++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แพทย์คาดอนาคตหวัดใหม่ 2009 รุนแรง เชื่ออนาคตมีคนตาย!

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


แพทย์ชี้ อนาคตอาจมีผู้เสียชีวิตจากหวัดใหญ่ 2009 แน่
ติวหมอทั่วประเทศ กำชับไม่ต้องตรวจเชื้อหาสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่
ประชาชนทั่วไป-ผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ยันปัจจุบันมีพื้นที่ระบาดแค่ 3
จังหวัด กทม.-ชลบุรี-ปทุมธานี
ด้านกรมควบคุมโรคโอดเงินตรวจหาเชื้อหวัดใหญ่ 2009 เกลี้ยง
แถมยอดเป็นหนี้เพียบ สูงกว่า 4 ล้านบาท เตรียมหารือของบกลางแก้ปัญหา

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒระดับ 11
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า
ขณะนี้ประชาชนตื่นตระหนกต่อการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
จนแห่ไปขอตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ที่โรงพยาบาลต่างๆ เป็นจำนวนมาก
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
มีนโยบายและแนวทางปฏิบัติให้กับแพทย์และพยาบาลในการตรวจเชื้อหาสายพันธุ์ไข้
หวัดใหญ่ โดยแบ่งพื้นที่ประเทศไทยเป็น 2 ส่วนตามการระบาดของโรค คือ
1.จังหวัดที่มีการระบาดของโรคแล้ว ขณะนี้มีเพียง 3 จังหวัด ได้แก่
กรุงเทพมหานคร จ.ชลบุรีและ จ.ปทุมธานี

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวต่อว่า
หากประชาชนในพื้นที่เหล่านี้ที่ไม่ได้มีอาการป่วย
หรือมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย
เดินทางมาขอรับการตรวจเชื้อเพื่อหาสายพันธุ์
โรงพยาบาลจะไม่ดำเนินการตรวจสอบสายพันธุ์เชื้อ
จะตรวจสอบเชื้อเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการหนักรุนแรง หรือกลุ่มเสี่ยง เช่น
ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเท่านั้น
และจะตรวจสอบเพียงว่ามีการป่วยเป็นกลุ่มๆ หรือไม่ 2.จังหวัด
ที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของโรค
ซึ่งหมายถึงจังหวัดที่ยังไม่พบรายงานผู้ป่วย หรือพบผู้ป่วยจำนวนน้อย
ไม่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง เช่น จ.ภูเก็ต สงขลา ตรัง และเชียงใหม่
หากมีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่
แพทย์และพยาบาลจะต้องดำเนินการซักประวัติผู้ป่วยว่าเดินทางมาจากจังหวัดที่
มีการระบาดของโรคหรือไม่ ภายในครอบครัวเดียวกันมีคนป่วยมากกว่า 3
คนหรือไม่ ในรอบ 1
สัปดาห์มีการสัมผัสใกล้ชิดผู้ที่เดินทางมาจากประเทศหรือไม่
ซึ่งถ้าผู้ป่วยมีประวัติดังกล่าวให้แพทย์เก็บสารคัดหลั่งส่งตรวจทางห้อง
ปฏิบัติการหาสายพันธุ์เชื้อ
จะได้ควบคุมไม่ให้เกิดผู้ป่วยพร้อมกันเป็นกลุ่มจำนวนมาก
แต่ให้เกิดผู้ป่วยในอัตราน้อยที่สุด

"การที่กระทรวงต้องมอบแนวทางในการตรวจเชื้อให้กับแพทย์และพยาบาลเช่น
นี้ เป็นเพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทราบว่าป่วยไข้หวัดใหญ่ด้วยสายพันธุ์ไหน
เนื่องจากการรักษาพยาบาลไม่มีความแตกต่างกัน
เว้นแต่กลุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีอาการรุนแรง
ซึ่งการตรวจเชื้อแต่ละครั้งเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 3 พันบาท
สถานการณ์ของโรคที่เป็นอยู่ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องตรวจเชื้อทั้งหมด
ขอให้ประชาชนเลิกแห่มาขอตรวจเชื้อที่โรงพยาบาล" รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าว

**เชื่ออนาคตพบผู้เสียชีวิตแน่

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวด้วยว่า
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ประจำปีมีผู้ป่วยทั่วโลกประมาณ 500- 1,000
ล้านรายต่อปี โดยในจำนวนผู้ป่วย 1 พันคน จะมี 10
คนที่มีอาการรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และในจำนวน 10 คน
จะมี 1 คน ที่ร่างกายอ่อนแอจนมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ส่วนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ในอนาคตจะต้องมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่
สธ.กำลังดำเนินการคือทำให้มีอัตราผู้เสียชีวิตน้อยที่สุด

"เมื่อ เกิดการแพร่ระบาดของโรคทั่วโลก
เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครเจ็บตัวหรือเสียชีวิต
แต่จะต้องทำให้เจ็บตัวน้อยที่สุด นี่คือ สิ่งที่ สธ.กำลังพยายามดำเนินการ
ซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี
เป็นตัวอย่างที่ดีที่บ่งบอกว่าเชื้อไวรัสนี้มีความรุนแรงต่ำ
เพราะผู้ป่วยมีอาการเหมือนการเป็นไข้หวัดใหญ่ทั่วไป จนไม่มีการผิดสังเกต
กระทั่งเริ่มมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นจึงมีการสงสัย
เพราะหากเชื้อชนิดนี้มีความรุนแรงจนผู้ป่วยในพื้นที่นี้เสียชีวิต
กระทรวงคงอยู่ไม่ได้แล้ว"รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าว

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวอีกว่า
จากข้อมูลประวัติศาสตร์การเกิดโรคระบาดใหม่ทั่วโลก 100 ปีที่ผ่านมา พบว่า
โรคระบาดใหม่ที่เกิดขึ้นในแถบยุโรป สหรัฐอเมริกานั้น
เชื้อไวรัสจะแพร่เข้ามาทวีปเอเชียใช้เวลาประมาณ 1-1.5 เดือน
และจะมีการระบาดต่อเนื่องนาน 12-13 เดือน จึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ
จนประชาชนมีภูมิต้านทานโรค หรือมีการพัฒนายารักษา และวัคซีนป้องกันโรคได้
สอดคล้องกับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ที่ระบาดในเม็กซิโก
สหรัฐฯ เมื่อปลายเดือนเมษายน จนถึงขณะนี้เป็นเวลา 1 เดือนเศษ
เชื้อได้เข้าสู่ประเทศไทยโดยติดจากนักท่องเที่ยว
จนทำให้เกิดการติดเชื้อภายในประเทศและระบาดในคนหมู่มาก

** โอดเงินหมด ติดหนี้ค่าตรวจแล็บ

ขณะที่นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า
ได้รับรายงานจากสำนักระบาดวิทยาว่า
ขณะนี้งบประมาณในการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการที่ตั้งไว้จำนวน 2
ล้านบาทต่อปี หมดแล้ว
เนื่องจากต้องใช้ในการส่งตรวจเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ในห้องปฏิบัติการ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ซึ่งมีประชาชนขอให้มีการตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่เป็นจำนวนมาก
ซึ่งค่าใช้จ่ายในการตรวจเชื้ออยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทต่อราย โดยเร็วๆ
นี้จะหารือกับ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ในการของบกลางเพิ่มเติม

"กรม ควบคุมโรคไม่มีเงินในการจ่ายค่าตรวจเชื้อในห้องปฏิบัติการแล้ว
ทำให้ต้องค้างจ่ายเงินในการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการที่ได้ส่งตรวจที่กรม
วิทย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลตัวเลขค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เข้าใจว่า กรมวิทย์ฯเองก็มีค่าใช้จ่ายในการตรวจเชื้ออื่นๆ มากอยู่แล้ว
ดังนั้น จึงมีการวางแผนในการควบคุมค่าใช้จ่ายโดยจะสุ่มตรวจเชื้อเฉพาะในกลุ่มที่มี
ความรุนแรง เพราะคงไม่สามารถตรวจเชื้อผู้ป่วยทั้งหมดได้"นพ.มล.สมชาย
กล่าว

แหล่งข่าวจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า
ในช่วงนี้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่
เป็นอย่างมาก ทำให้ยอดการส่งเชื้อตรวจที่ห้องปฏิบัติการสูงขึ้นประมาณ
200-300 รายต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายที่ส่งต่อมากจากโรงพยาบาลเอกชน
จนถึงปัจจุบันคาดว่า ทำการตรวจเชื้อไข้หวัดใหญ่แล้วกว่า 1,000 ราย
ขณะที่ค่าตรวจเชื้อในห้องปฏิบัติการหากเป็นการตรวจผลเบื้องต้นค่าใช้จ่าย
ประมาณ 2,000 บาทต่อราย แต่หากตรวจอย่างละเอียด ซึ่งมีค่าใช้จ่าย
ทั้งค่าบุคลากร ค่าน้ำยา ประมาณ 4,000 บาทต่อราย
เท่ากับขณะนี้เสียค่าใช้จ่ายสูงถึง 4 ล้านบาท
โดยส่วนใหญ่ผลการตรวจเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
จึงถือว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตรวจเชื้อทั้งหมดของผู้ป่วยที่มีอาการ
แต่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น

สำหรับ สถานการณ์โลก องค์การอนามัยโลกรายงานเมื่อเช้าวันนี้
ตามเวลาในประเทศไทย มีผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ
เอช 1 เอ็น 1 สะสมทั้งหมด 35,928 ราย ใน 76 ประเทศ เสียชีวิต 163 ราย
ได้แก่ เม็กซิโก 108 ราย สหรัฐอเมริกา 45 ราย แคนาดา 4 ราย ชิลี 2 ราย
คอสตาริก้า สาธารณรัฐโดมินิกัน โคลอมเบีย กัวเตมาลา ประเทศละ 1 ราย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น