++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เหยียบเมืองหลวงเสื้อแดง! พธม.เปิดเสวนา “หยุดการเมืองเลวฯ” ปลุก ปชช.ลุกขึ้นสู้นักการเมืองโกง


เหยียบเมืองหลวงเสื้อแดง! พธม.เปิดเสวนา “หยุดการเมืองเลวฯ” ปลุก ปชช.ลุกขึ้นสู้นักการเมืองโกง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


อุดรธานี - พันธมิตรฯ เหยียบเมืองหลวงเสื้อแดง เปิดเวทีเสวนา “หยุดการเมืองเลว ร่วมปฏิรูปประเทศไทย” กลางเมืองอุดรฯ ชูประเด็นผนึกพลังเดินหน้าสร้างจิตสำนึกพี่น้องคนไทยให้เข้าใจการปกครองระบอบ ปชต.ที่แท้จริง ชี้ 80 ปี ปชช.เป็นแค่ “ลูกจ้าง” นักการเมืองเลวรอรับแค่เศษเงินโกงกิน ถูกครอบงำด้วยนโยบายประชานิยม
     
       วันนี้ (1 ก.ค.) ที่โรงแรมอุดรโฮเต็ล อ.เมือง จ.อุดรธานี พี่น้องเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียงในภาคอีสานจำนวนมาก เดินทางร่วมรับฟังเวทีเสวนา “หยุดการเมืองเลว ร่วมปฏิรูปประเทศไทย” โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ที่นั่งภายในห้องประชุมไม่เพียงพอจนล้นออกมาด้านนอก โดยมีการตั้งจอโปรเจกเตอร์ให้ได้รับฟังกัน
     
       สำหรับวิทยาการที่ร่วมเสวนาให้ข้อมูลความรู้ในครั้งนี้ ประกอบด้วย รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต, ดร.ณรงค์ โชควัฒนา, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นายพิภพ ธงไชย, อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, พ.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ และ นายประพันธ์ คุณมี มี นายยุทธยง ลิ้มเลิศวาที เป็นผู้ดำเนินรายการ
     
       ขณะที่การรักษาความปลอดภัยนั้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 200 นาย มาคอยรักษาความปลอดภัยโดยรอบสถานที่จัดงาน และมีการตั้งด่าน ตั้งจุดสกัดกั้น กว่า 8 จุด เนื่องจากในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงก็ได้มีการตั้งเวทีปราศรัยที่ทุ่งศรีเมืองเช่นกัน
     
       ดร.ณรงค์ โชควัฒนา นักวิชาการอิสระ กล่าวถึงการปฏิรูปประเทศไทยนั้น ก่อนอื่นต้องปฏิรูปการเมืองก่อน เพราะนักการเมืองมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ระบบการเมืองไทยนั้น กระทำกับประชาชนเหมือนเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจ คือ คณะรัฐบาล หากไม่เปลี่ยนแปลงนักการเมืองก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอื่นๆ ของชาติได้ นักการเมืองไทยคือตัวปัญหาสำคัญที่สุดของชาติ เพราะเห็นการเล่นการเมืองเป็นธุรกิจ คนเลวคนชั่วต่างหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเข้ามากุมอำนาจรัฐแล้วก็ตั้งหน้าตั้งถอนทุนคืนจากที่ได้ทุ่มเงินซื้อเสียงประชาชนให้เลือกตัวเองเข้าไปในสภาฯ
     
       “เมื่อมีอำนาจแล้วคนพวกนี้จะทุจริตโกงกินทุกรูปแบบ แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทุจริต โดยอ้างเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ เสียงข้างน้อยไม่มีความหมายแม้รู้อยู่เต็มว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันผิดกฎหมายผิดจริยธรรม”ดร.ณรงค์ กล่าวและว่า
     
       ทางออกของการปฏิรูปการเมืองไทยในขณะนี้ คือ การปฏิรูปการเมืองการปกครองให้เป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ล้างธุรกิจการเมืองให้หมดไป เผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งถือเป็นเผด็จการที่เลวร้ายที่สุด ชั่วร้ายกว่าเผด็จการที่มาจากทหารหลายเท่าตัว กรณีพรรคเพื่อไทยเองก็อ้างแต่เสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน 15 ล้านเสียง ที่เลือกพวกเขาเข้าไปและเชื่อว่า จะโกงกิน อย่างไรก็มีความชอบธรรม เพราะมาจากการเลือกตั้ง ที่สำคัญ เผด็จการจากการเลือกตั้งที่การเมืองไทยเป็นอยู่นี้ไล่ยากมาก เพราะอ้างมวลชนเป็นเครื่องมือ ไล่ชุดนี้ออกไปแล้ว ชุดใหม่เข้ามาก็เป็นกลุ่มนักการเมืองเดิม
     
       ดังนั้น พวกเราต้องช่วยกันให้ความรู้ ให้ข้อมูลสร้างจิตสำนึกในหมู่ประชาชน รวมถึงฐานเสียง 15 ล้านเสียงของเพื่อไทย ว่า การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันทรงมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ไม่ใช่การเลือกบรรดา ส.ส.เข้าไปสภาฯเพื่อเป็น “นาย” ของประชาชนเพื่อปกครองมอมเมาประชาชนด้วยนโยบายประชานิยมไม่ให้พึ่งตนเองได้ เห็นชาวบ้านเป็นแค่ลูกจ้าง แล้วเอาภาษีชาติไปโกงกิน
     
       ถึงเวลาแล้วที่ต้องปฏิรูปการเมืองใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเสียที จากปี 2475 ถึง 2555 ยาวนานร่วม 80 ปี ประชาชนคนไทยยังไม่เคยได้เป็น “นาย” เป็นแค่ลูกจ้างนักการเมือง เป็นนายนักเลือกตั้งเหล่านี้แค่ 4 วินาทีตอนเข้าคูหากากบาท เราต้องเป็นนายทั้งก่อนเลือกตั้ง ระหว่างเข้าคูหา และหลังเลือกตั้ง ต้องมองว่า นักการเมืองเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราว ส่วนข้าราชการเป็นลูกจ้างประจำ คนพวกนี้ต้องรับใช้ประชาชนทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ไม่ใช่ใช้อำนาจที่มีอยู่ทุจริตโกงกิน
     
       ตนมีความมั่นใจว่า แท้จริงแล้วประชาชนคนไทยนั้นรักชาติ รวมถึงฐานเสียงพรรคเพื่อไทย 15 ล้านเสียงนั้นด้วย เพียงแต่เขาขาดความรู้เรื่องของประชาธิปไตยที่แท้จริงเท่านั้น หากเขาสำนึกได้ว่าเขาเป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริง สุดท้ายจะเปลี่ยนแนวคิดใหม่ไม่ให้นักการเมืองขี้ฉ้อทั้งหลายหลอกใช้เป็นเครื่องมือเข้าสู่อำนาจ ไม่เห็นแก่เงินห้าร้อยหรือหนึ่งพันบาท
     
       “ภารกิจของพี่น้องพันธมิตรฯนับจากนี้ไป คือ การช่วยกันเผยแพร่ให้ความรู้ข้อมูลกับเพื่อนบ้าน ชาวบ้าน หรือแม้แต่คนเสื้อแดงให้ได้รู้สำนึกว่าพวกเขา คือ เจ้าของประเทศเป็นนายจ้างของนักการเมือง หากพวกเราไม่ช่วยกันเรื่องนี้ จะเลือกตั้งใหม่อีกกี่ครั้ง ชาวบ้านฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย 15 กว่าล้านคน ที่ชอบอ้างก็จะเลือกพวกมันเข้าสภาฯให้พวกเราออกมาขับไล่ไม่รู้จบ การปฏิรูปการเมืองล้างนักเลือกตั้งชั่วก็ไม่สำเร็จ”ดร.ณรงค์ กล่าวย้ำ
     
       นายพิภพ ธงไชย หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯกล่าวต่อว่า เราจะเปลี่ยนวิธีการเลือกตั้งไม่ได้ แต่ต้องเปลี่ยนจิตสำนึกของคนก่อนถึงจะเปลี่ยนการเมืองได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ก่อนสิ้นปี น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไล่ไปตั้งแต่เปิดสภาฯในต้นเดือนสิงหาคมนี้ ร่าง พ.ร.บ.4 ฉบับพรรคเพื่อไทยต้องผลักดันเข้าสู่สภาฯอีกแน่ เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ยอมถอยหากต้องการกลับมาเป็นใหญ่อีกเขาต้องสู้ให้ถึงที่สุดโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศชาติ มีแต่พลังของพี่น้องประชาชนเท่านั้นที่จะหยุดเขาและพวกพ้องได้
     
       “ที่ต้องจับตาในอีกไม่กี่วันนี้ กรณีศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า จะเป็นการล้มการปกครองระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ ผลจะออกมาอย่างไรเป็นเรื่องที่ชี้วัดทิศทางการเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง”
     
       ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวบนเวที โดยหยิบยกพื้นที่ภาคอีสานและประเทศไทย ที่เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันมหาศาล แต่คนไทยกลับไม่ค่อยได้รับประโยชน์ ทั้งยังต้องซื้อน้ำมันราคาสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยราคาน้ำมันเบนซิน 95 ไทยมีราคาสูงถึง 44.56 บาท/ลิตร ขณะที่เพื่อนบ้านมีราคาต่ำกว่า คือ มาเลเซียที่ 19 บาท/ลิตร พม่า 24 บาท/ลิตร และอินโดนีเซียที่ 31 บาท/ลิตร
     
       พื้นที่ใต้ดินอีสานและแหล่งน้ำมันส่วนใหญ่ของไทย ตกอยู่ในมือต่างชาติในการสำรวจ สัมปทานขุดเจาะก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน อาทิ เชฟรอน ผลประโยชน์จากการขุดเจาะ จึงไม่ได้ตกอยู่กับคนไทยส่วนใหญ่ทั้งประเทศ โดยเฉพาะภาคอีสานมีพื้นที่ทั้งหมด 1.68 แสนตารางกิโลเมตร คาดว่า พื้นที่ใต้ดินจะมีปิโตรเลียมมากถึง 1 แสนตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด ที่น่าสนใจแหล่งก๊าซน้ำพอง ขอนแก่น และแหล่งภูฮ่อม อุดรธานี ข้อมูลเมื่อปี 2554 มีการขุดเจาะก๊าซและน้ำมัน รวมกันถึง 2.67 ล้านลิตร/วัน หรือคิดเป็น 975 ล้านลิตร/ปี
     
       นายปานเทพ กล่าวต่อว่า ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันของไทย เราขุดเจาะได้ 42.6 ล้านลิตร/วัน มีปริมาณใช้น้ำมันสำเร็จรูปที่ 109 ล้านลิตร/วัน ดังนั้น จึงต้องนำเข้าน้ำมันที่ 66 ล้านลิตร/วัน แต่ข้อเท็จจริงเรานำเข้าสูงถึง 128 ล้านลิตร/วัน สาเหตุที่นำเข้าน้ำมันเกินปริมาณความต้องการนั้น มาจากเราส่งออกน้ำมันไปต่างประเทศ โดยมีมูลค่าประมาณ 9,673 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าการส่งออกยางพารา
     
       แต่ปัญหาคือ การส่งออกน้ำมันของไทย กลับได้ประโยชน์น้อยมาก เนื่องจากเราส่งออกน้ำมันภายใต้เงื่อนไข การได้รับค่าภาคหลวงจากต่างชาติในราคาที่ต่ำมาก ทั้งที่ค่าออกเทนสูงกว่าหลายประเทศ แต่การนำเข้าน้ำมันของไทย ที่นำเข้าน้ำมันค่าออกเทนที่ต่ำกว่า ภายใต้เงื่อนไขที่ไทยจ่ายค่าภาคหลวงแพงกว่าหลายเท่าตัว
     
       ที่ผ่านมา การเกิดขึ้นของ ปตท.ตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทย แต่กลับถูกนักการเมืองชั่วอย่าง รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นำองค์กร ปตท.ไปแปรรูปในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง และที่สำคัญ เมื่อรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ หมดอำนาจไปแล้ว กลับไม่มีรัฐบาลชุดใหนจะหยุดยั้งการแปรรูป ปตท.
     
       นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าววถึงหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน พระอริยเจ้าชาวอุดรธานี เคยเทศน์ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง อยากเป็นประธานาธิบดี หากยังไม่เลิกความคิดชั่ว ระวังจะมีจุดจบเหมือนพระเทวทัต ทั้งเคยระบุไว้ว่า ทักษิณจะไม่มีแผ่นดินอยู่ แม้แต่ชีวิตก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้
     
       ซึ่งคำทำนายขององค์หลวงตามหาบัว ถึงวันนี้ใกล้ความจริงขึ้นทุกขณะ ขณะเดียวกัน การต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ เพื่อประเทศชาติ และปกป้องสถาบันนั้น เริ่มเห็นผลบ้างแล้ว คนชั่วอย่างนายขวัญชัย ไพรพนา ได้ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 2 ปี 8 เดือน อยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นศาล
     
       ที่สำคัญคือ มีกองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาชุมนุมแสดงพลังที่สนามทุ่งศรีเมือง จำนวน 7-8 พันคน เมื่อ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อแสดงพลังสนับสนุนและให้กำลังใจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งการชุมนุมของกองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น มีนัยที่สำคัญ คือ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงที่หมิ่นต่อศาล
     
       รวมถึงพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพวกพ้อง ที่เหิมเกริมไม่หยุดแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ ตั้งพรรคการเมืองเป็นของตนเอง จัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงขึ้นมาต่อสู้เวทีนอกสภาฯ ทั้งจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อดำ ทางกองทัพประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงต้องออกมาแสดงพลังไม่ให้คนเหล่านี้เหิมเกริม โดยจะมีวิธีการหยุดยั้ง นับตั้งแต่การกระซิบถึงคนทำลายศาลก่อน จากนั้นจะส่งหนังสือเตือน และใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด
     
       เชื่อว่า การต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ จะได้รับชัยชนะในเร็ววันนี้ ซึ่งจะมีการจัดเวทีฉลองชัยชนะ ให้ความรู้ด้านการปฏิรูปการเมือง ที่จ.อุดรธานีอีกครั้ง โดยครั้งนี้จะจัดให้ยิ่งใหญ่ และน่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้
     
       นายประพันธ์ คูณมี แกนนำรุ่น 2 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ระบอบประชาธิปไตยตลอดระยะ 80 ปีนั้น ประชาธิปไตยได้ตายไปจากเมืองไทยไปแล้ว เพราะที่ผ่านมา มีแต่คนชั่วช้ามาปกครองแผ่นดิน หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง นับตั้งแต่ 15 ปีแรกหลังเปลี่ยนการปกครอง จะเป็นระบอบคณาธิปไตย อำนาจการปกครองตกอยู่กับคณะราษฎร์ ที่พยายามแย่งชิงอำนาจระหว่างคนในกลุ่ม กระทั่งปี พ.ศ.2490 ที่จอมพล ป. ยึดอำนาจจากคณะราษฎร์นั้น
     
       ถือเป็นเผด็จการทหารครั้งแรก และกินระยะเวลานานกว่า 30 กว่าปี จึงเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 16 ที่นักศึกษาออกมาต่อสู้กับอำนาจเผด็จการทหาร และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้น จัดตั้งรัฐธรรมนูญ มีพรรคการเมือง แต่ก็ถือได้ว่า เป็นยุคกระแสการเมือง ที่นักการเมืองเข้ามาหาผลประโยชน์ทางการเมือง อำนาจการเมืองตกอยู่กับนายทุนพรรค
     
       “โดยเฉพาะเมื่อปี พ.ศ.2544 เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศ การเมืองไทยยุคนั้น ถือว่าเข้าสู่ยุคตกต่ำสุดขีด มีการฉ้อโกง ถ่อย ชั่วช้า สามานย์มากที่สุดของระบอบประชาธิปไตย เพราะมีนายทุนพรรคตัวจริง เข้ามาครอบงำบริหารประเทศ” นายประพันธ์ กล่าว
     
       ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ที่พรรคเพื่อไทยพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ยอมบอกจะแก้หมวดใหน ด้วยเหตุผลใด ถือว่าไม่เคารพมติของคนส่วนใหญ่ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น จ้องจะแก้รธน.อย่างเดียว ใครเห็นต่างไม่ได้ จะเอาคนเสื้อแดงมาทำลาย ถือว่าเป็นอันธพาลทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปการเมืองไทยครั้งใหญ่ ให้เป็นรูปธรรม
     
       ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีเป็นคนสุดท้าย พร้อมตั้งข้อสังเกตการขอใช้สนามบินอู่ตะเภาของสหรัฐอเมริกา ว่า ในขั้นตอนการเจรจา ทำไมการเจรจาขออนุญาตใช้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อการศึกษาชั้นบรรยากาศ ทำไมรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จึงต้องให้เสนาธิการทหารสูงสุดของกองทัพอเมริกา มาเจรจากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งการเจรจาดังกล่าวจะปฏิเสธประเด็นความมั่นคงได้อย่างไร
     
       ทั้งนี้ ผู้นำประเทศไทย ควรพิจารณาผลได้-ผลเสีย ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป ไม่ใช่สรุปเพียงแค่ว่า ประเทศไทยได้รับประโยชน์ และรีบด่วนแจ้งต่อสาธารณะชนทันที หลังจากนั้นกลุ่มแกนนำพันธมิตรและทีมวิทยากร ได้เดินทางกลับและยุติเวทีเสวนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น