คนอ่อนแอกับคนอ่อนแอมาเจอกัน
ภูมิต้านทานความทุกข์ย่อมเกิดขึ้นยาก
เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยากก่อเรื่อง
อีกฝ่ายมักพลอยมีเรื่องตาม
แต่คนอ่อนแอก็ใจอ่อนได้
โกรธง่ายหายเร็วถ้ายอมงอนง้อ
แล้วที่สุดเมื่อไม่มีใครง้อใคร
ก็จากกันไปทั้งรักอยู่
สิ่งที่เหลือคือทิฐิมานะอันเข้มแข็ง
ยืนพื้นอยู่บนใจอ่อนแอนั่นเอง
คนอ่อนแอกับคนเข้มแข็งมาเจอกัน
ภูมิต้านทานความทุกข์ย่อมมีสิทธิ์เกิดขึ้น
เมื่อฝ่ายอ่อนแออดก่อเรื่องไม่ได้
ฝ่ายเข้มแข็งมักหนักแน่นพอจะไม่ยอมมีเรื่องตาม
และคนเข้มแข็งก็มักมีเหตุผลพอจะปลอบตนเอง
เพื่อมีกำลังพอจะปลอบคนอ่อนแอได้
แต่ที่สุดเมื่อคนเข้มแข็งเหนื่อยล้าเกินทน
ก็อาจจากไปอย่างมีเหตุผลเพื่อตนเองบ้าง
สิ่งที่เหลือคือความห่วงหาอาลัย
ฝ่ายอ่อนแอร้องขอความเห็นใจ
แต่ฝ่ายเข้มแข็งเริ่มรู้จักเห็นใจตัวเองแล้ว
คนเข้มแข็งกับคนเข้มแข็งมาเจอกัน
ภูมิต้านทานความทุกข์ย่อมเกิดขึ้นง่าย
เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเผลอก่อเรื่อง
อีกฝ่ายจะระงับ ‘ต้นเหตุทางใจ’ ได้รวดเร็ว
และทั้งสองฝ่ายก็ไม่จำเป็นต้องมีใครปลอบใคร
แค่ปล่อยให้เรื่องแย่ผ่านไป
แล้วหันมาพูดถึงเรื่องดีกันต่อได้ไม่ต้องฝืน
เมื่อไม่ฝืนก็อยู่ต่อได้ไม่ไปไหน
แม้มีเหตุให้ต้องไปก็ไปอย่างสุภาพต่อกัน
ต่างฝ่ายต่างเห็นใจกันอย่างเข้มแข็งไม่เลิก
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อเท็จจริงด้านอื่นอีก
คนเข้มแข็งบางคน
ฉลาดพอจะขับดันให้คนอ่อนแอเกิดกำลังใจ
มุมานะมากพอจะเปลี่ยนแปลงตนเอง
เลยทำให้บางคู่อยู่ด้วยกันรอด
แม้เริ่มต้นขึ้นมาดูท่าไม่น่ารอด
คนอ่อนแอบางคู่
รักกันมากพอจะประคองกันเดิน
ใช้สองขาที่ยังมีกำลังของตน
แทนขาซ้ายหรือขาขวาของอีกฝ่ายที่เป๋ไป
เมื่อผลัดกันประคองอยู่
ย่อมรู้สึกว่าชีวิตคู่คือการเติมพลังที่ขาดหาย
กลายเป็นความเข้มแข็งเมื่ออยู่คู่
แม้เริ่มต้นขึ้นมาส่อเค้าว่าไม่รอดชัดๆ
แต่ในที่สุดก็ไปด้วยกันรอดได้จริงๆ
คนอ่อนแอบางคน
มีพลังพอจะฉุดให้คนเข้มแข็งจิตตกต่อเนื่อง
จนกระทั่งกลายเป็นคนอ่อนแอตามตน
เลยทำให้บางคู่อยู่ด้วยกันล่ม
ไม่ค้านสายตาใครที่เห็นแต่แรกว่าล่มแน่
คนเราพบกันเพื่อจาก
สุดแท้แต่ว่าจากเป็นหรือจากตาย
สุดแท้แต่ว่าจากไปพบกันแบบไหนต่อ
คนอ่อนแอมีแนวโน้มจะอ่อนแออีก
คนเข้มแข็งมีแนวโน้มจะเข้มแข็งอีก
นั่นก็สุดแท้แต่ว่าเจอกันครั้งนี้
จะอาศัยกันและกันเป็นแบบฝึกหัด
รักษาความอ่อนแอไว้
หรือพอกพูนความเข้มแข็งขึ้นมาแทน
ดังตฤณ
ตุลาคม ๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น