++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เที่ยวเมืองไทยด้วยใจอยากประหยัด / ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์

 คุณ ๆ ผู้อ่านชื่อเรื่องแล้วรู้สึกแสลงใจ ขอโปรดทราบไว้ นักเขียนแสลงใจมากกว่า แต่ด้วยชื่อเรื่องทำนองนี้ตั้งแสนยาก ผมจำต้องเลือกชื่อที่สื่อความหมายตรงที่สุด ใช่แล้วครับ เราอยากไปเที่ยว แต่เราอยากประหยัดด้วย วุ้ย...ทำไงเนี่ย ?
      
       หากต้องการคำตอบแบบกำปั้นทุบดิน นอนอยู่บ้านสิ ประหยัดทั้งเงินทั้งพลังงาน ปิดแอร์ปิดทีวีเปิดหน้าต่างแล้วก็นอนเฉย ๆ ทำตัวเหมือนอึ่งอ่างจำศีล พอถึงตอนเย็นให้ลุกขึ้นมาปลูกต้นไม้หนึ่งต้น นั่นแหละช่วยโลกจนหมีขาวร้องอู๊ว์ ว่าแต่...คุณทำได้หรือครับ ? (ผมทำไม่ได้)
      
       การท่องเที่ยวเป็นเรื่องจำเป็น อย่างน้อยก็ผ่อนคลายความเครียด ยิ่งถ้ามีลูกมีเต้า แต่ไม่ยอมออกจากบ้านไปไหน อ้างว่าไม่มีตังค์ ปล่อยให้ลูกเล่นเกมส์อย่างเดียว ปะเหมาะเคราะห์ร้ายในอนาคต อาจต้องเสียเงินค่าประกันตัวลูกผู้ไปปล้นไปเจี๋ยนเจ้าทรัพย์ กลายเป็นประหยัดน้อยในตอนนี้ แต่จ่ายมากในภายหลัง อย่างนั้นเรียกว่าไม่มีวิสัยทัศน์ (เหมือนนักการเมืองบางคนเนอะ)
      
       การออกไปเที่ยวจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตยุคใหม่ เมื่อไม่นานมานี้ คนไทยแห่กันไปเที่ยวเมืองนอก เพราะค่าเงินบาทแข็งโป๊ก ไปไหนก็สบาย แต่ถึงยุคปัจจุบัน ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนด้อย ที่พุ่งฉิวมาแทนคือค่าน้ำมันเครื่องบินและอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่วิ่งแข่งก ันเข้าเส้นชัย ทัวร์ต่างประเทศราคาถูกแทบไม่มีเหลือ ยกเว้นไปช้อปปิ้งฮ่องกงสิงคโปร์ ซึ่งคงไม่ต่างอะไรจากการไปช้อปปิ้งในกรุงเทพ
      
       ผมจึงอยากพาพวกเราไปขับรถเที่ยวไทย โดยเน้นความประหยัดเป็นที่ตั้ง เริ่มจากการหาวันเวลาที่ว่างไปเที่ยว แน่นอนว่า หากไปวันธรรมดา เช่น อาทิตย์ถึงจันทร์ ย่อมประหยัดกว่าไปเสาร์กลับอาทิตย์ เพราะโรงแรมจะไม่คิดเงินเพิ่มค่าคืนวันหยุด (500-1,500 บาท แล้วแต่โรงแรม) ยังหมายถึงการเดินทางที่เร็วกว่า (ไปหัวหิน ไปกลับรวมกัน เร็วกว่า 2-3 ชั่วโมง) ประหยัดน้ำมันมากกว่า (ไปหัวหิน ไปกลับรวมกัน ประหยัดน้ำมัน 200-500 บาท) ปัญหาคือเราไม่อาจหาเวลาลางานได้ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูก 2 คน เช่นครอบครัวผม ทั้งลางาน ทั้งพาลูกโดดเรียนพร้อมกัน ช่างยากเย็นชะมัด
      
       ผมไม่กล่าวถึงวิธีขับรถแบบประหยัดที่คุณ ๆ ทราบดีอยู่แล้ว เช่น เช็คลมยาง เอาของที่ไม่จำเป็นออกจากท้ายรถ แต่จะเน้นเทคนิคพิสดารนิดหนึ่ง เริ่มจากการเติมน้ำมันให้เต็มถังตั้งแต่อยู่ในเมือง แม้ว่ารถจะหนักขึ้น แต่ถ้าคิดถึงราคาน้ำมันที่แพงกว่าในปั๊มต่างจังหวัด นั่นก็ประหยัดไปหลาย
      
       ดุเดือดกว่าค่าน้ำมัน คือ ค่าขนมเครื่องดื่มของคุณเธอผู้นั่งยิ้มอยู่ข้างกายคุณ ลองนึกดูก็ได้ครับ ทุกครั้งที่เราแวะปั๊ม สาวข้างกายจะต้องตรงรี่เข้าไปร้านมินิมาร์ท กดทั้งกาแฟหยิบทั้งขนมออกมาเป็นฟ่อน แล้วใครเอ่ยเป็นคนควักตังค์ เรา เรา และเราทั้งนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการแวะปั๊มระหว่างทางโดยเด็ดขาด
      
       ในกรณีนี้ สาวอาจมีลูกเล่น คุณเธอจะยิ้มหวานทำตาเยิ้ม บอกว่าคุณพี่ขา หนูอยากเข้าห้องน้ำสักนิด เราคงไม่ถึงขั้นยิ้มเหี้ยม ตูข้าไม่ให้เข้าวุ้ย ยังไงก็ต้องตามใจเธอ แต่ควรเลือกปั๊มใหญ่หน่อย ห้องน้ำอยู่ห่างจากร้านมินิมาร์ท เลี้ยวเข้าปั๊มได้ ให้ตรงไปจอดหน้าห้องน้ำ ไม่ต้องไปจอดข้างร้าน กะช่วงเวลาแดดออก (สาวไม่กล้าเดิน กลัวดำ) หรือฝนตก (สาวไม่กล้าเดิน กลัวหน้าละลายผมเสียทรง)
      
       มาถึงเรื่องกินอาหาร ไปทะเลต้องกินซีฟู้ด ไปภูเขาต้องกินสเต็ก นั่นเป็นความเชื่อสมัยเรามีตังค์ ตอนนี้จนแล้ว กินซีฟู้ดพ่อแม่ลูกสี่คน ไง ๆ ก็ไม่ต่ำกว่าพัน (ส้มตำปูไม่นับเป็นซีฟู้ด) ทางเลี่ยงคือหาร้านอื่นมาหลอกล่อ ตามเส้นทางมีร้านก๋วยเตี๋ยวร้านส้มตำมากมาย เชิญเลือกตามสบาย บอกได้ว่า ร้านนี้เค้าอร่อยนะ เคยลงหนังสือหรือเว็บไซต์ด้วยแหละ (หนังสือพิมพ์นิตยสารเมืองไทยมีหลายร้อย เว็บไซต์อีกนับหมื่น ขอเพียงเป็นร้านอาหาร ไง ๆ ก็ต้องเคยลงสื่อบ้างล่ะ เรามั่วแต่เราไม่ได้โกหกนะเออ)
      
       เทคนิคการกินแบบประหยัดยังมีอีกมาก เช่น พยายามเปลี่ยนข้าวเที่ยงให้เป็นข้าวบ่าย ตอนเย็นพาไปเลี้ยงของแพงจะได้กินน้อย ๆ หรือหากอยู่โรงแรมกินข้าวเช้าฟรี ควรเลือกเวลากินให้สายที่สุด และกินให้มากสุด เพื่อจะได้ข้ามมื้อกลางวันไปโดยปริยาย วิธีพวกนี้ฟังแล้วอาจหัวเราะหุ ๆ ในใจ แต่เชื่อเถิด มีคนใช้ อย่างน้อยก็ผมหนึ่งรายล่ะ
      
       ค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวส่วนใหญ่จะไปหนักตรงค่าที่พัก แต่ถ้าคุณไปเช้าเย็นกลับ ถือว่าไม่คุ้มค่าน้ำมัน ไปทั้งทีควรอยู่นานสุดเท่าที่เป็นไปได้ ผมจะยึดคตินาน ๆ ไปทีแต่ต้องไปให้คุ้ม เช่น พาลูกไปเที่ยวครั้งหนึ่ง อยู่สัก 4-5 วัน แล้วไม่ต้องไปอีก 3-4 เดือน ดีกว่าไปเช้าเย็นกลับแต่ต้องไปทุกเดือน
      
       ปัจจุบัน ที่พักในเมืองไทยมีหลายระดับราคา โดยเฉพาะบูติกและฮิปโฮเต็ล อ่านตามนิตยสารแล้วน่าไปจัง แต่ตังค์หมดกระเป๋าแน่ เราควรเลือกที่พักตามกิจกรรมที่เราอยากทำ เช่น ตั้งใจจะพาภรรยาไปเที่ยวตรงโน้นตรงนี้ทั้งวัน ที่พักมีไว้แค่ซุกหัวนอน จะอยู่โรงแรมสวยยังไงก็ไม่คุ้ม แต่ถ้าหวังพาสาวไปจู๋จี๋ กรณีนี้ต้องเลือกห้องให้แจ่มหน่อย เสียเงินแพงก็ช่างมัน ภรรยาเห็นหน้าทุกวัน สาวเห็นหน้านาน ๆ ที การท่องเที่ยวแบบประหยัดจึงไม่ควรใช้กับสาว
      
       เมื่อหาสาวไม่ได้ มองไปทางไหนเห็นแต่หน้าลูก จำต้องตัดใจพาเด็กน้อยไปเที่ยว อยากแนะนำว่า เด็กอนุบาลเด็กประถมต้นไปเที่ยวก็เหมือนไปเล่น เค้าไม่สนใจอยากเห็นป้ายหรืออยากเห็นแหล่งท่องเที่ยวหรอกครับ แค่มีโอกาสเล่นน้ำเล่นทรายก็สุขใจเกินพอแล้ว อยากแนะให้เลือกโรงแรมติดหาดสะดวกสบายและปลอดภัย
      
       ความแสลงใจคือโรงแรมดังกล่าวราคาจะพุ่งฉิว จึงควรเลือกโรงแรมที่อยู่นอกเขตท่องเที่ยวสุดฮิต โดยคิดว่า ทรายที่ปึกเตียนหรือที่ชะอำก็คล้ายทรายที่หัวหิน แมงกะพรุนตัวเดียวกันด้วยซ้ำ ทรายที่แหลมเสด็จเมืองจันท์แทบไม่ต่างจากทรายที่ระยอง แต่ราคาที่พักจะถูกกว่ากันเกือบเท่าตัว
      
       การท่องเที่ยวอีกวิธีที่ททท.สนับสนุน คือ แคมเปญ “บินไปกลับขับรถเที่ยว” นั่งเครื่องบินก่อนเช่ารถวิ่งไปตามเส้นทางต่าง ๆ หากใครสงสัยว่ามีที่ใดบ้าง ไปที่สำนักงานททท.เพชรบุรี ขอเอกสารเค้าได้ หรือจะเปิดเว็บไซต์ http://thai.tourismthailand.org  ดูแคมเปญ 1 ราคา 5 เส้นทาง เค้ามีให้เลือกตั้งแต่ 8,200-22,000 บาทต่อ 2 คน ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่ารถเช่า 3 วัน ค่าที่พัก 2 คืน ตามเมืองเที่ยวหลัก เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย ฯลฯ น่าสนใจดีมากหากคุณคิดอยากพาแฟนไปหย่อนใจ แต่ต้องภายใน 30 กันยายนนี้เท่านั้น โทรศัพท์ 02-2504580-83
      
       น่าเสียดาย โปรแกรมนี้ออกมาจ๊ะเอ๋กับราคาน้ำมันที่กำลังพุ่งสูง เราจึงต้องเตรียมเงินเผื่อสัก 1,500-2,000 บาทสำหรับค่าน้ำมันรถ แต่ถ้าขี้เกียจขับหรือไม่มีตังค์เหลือแล้ว เรายังมีทางเลือกครับ
      
       ผมเพิ่งไปเชียงใหม่ แต่ไม่เช่ารถ โดยเลือกที่พักแบบเกสต์เฮ้าส์ในเมือง ราคาแค่คืนละพันเศษ ถูกกว่านั้นก็มีนะ ไปไหนมาไหนก็ใช้บริการสองแถวและตุ๊ก ๆ เน้นเฉพาะเที่ยวในเมือง นอกเมืองไม่ต้องไป ป่าเขาลำเนาไพรน้ำตกใหญ่น้อยเราก็เคยเห็นมาหมดแล้ว เดินเล่นในเมืองดีกว่า เดินไปเดินมา โอ้โฮ สนุกครับ เช้าเข้าวัด บ่ายไปเดินเล่นที่ถนนนิมมานเหมินทร์ซอย 1-9 ตกกลางคืนก็เดินชมของบนถนนคนเดิน (เสาร์วัวลาย อาทิตย์ราชดำเนิน) ถือเป็นการไปเชียงใหม่ที่คุ้มค่า ใช้เงินแค่ไม่กี่พันบาท ไม่เหนื่อยด้วย แถมยังสนุกเพราะช่วงนี้ร้านค้าในเชียงใหม่ลดกันทั้งเมือง ใครสนใจนอนเกสต์เฮ้าเชียงใหม่ ลองคลิกดูได้ที่ http://www.1stopchiangmai.com/cheaphotels

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 สิงหาคม 2551 09:52 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น