by raydoo
เลวไม๊...*!=&87=*%^$#>F<&u?c:”}k฿- - - แหม...อึ้มม์ม์ม์...อ้า...แฮ่มม์ม์ม์...โฮ่งๆๆๆๆ...บ็อกซ์ซ์ซ์...อ้าร์ร์ร์ ..แคว้กๆ..เจี๊ยกกกกกก...ฯลฯ ครับ...เห็นภาพนายกฯ ของประเทศไทย ดินแดนที่ว่ากันว่าศิวิไลย์ ดินแดนที่ถือว่าครั้งหนึ่งเคยได้รับเกียรติว่าเป็นดินแดนที่หน้าจับตามากที่ สุด มากขนาดที่ชาวโลกเคยให้ราคา พร้อมกับขนานนามว่าเป็น “เสือตัวที่ 5” ของเอเชีย แต่วันนี้เราเห็นนายกฯ คนปัจจุบันพุงพุ้ยๆ โลเทคนิดๆ (เพราะชอบอ่านหนังสือพิมพ์ ประชาชนไม่เคยเห็นท่านออกมาด่าอินเตอร์เน็ตเหมือนที่ด่าคอลัมนิตย์เลยสักครั ้ง...! ทั้งๆ ที่ตำหนิท่านมากกว่า นสพ.เสียอีก) หน้าตาน่ารักเหมือน“เพนกวินจักรพรรดิ์” ยืนเอามือล้วงกระเป๋า ปักหลักาสำรากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...! หน้าดำ-แดงด่าสื่อสารมวลชนเหยงๆ อยู่หน้าห้องน้ำแล้ว โดยส่วนตัวผมก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดอะไรมากมายไปกว่า การยืนให้พอของคนที่รู้ว่าตัวเองกำลังนับถอยหลังชีวิต นักข่าว-ช่างภาพ กระทั่งบรรณาธิการข่าวการเมืองก็อย่าไปถือสาแกเลยครับ ให้ถือว่าผู้ใหญ่ไม้ใกล้ฝั่งใกล้โลงเขาให้โอวาท เขาให้พร ฟังแล้วผมคิดไปอีกแบบด้วยซ้ำว่า นักข่าวน่าจะยกพนมมือท่วมหัว สาธุ...! รับพร เมื่อมองแบบเข้าใจคนแก่ๆ แล้ว ผมก็อยากให้คนแก่อย่างท่านนายกฯ มาไล่ลองและมองในแง่มุมของลูกๆ หลานๆ อย่างนักข่าว...! กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้าง เป็นไปได้ไหมครับท่านนายกฯ คือ ณ วันเกิดเหตุที่นักข่าว-ช่างภาพทีวีเขาแห่ “เฮละโลสาระ” พาไปเป็นพวง และไล่ตามติดชีวิตของท่าน อยู่ที่หน้าห้องน้ำ เพราะพวกเขาเห็นว่าท่านนายก มาอัดรายการที่ NBT แต่เช้า แถมเช้านั้นท่านก็มาLate ซะอีก วันนั้นนักข่าวคงจะคิดว่าที่ท่านมาช้า ข้าวปลาคงยังไม่ได้กิน น้ำท่ารึ...ก็ยังไม่ได้กิน ลูกๆ หลานๆ เหลนๆ โหลนๆ เขาก็แค่เป็นห่วงไม้ใกล้ฝั่งอย่างท่าน ก็แหม...มุดหัว หลีบหัวหลีบหางเข้าห้องน้ำ 5 นาทีก็ให้แล้ว 10 นาทีก็ไม่มีวีแววออกมา นี่เกือบชั่วโมง เข้าให้ก็ยังไม่เดินยืนพุงพุ้ยๆ ออกมา ลูกหลานก็อารมณ์ประมาณเป็นห่วง-ใย ผู้นำระดับประเทศว่า หายหัวไปนาน คุณสมัครอาจจะเป็นลมเพราะหิวข้าว-หิวน้ำส้มไบเล่ จนต้องหกล้ม-หกลุกขาชี้ฟ้า หัวจิ้มส้วมซึมตายไป ถ้าออกอีกรูปการนั้นผมว่า ประเทศไทยจะเสียคนดี ที่รักประเทศชาติอย่างไทยไปอย่างน่าเสียดายยยยยยยยย นักข่าวเขาเป็นหัวตัวเอง จริงๆ นะเอ้า...!
เลวไม๊...*!=&87=*%^$#>F<&u?c:”}k฿- - - แหม...อึ้มม์ม์ม์...อ้า...แฮ่มม์ม์ม์...โฮ่งๆๆๆๆ...บ็อกซ์ซ์ซ์...อ้าร์ร์ร์ ..แคว้กๆ..เจี๊ยกกกกกก...ฯลฯ ครับ...เห็นภาพนายกฯ ของประเทศไทย ดินแดนที่ว่ากันว่าศิวิไลย์ ดินแดนที่ถือว่าครั้งหนึ่งเคยได้รับเกียรติว่าเป็นดินแดนที่หน้าจับตามากที่ สุด มากขนาดที่ชาวโลกเคยให้ราคา พร้อมกับขนานนามว่าเป็น “เสือตัวที่ 5” ของเอเชีย แต่วันนี้เราเห็นนายกฯ คนปัจจุบันพุงพุ้ยๆ โลเทคนิดๆ (เพราะชอบอ่านหนังสือพิมพ์ ประชาชนไม่เคยเห็นท่านออกมาด่าอินเตอร์เน็ตเหมือนที่ด่าคอลัมนิตย์เลยสักครั ้ง...! ทั้งๆ ที่ตำหนิท่านมากกว่า นสพ.เสียอีก) หน้าตาน่ารักเหมือน“เพนกวินจักรพรรดิ์” ยืนเอามือล้วงกระเป๋า ปักหลักาสำรากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...! หน้าดำ-แดงด่าสื่อสารมวลชนเหยงๆ อยู่หน้าห้องน้ำแล้ว โดยส่วนตัวผมก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดอะไรมากมายไปกว่า การยืนให้พอของคนที่รู้ว่าตัวเองกำลังนับถอยหลังชีวิต นักข่าว-ช่างภาพ กระทั่งบรรณาธิการข่าวการเมืองก็อย่าไปถือสาแกเลยครับ ให้ถือว่าผู้ใหญ่ไม้ใกล้ฝั่งใกล้โลงเขาให้โอวาท เขาให้พร ฟังแล้วผมคิดไปอีกแบบด้วยซ้ำว่า นักข่าวน่าจะยกพนมมือท่วมหัว สาธุ...! รับพร เมื่อมองแบบเข้าใจคนแก่ๆ แล้ว ผมก็อยากให้คนแก่อย่างท่านนายกฯ มาไล่ลองและมองในแง่มุมของลูกๆ หลานๆ อย่างนักข่าว...! กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้าง เป็นไปได้ไหมครับท่านนายกฯ คือ ณ วันเกิดเหตุที่นักข่าว-ช่างภาพทีวีเขาแห่ “เฮละโลสาระ” พาไปเป็นพวง และไล่ตามติดชีวิตของท่าน อยู่ที่หน้าห้องน้ำ เพราะพวกเขาเห็นว่าท่านนายก มาอัดรายการที่ NBT แต่เช้า แถมเช้านั้นท่านก็มาLate ซะอีก วันนั้นนักข่าวคงจะคิดว่าที่ท่านมาช้า ข้าวปลาคงยังไม่ได้กิน น้ำท่ารึ...ก็ยังไม่ได้กิน ลูกๆ หลานๆ เหลนๆ โหลนๆ เขาก็แค่เป็นห่วงไม้ใกล้ฝั่งอย่างท่าน ก็แหม...มุดหัว หลีบหัวหลีบหางเข้าห้องน้ำ 5 นาทีก็ให้แล้ว 10 นาทีก็ไม่มีวีแววออกมา นี่เกือบชั่วโมง เข้าให้ก็ยังไม่เดินยืนพุงพุ้ยๆ ออกมา ลูกหลานก็อารมณ์ประมาณเป็นห่วง-ใย ผู้นำระดับประเทศว่า หายหัวไปนาน คุณสมัครอาจจะเป็นลมเพราะหิวข้าว-หิวน้ำส้มไบเล่ จนต้องหกล้ม-หกลุกขาชี้ฟ้า หัวจิ้มส้วมซึมตายไป ถ้าออกอีกรูปการนั้นผมว่า ประเทศไทยจะเสียคนดี ที่รักประเทศชาติอย่างไทยไปอย่างน่าเสียดายยยยยยยยย นักข่าวเขาเป็นหัวตัวเอง จริงๆ นะเอ้า...!
by bonkalasin
นายบอนแวะไปแถวเวทีพันธมิตรทีหนึ่งก็ถ่ายรูปเก็บไว้เยอะแยะ แล้วเอามาใส่ใน mblog เก็บเป็นบันทึกเหตุการณ์ไว้หลายๆตอน บันทึกนี้ มาถึงตอนที่สำคัญอีกตอนหนึ่ง คือ ได้พบกับท่าน Hanzen แห่ง mblog เลยพาท่านไปพบปะ รู้จักกับอีกหลายๆท่าน ให้คุ้มค่ากับที่ท่าน Hanzen มาเจอะเจอกันในค่ำคืนนี้เสียเลย
นายบอนแวะไปแถวเวทีพันธมิตรทีหนึ่งก็ถ่ายรูปเก็บไว้เยอะแยะ แล้วเอามาใส่ใน mblog เก็บเป็นบันทึกเหตุการณ์ไว้หลายๆตอน บันทึกนี้ มาถึงตอนที่สำคัญอีกตอนหนึ่ง คือ ได้พบกับท่าน Hanzen แห่ง mblog เลยพาท่านไปพบปะ รู้จักกับอีกหลายๆท่าน ให้คุ้มค่ากับที่ท่าน Hanzen มาเจอะเจอกันในค่ำคืนนี้เสียเลย
by bonkalasin
นอกจากการได้เขียนเรื่องราวใน mblog แล้ว การได้มีโอกาสพบปะชาว mblog ตัวจริงเสียงจริงสักครั้งหนึ่ง ถือเป็นกำไรชีวิตอย่างยิ่ง การได้สัมผัส รอยยิ้ม สายตา คำพูดในแบบสดๆ นับว่ามีค่าอย่างยิ่ง และแล้ว นายบอนก็มีโอกาสเข้าไปทักทาย ท่านพี่ kat hatyai เสียที และถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานด้วย
นอกจากการได้เขียนเรื่องราวใน mblog แล้ว การได้มีโอกาสพบปะชาว mblog ตัวจริงเสียงจริงสักครั้งหนึ่ง ถือเป็นกำไรชีวิตอย่างยิ่ง การได้สัมผัส รอยยิ้ม สายตา คำพูดในแบบสดๆ นับว่ามีค่าอย่างยิ่ง และแล้ว นายบอนก็มีโอกาสเข้าไปทักทาย ท่านพี่ kat hatyai เสียที และถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานด้วย
by bonkalasin
หากไม่มีพันธมิตร ไม่มีการชุมนุม คงไม่เกิดมิตรภาพที่งดงามเช่นนี้ ไม่มีโอกาสได้เห็น 2 สาวได้มาพบเจอกัน เพราะคนหนึ่งอยู่ในสังคมเมืองที่วุ่นวายสับสน แต่อีกคนอยู่ในร่มเงาแห่งธรรม เพียงแค่ไม่ปิดโอกาสของตัวเอง เพียงการนั่งดูหน้าจอทีวี หรือ หน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น มิตรภาพใหม่ๆ ก็จะเริ่มต้นขึ้นมาได้
หากไม่มีพันธมิตร ไม่มีการชุมนุม คงไม่เกิดมิตรภาพที่งดงามเช่นนี้ ไม่มีโอกาสได้เห็น 2 สาวได้มาพบเจอกัน เพราะคนหนึ่งอยู่ในสังคมเมืองที่วุ่นวายสับสน แต่อีกคนอยู่ในร่มเงาแห่งธรรม เพียงแค่ไม่ปิดโอกาสของตัวเอง เพียงการนั่งดูหน้าจอทีวี หรือ หน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น มิตรภาพใหม่ๆ ก็จะเริ่มต้นขึ้นมาได้
by singkao
"สิทธิมนุษยชน"..ของนายกรัฐมนตรี .............................................................................. คนจะเข้า ห้องน้ำ ตามอยู่ได้ ไม่มีมารยาท หรือไร ใคร่ย้ำถาม ยังไม่เคย เห็นใคร ไหนเลวทราม คอยติดตาม คอยจ้อง เฝ้าห้องน้ำ สมาคม อบรม กันยังไง มันทุเรศ น่าอายไหม จึงใจต่ำ มันจะบ้า หรือเปล่า ที่เฝ้าทำ เลวถลำ เกินไป "ไอ้พวกนี้" เป็นส่วนตัว กันบ้าง ไม่ได้หรือ ตามฮาฮือ พันพัว กลัวเลี่ยงหนี สิทธิมนุษยชน ของนายก-รัฐมนตรี ตามถ่ายตอน นั่นนี่ ดีหรือไร นายสมัคร พิโรธ กริ้วโกรธจัด ท่าฮึดฮัด ย่ำแย่ ยากแก้ไข แค่นั่งเล่น นั่นนะ จะทำไม มันหนักหัว ของใคร ไหนบอกที๚ ..........................................
"สิทธิมนุษยชน"..ของนายกรัฐมนตรี .............................................................................. คนจะเข้า ห้องน้ำ ตามอยู่ได้ ไม่มีมารยาท หรือไร ใคร่ย้ำถาม ยังไม่เคย เห็นใคร ไหนเลวทราม คอยติดตาม คอยจ้อง เฝ้าห้องน้ำ สมาคม อบรม กันยังไง มันทุเรศ น่าอายไหม จึงใจต่ำ มันจะบ้า หรือเปล่า ที่เฝ้าทำ เลวถลำ เกินไป "ไอ้พวกนี้" เป็นส่วนตัว กันบ้าง ไม่ได้หรือ ตามฮาฮือ พันพัว กลัวเลี่ยงหนี สิทธิมนุษยชน ของนายก-รัฐมนตรี ตามถ่ายตอน นั่นนี่ ดีหรือไร นายสมัคร พิโรธ กริ้วโกรธจัด ท่าฮึดฮัด ย่ำแย่ ยากแก้ไข แค่นั่งเล่น นั่นนะ จะทำไม มันหนักหัว ของใคร ไหนบอกที๚ ..........................................
by showshow
เมฆดำกลุ่มนี้นั้นต้องไม่ใช่เมฆฝนแน่ ผมคาดคะเนเอา เพราะ มันเป็นเส้นทึบๆผิดธรรมชาติเหมือนกระดาษสีขาวที่มีคนจงใจวาดหรือลากเส้นสีดำ เป็นแนว
เมฆดำกลุ่มนี้นั้นต้องไม่ใช่เมฆฝนแน่ ผมคาดคะเนเอา เพราะ มันเป็นเส้นทึบๆผิดธรรมชาติเหมือนกระดาษสีขาวที่มีคนจงใจวาดหรือลากเส้นสีดำ เป็นแนว
by mblogtips
ตามที่ได้มีการแจ้งเปิดโครงการ "MBlog บนสื่อในเครือผู้จัดการ" วันจันทร์ที่ 4 ส.ค. 51 MBlog ได้นำบทความของสมาชิกลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ส่วนปริทรรศน์(หน้า 34) 2 เรื่องดังนี้
ตามที่ได้มีการแจ้งเปิดโครงการ "MBlog บนสื่อในเครือผู้จัดการ" วันจันทร์ที่ 4 ส.ค. 51 MBlog ได้นำบทความของสมาชิกลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ส่วนปริทรรศน์(หน้า 34) 2 เรื่องดังนี้
by greenmblog
โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ได้รับรางวัลดีเด่นด้านการอนุรักษ์พลังงาน ประเภทอาคารควบคุม และรางวัลชนะเลิศจาก เอเชียน เอนเนอร์จี อวอร์ด 2008 (ASEAN Energy Awards 2008) ประเภทการบริหารจัดการพลังงานดีเด่นในอาคาร พญ.ประภา รัตนไชย ประธานคณะกรรมการโครงการอนุรักษ์พลังงาน โรงพยาบาลหาดใหญ่ เปิดเผยกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลตื่นตัวและตระหนักใน เรื่องของพลังงาน ซึ่งในตอนแรกก็มีหลายคนที่ไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วย แต่ก็จะไม่มีการว่ากล่าว หรือตำหนิใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะค่อยๆ ทำให้ทุกคนเข้าใจและได้มีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งในที่สุดทุกคนก็ให้ความร่วมมือกันอย่างดี มาดูกันดีกว่าค่ะว่า "ทิป หรือ เทคนิคอะไร?" ที่ทำให้โรงพยาบาลของไทย ก้าวไกลจนได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ 1. ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้เป็นรุ่นประหยัดไฟ โดยให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ให้ใช้งานอย่างถูกวิธีและเหมาะสม เช่น เปิดสวิตซ์เมื่อต้องการใช้งาน และปิดสวิซต์ทันทีเมื่อเลิกใช้งาน น้ำร้อนให้ต้มแต่พอใช้ และใช้ทันทีเมื่อต้มเสร็จ ไม่ปล่อยทิ้งไว้ให้สูญเสียพลังงาน 2. แยกผ้าก่อนซัก ทางโรงพยาบาลมีการซักผ้าของผู้ป่วยทุกวัน ซึ่งจะมีผ้าบางส่วนที่เปรอะเปื้อนเลือดมากน้อยต่างกัน เมื่อก่อนจะซักรวมกันทั้งหมด แต่เดี๋ยวนี้จะให้มีการแยกผ้าก่อนซัก ก็จะช่วยประหยัดน้ำ, ไฟฟ้า และ ผงซักฟอก ได้มาก หรือว่าการต้มน้ำร้อนในหม้อต้มขนาดใหญ่สำหรับใช้ในโรงพยาบาล เราก็จะไม่ปล่อยไอน้ำให้ระเหยไปเฉยๆ แต่จะเอามาให้ความร้อนกับน้ำที่รอจะเข้าเครื่องต้มน้ำต่อไป เพื่อให้น้ำอุ่นขึ้น และใช้พลังงานในการต้มน้อยลง 3. ใช้เครื่องปรับอากาศชุดใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงแทนชุดเดิม 4. เปลี่ยนหลอดอินแคนเดสเซนต์เป็นหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ 5. ใช้โคมชนิดประสิทธิภาพการสะท้อนแสงสูงและลดจำนวนหลอดไฟฟ้า จากการดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานมานานกว่า 4 ปีครึ่ง ประธานโครงการบอกว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลได้ไม่น้อย โดยในปี 2549 ลดต้นทุนของโรงพยาบาลได้ 4.4 ล้านบาท ส่วนในปี 2550 ลดได้ 8.36 ล้านบาท ขนาดองค์กรขนาดใหญ่ เมื่อปฎิบัติ และปรับปรุงสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเพียงไม่กี่อย่างก็ให้ลดภาวะโลกร้อน อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย ฉะนั้นถ้าจะนำบางส่วนมาปรับใช้กับบ้านหลังเล็ก ๆแต่อบอุ่นของเรา ก็จะยิ่งเพอร์เฟกต์นะคะ ลองดูนะคะ หนูชอุ่มเชื่อว่าทุกคนเป็นฮีโร่ให้กับโลกใบนี้ได้ค่ะ
โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ได้รับรางวัลดีเด่นด้านการอนุรักษ์พลังงาน ประเภทอาคารควบคุม และรางวัลชนะเลิศจาก เอเชียน เอนเนอร์จี อวอร์ด 2008 (ASEAN Energy Awards 2008) ประเภทการบริหารจัดการพลังงานดีเด่นในอาคาร พญ.ประภา รัตนไชย ประธานคณะกรรมการโครงการอนุรักษ์พลังงาน โรงพยาบาลหาดใหญ่ เปิดเผยกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลตื่นตัวและตระหนักใน เรื่องของพลังงาน ซึ่งในตอนแรกก็มีหลายคนที่ไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วย แต่ก็จะไม่มีการว่ากล่าว หรือตำหนิใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะค่อยๆ ทำให้ทุกคนเข้าใจและได้มีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งในที่สุดทุกคนก็ให้ความร่วมมือกันอย่างดี มาดูกันดีกว่าค่ะว่า "ทิป หรือ เทคนิคอะไร?" ที่ทำให้โรงพยาบาลของไทย ก้าวไกลจนได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ 1. ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้เป็นรุ่นประหยัดไฟ โดยให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ให้ใช้งานอย่างถูกวิธีและเหมาะสม เช่น เปิดสวิตซ์เมื่อต้องการใช้งาน และปิดสวิซต์ทันทีเมื่อเลิกใช้งาน น้ำร้อนให้ต้มแต่พอใช้ และใช้ทันทีเมื่อต้มเสร็จ ไม่ปล่อยทิ้งไว้ให้สูญเสียพลังงาน 2. แยกผ้าก่อนซัก ทางโรงพยาบาลมีการซักผ้าของผู้ป่วยทุกวัน ซึ่งจะมีผ้าบางส่วนที่เปรอะเปื้อนเลือดมากน้อยต่างกัน เมื่อก่อนจะซักรวมกันทั้งหมด แต่เดี๋ยวนี้จะให้มีการแยกผ้าก่อนซัก ก็จะช่วยประหยัดน้ำ, ไฟฟ้า และ ผงซักฟอก ได้มาก หรือว่าการต้มน้ำร้อนในหม้อต้มขนาดใหญ่สำหรับใช้ในโรงพยาบาล เราก็จะไม่ปล่อยไอน้ำให้ระเหยไปเฉยๆ แต่จะเอามาให้ความร้อนกับน้ำที่รอจะเข้าเครื่องต้มน้ำต่อไป เพื่อให้น้ำอุ่นขึ้น และใช้พลังงานในการต้มน้อยลง 3. ใช้เครื่องปรับอากาศชุดใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงแทนชุดเดิม 4. เปลี่ยนหลอดอินแคนเดสเซนต์เป็นหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ 5. ใช้โคมชนิดประสิทธิภาพการสะท้อนแสงสูงและลดจำนวนหลอดไฟฟ้า จากการดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานมานานกว่า 4 ปีครึ่ง ประธานโครงการบอกว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลได้ไม่น้อย โดยในปี 2549 ลดต้นทุนของโรงพยาบาลได้ 4.4 ล้านบาท ส่วนในปี 2550 ลดได้ 8.36 ล้านบาท ขนาดองค์กรขนาดใหญ่ เมื่อปฎิบัติ และปรับปรุงสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเพียงไม่กี่อย่างก็ให้ลดภาวะโลกร้อน อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย ฉะนั้นถ้าจะนำบางส่วนมาปรับใช้กับบ้านหลังเล็ก ๆแต่อบอุ่นของเรา ก็จะยิ่งเพอร์เฟกต์นะคะ ลองดูนะคะ หนูชอุ่มเชื่อว่าทุกคนเป็นฮีโร่ให้กับโลกใบนี้ได้ค่ะ
by microvision
เมื่อแรกเริ่มเดิมที ความตายเป็นอะไรที่มนุษย์ทุกคนต้องประสบพบเจอ จะช้าจะเร็วขึ้นอยู่กับเวลา เมื่อเวลานั้นมาถึงคุณก็จะพบกับคนคนหนึ่งที่จะเคียงข้างคุณยามที่ทุกคนได้แต ่ยืนมองอยู่ห่างๆ ผมเรียกเขาว่า "ผู้นำมาซึ่งความตาย" หรือชาวบ้านเรียกว่า "ยมทูต"
เมื่อแรกเริ่มเดิมที ความตายเป็นอะไรที่มนุษย์ทุกคนต้องประสบพบเจอ จะช้าจะเร็วขึ้นอยู่กับเวลา เมื่อเวลานั้นมาถึงคุณก็จะพบกับคนคนหนึ่งที่จะเคียงข้างคุณยามที่ทุกคนได้แต ่ยืนมองอยู่ห่างๆ ผมเรียกเขาว่า "ผู้นำมาซึ่งความตาย" หรือชาวบ้านเรียกว่า "ยมทูต"
by sazzie
แม้จะเป็นเช้าวันอาทิตย์ แต่ฉันก็ยังต้องตื่นแต่เช้าทั้งที่คืนวันเสาร์ก็กลับบ้านค่อนข้างดึก เพราะวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันนัดพบผู้ปกครอง หลังจากการสอบเก็บคะแนนกลางภาคผ่านมาได้สองอาทิตย์ ทางโรงเรียนก็มีหนังสือเชิญผู้ปกครองประชุมและพบอาจารย์ที่ปรึกษาของลูกหลาน เพื่อที่จะได้รับฟังถึงแผนการเรียนการสอนในช่วงเวลาต่อจากนี้ และพบอาจารย์ที่ปรึกษาของลูก เพื่อรับฟังผลการเรียน รวมถึงพฤติกรรมของลูกระหว่างที่อยู่ในโรงเรียน เข้าห้องประชุมเวลา 8.00 น.เป๊ะ ก็นั่งชมวีดีทัศน์กิจกรรมต่างๆที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดเทอม ก็มีทั้งการหล่อเทียนพรรษา , กิจกรรมลดภาวะโลกร้อน , งานไหว้ครู ฯลฯ ฉันก็ไม่ค่อยจะได้เงยหน้ามองจอโปรเจ็กเตอร์นั่นเท่าไหร่ เพราะสนใจกับวารสารโรงเรียน ที่ได้รับแจกตอนลงทะเบียนก่อนเข้าห้องประชุมมากกว่า
แม้จะเป็นเช้าวันอาทิตย์ แต่ฉันก็ยังต้องตื่นแต่เช้าทั้งที่คืนวันเสาร์ก็กลับบ้านค่อนข้างดึก เพราะวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันนัดพบผู้ปกครอง หลังจากการสอบเก็บคะแนนกลางภาคผ่านมาได้สองอาทิตย์ ทางโรงเรียนก็มีหนังสือเชิญผู้ปกครองประชุมและพบอาจารย์ที่ปรึกษาของลูกหลาน เพื่อที่จะได้รับฟังถึงแผนการเรียนการสอนในช่วงเวลาต่อจากนี้ และพบอาจารย์ที่ปรึกษาของลูก เพื่อรับฟังผลการเรียน รวมถึงพฤติกรรมของลูกระหว่างที่อยู่ในโรงเรียน เข้าห้องประชุมเวลา 8.00 น.เป๊ะ ก็นั่งชมวีดีทัศน์กิจกรรมต่างๆที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดเทอม ก็มีทั้งการหล่อเทียนพรรษา , กิจกรรมลดภาวะโลกร้อน , งานไหว้ครู ฯลฯ ฉันก็ไม่ค่อยจะได้เงยหน้ามองจอโปรเจ็กเตอร์นั่นเท่าไหร่ เพราะสนใจกับวารสารโรงเรียน ที่ได้รับแจกตอนลงทะเบียนก่อนเข้าห้องประชุมมากกว่า
by phakri
จากรายงานของผู้บังคับการเรือพาลลาส รายงานของนาวาเอก แองกัส แมคเคลาด์ (Angus Maciead) ผู้บังคับการเรือพาลลาสถึง พลเรือตรีฟรีแมนเติล ผู้บัญชาการกองเรืออังกฤษภาคทะเลจีน ลง ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๓๖ มีความว่า วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๓๖ เวลาเช้าตรู่ ได้รับจดหมายจากพลเรือจัตวา เดอ ริชลิเออ แห่งราชนาวีไทย มีใจความว่า "เรือแองคองสตังค์ จะมาถึงวันนี้ แต่ ม.ปาวี ตกลงยินยอมจะส่งเรือกลไฟลำหนึ่งให้นายทหารประจำเรือลูแตงไปด้วย เพื่อไปบอกให้อยู่เพียงนอกสันดอน หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่ร้ายแรงเกิดขึ้น"
จากรายงานของผู้บังคับการเรือพาลลาส รายงานของนาวาเอก แองกัส แมคเคลาด์ (Angus Maciead) ผู้บังคับการเรือพาลลาสถึง พลเรือตรีฟรีแมนเติล ผู้บัญชาการกองเรืออังกฤษภาคทะเลจีน ลง ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๓๖ มีความว่า วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๓๖ เวลาเช้าตรู่ ได้รับจดหมายจากพลเรือจัตวา เดอ ริชลิเออ แห่งราชนาวีไทย มีใจความว่า "เรือแองคองสตังค์ จะมาถึงวันนี้ แต่ ม.ปาวี ตกลงยินยอมจะส่งเรือกลไฟลำหนึ่งให้นายทหารประจำเรือลูแตงไปด้วย เพื่อไปบอกให้อยู่เพียงนอกสันดอน หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่ร้ายแรงเกิดขึ้น"
by phakri
วัดในพระพุทธศาสนา เชียงใหม่เป็นเมืองพุทธศาสนา ผู้คนนับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 97 ในวันสำคัญทางศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ชาวพุทธในจังหวัดเชียงใหม่ จะพากันไปทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ และเวียนเทียนตามวัดต่าง ๆ และจะให้ความร่วมมือในการบริจาค หรือทำบุญ ถวายทาน ในการก่อสร้างถาวรวัตถุในทางพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก จึงทำให้ศาสนาพุทธมีความรุ่งเรืองมาก
วัดในพระพุทธศาสนา เชียงใหม่เป็นเมืองพุทธศาสนา ผู้คนนับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 97 ในวันสำคัญทางศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ชาวพุทธในจังหวัดเชียงใหม่ จะพากันไปทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ และเวียนเทียนตามวัดต่าง ๆ และจะให้ความร่วมมือในการบริจาค หรือทำบุญ ถวายทาน ในการก่อสร้างถาวรวัตถุในทางพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก จึงทำให้ศาสนาพุทธมีความรุ่งเรืองมาก
by phakri
บทที่แปด ตำราพิชัยสงครามของชาวสยาม และการทหารเรือกับทหารบก ๑. ชาวสยามไม่เหมาะที่จะเป็นนักรบ ตำราพิชัยสงครามดูไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันในเมืองสยาม และชาวสยามดูไม่ค่อยเหมาะกับงานประเภทนี้ คนควงดาบมาคนเดียวก็พอที่จะทำให้ชาวสยาม ตั้งร้อยวิ่งหนีได้
บทที่แปด ตำราพิชัยสงครามของชาวสยาม และการทหารเรือกับทหารบก ๑. ชาวสยามไม่เหมาะที่จะเป็นนักรบ ตำราพิชัยสงครามดูไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันในเมืองสยาม และชาวสยามดูไม่ค่อยเหมาะกับงานประเภทนี้ คนควงดาบมาคนเดียวก็พอที่จะทำให้ชาวสยาม ตั้งร้อยวิ่งหนีได้
by septimus
……เอาไว้จับแขน จับขา และจับเอว…… ……… …………..ใครกันที่โชคดีระหว่างคนผ่าตัดกับคนที่ถูกผ่าตัด…………
……เอาไว้จับแขน จับขา และจับเอว…… ……… …………..ใครกันที่โชคดีระหว่างคนผ่าตัดกับคนที่ถูกผ่าตัด…………
by natayaa
หลังจากตีตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวลุย เข้าไปชม ไปดูกันค่ะว่า ด้านในปราสาทวอร์ริคเขามีอะไรให้ชมกันบ้าง
หลังจากตีตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวลุย เข้าไปชม ไปดูกันค่ะว่า ด้านในปราสาทวอร์ริคเขามีอะไรให้ชมกันบ้าง
by hanzen
ระหว่างที่ดู ASTV อยู่เรื่อยๆก่อนนอน พอดีมีผู้ปราศัยขึ้นมาเป็น TAXI พันธมิตร มีนายกสมาคม กับเลขา ขึ้นมาพูด (ขออภัยครับ ที่จำชื่อไม่ได้) คนที่เป็นเลขาฯนี่พูดได้ดีมากจนต้องเปลี่ยนมุมมองของคนขับ TAXI ใหม่เลยครับ พูดได้ดีมีความรู้มากกว่าผมซะอีก มากกว่าเพื่อนผมซะอีก เลยคิดถึงเรื่อง "ไม่รู้เรื่องพันธมิตรฯ ไม่รู้อะไรเลย..." ของคุณ Pijika ถ้าใครยังไม่เคยอ่านก็ไปอ่านได้ที่นี่ครับ ฮาดี ก็เอาเป็นว่าผมไปเจอประสพการณ์อย่างคุณ Pijika นี่เหมือนกัน ว่าจะไม่เขียนด่าเพื่อนแล้วน้า แต่ว่าจั๊กหน่อยเหอะ ยังไงมันก็ไม่มาอ่านในนี้อยู่แล้ว เขียนไว้กันลืมดีกว่า ชื่อเอ็มวันนี้ "ถึงจะมีปริญญา(เอก) แต่ไม่หาฟังข่าวสาร(ที่แท้จริง) มันก็แค่เด็กอนุบาล ในเรื่องการเมืองแหละว้า"
ม
หลังจากกลับจากไปร่วมชุมนุมที่สะพานมัฆวานกับพันธมิตร เมื่อ 1-2 ส.ค. ที่ผ่านมา นายบอนเดินผ่านห้องซ้อมดนตรีแห่งหนึ่ง ได้ยินเสียงเพลงจากห้องซ้อมแห่งนั้น ต้องหยุดฟังด้วยความสนใจ เพราะนั่นคือ เพลงจากเวทีพันธมิตร
by phakri
ม
ระหว่างที่ดู ASTV อยู่เรื่อยๆก่อนนอน พอดีมีผู้ปราศัยขึ้นมาเป็น TAXI พันธมิตร มีนายกสมาคม กับเลขา ขึ้นมาพูด (ขออภัยครับ ที่จำชื่อไม่ได้) คนที่เป็นเลขาฯนี่พูดได้ดีมากจนต้องเปลี่ยนมุมมองของคนขับ TAXI ใหม่เลยครับ พูดได้ดีมีความรู้มากกว่าผมซะอีก มากกว่าเพื่อนผมซะอีก เลยคิดถึงเรื่อง "ไม่รู้เรื่องพันธมิตรฯ ไม่รู้อะไรเลย..." ของคุณ Pijika ถ้าใครยังไม่เคยอ่านก็ไปอ่านได้ที่นี่ครับ ฮาดี ก็เอาเป็นว่าผมไปเจอประสพการณ์อย่างคุณ Pijika นี่เหมือนกัน ว่าจะไม่เขียนด่าเพื่อนแล้วน้า แต่ว่าจั๊กหน่อยเหอะ ยังไงมันก็ไม่มาอ่านในนี้อยู่แล้ว เขียนไว้กันลืมดีกว่า ชื่อเอ็มวันนี้ "ถึงจะมีปริญญา(เอก) แต่ไม่หาฟังข่าวสาร(ที่แท้จริง) มันก็แค่เด็กอนุบาล ในเรื่องการเมืองแหละว้า"
ม
by chaiyan00
เราหยูดแล้วแต่ท่านยังไม่หยุด รอยกระสุนปืนกาลัสนิกอฟ บนใบหน้า พุทธรูปบามิยัน เป็นเครื่องเตือนสติ ให้ชาวพุทธทั่งหลายได้สำนึกถึงความรุ่นแรงชั่วร้ายในสังคมที่แบ่งแยก ไม่่ใช่เฉพราะในปัจจุบัน แต่ในอดีตก็ปรากฏมาให้เห็นกันมากต่อมากแล้ว การดึงเอาศาสนาเข้ามาร่วมในการแสวงหาอำนาจมีให้เห็นกันอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าศาสนาเป็นสิ่งที่ชักจูงผู้คนให้มาร่วมขบวนการได้ดี แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้คำนึงถึงศาสนาที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจะต้องเสื่อ มสลายไปเหมือนในอดีตที่ผ่านมา อย่างเช่น ในมองโกเลีย ทิเบธ อาฟกานิสถาน โคฐาน จีน และอีกหลายๆประเทศที่ขณะนี้กำลังเอาศาสนาเข้ามาเป็นเครื่องต่อลองทางการเมือ ง พระพุทธองค์เคยตรัสกับ องค์คุลีมาร ว่าเราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด.
เราหยูดแล้วแต่ท่านยังไม่หยุด รอยกระสุนปืนกาลัสนิกอฟ บนใบหน้า พุทธรูปบามิยัน เป็นเครื่องเตือนสติ ให้ชาวพุทธทั่งหลายได้สำนึกถึงความรุ่นแรงชั่วร้ายในสังคมที่แบ่งแยก ไม่่ใช่เฉพราะในปัจจุบัน แต่ในอดีตก็ปรากฏมาให้เห็นกันมากต่อมากแล้ว การดึงเอาศาสนาเข้ามาร่วมในการแสวงหาอำนาจมีให้เห็นกันอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าศาสนาเป็นสิ่งที่ชักจูงผู้คนให้มาร่วมขบวนการได้ดี แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้คำนึงถึงศาสนาที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจะต้องเสื่อ มสลายไปเหมือนในอดีตที่ผ่านมา อย่างเช่น ในมองโกเลีย ทิเบธ อาฟกานิสถาน โคฐาน จีน และอีกหลายๆประเทศที่ขณะนี้กำลังเอาศาสนาเข้ามาเป็นเครื่องต่อลองทางการเมือ ง พระพุทธองค์เคยตรัสกับ องค์คุลีมาร ว่าเราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด.
by padsaraburi
จับตาหมอเลี้ยบเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป ดองเค็มเก็บภาษี “โอ๊ค – เอม - แอมเพิลริช” และชินแซทฯ กว่า 3.2 หมื่นล้าน และใช้คณะกรรมการอุทธรณ์ภาษี เป็นผู้ชี้ขาดแทนการนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ศาลฯตัดสิน ซ้ำรอยกรณี “บรรณพจน์ – หญิงอ้อ” เลี่ยงภาษี 546 ล้าน ที่จัดเก็บไม่ได้สักบาท
จับตาหมอเลี้ยบเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป ดองเค็มเก็บภาษี “โอ๊ค – เอม - แอมเพิลริช” และชินแซทฯ กว่า 3.2 หมื่นล้าน และใช้คณะกรรมการอุทธรณ์ภาษี เป็นผู้ชี้ขาดแทนการนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ศาลฯตัดสิน ซ้ำรอยกรณี “บรรณพจน์ – หญิงอ้อ” เลี่ยงภาษี 546 ล้าน ที่จัดเก็บไม่ได้สักบาท
by chaleejang
- อดทน….และยืนหยัด….ด้วยใจมั่น ....!!! - เราจะสู้ต่อไปพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย - -
- อดทน….และยืนหยัด….ด้วยใจมั่น ....!!! - เราจะสู้ต่อไปพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย - -
by bonkalasin
มีบางมุมจากบรรยากาศการเคลื่อนพลไปอนุสาวีย์ประชาธิปไตย ประกาศแสนยานุภาพ คัดค้านแก้รัฐธรรมนูญฟอกมารให้ถึงที่สุด แล้วเคลื่อนต่อยังหน้าวัดพระแก้ว ขอพรให้สิ่งศํกดิ์สิทธิ์คุ้มครองบ้านเมืองและพี่น้องที่รักชาติ ก่อนจะกลับมาปักหลักชุมนุมต่อที่มัฆวานตามเดิม นายบอนไปร่วมเคลื่อนพลในครั้งนี้ด้วย ถ่ายคลิปวิดีโอได้บรรยากาศทั้งภาพ และเสียงมาฝากกันครับ
มีบางมุมจากบรรยากาศการเคลื่อนพลไปอนุสาวีย์ประชาธิปไตย ประกาศแสนยานุภาพ คัดค้านแก้รัฐธรรมนูญฟอกมารให้ถึงที่สุด แล้วเคลื่อนต่อยังหน้าวัดพระแก้ว ขอพรให้สิ่งศํกดิ์สิทธิ์คุ้มครองบ้านเมืองและพี่น้องที่รักชาติ ก่อนจะกลับมาปักหลักชุมนุมต่อที่มัฆวานตามเดิม นายบอนไปร่วมเคลื่อนพลในครั้งนี้ด้วย ถ่ายคลิปวิดีโอได้บรรยากาศทั้งภาพ และเสียงมาฝากกันครับ
Clip video 5 แกนนำ - วงซูซู ZUZU บทเพลงแห่งการต่อสู้ชีวิตที่ภาคดนตรียอดเยี่ยมสะใจ ดาวน์โหลดmp3 + lyr
by bonkalasinหลังจากกลับจากไปร่วมชุมนุมที่สะพานมัฆวานกับพันธมิตร เมื่อ 1-2 ส.ค. ที่ผ่านมา นายบอนเดินผ่านห้องซ้อมดนตรีแห่งหนึ่ง ได้ยินเสียงเพลงจากห้องซ้อมแห่งนั้น ต้องหยุดฟังด้วยความสนใจ เพราะนั่นคือ เพลงจากเวทีพันธมิตร
by padsaraburi
รักสาว ๆ ชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(PAD) ทั้งหมดนี้จัง เพราะพวกเธอ...รั ก ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย
รักสาว ๆ ชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(PAD) ทั้งหมดนี้จัง เพราะพวกเธอ...รั ก ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย
by pad1950
ผมเป็นคนเดือนตุลา เป็นคำพูดของคนอายุใกล้ 60 พูดกันอย่างภาคภูมิใจ ในกิจกรรมที่ผ่านมาในอดีตที่คนกลุ่มนี้ได้เคยออกมาต่อสู้ ขับไล่เผด็จการทหารในยุคนั้นให้ออกไปการเมืองไทย และคนกลุ่มเดียวกันนี้ได้ทำหน้าที่เป็นแกนนำ ในการต่อต้านเผด็จการอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2519 และ พฤษภาคม 2535 การชุมนุมต่อต้านทั้ง 3 ครั้ง เป็นการชุมนุมที่ใช้เวลาไม่นาน บนถนนราชดำเนินก็ประสบความสำเร็จ แต่ต้องแลกด้วยเลือด น้ำตา และ ความเจ็บปวด รวมทั้งความพลัดพรากจากคนที่รักของครอบครัวผู้สูญเสีย ที่ไม่ใช่ครอบครัวของผู้มีอำนาจทั้งหลาย แต่เป็นครอบครัวของชนชั้นกลาง หลายคนมีข้อสงสัยว่าประเทศไทยของเราน่าจะมีวิธีอื่นๆอีกหรือไม่ ที่จะขับไล่รัฐบาลที่มิได้บริหารประเทศเพื่อประชาชนส่วนรวม แต่ทำเพื่อพวกพ้องของตนเองโดยไม่ต้องมีการเสียเลือดเนื้อกันอีก และในที่สุดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม ได้หาทางออกให้กับสังคมในเรื่องนี้ส่วนจะดี หรือ เลว หรือ คำตอบอื่นๆ เวลาในอนาคตจะบอกว่าสิ่งที่ทำในวันนี้ผลจะเป็นอย่างไร พวก พธม. นี้ เมื่อปี 2516 – 2519 – 2535 หรือ 35 – 16 ปีมาแล้ว ได้มีส่วนร่วมโดยตรงในการชุมนุมครั้งนั้นเกือบทุกคน เพราะยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวหรือในวัย 40 ต้นๆด้วยกันทั้งนั้น เพราะเวลาว่างของคนกลุ่มนี้มักจะไปฟังนักการเมืองปราศรัย ที่สนามหลวงอยู่เป็นประจำ ทำให้รู้เรื่องเกี่ยวกับปัญหาของประเทศ ในขณะนั้นเป็นอย่างดี และเมื่อจำเป็นต้องใช้กำลัง ก็ตัดสินใจเข้าร่วมทันทีโดยไม่ต้องกังวลว่า จะเสียชีวิตหรือไม่ ทำให้ปัญหาทางการเมืองจึงจบลงด้วยความรวดเร็ว แต่ต้องแลกมาด้วยเลือดและน้ำตาของครอบครัวบางครอบครัว ที่ต้องสูญเสียคนที่เป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ และสิ่งที่สังคมได้รับคือคำว่าประชาธิปไตยของนักเลือกตั้ง ที่วนเวียนกันอยู่แบบนี้ของคนไม่กี่ตระกูลที่มีเงิน แต่ครอบครัวของผู้สูญเสียไม่ได้อะไรเป็นการตอบแทนเลย เมื่อเทียบกับครอบครัวของนักเลือกตั้ง เวลานี้ พ.ศ.2551 คนกลุ่มนี้ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง บนถนนราชดำเนินในวัยใกล้ฝั่งในนามของ พธม. แต่ได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์การชุมนุมทางการเมืองที่แสดงความไม่พอใจ ต่อการกระทำของรัฐบาลในบางประการโดยเฉพาะต่อการกระทำ ที่เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ จากบทเรียนที่คนกลุ่มนี้ได้ผ่านมาทั้ง 3 การชุมนุม คือ 2516-2519-2535 ที่มีการจบลงอย่างรวดเร็วแต่มีการสูญเสียตามมามากมาย และ เป็นประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียสำหรับการชุมนุมในครั้งนี้ พ.ศ.2551 ยุทธศาสตร์การชุมนุมจึงเปลี่ยนมาเป็นแบบสันติ อหิงสา หมายความว่า ต้องใช้เวลามากกว่าปกติกว่าการชุมนุมครั้งที่ผ่านมา จากจำนวนคนที่มาปัจจุบัน ถ้าใช้ยุทธวิธีแบบเดิมโดยใช้ความรุนแรง เช่น การเผาสถานที่ราชการสักแห่ง สามารถทำได้ไม่ยาก และ ความวุ่นวายก็จะตามมา และ ก็จะสามารถไล่รัฐบาลได้เหมือนครั้งก่อนๆ แต่ถ้าจะใช้ยุทธศาสตร์สันติ อหิงสา ต้องใช้เวลานาน และต้องการแนวร่วมให้มากกว่านี้ซึ่งขณะนี้ความรู้ของมวลชน ได้ขยายตัวไปทั่วประเทศแล้ว คอยสถานการณ์ที่สุกงอมและเอื้ออำนวยแต่เพียงอย่างเดียวซึ่งยังไมรู้ว่าเมื่อ ใด และฝ่ายตรงข้ามก็รู้เช่นเดียวกันจึงพยายามหลีกเลี่ยงทุกวิถีทาง ถ้าเช่นนั้นเราจะสามารถเร่งการพังทลายของรัฐบาลและระบอบทักษิณ ให้ออกไปให้เร็วขึ้นได้หรือไม่ คำตอบคือได้ โดยไม่ต้องคอยการเพลี่ยงพล้ำของรัฐบาล แต่ด้วยการเพิ่มจำนวนคนเข้าไปในการชุมนุมให้มากกว่านี้ จำนวนคนที่จะเพิ่มอย่างเป็นกอบเป็นกำน่าจะมาจากกลุ่มข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ นักเรียน นิสิตและนักศึกษา ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มข้าราชการและรัฐวิสาหกิจได้ออกมาแล้ว เหลือแต่กลุ่มนักเรียน นิสิต และ นักศึกษาเท่านั้น ที่ยังมิได้ให้ความสนใจเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับสมัย ตุลาคม 2516 จึงอยากจะบอกกับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ว่า ระบอบทักษิณ ไม่เคยสร้างงานให้กับผู้ที่จบการศึกษาในแต่ละปีเลย พวกเขาคิดแต่จะร่ำรวยเฉพาะกลุ่มของเขา และ พวกต่างชาติที่ต้องการทำมาหากินโดยผ่านพรรคพวกของพวกเขาเท่านั้น และเมื่อถูกจับการทุจริตได้ พวกระบอบทักษิณก็ใช้เวลาและทรัพยากรบุคคล ที่อยู่ในส่วนราชการปกป้องพรรคพวกของเขาไม่ให้เข้าไปฟ้องร้องดำเนินคดี ทำให้ไม่มีเวลาไปคิดสร้างงานให้กับคนรุ่นใหม่ที่จบการศึกษามาเป็นจำนวนมากเล ย นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2544 – 2551 สังเกตได้จากมีนักศึกษาเป็นจำนวนมากต้องถูกฟ้องเรียกคืนเงินกู้ยืมเพื่อการศ ึกษา เป็นที่ทราบกันดีและจำนวนนักศึกษาที่จบใหม่ที่จะต้องถูกฟ้องเรียกเงินคืน เพิ่มมากขึ้นทุกๆปี สาเหตุเพราะไม่มีงานทำ เนื่องจากระบอบทักษิณไม่เคยคิดสร้างงาน ให้กับลูกชาวบ้านแต่เขาสร้างความร่ำรวยให้กับพรรคพวกของเขาเท่านั้นเอง ยิ่งรัฐบาลนี้ยิ่งอยู่นานเท่าไร ลูกหลานชาวบ้านก็จะยิ่งยากจนลงเท่านั้น เพราะไม่มีงานทำ อยากให้นักศึกษาทุกท่านได้พิจารณาดู ถ้าคิดว่า พวกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม. ซึ่งเป็นคนรุ่นคุณพ่อ คุณเม่ คุณลุง ทำสิ่งในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อเยาวชนคนรุ่นหลังเพื่อให้มีงานทำ ไม่ต้องเป็นคนว่างงานเมื่อจบการศึกษา ไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง ก็ขอให้ตัดสินใจมาร่วมการชุมนุมในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน ยิ่งมาร่วมได้เร็วเท่าไรก็จะทำให้รัฐบาลไปเร็วขึ้นเท่านั้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องสูญเสียชีวิตหรือเป็นอันตราย เหมือนการชุมนุมใน 3 ครั้งที่ผ่านมา และให้รัฐบาลใหม่ที่คิดและทำเพื่อส่วนรวมเข้ามาบริหารประเทศต่อไป ด้วยจิตคารวะ นายช่างโยธา วารีวงษ์ pad1950@gmail.com
ผมเป็นคนเดือนตุลา เป็นคำพูดของคนอายุใกล้ 60 พูดกันอย่างภาคภูมิใจ ในกิจกรรมที่ผ่านมาในอดีตที่คนกลุ่มนี้ได้เคยออกมาต่อสู้ ขับไล่เผด็จการทหารในยุคนั้นให้ออกไปการเมืองไทย และคนกลุ่มเดียวกันนี้ได้ทำหน้าที่เป็นแกนนำ ในการต่อต้านเผด็จการอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2519 และ พฤษภาคม 2535 การชุมนุมต่อต้านทั้ง 3 ครั้ง เป็นการชุมนุมที่ใช้เวลาไม่นาน บนถนนราชดำเนินก็ประสบความสำเร็จ แต่ต้องแลกด้วยเลือด น้ำตา และ ความเจ็บปวด รวมทั้งความพลัดพรากจากคนที่รักของครอบครัวผู้สูญเสีย ที่ไม่ใช่ครอบครัวของผู้มีอำนาจทั้งหลาย แต่เป็นครอบครัวของชนชั้นกลาง หลายคนมีข้อสงสัยว่าประเทศไทยของเราน่าจะมีวิธีอื่นๆอีกหรือไม่ ที่จะขับไล่รัฐบาลที่มิได้บริหารประเทศเพื่อประชาชนส่วนรวม แต่ทำเพื่อพวกพ้องของตนเองโดยไม่ต้องมีการเสียเลือดเนื้อกันอีก และในที่สุดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม ได้หาทางออกให้กับสังคมในเรื่องนี้ส่วนจะดี หรือ เลว หรือ คำตอบอื่นๆ เวลาในอนาคตจะบอกว่าสิ่งที่ทำในวันนี้ผลจะเป็นอย่างไร พวก พธม. นี้ เมื่อปี 2516 – 2519 – 2535 หรือ 35 – 16 ปีมาแล้ว ได้มีส่วนร่วมโดยตรงในการชุมนุมครั้งนั้นเกือบทุกคน เพราะยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวหรือในวัย 40 ต้นๆด้วยกันทั้งนั้น เพราะเวลาว่างของคนกลุ่มนี้มักจะไปฟังนักการเมืองปราศรัย ที่สนามหลวงอยู่เป็นประจำ ทำให้รู้เรื่องเกี่ยวกับปัญหาของประเทศ ในขณะนั้นเป็นอย่างดี และเมื่อจำเป็นต้องใช้กำลัง ก็ตัดสินใจเข้าร่วมทันทีโดยไม่ต้องกังวลว่า จะเสียชีวิตหรือไม่ ทำให้ปัญหาทางการเมืองจึงจบลงด้วยความรวดเร็ว แต่ต้องแลกมาด้วยเลือดและน้ำตาของครอบครัวบางครอบครัว ที่ต้องสูญเสียคนที่เป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ และสิ่งที่สังคมได้รับคือคำว่าประชาธิปไตยของนักเลือกตั้ง ที่วนเวียนกันอยู่แบบนี้ของคนไม่กี่ตระกูลที่มีเงิน แต่ครอบครัวของผู้สูญเสียไม่ได้อะไรเป็นการตอบแทนเลย เมื่อเทียบกับครอบครัวของนักเลือกตั้ง เวลานี้ พ.ศ.2551 คนกลุ่มนี้ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง บนถนนราชดำเนินในวัยใกล้ฝั่งในนามของ พธม. แต่ได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์การชุมนุมทางการเมืองที่แสดงความไม่พอใจ ต่อการกระทำของรัฐบาลในบางประการโดยเฉพาะต่อการกระทำ ที่เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ จากบทเรียนที่คนกลุ่มนี้ได้ผ่านมาทั้ง 3 การชุมนุม คือ 2516-2519-2535 ที่มีการจบลงอย่างรวดเร็วแต่มีการสูญเสียตามมามากมาย และ เป็นประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียสำหรับการชุมนุมในครั้งนี้ พ.ศ.2551 ยุทธศาสตร์การชุมนุมจึงเปลี่ยนมาเป็นแบบสันติ อหิงสา หมายความว่า ต้องใช้เวลามากกว่าปกติกว่าการชุมนุมครั้งที่ผ่านมา จากจำนวนคนที่มาปัจจุบัน ถ้าใช้ยุทธวิธีแบบเดิมโดยใช้ความรุนแรง เช่น การเผาสถานที่ราชการสักแห่ง สามารถทำได้ไม่ยาก และ ความวุ่นวายก็จะตามมา และ ก็จะสามารถไล่รัฐบาลได้เหมือนครั้งก่อนๆ แต่ถ้าจะใช้ยุทธศาสตร์สันติ อหิงสา ต้องใช้เวลานาน และต้องการแนวร่วมให้มากกว่านี้ซึ่งขณะนี้ความรู้ของมวลชน ได้ขยายตัวไปทั่วประเทศแล้ว คอยสถานการณ์ที่สุกงอมและเอื้ออำนวยแต่เพียงอย่างเดียวซึ่งยังไมรู้ว่าเมื่อ ใด และฝ่ายตรงข้ามก็รู้เช่นเดียวกันจึงพยายามหลีกเลี่ยงทุกวิถีทาง ถ้าเช่นนั้นเราจะสามารถเร่งการพังทลายของรัฐบาลและระบอบทักษิณ ให้ออกไปให้เร็วขึ้นได้หรือไม่ คำตอบคือได้ โดยไม่ต้องคอยการเพลี่ยงพล้ำของรัฐบาล แต่ด้วยการเพิ่มจำนวนคนเข้าไปในการชุมนุมให้มากกว่านี้ จำนวนคนที่จะเพิ่มอย่างเป็นกอบเป็นกำน่าจะมาจากกลุ่มข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ นักเรียน นิสิตและนักศึกษา ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มข้าราชการและรัฐวิสาหกิจได้ออกมาแล้ว เหลือแต่กลุ่มนักเรียน นิสิต และ นักศึกษาเท่านั้น ที่ยังมิได้ให้ความสนใจเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับสมัย ตุลาคม 2516 จึงอยากจะบอกกับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ว่า ระบอบทักษิณ ไม่เคยสร้างงานให้กับผู้ที่จบการศึกษาในแต่ละปีเลย พวกเขาคิดแต่จะร่ำรวยเฉพาะกลุ่มของเขา และ พวกต่างชาติที่ต้องการทำมาหากินโดยผ่านพรรคพวกของพวกเขาเท่านั้น และเมื่อถูกจับการทุจริตได้ พวกระบอบทักษิณก็ใช้เวลาและทรัพยากรบุคคล ที่อยู่ในส่วนราชการปกป้องพรรคพวกของเขาไม่ให้เข้าไปฟ้องร้องดำเนินคดี ทำให้ไม่มีเวลาไปคิดสร้างงานให้กับคนรุ่นใหม่ที่จบการศึกษามาเป็นจำนวนมากเล ย นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2544 – 2551 สังเกตได้จากมีนักศึกษาเป็นจำนวนมากต้องถูกฟ้องเรียกคืนเงินกู้ยืมเพื่อการศ ึกษา เป็นที่ทราบกันดีและจำนวนนักศึกษาที่จบใหม่ที่จะต้องถูกฟ้องเรียกเงินคืน เพิ่มมากขึ้นทุกๆปี สาเหตุเพราะไม่มีงานทำ เนื่องจากระบอบทักษิณไม่เคยคิดสร้างงาน ให้กับลูกชาวบ้านแต่เขาสร้างความร่ำรวยให้กับพรรคพวกของเขาเท่านั้นเอง ยิ่งรัฐบาลนี้ยิ่งอยู่นานเท่าไร ลูกหลานชาวบ้านก็จะยิ่งยากจนลงเท่านั้น เพราะไม่มีงานทำ อยากให้นักศึกษาทุกท่านได้พิจารณาดู ถ้าคิดว่า พวกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม. ซึ่งเป็นคนรุ่นคุณพ่อ คุณเม่ คุณลุง ทำสิ่งในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อเยาวชนคนรุ่นหลังเพื่อให้มีงานทำ ไม่ต้องเป็นคนว่างงานเมื่อจบการศึกษา ไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง ก็ขอให้ตัดสินใจมาร่วมการชุมนุมในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน ยิ่งมาร่วมได้เร็วเท่าไรก็จะทำให้รัฐบาลไปเร็วขึ้นเท่านั้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องสูญเสียชีวิตหรือเป็นอันตราย เหมือนการชุมนุมใน 3 ครั้งที่ผ่านมา และให้รัฐบาลใหม่ที่คิดและทำเพื่อส่วนรวมเข้ามาบริหารประเทศต่อไป ด้วยจิตคารวะ นายช่างโยธา วารีวงษ์ pad1950@gmail.com
by siwaya2517
“ดูแลตัวเองนะ.” คือ SMS สุดท้ายระหว่างเราสองคน พร้อมน้ำตาที่ไหลแบบไม่ยั่ง ( เมื่อคืนนี้ก่อนนอน) พรุ่งนี้ อัทธ์ จะไปซื้อเบอร์มือถือใหม่ วันอังคาร อัทธ์ จะไปตัดผมที่ยาว ผมที่ไว้ยาวมาตลอด ตัดผมสั้น... ตัดใจ....
“ดูแลตัวเองนะ.” คือ SMS สุดท้ายระหว่างเราสองคน พร้อมน้ำตาที่ไหลแบบไม่ยั่ง ( เมื่อคืนนี้ก่อนนอน) พรุ่งนี้ อัทธ์ จะไปซื้อเบอร์มือถือใหม่ วันอังคาร อัทธ์ จะไปตัดผมที่ยาว ผมที่ไว้ยาวมาตลอด ตัดผมสั้น... ตัดใจ....
by singkao
............................................ "แต่งศพใหม่ ภาพลักษณ์ ยิ่งอัปรีย์" ............................................ "หนึ่งสิงหา" พวกบ้า ต้องล่าถอย พลังเหลือน้อย คาดผิด คงคิดเขิน 'รัดตำนูน' หยุดรอ ขอประเมิน ทั้งนายเงิน เคยจ้าง แรมร้างไกล ยึดธรรมเนียม "ปากกล้า แต่ขาสั่น" "สิบแปดสิงหา" เลื่อนวัน ด้วยหวั่นไหว คงประมาณ วัดพลัง กำลังใจ เปรียบกันไป ห่างชั้น "พันธมิตรฯ" คำพิพากษ์ อย่างไร ใครย่อมทราบ มองเห็นภาพ 'ทักสิน' ยืนสิ้นคิด โยงผลถึง พาลถ่อย พลอยหมดฤทธิ์ หากผู้ใด ทำผิด ต้องติดคุก ยิ่งเพิ่มผู้ หาญกล้า มารวมกัน เรียกพลังพลัน ฮึกเหิม เติมการบุก มุ่งขับไล่ พวกเปรต เหตุแห่งทุกข์ เดินหน้ารุก 'รัดตะบาน' พาลกาลี พลังหญิงชาย หมายมุ่ง ผดุงธรรม ต้านระยำ เอนเอียง เยี่ยงเปรตผี "แต่งศพใหม่ ภาพลักษณ์ ยิ่งอัปรีย์" รอฤกษ์ดี นัดเผา เอาขึ้นเมรุ๚ ..............................................
............................................ "แต่งศพใหม่ ภาพลักษณ์ ยิ่งอัปรีย์" ............................................ "หนึ่งสิงหา" พวกบ้า ต้องล่าถอย พลังเหลือน้อย คาดผิด คงคิดเขิน 'รัดตำนูน' หยุดรอ ขอประเมิน ทั้งนายเงิน เคยจ้าง แรมร้างไกล ยึดธรรมเนียม "ปากกล้า แต่ขาสั่น" "สิบแปดสิงหา" เลื่อนวัน ด้วยหวั่นไหว คงประมาณ วัดพลัง กำลังใจ เปรียบกันไป ห่างชั้น "พันธมิตรฯ" คำพิพากษ์ อย่างไร ใครย่อมทราบ มองเห็นภาพ 'ทักสิน' ยืนสิ้นคิด โยงผลถึง พาลถ่อย พลอยหมดฤทธิ์ หากผู้ใด ทำผิด ต้องติดคุก ยิ่งเพิ่มผู้ หาญกล้า มารวมกัน เรียกพลังพลัน ฮึกเหิม เติมการบุก มุ่งขับไล่ พวกเปรต เหตุแห่งทุกข์ เดินหน้ารุก 'รัดตะบาน' พาลกาลี พลังหญิงชาย หมายมุ่ง ผดุงธรรม ต้านระยำ เอนเอียง เยี่ยงเปรตผี "แต่งศพใหม่ ภาพลักษณ์ ยิ่งอัปรีย์" รอฤกษ์ดี นัดเผา เอาขึ้นเมรุ๚ ..............................................
by ana123
บทเพลงสากลที่น่าจะได้รับเลือกให้เป็นเพลงเอก (Theme song) ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ณ กรุงปักกิ่งประเทศจีน ระหว่างวันที่ 8 - 24 สิงหาคม ค.ศ. 2008
บทเพลงสากลที่น่าจะได้รับเลือกให้เป็นเพลงเอก (Theme song) ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ณ กรุงปักกิ่งประเทศจีน ระหว่างวันที่ 8 - 24 สิงหาคม ค.ศ. 2008
ม
by ana123
บทเพลงจีนที่คาดว่าจะได้รับเลือกให้เป็นเพลงเอก (Theme song) ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 8 - 24 สิงหาคม ค.ศ. 2008
บทเพลงจีนที่คาดว่าจะได้รับเลือกให้เป็นเพลงเอก (Theme song) ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 8 - 24 สิงหาคม ค.ศ. 2008
by phakri
กลุ่มปราสาทตาเมือน ตั้งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในเขต ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่ทหารกัมพูชานำกำลังพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าขอชมปราสาท
กลุ่มปราสาทตาเมือน ตั้งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในเขต ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่ทหารกัมพูชานำกำลังพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าขอชมปราสาท
by ana123
PIN YIN & MP3 : http://imandarinpod.com/hoola/index.php?option=com_content&task=view&id=212&Itemid=33 Wednesday, 23 July 2008
PIN YIN & MP3 : http://imandarinpod.com/hoola/index.php?option=com_content&task=view&id=212&Itemid=33 Wednesday, 23 July 2008
by ana123
PIN YIN & MP3 : http://imandarinpod.com/hoola/index.php?option=com_content&task=view&id=211&Itemid=33 Monday, 21 July 2008
PIN YIN & MP3 : http://imandarinpod.com/hoola/index.php?option=com_content&task=view&id=211&Itemid=33 Monday, 21 July 2008
by ana123
PIN YIN & MP3 : http://imandarinpod.com/hoola/index.php?option=com_content&task=view&id=210&Itemid=33 Friday, 18 July 2008
PIN YIN & MP3 : http://imandarinpod.com/hoola/index.php?option=com_content&task=view&id=210&Itemid=33 Friday, 18 July 2008
by ana123
PIN YIN & MP3 : http://imandarinpod.com/hoola/index.php?option=com_content&task=view&id=209&Itemid=33 Wednesday, 16 July 2008
PIN YIN & MP3 : http://imandarinpod.com/hoola/index.php?option=com_content&task=view&id=209&Itemid=33 Wednesday, 16 July 2008
by amnuay1940
" โกสุมพิสัยเมืองคนดี วนอุทยานโกสัมพี..ลือเลื่อง พระมิ่งเมืองศักดิ์สิทธิ์ งามจับจิต..บึงกุย.. "
" โกสุมพิสัยเมืองคนดี วนอุทยานโกสัมพี..ลือเลื่อง พระมิ่งเมืองศักดิ์สิทธิ์ งามจับจิต..บึงกุย.. "
by sidabhai
เอนริมฟุตปาท คาดขาวเหลือง เรียนฟังการเมือง หนุนเข่าแม่ ใช่มาเอง ตามใคร-ตามกระแส คงเพราะแม่รักลูก, ปลูกทางธรรม. คุณหนูร่วมกู้ชาติ หน้าทำเนียบฯ
เอนริมฟุตปาท คาดขาวเหลือง เรียนฟังการเมือง หนุนเข่าแม่ ใช่มาเอง ตามใคร-ตามกระแส คงเพราะแม่รักลูก, ปลูกทางธรรม. คุณหนูร่วมกู้ชาติ หน้าทำเนียบฯ
by bonkalasin
นายบอนไปร่วมชุมนุมที่มัฆวาน ได้พบปะกับท่าน Hanzen ตัวจริงเสียงจริง รวมทั้งน้องบิ๊ว ที่มาพร้อมกับคุณพ่อ คุณแม่ มีคลิปวิดีโอให้ชมแบบตัวเป็นๆครับ
นายบอนไปร่วมชุมนุมที่มัฆวาน ได้พบปะกับท่าน Hanzen ตัวจริงเสียงจริง รวมทั้งน้องบิ๊ว ที่มาพร้อมกับคุณพ่อ คุณแม่ มีคลิปวิดีโอให้ชมแบบตัวเป็นๆครับ
by chaba2550
บุรุษผู้รู้ความ ไม่เป็นคนโอ้อวด ไม่มีมายา เป็นคนซื่อตรง ขอจงมาเถิด เราจะสั่งสอน เราจะแสดงธรรม เมื่อปฏิบัติตามคำ ที่เราสอนแล้ว ไม่นานก็จะรู้เอง จะเห็นเอง จะหลุดพ้นจากเครื่องผูก คือ "อวิชชา" ไปได้ (จากพระไตรปิฏก ภาษาไทย ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๑ "เวชณสสูตร" ข้อที่ ๔๐๑)
บุรุษผู้รู้ความ ไม่เป็นคนโอ้อวด ไม่มีมายา เป็นคนซื่อตรง ขอจงมาเถิด เราจะสั่งสอน เราจะแสดงธรรม เมื่อปฏิบัติตามคำ ที่เราสอนแล้ว ไม่นานก็จะรู้เอง จะเห็นเอง จะหลุดพ้นจากเครื่องผูก คือ "อวิชชา" ไปได้ (จากพระไตรปิฏก ภาษาไทย ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๑ "เวชณสสูตร" ข้อที่ ๔๐๑)
by kosolanusim
เป็นเรื่องชอบทำประจำแล้ว เอากรวดเป็นแก้วสร้างแววใส เอาสีแต้มแต่งตะแบงไป บอกนี่แหละใช่มณีวาว
เป็นเรื่องชอบทำประจำแล้ว เอากรวดเป็นแก้วสร้างแววใส เอาสีแต้มแต่งตะแบงไป บอกนี่แหละใช่มณีวาว
by kingkoon
***** ทหารเขมรพร้อมอาวุธบุกปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ***** อ่านหัวข่าวนี้ที่ขึ้นอยู่ที่เวปข่าว คม ชัด ลึก ความรู้สึกว่ารัฐบาลชุดนี้มันขายชาตินั้นเป็นความจริงแน่นอน ก่อนที่เขมรจะได้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมา ก่อน แต่รัฐบาลสัตว์นรกชุดนี้ก็ทำให้เรื่องดินแดนที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ระหว่ างสองประเทศเพราะเราก็ไม่ยอมรับ เขมรก็ไม่ยอมรับ จนนำความขัดแย้งให้เกิดขึ้นระหว่างสองประเทศ เกิดมาจากเกมแย่งอำนาจและแบ่งปัน แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของนักการเมืองพันธ์ขายชาติของประเทศไทยและเขมร
***** ทหารเขมรพร้อมอาวุธบุกปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ***** อ่านหัวข่าวนี้ที่ขึ้นอยู่ที่เวปข่าว คม ชัด ลึก ความรู้สึกว่ารัฐบาลชุดนี้มันขายชาตินั้นเป็นความจริงแน่นอน ก่อนที่เขมรจะได้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมา ก่อน แต่รัฐบาลสัตว์นรกชุดนี้ก็ทำให้เรื่องดินแดนที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ระหว่ างสองประเทศเพราะเราก็ไม่ยอมรับ เขมรก็ไม่ยอมรับ จนนำความขัดแย้งให้เกิดขึ้นระหว่างสองประเทศ เกิดมาจากเกมแย่งอำนาจและแบ่งปัน แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของนักการเมืองพันธ์ขายชาติของประเทศไทยและเขมร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น