ประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 9/2551
เรื่อง
เร่งรับสนองกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ต ามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีกระแสพระราชดำรัสกับคณะผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2551 เป็นใจความว่า
“ขอให้ท่านทั้งหลายบริหารเงินไม่ให้หมด เพื่อให้ประเทศชาติมีเงินใช้ ขอขอบคุณที่มีความตั้งใจบริหารเงินของชาติไม่ให้หมดไป ให้มีใช้”
“ขอบใจที่เหน็ดเหนื่อยเรื่องการเงิน ซึ่งเป็นงานหนัก และสามารถปฏิบัติงานด้านการเงินเป็นที่เรียบร้อยไม่ให้บ้านเมืองล่มจม แม้ตอนนี้ใกล้ล่มจมแล้ว ซึ่งอาจใช้เงินไม่ระวัง เพราะใช้เงินไม่ระวัง”
“เรารู้ว่าท่านเหน็ดเหนื่อย ลำบากใจ นอกจากเหน็ดเหนื่อยแล้วยังถูกหาว่าทำไม่ได้ดี ทำไม่ถูกต้อง ขอบใจทุกคนที่มาในวันนี้ และยังทำงานอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้บ้านเมืองมีเงินใช้ ใครที่บริหารการคลังควรรู้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญของชาติบ้านเมือง”
กระแสพระราชดำรัสดังได้อัญเชิญมาข้างต้นนี้มีความชัดเจน และถูกตรงกับสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังมีการใช้จ่ายเงินเกินตัว มีการใช้จ่ายเงินโดยไม่ระวัง ไม่คำนึงถึงการบริหารการคลังที่สำคัญที่สุด มีลักษณะตั้งโครงการผลาญชาติผลาญแผ่นดิน ทำให้เงินแผ่นดินหมดสิ้นไปโดยไม่จำเป็นหรือไร้ประโยชน์ เพียงเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง แล้วเอาไปซื้อเสียง ซื้อผู้แทนราษฎร ก่อวงจรอุบาทว์อย่างไม่ขาดสายขึ้นในบ้านเมือง
ในฐานะตัวแทนประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอกราบแทบเบื้องพระยุคลบาทด้วยความสำนึกในพ ระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ทรงทราบทุกข์เข็ญของบ้านเมืองอย่างละเอียดถี่ถ ้วน และทรงพระราชทานแนวทางที่จะป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางและหลักปฏิบัติของคนทั้งปวงในแผ่นดิน ซึ่งประชาชนผู้จงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทุกชีวิต ขอน้อมรับกระแสพระราชดำรัสนี้เทิดไว้เหนือเกล้า และจะปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดสัมฤทธิผลขึ้นดังพระราชดำรัสทุกประการ
เพื่อการนี้ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลและรัฐสภาเร่งสนองกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวอย่างเคร่ง ครัด อย่างเต็มกำลัง และโดยเร็วที่สุด เพื่อการนี้ เราเรียกร้องดังต่อไปนี้
ข้อ 1.ให้หยุดโครงการประชานิยมที่ล้างผลาญงบประมาณเพื่อหาเสียงทางการเมืองทั้งห มดในทันที และคิดอ่านโครงการใหม่ที่ทำให้คนไทยมีงานทำ มีรายได้อย่างยั่งยืนทดแทน
ข้อ 2.ให้ระงับโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ที่ต้องใช้เงินงบประมาณถึง 30,000 ล้านบาท โดยไม่จำเป็นและไม่เหมาะสมในทันที
ข้อ 3.ให้ยกเลิกโครงการเช่ารถบัสใช้ก๊าซเอ็นจีวี จำนวน 6,000 คัน ของ ขสมก.ซึ่งใช้เงินงบประมาณถึง 110,000 ล้านบาททันที และถ้าจำเป็นก็ให้เปลี่ยนวิธีเป็นซื้อในราคาคันละประมาณไม่เกิน 4 ล้านบาท และใช้เงินเพียง 24,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจะเป็นการป้องกันการปล้นชาติขนาดใหญ่อย่างได้ผลอีกด้วย และประหยัดเงินงบประมาณถึง 86,000 ล้านบาท
ข้อ 4.ให้ยกเลิกโครงการผันน้ำจากเขื่อนน้ำงึมของลาว ลอดใต้แม่น้ำโขงเข้าสู่ภาคอีสาน ซึ่งต้องใช้เงินงบประมาณถึง 120,000 ล้านบาท เพราะประเทศไทยไม่ได้ขาดแคลนน้ำ ทั้งจะทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในภาคอีสาน ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เพิ่มขึ้นอีก หากจำเป็นก็ให้ขุดลอกแหล่งน้ำธรรมชาติและสายน้ำธรรมชาติ ทั้งภาคอีสาน ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้งบประมาณไม่เกิน 30,000 ล้านบาทเท่านั้น ก็จะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำได้ทั้งปี และประหยัดเงินแผ่นดินได้ถึง 90,000 ล้านบาท
ข้อ 5.ให้ยกเลิกโครงการทางหลวงพิเศษทั้งหมดที่ต้องใช้เงินงบประมาณถึง 170,000 ล้านบาท และเปลี่ยนใช้รถไฟรางคู่แทน ทั้งสายใต้ สายอีสาน และสายรอบเมืองอย่างเป็นขั้นตอน ก็จะประหยัดเงินงบประมาณได้กว่า 100,000 ล้านบาท และยังประหยัดพลังงานในอนาคตและลดค่าใช้จ่ายด้านขนส่งอย่างมหาศาล
ข้อ 6.ให้ยุติการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟสที่สองที่ต้องใช้เงินประมาณ 70,000 ล้านบาท และให้ปรับปรุงสนามบินดอนเมืองใช้แทน ซึ่งใช้งบประมาณไม่เกิน 20,000 ล้านบาท
ข้อ 7.ให้จัดการประมูลรถไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมดให้เป็นไปโดยโปร่งใส และเป็นสากล ยุติการล็อคสเป็คงานและสเป็คผู้รับเหมา ยุติการฉ้อฉลปล้นชาติขนาดใหญ่ในโครงการนี้ในทันที
ข้อ 8.ให้เปิดเผยข้อมูลการทำโครงการที่ใช้เงินงบประมาณเกิน 5,000 ล้านบาทต่อสาธารณะอย่างกว้างขวาง ให้ควบคุมตรวจสอบความจำเป็นใหม่และให้ควบคุมตรวจสอบการประมูลให้เป็นไปโดยโป ร่งใส เป็นธรรม และเป็นสากล
ข้อ 9.ให้ยกเลิกโครงการและงบประมาณตามร่างกฎหมายงบประมาณสำหรับโครงการที่ไม่จำเ ป็น หรือที่ไม่สุจริต หรือที่เป็นไปเพื่อหาเสียงทางการเมือง รวมทั้งยกเลิกงบ ส.ส.คนละ 60 ล้านบาทในทันที
ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชน ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสนองกระแสพระราชดำรัสนี้ให้เป็นผลสำเร็จเพื่อไม่ให้ชาติ ล่มจมตามที่ทรงแนะนำไว้ โดยเฉพาะข้าราชการ ขอให้มีความกล้าหาญ มีความเด็ดเดี่ยว มีความสัตย์สุจริตและยืนหยัดปฏิบัติตามกระแสพระราชดำรัสอย่างเต็มกำลังต่อไป
ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2551
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น