++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

10 สิ่งที่ควรเปลี่ยนให้ได้ก่อนปีใหม่ เทคนิคสร้างสุขรับปีใหม่ โดย น.พ.กฤษดา ศิรามพุช

10 สิ่งที่ควรเปลี่ยนให้ได้ก่อนปีใหม่ เทคนิคสร้างสุขรับปีใหม่ โดย น.พ.กฤษดา ศิรามพุช
1) กระเช้าปีใหม่ ไม่จำเป็นต้องหิ้วซุปไก่หน้าบานตามโฆษณาชวนเชื่อเสมอไป เราจัดให้เองดูมีคุณค่ามากกว่าซื้อกระเช้าซุปไก่,รังนก,เครื่องดื่มสำเร็จรูป และที่แน่ๆคือดูมี “เสน่ห์” มากกว่าว่าผู้ให้ตั้งใจเลือกไม่ใช่แค่สักแต่ “คว้า” มาจากห้าง สร้างกระเช้าสุขภาพได้ง่ายๆโดยใส่นมถั่วเหลืองแทนเครื่องดื่มเพ็พไทด์,ใส่โกโก้ผงแทนกาแฟสำเร็จรูป,ใส่น้ำผลไม้ที่มีเนื้อผลไม้แทนขวดน้ำหวานสีสด,ใส่ธัญพืชเคี้ยวเพลินแทนคุกกี้หรือเค้กฯลฯ และนั่นก็คือกระเช้าสุขภาพจากหัวใจที่เข้าใจสุขภาพจริงครับ
2) ส่งใจแทนความหวาน ปีใหม่นี้ขอให้ตั้งใจ “อ่อนหวาน” กันอย่างจริงจังนะครับ ความหวานเป็นมารสร้างรอบพุง โดยขอให้ตั้งใจเริ่มกันตั้งแต่กินเลี้ยงปีใหม่ปีนี้เลย ขออย่าผลัดไปว่าหลังปีใหม่ค่อยอด เพราะเมื่อท่านได้เริ่มอดหวานครั้งหนึ่งแล้วครั้งต่อๆไปจะทำได้ง่ายขึ้นจนที่สุดท่านจะไม่กระหายหวานมากเท่าไร ไม่เหมือนกับเริ่มหวานมาตั้งแต่ต้นแล้วมันจะเปิดสวิทช์ติดหวานจนต้านไม่อยู่ครับ ซึ่งหวานที่ควรงดให้มากก็คือหวานจาก “ฟรุกโตส” และ “น้ำตาลเทียม” ครับ
3) ปรับอาหารทานเลี้ยง ฉลองปีใหม่ปีนี้ขอให้ตั้งใจว่าจะตั้งโต๊ะสุขภาพให้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเคี้ยวแต่ผักจนกรามยานกันทั้งโต๊ะนะครับ ขอแค่ให้ใส่อาหารสุขภาพที่ช่วยไป “ล้างบาป” จากไขมัน,น้ำตาลและความเค็มให้มากขึ้นก็พอ อย่างเช่น เน้นปลาแทนเนื้อหมู,เน้นไก่แทนเป็ดที่ไขมันสูงกว่า, เน้นเครื่องดื่มเป็นชาจีนหรือชาเขียวแทนน้ำอัดลม หรือลดขนมกรุบกรอบที่เพิ่มพุงเป็นถั่วมันๆและสาหร่ายอบกรอบแทน
4) เลี่ยงคุกกี้-เบเกอรี่ ขอให้ตั้งใจไว้เลยครับว่าปีใหม่นี้จะต้องไม่หนักเบเกอรี่เพราะมันมีผู้ร้ายหลัก 2 ตัวเป็นส่วนประกอบอยู่คือ “น้ำตาลขัดขาว(Refined sugar)” และ “ไขมันมฤตยู(Trans fat)” ทั้งนี้ควรเลี่ยงลามไปถึงกาแฟใส่วิปครีม,ครีมเทียม,มันฝรั่งทอด,ไอศกรีมปรุงแต่งสารสังเคราะห์,พาย,พัฟ,เครป,ไก่ทอด,พิซซ่า,ซุปกระป๋อง,น้ำสลัดสำเร็จรูป,ไส้กรอกฯลฯ ว่ากันว่าอาหารสำเร็จประเภท “สะดวกซื้อ” ทั้งหลายตามร้านสะดวกซื้อชื่อดังหน้าปากซอยมีไขมันร้ายประเภทนี้อยู่มากอย่างน่าตกใจครับ
5) กระชับพื้นที่รอบพุง ปีใหม่ไม่ควรมีกางเกงใหม่,เสื้อใหม่หรือตาชั่งใหม่ครับ ควรลดน้ำหนักที่เกินลงมาให้ได้เพื่อเป็นการเริ่มปีใหม่อย่างสุขภาพดีที่สุด วันหยุดช่วงส่งท้ายปีควรจะมีกิจกรรมที่ดีนอกเหนือจากการกินครับ เช่นนัดกันไปเดินออกกำลังตอนเช้าแล้วใส่บาตร,ปั่นจักรยานกินลมแถวซอยบ้าน,ไปเลี้ยงอาหารหมาแมวจรจัด,อาบน้ำให้สุนัขที่บ้าน และอีกหลายๆกิจกรรมที่ทำให้พุงยุ้ยน้อยลง ขอให้ตั้งเป้าไว้ว่าปีหน้าต้องบอกลาพุงกะทิและเซลลูไลต์ให้ได้ เพิ่มการกินผักผลไม้กับปลาให้เยอะขึ้นก็ช่วยได้ครับ
6) อย่ามุ่งนอนดึก พรปีใหม่ที่ดีที่สุดในแง่สุขภาพคือการไม่นอนดึกกับกินให้ตรงเวลาครับ ผมได้สังเกตมานานแล้วว่าคนที่ป่วยด้วยโรคอันตรายหรือป่วยหนักตั้งแต่อายุน้อยมักมีนิสัยคล้ายกันอยู่ 2 ข้อคือ “ติดนอนดึก” กับ “กินไม่เป็นเวลา” ไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็ตามครับถ้ามีสองข้อนี้เป็นอันบอกลาสุขภาพดีได้ ดังนั้นงานเลี้ยงปีใหม่ถ้าให้ดีอาจตั้งเคอร์ฟิวไว้สักนิดว่าจะไม่อยู่ดึกมาก ซึ่งก็ไม่ถึงขนาดต้องนอนหลังข่าวภาคค่ำจบ แต่เพียงแค่ไม่เลี้ยงกันโต้รุ่ง ชนแก้วถึงเช้าราวพระบิณฑบาตรแล้วถึงเลิกก็พอครับ เพราะการนอนต้านชราที่ดีที่สุดคือนอน “ไม่เกินเที่ยงคืน” ครับ
7) นึกถึงพ่อแม่ แล้วจะแก้เครียดได้ทุกประการ ซึ่งการนึกถึงพ่อแก้วแม่แก้ว เอ๊ย…บุพการีผู้มีพระคุณทั้งบิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ที่เคารพด้วยใจกตัญญูจะนำไปสู่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้ครับ ปัญหาทุกอย่างจะปลาศนาการไปอย่างน่าอัศจรรย์ ขอท่านที่รักลองดูเถิดครับ ปีใหม่นี้กลับไปฉลองด้วยการดูแลพ่อแม่ให้ท่านมีรอยยิ้มจากหัวใจ ให้ท่านได้มีความสุขชื่นใจที่ได้เห็นลูกรักและญาติที่รักอยู่พร้อมหน้ากัน ท่านอาจสร้างบุญให้พิเศษขึ้นไปอีกด้วยการชวนคุณพ่อคุณแม่ไปทำบุญ แต่สำหรับท่านที่ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่แล้วก็ขอให้ดูแลคนรอบตัวท่านดั่งบิดามารดาที่รักก็จะได้ผลอันน่าอัศจรรย์ไม่แพ้กันครับ
8 ) แก้นิสัยเดิม พยายามลดและเลิกนิสัยเดิมที่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์หรือคนรอบข้างหนักใจให้ได้ โดยเฉพาะนิสัยที่ทำให้ตัวเองทุกข์ก่อน เช่นการดื่มเหล้า,สูบบุหรี่ ส่วนนิสัยที่ทำให้คนรอบข้างหนักใจต้องรีบแก้ก็คือนิสัยที่ทำให้คนที่รักเราเขาเป็นทุกข์ครับ ปีใหม่นี้ขอให้มองออกนอกตัวว่ามีสายตาอีกกี่คู่ที่มองเราด้วยแววตาแห่งความรักและเมตตา ขออย่าทำให้ท่านเหล่านั้นผิดหวังเลยครับ เทคนิคแก้นิสัยในข้อนี้แบบง่ายๆก็คือ “ลองคิดว่าเป็นตัวเรา” ก่อนที่จะทำอะไรลงไป มันจะช่วยให้ชะงักก่อนที่จะทำผิดซ้ำเดิมครับ
9) เติมความสดใหม่ ปีใหม่สำหรับหลายท่านอาจยังไม่ “ฟิน” นักด้วยคิดว่ายังมีงานหนักรออยู่ข้างหน้าเหมือนเดิม,เจ้านายคนเดิม,เพื่อนร่วมงานกลุ่มเดิมฯลฯ แต่จริงๆแล้วการสร้าง “ความใหม่” นั้นอยู่ในหัวสมองของเราเองครับ และคนที่สร้างความรู้สึกสดใหม่ในหัวใจจนทำงานได้อย่างกระฉับกระเฉงเสมอนั้นจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ดีกว่ามากครับ เทคนิคง่ายๆ(อีกแล้ว)ก็คือการคิดว่าปีใหม่นั้นคือวันแรกของการทำงานที่ท่านแสนจะตื่นเต้นประทับใจกับทุกสิ่งรอบตัว ถ้าคิดได้จนเป็นนิสัยท่านก็จะได้ความสุขทุกขณะงานเพราะทุกวันคือวันแรกอันแสนสุขใจครับ
10) ให้เร่งสร้างบุญ ข้อนี้สำคัญที่สุดสำหรับปีใหม่ การกระทำบุญหรือบุญกิริยามีถึง 10 ประการก็จริงแต่สิ่งที่เติมบุญให้ท่านได้ดีที่สุดก็คือการภาวนา(ภาวนามัย)คือการทำใจให้สงบด้วยสติ ซึ่งมีอยู่ทางหนึ่งง่ายๆก็คือการดูแลคนรอบข้างให้ดีที่สุดครับ ให้ความรักคนรอบข้าง ให้ความเมตตาเขาเหมือนดั่งพ่อแม่และลูกที่ท่านรักเหลือเกิน ซึ่งความรักต่อเพื่อนมนุษย์ที่ว่านี้ถ้าทำได้จริงท่านก็ไม่ต่างจากพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ,คุณหมอเทวดาหรือว่าครูอาจารย์ผู้ประเสริฐ เพราะเมื่อหัวใจล้นเต็มไปด้วยความรักและเมตตาแล้ว ใจนั้นก็จะโน้มนำไปสู่การภาวนาด้วยศรัทธาได้โดยอัตโนมัติเองครับ จึงแนะให้ท่านเริ่ม “รัก” คนใกล้ตัวให้ได้ก่อน
ทั้ง 10 ข้อถ้าเปลี่ยนได้จะเป็นพรต้อนรับปีใหม่ในเรื่องสุขภาพ เป็นพรที่เป็นความจริงด้วยครับ สรุปเป็นหลักไว้ง่ายๆคือให้ลองใส่ใจกับตัวเองมากขึ้น เปลี่ยนอาหาร เปลี่ยนการซื้อของสำเร็จรูปให้กันมาเป็นของสุขภาพมากขึ้นและที่สำคัญสุดคือ “บุญบำบัด” ที่ท่านสามารถจัดให้กันและกันได้ด้วยความ “เมตตา” แทนตาต่อตาครับ
น.พ.กฤษดา ศิรามพุช

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น