวี กรุงเทพ ฯ 10400 8. ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการทดสอบและขึ้นบัญชีผู้สอบคัดเลือกได้ วันที่ 22 สิงหาคม 2551 เวลา 10.00 น. ชั้น 2 สถาบันพยาธิวิทยา บัญชีผู้สอบคัดเลือกได้ ใช้ได้ไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันขึ้นบัญชี ประกาศ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 (นางชีพสุมน สุทธิพินทะวงศ์) ผู้อำนวยการสถาบันพยาธิวิทยา
 

ประกาศรับสมัครพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ

ส ำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค ประกาศรับสมัครพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ 1 อัตรา รับสมัคร ตั้งแต่ วันที่ 28 ก.ค. 51 ถึง วันที่ 5 สิงหาคม 2551 ที่ฝ่ายบริหารงานทั่วไป 055-214615-7 ต่อ 301 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก รายละเอียดดูที่ http://dpc9.ddc.moph.go.th/pdf/prakard5.pdf 
 
 

สธ.-ธ.ก.ส.ดูแลสมาชิก"กองทุนทวีสุข"

เ มื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการสนับสนุนการดำเนินงานโครงการกองทุนทวีสุ ข เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรไทยและครอบครัว นพ.ปราชญ์กล่าวว่า จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2546 ประเทศไทยมีประชากรในกลุ่มกำลังแรงงาน จำนวน 35,203,800 คน แบ่งเป็นกลุ่มแรงงานภาคเกษตรกรรม จำนวน 14,703,600 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 43 ของประชากรกำลังแรงงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งความเสี่ยงอันตรายด้านโรคจากการประกอบอาชีพภาคเกษตรกรรม แบ่งได้เป็น 4 ด้าน ได้แก่ 1.ความเสี่ยงอันตรายจากปัจจัยทางเคมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 2.ความเสี่ยงอันตรายจากปัจจัยทางชีวภาพ ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาโรคติดต่อที่เกิดจากการเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ ไข้หวัดนก 3.ความเสี่ยงอันตรายจากปัจจัยทางกายภาพและภัยธรรมชาติ ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพแตกต่างกันตามลักษณะของปัจจัยเสี่ยง เช่น การเสียน้ำในร่างกายและเป็นลมเมื่อทำงานในที่ร้อนอบอ้าว การบาดเจ็บกล้ามเนื้อเมื่อยกของหนัก เป็นต้น และ 4.ความเสี่ยงอันตรายจากปัจจัยทางจิตวิทยาสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเครียด ที่อาจเป็นสาเหตุของการพยายามฆ่าตัวตาย ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ปี 2544 พบผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคจากการประกอบอาชีพ จำนวน 3,035 ราย
 

สธ.เปิดบริการสายด่วน 1669 ควบรวมทุกบริการการแพทย์และร้องเรียนในเบอร์เดียว

ก ระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการสายด่วน 1669 ควบรวมทุกบริการการแพทย์และรับเรื่องร้องเรียนในเบอร์เดียว ให้บริการวันนี้เป็นวันแรก นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดศูนย์ให้บริการรับเรื่องร้องทุกข์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ตลอด 24 ชม. ทางสายด่วย 1669 โดยได้เปิดให้บริการพร้อมกันทั่วประเทศในวันนี้ (1 ส.ค.51) ซึ่งจะเป็นการให้บริการทุกเรื่องที่เกี่ยวกับแพทย์และสาธารณสุขครบวงจรในเบอ ร์เดียว เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความยุ่งยากที่เคยเกิดจากการมีสายด่วนหลายหมายเลขจนประ ชาชนสับสนและการบริการไม่อาจตอบคำถามช่วยเหลือได้ในจุดเดียวสร้างความยุ่งยา กให้ผู้รับบริการ และเพื่อพัฒนาการแพทย์และบริการจำเป็นต้องให้ความรู้ประชาชน ซึ่งกระทรวงสาธารณาสุขมีแนวคิดที่จะจัดเป็นรายการวิทยุและรายการโทรศัพท์ช่อ งที่เกี่ยวกับสุขภาพโดยเฉพาะตลอด 24 ชม.ในอนาคตด้วย ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางกระทรวงสาธารณสุขมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาด้านสุข ภาพและบริการทางการแพทย์ผ่านหมายเลข 1111 ของรัฐบาล มีเรื่องร้องเรียนในปี 50 ทั้งหมด 1,808 เรื่อง แต่เมื่อทยอยเปิดให้บริการสายด่วน 1669 เมื่อปีที่ผ่านมาพบมีผู้โทรศัพท์เข้ามาสูงเกือบ 600,000 ครั้ง คาดว่าในปีนี้จะมีผู้ใช้บริการมากขึ้นเป็นกว่า 700,000 ราย ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาสุขภาพในประชาชนที่ยังมีอยู่จำนวนมาก
 
 

ผลวิจัยล่าสุดพบ กินนมแม่ไอคิวดี ลดมะเร็งเม็ดเลือดขาว-เบาหวาน-อ้วน

เ ผยผลวิจัยล่าสุดพบ เด็กดูดนมแม่ไอคิวดีกว่าไม่ดื่มเกือบ 10 จุด แถมงานวิจัยทั่วโลกยัน นมแม่สุดยอด ลดป่วย 3 โรค มะเร็งเม็ดเลือดขาว-เบาหวาน-อ้วน กรมอนามัย-ศูนย์นมแม่ฯ-สสส. รณรงค์สัปดาห์นมแม่โลก 1-7 สิงหา เผยแพร่โปสเตอร์ “พระองค์เจ้าทีฯ” นมแม่ดีที่หนึ่งเลย วันที่ 31 ก.ค. พญ.ศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า งานวิจัยจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ พบว่า การดื่มนมแม่นอกจากจะทำให้ลูกไม่ป่วยบ่อย ไม่เป็นโรคแพ้โปรตีนนมวัว ฯลฯ ยังส่งผลต่อสุขภาพของเด็กเมื่อเติบโตด้วย ข้อมูลยืนยันว่า เด็กที่ดื่มนมแม่ จะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้าย 3 โรค ได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่ คือ 1.ลดการเกิดโรคเบาหวานได้ 40% คือ ถ้ามีเด็กไม่ได้กินนมแม่และโตขึ้น เป็นเบาหวาน100 คน ถ้าเปลี่ยนเด็กกลุ่มนี้ มากินนมแม่ เมื่อโตขึ้นจะเป็นเบาหวาน เพียง 60 คน 2.ลดการเกิดโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ 20% 3.ลดการเกิดโรคอ้วนได้ 22% ซึ่งหมายความว่าอาจช่วยลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และเส้นโลหิตอุดตันเมื่อสูงวัยด้วย ขณะที่การศึกษาล่าสุดในฟิลิปปินส์ ที่ติดตามเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 8.5 ปี พบ เด็กที่ดื่มนมแม่มีไอคิว ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้ดื่มเฉลี่ยเกือบ 10 จุด “นมแม่ยังช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม เพราะไม่ต้องมีกระบวนการต้มน้ำ ไม่มีขยะ ไม่ต้องใช้กระป๋อง ไม่ใช้ขวด ไม่มีจุกนม ไม่ต้องขนส่ง ขณะที่กระป๋องนม 550 ล้านกระป๋อง ต้องใช้แผ่นตะกั่วในการผลิตถึง 86,000 ตัน และใช้กระดาษปะที่ข้างกระป๋องอีก 1,230 ตัน ที่สำคัญยังการให้ลูกดื่มนมแม่ มีผลดีโดยตรงต่อสุขภาพของผู้ที่เป็นแม่ ช่วยลดโอกาสมะเร็งเต้านมและรังไข่ รวมถึงเกิดโรคกระดูกพรุน”พญ.ศิริพร กล่าว พญ.ศิริพร กล่าวด้วยว่า เนื่องในวันที่ 1-7 ส.ค. ซึ่งเป็นสัปดาห์นมแม่โลก ที่รณรงค์ต่อเนื่องใน 120 ประเทศ มา 17 ปีนั้น ปีนี้เน้นรณรงค์ ให้ทุกคน ทุกฝ่ายช่วยให้การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงร่วมกับศูนย์นมแม่ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) รณรงค์ “นมแม่ดีที่หนึ่งเลย ทุกที่ ทุกคน สนับสนุนนมแม่ได้” โดยเผยแพร่ ภาพพระฉายาลักษณ์โปสเตอร์ ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ รวมถึงการเผยแพร่สื่อต่างๆ เพื่อสื่อถึงผลดีของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร เลขาธิการศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรณรงค์จะไปที่สถานที่ต่างๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า สถานประกอบการ เพื่อให้ร่วมสนับสนุนการมีห้องหรือมุมนมแม่ ให้พนักงานและผู้ใช้บริการ และจะมีจัดนิทรรศการ ภายในงานประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติครั้งที่ 2 วันที่ 6-8 ส.ค. นี้ ที่โรงแรมมิราเคิล ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
 

"วิชาญ" มีแนวคิดตั้งทีวีสธ.ฝันให้ความรู้สุขภาพ

“ วิชาญ” ฟุ้งจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์เป็นของสาธารณสุขเอง ให้ความรู้ด้านสุขภาพครบวงจร ช่วยสธ.ประหยัดงบประชาสัมพันธ์ เล็งอยากได้เวลาจัดรายการฟรีในทีวีสาธารณะ วันที่ 31 ก.ค. ที่โรงแรมทวิน ทาวเวอร์ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาและเสนอผลงานทางวิชาการ เรื่องนวัตกรรมสื่อทางการแพทย์และสาธารณสุขว่า มีแนวความคิดในการจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์เป็นของสาธารณสุขเอง โดยเผยแพร่ภาพเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวกับสาธารณสุข ข่าวสารทางการแพทย์ การดูแลสุขภาพ หรือสถานการณ์ด้านสาธารณสุขต่างๆ ทุกรูปแบบ รวมทั้งให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งได้หารือกับอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสุขภาพมากยิ่งขึ้น “ได้หารือกับอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งถือเป็นสิทธิของประชาชนในการได้รับทราบข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสุขภาพและ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐในการจัดการด้านสุขภาพ ซึ่งที่ผ่านมาการเช่าซื้อเวลาแต่ละสถานทีเป็นเรื่องลำบาก เสียค่าใช้จ่ายมาก การมีรายการเป็นของตนเองจะช่วยให้ประหยัดมากขึ้น ซึ่งท่านก็บอกว่าให้ศึกษารายละเอียด แต่ไม่มีปัญหา เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐอยู่แล้ว”นายวิชาญกล่าว นายวิชาญ กล่าวด้วยว่า ส่วนสถานีสาธารณะที่มีอยู่แล้วนั้น คงต้องหารือว่า ยินดีให้สธ.เข้าไปจัดทำรายการหรือไม่ และเสียค่าใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด หากให้จัดรายการไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะเป็นการนำความรู้สู่ประชาชนก็เป็นเรื ่องน่ายินดี
 
 

กรมการแพทย์เปิดตัวโครงการเจ๋ง ! ตั้งทีมช่วยเหลือฉุกเฉินโรคจากการทำงานภายใน 5 นาที

ก รมการแพทย์รุกโครงการใหม่ จัดทีมแพทย์พยาบาลตอบคำถามฉุกเฉินเรื่องโรคจากการทำงานและสิ่งแวดล้อมพร้อมว างรากฐานจัดการสร้างเครือข่ายเครือข่ายศูนย์อาชีวเวชศาสตร์ระดับภูมิภาคอย่า งเป็นรูปธรรม วันนี้ (31 กรกฎาคม 2551) ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพมหานคร นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการตอบสนองฉุกเฉินผลกระทบสุขภาพด้าน อาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม ว่า ปัญหาจากการทำงานและสิ่งแวดล้อม ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพผู้ใช้แรงงานและประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไข จากข้อมูลสำนักงานกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคมในปี พ.ศ. 2545 รายงานการเจ็บป่วยด้วยโรคจากการประกอบอาชีพและโรคที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงา น จำนวน 127 ราย พบว่าส่วนใหญ่ (89 ราย) ป่วยด้วยภาวะระดับตะกั่วในเลือด ซึ่งต่างจากรายงานการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ซึ่งพบว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2540 – 2544 มีรายงานผู้ป่วยด้วยโรคจากการประกอบอาชีพจากระบบเฝ้าระวังโดยเฉลี่ยแล้วปีละ 3,000 รายทุกปี และเมื่อพิจารณาข้อมูลจากการประมาณการขององค์การอนามัยโลก(WHO) ซึ่งได้มีการประมาณการเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่มีผลเกี่ยวเนื่องกับการทำงานพ บว่า ประมาณ ร้อยละ 2 – 15 ของการเสียชีวิตในกลุ่มประชากรวัยทำงานนั้นมีความเกี่ยวเนื่องกับการทำงาน โดยมีสัดส่วนของการเสียชีวิตด้วยโรคต่างๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องจากการทำงาน ได้แก่ โรคมะเร็ง พบมากในกลุ่มประชากรอายุมากกว่า 30 ปี คิดเป็น ร้อยละ 8 โรคระบบหัวใจและหลอดเลือดพบมากในกลุ่มประชากรอายุ 15 – 60 ปี คิดเป็น ร้อยละ 7.5 โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง พบมากในกลุ่มประชากรอายุมากกว่า 15 ปี คิดเป็นร้อยละ 10 ความผิดปกติของระบบประสาทพบมากในกลุ่มประชากรอายุมากกว่า 15 ปี คิดเป็น ร้อยละ 2 และภาวะผิดปกติของไต พบมากในกลุ่มประชากรอายุมากกว่า 15 ปีร้อยละ 2 ดังนั้น จะเห็นได้ว่าโรคจากการทำงานในประเทศไทยยังมีรายงานต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ซึ่งอาจเกิดจากผู้ได้รับผลกระทบไม่มีช่องทางในการเข้าถึงการวินิจฉัยโรคได้อ ย่างถูกต้อง จะเห็นได้ว่าผู้ใช้แรงงานและประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากการทำงานแล ะสิ่งแวดล้อม เหล่านี้ ไม่สามารถเข้าถึงช่องทางการรักษาและการช่วยเหลือได้อย่างถูกต้อง แม้จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนทำหน้าที่คอยดูแลป้องกันการ เกิดปัญหาด้านสุขภาพหลายหน่วยงาน แต่ยังไม่มีการประสานงานกันชัดเจน ในภาพรวม เมื่อเกิดเหตุการณ์ด้านการทำงานและสิ่งแวดล้อมทั่วไป เช่น รถบรรทุกสารเคมีคว่ำหรือเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และ มีผลกระทบในวงกว้าง ส่วนใหญ่จะมีการจัดการในรูปแบบฉุกเฉิน รวมทั้ง ไม่มีการติดตามผลที่เกี่ยวกับภาวะเรื้อรัง หลังจากเกิดเหตุการณ์อย่างจริงจัง จากสาเหตุดังกล่าวทำให้โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ถูกกำหนดโดยพระราชกฤษฏีกา ให้ดำเนินภารกิจหลักด้านโรคจากการทำงานและโรคจากสิ่งแวดล้อม จัดทำโครงการตอบสนองฉุกเฉินผลกระทบสุขภาพด้านอาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่ งแวดล้อมขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนและผู้ใช้แรงงานมีที่พึ่งในกรณีที่มีปัญหา หรือสงสัยเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพของตนเองจากสิ่งแวดล้อมในการทำงานและสิ่ งแวดล้อมทั่วไป โดยมีช่องทางในการหาคำตอบหรือเข้าถึงผู้รักษา ในกรณีโรคจากการทำงาน และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสารพิษต่างๆ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยประจำโรงงาน หรือเจ้าของสถานประกอบการ และผู้เกี่ยวข้องสามารถสอบถามเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยเพื่อการ ป้องกันโรค หรือเพื่อให้ไปสอบสวนโรคและในกรณีที่เป็นเรื่องเร่งด่วนโรงพยาบาลนพรัตนราชธ านีสามารถจัดทีมผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทั้งในโรงพยาบาลและในศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆ ของกรมการแพทย์ ออกไปช่วยเหลือให้การรักษา ค้นหา เฝ้าระวังประชาชนที่เป็นโรคจากการทำงานที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที และพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายศูนย์อาชีวเวชศาสตร์ระดับภูมิภาคของโรงพยาบาลนพ รัตนราชธานี โดยการช่วยเหลือ ตอบคำถาม เผยแพร่สถิติ ความรู้ทางวิชาการด้านต่างๆ รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลของผู้ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากการทำงานและจากสิ่งแว ดล้อม รวมทั้งพัฒนาระบบการดำเนินงานคลินิกอาชีวเวชศาสตร์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งนี้ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ได้จัดทำโครงการตอบสนองฉุกเฉิน โดยให้บริการประชาชนผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 02-517 – 4333 (ในเวลาราชการ) เป็นโครงการนำร่องที่ดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 3 เดือนแล้ว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีผู้สอบถามและร้องขอความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก เช่น การออกไปตรวจโรคปอดฝุ่นหินให้กับประชาชนที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 523 ราย การออกไปตรวจคนทำงานในโรงงานผลิตอาหารส่งออกต่างประเทศ ซึ่งพบภาพรังสีปอดผิดปกติ 40 ราย การออกไปช่วยวินิจฉัยและรักษาโรคผิวหนังที่เกิดในโรงงาน ซึ่งมีคนงานกว่า 400 ราย เป็นต้น ทั้งนี้ ในปี 2552 จะขยายขอบเขตการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีแพทย์หรือพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านอาชีวเวชศาสตร์และอาชีวอนามัยของโรงพย าบาลเป็นผู้ให้คำปรึกษา โดยมีการกำหนดเกณฑ์ว่าในกรณีที่ต้องค้นหาคำตอบเพิ่มเติมเพื่อความถูกต้องผู้ สอบถามสามารถได้คำตอบภายใน 5 นาที เป็นอย่างน้อย ********************************************************************** - ขอขอบคุณ - 31 กรกฎาคม 2551
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น