“ศิลปินพันธมิตรฯปลุกมวลชนกู้ชาติ” เตรียมตั้งเครือข่ายร่วมให้ความรู้ ปชช.

โดย ผู้จัดการออนไลน์

10 สิงหาคม 2551 19:53 น.

ศิลปินพันธมิตรฯ - 'แสง ธรรมดา' ศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังของภาคใต้ ในฐานะแกนนำเครือข่ายศิลปินพันธมิตรภาคใต้ นำคณะออกแสดงตามเวทีต่างๆ ทางภาคใต้เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในการออกมาร่วมกันขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด "สมัคร สุนทรเวช"        ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศิลปินเพื่อชีวิตคึกคักรับคอนเสิร์ตการเมืองพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไต ย ขอบคุณ “ASTV” ช่วยคืนชีพให้ศิลปินเพื่อชีวิต ขณะที่เครือข่ายศิลปินพันธมิตรฯภาคใต้ เตรียมขยายงานมวลชนให้ครอบคลุมทุกตำบล “ศิลปินภาคตะวันออก” เล็งสร้างเครือข่ายร่วมให้ความรู้แก่ประชาชนสู่โลกกว้าง ขณะที่ “ศิลปินเพื่อชีวิตรุ่นใหญ่” แนะ “รุ่นใหม่” คว้าโอกาสช่วงชุมนุมพันธมิตรฯนำเสนอผลงาน               ศิลปินคึกคักรับ “คอนเสิร์ตการเมือง”                แสงธรรมดา กิตติเสถียรพร หรือ “แสง ธรรมดา” ศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังของภาคใต้ ในฐานะแกนนำเครือข่ายศิลปินพันธมิตรฯภาคใต้ เปิดเผยถึงการออกมาร่วมเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด นายสมัคร สุนทรเวช ในนามของกลุ่มศิลปินเพลงเพื่อชีวิต ว่า ได้รับการติดต่อจาก นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้เข้าร่วมในการเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมคอนเสิร์ตการเมืองพันธมิตรฯที่จะมีการ เดินสายจัดทั่วประเทศ ซึ่ง นายสนธิ ได้นำเสนอแนวคิดนี้ให้ประชาชนผู้ร่วมชุมนุม และผู้ชม ASTV ได้รับทราบแล้วในการชุมนุมเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา               แสง ธรรมดา กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้บทเพลงเพื่อชีวิตหรือเพลงที่มีเนื้อหาสร้ างสรรค์สังคมได้กลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้ง โดยเฉพาะในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของภาคประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งการตีแผ่เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างให้ทุกฝ่ายได้ช่วยกันแก้ไขหรือ นำไปต่อยอดเพื่อสร้างสรรค์และยกระดับสังคมให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ค่ายเทปอื่นๆ ไม่ทำเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบทางธุรกิจ               “บทเพลงของศิลปินหลายๆ คน มีเนื้อหาที่ดี แต่กลับไม่ได้รับการเผยแพร่ เนื่องจากไม่มีค่ายเทปไหนกล้านำไปบันทึกเสียงเพราะเขากลัวว่าบริษัทจะได้รับ ผลกระทบ เนื่องจากเพลงเหล่านี้มีการนำความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม โดยมีเรื่องทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ค่ายเทปบางค่ายที่มีความใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจรัฐอยู่ในมือจะไม่มีทางให้เพลง พวกนี้เผยแพร่ออกสู่สาธารณชน เพราะเพลงเหล่านี้จะทำให้ประชาชนที่รักความเป็นธรรมลุกขึ้นมาตั้งคำถามว่าเก ิดอะไรขึ้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่อยากให้เกิดเหมือนกับการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เราจึงได้ฟังแต่เพลงที่เนื้อหาพูดถึงแต่เรื่องความรักความใคร่ บางเพลงเนื้อหาผิดศีลธรรมอย่างรุนแรงก็ยังเปิดกันได้ มอมเมากันจนคนฟังลืมว่าเราควรทำอะไรให้ประเทศชาติบ้างนอกจากแสวงหาความรักคว ามใคร่สนองกิเลสตนเพียงอย่างเดียว” แสง ธรรมดา กล่าว

ASTV ปลุกเพลงเพื่อชีวิตคืนชีพ               แสง ธรรมดา กล่าวอีกว่า ประวัติศาสตร์การเมืองไทยตั้งแต่ยุค 14 ตุลา 2516, 6 ตุลา 2519 และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ มีศิลปินเพื่อชีวิตทุกแขนงเข้าไปมีส่วนเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมเคีย งบ่าเคียงไหล่กับนักศึกษาประชาชน เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยี และระบบทุนนิยมที่เพิ่มระดับความเข้มข้นมากขึ้น แต่ประชาชนในประเทศทั้ง กรรมกร เกษตรกร หรือคนชั้นกลางกลับไม่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแต่อย่างใด โดยเฉพาะในยุคที่ระบอบทักษิณครองอำนาจ               “ศิลปินหลายคนยังคงสร้างสรรค์บทเพลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการนำบทเพลงเก่าๆ มาขับร้องเมื่อมีโอกาส ซึ่งเมื่อพิจารณาให้ดีจะพบว่าเนื้อหาในบทเพลงที่แม้จะผ่านเวลามานานมากแล้วแ ต่เนื้อหายังคงทันสมัย เช่น เพลงที่พูดถึงเรื่องการเอารัดเอาเปรียบของพวกนายทุน แม้จะผ่านมาเป็นสามสิบปีเพลงเหล่านี้ก็ยังทันสมัย เพราะการเอารัดเอาเปรียบยังคงดำรงอยู่ ส่วนคนที่ทำเพลงใหม่ก็ไม่สามารถเสนอผลงานออกสู่วงกว้างได้เพราะถูกกีดกันจาก นายทุนค่ายเทป บางคนก็เปลี่ยนไปทำเพลงแนวตลาดที่ให้แต่ความบันเทิงเพื่อความอยู่รอด” แสง ธรรมดา กล่าว               แสง ธรรมดา กล่าวอีกว่า ก ารเกิดขึ้นของสถานีข่าว ASTV และการชุมนุมเพื่อโค่นระบอบทักษิณ ไล่รัฐบาลหุ่นเชิด โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือปรากฏการณ์ที่ทำให้ศิลปินเพื่อชีวิตที่รักความเป็นธรรมและมีเจตนารมณ์เดี ยวกันได้มีโอกาสเข้าร่วมต่อสู้และนำเสนอผลงาน ทั้งภาพเขียน บทกวี และบทเพลง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะที่เวทีกลางเท่านั้นแต่ผลงานเหล่านี้ได้กระจายออกไปในวงกว้า งผ่านเครือข่ายของสื่อในเครือผู้จัดการที่มีทั้งเว็บไซต์ วิทยุชุมชน หนังสือพิมพ์ และสถานีข่าว ASTV                “เพลงเพื่อชีวิตที่หลายคนบอกว่าตายแล้วได้มีโอกาสกลับมารับใช้พี่น้อ งประชาชนอีกครั้งในการต่อสู้ครั้งนี้ มีการถ่ายทอดสดการชุมนุม การปราศรัย และการแสดงดนตรี รวมทั้งวัฒนธรรมอื่นๆ ผ่านทาง ASTV และสื่อในเครือผู้จัดการออกไปทั่วประเทศและทั่วโลก เป็นปรากฏการณ์ใหม่ ทำให้ศิลปินเพื่อชีวิตได้กลับมาทำหน้าที่รับใช้ประชาชนอีกครั้ง ศิลปินหลายคนต่างก็มีความมุ่งมั่นในการผลิตผลงานเพราะมั่นใจว่ามีช่องทางในก ารนำเสนออย่างทั่วถึง ความคึกคักก็กลับมาอีกครั้ง ดังที่มีคำกล่าวว่าที่ไหนมีความอยุติธรรม ที่นั่นย่อมมีการต่อสู้ และเมื่อมีการต่อสู้ ศิลปะเพื่อชีวิตก็จะเข้าไปรับใช้ประชาชน” แสง ธรรมดา กล่าว               พร้อมเดินหน้าขยายมวลชนทั่วใต้                แสง ธรรมดา กล่าวอีกว่า เครือข่ายศิลปินพันธมิตรภาคใต้ที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีนักดนตรีรุ่นใหม่เข้าร่วม ประกอบด้วยวงยิปซีเล, วง ฅ.คนกู้ชาติ, วงภูเล และ วงคีรีธาร ได้จัดกิจกรรมดนตรีสัญจรเพื่อมวลชนขึ้นในพื้นที่ จ.สงขลา โดยมีการเดินสายออกไปแสดงดนตรีในพื้นที่ต่างๆ พร้อมกับการให้ความรู้ทางการเมืองกับประชาชนในนามพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิ ปไตย โดยนอกจากดนตรีเพื่อชีวิตแล้วยังมีคณะทำงานของพันธมิตรสงขลาฯ ไปร่วมไฮด์ปาร์กให้ความรู้ทางการเมืองแก่ประชาชนด้วย โดยที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนในทุกพื้นที่ และเมื่อมีการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ เครือข่ายศิลปินพันธมิตรฯภาคใต้ ก็ได้เดินทางไปพร้อมกับพี่น้องประชาชนเพื่อขึ้นแสดงดนตรีที่เวทีใหญ่               “เครือข่ายศิลปินพันธมิตรภาคใต้เกิดขึ้น เนื่องจากช่วงที่มีการเดินทางไปชุมนุมใหญ่ล้อมทำเนียบรัฐบาล ทางพันธมิตรฯสงขลา มีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในเรื่องของค่าเดินทางกลับบ้านของพี่น้องประชาชนที ่เดินทางไปชุมนุม แม้เที่ยวไปจะมีการยึดรถไฟ ทำให้ไม่ต้องออกค่าใช้จ่าย เพราะไปพร้อมกัน แต่เที่ยวกลับชาวบ้านเขาแยกกันกลับเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 50 คนบ้าง 30 คนบ้าง ตรงนี้เราต้องดูแลเขา ทำให้มีค่าใช้จ่ายมาก เงินที่ได้รับบริจาคมาก็ถูกใช้ไปในส่วนนี้จนหมดและไม่พอ ต้องหยิบยืมกันมา พวกเราซึ่งเป็นศิลปินจึงคิดจะไปเล่นดนตรีเปิดหมวกแลกเงินนำมาชำระหนี้ แต่ก็มาคิดต่อว่าเมื่อออกไปแล้วนอกจากร้องเพลงแล้วเราควรทำงานมวลชนให้ความร ู้ทางการเมืองควบคู่กันไปด้วยจึงเกิดการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายขึ้นมา” แสง ธรรมดา กล่าว               แสง ธรรมดา กล่าวว่า รูปแบบเครือข่ายศิลปินพันธมิตรภาคใต้จะทำงานในลักษณะของการรวมกลุ่มกันผลิตแ ละแสดงดนตรี โดยตนจะทำหน้าที่ดูแลขัดเกลาเนื้อหาเพลง รวมทั้งให้คำปรึกษาทางด้านดนตรีแก่ศิลปินรุ่นใหม่ที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากน ัก แต่มีความตั้งใจสูงในการเข้าร่วมกิจกรรม               “ แต่ละวงจะมีนักร้องนักแต่งเพลงตามเอกลักษณ์ของตนเอง เรามีมือเบส กีตาร์ กลอง เพอร์คัสชัน ไวโอลิน และแอคคอเดียน ที่เป็นนักดนตรีหลัก นักดนตรีเหล่านี้จะต้องร่วมบรรเลงกับเพลงของวงอื่นๆ ในเครือข่ายได้ทุกวง เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะนักดนตรีบางคน บางวง มีเงื่อนไขหรือไม่พร้อมที่จะเข้าร่วม แต่ละวงจึงต้องใช้นักดนตรีร่วมกัน จุดนี้เป็นไปตามเงื่อนไขเราทำงานตามสภาพเพื่อให้เดินหน้าไปได้ และที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดีช่วง 2-3 วันนี้เราจะประชุมเพื่อสรุปงานที่ผ่านมา และวางแผนขยายกิจกรรมออกไปยังพื้นที่ทั้ง 16 อำเภอของ จ.สงขลา ต่อจากนั้น จึงจะขยายต่อไปยังแต่ละตำบลให้ครอบคลุม ส่วนจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ถ้าอยากให้เราไปทำตรงนี้ก็ติดต่อมาได้ตลอดเวลา” แสง ธรรมดา กล่าว               ศิลปิน ตอ.เตรียมตั้งเครือข่ายร่วม                ด้าน นายสุทานินทร์ วงเหลืองอ่อน หรือ “นิล ไอยรา” ศิลปินจาก จ.ชลบุรี ซึ่งได้เดินทางมาร่วมแสดง ณ เวทีใหญ่สะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ตนได้ทราบข่าวการตั้งเครือข่ายศิลปินพันธมิตรภาคใต้ที่จัดกิจกรรมดนตรีสัญจร เพื่อมวลชน จึงมีแนวคิดที่จะนำรูปแบบดังกล่าวไปใช้ใน จ.ชลบุรี เพื่อร่วมเคลื่อนไหวมวลชนเหมือนที่ศิลปินภาคใต้รวมกลุ่มกัน               “ ที่ชลบุรีประชาชนจำนวนมากเห็นด้วยกับการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ถ้ามีการจัดกิจกรรมเหมือนที่ศิลปินภาคใต้ทำก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี หลังจากแสดงที่เวทีกลางแล้วผมจะกลับไปคุยกับเพื่อนๆ นักดนตรี เช่น วงแม่น้ำ ที่เป็นคนชลบุรีเหมือนกันและเคยเล่นดนตรีกันมานาน นอกจากนี้ ยังมีวงสหภาพ จาก จ.สมุทรปราการ ซึ่งผมจะไปพูดคุยกันดู อาจจะเริ่มจากจุดเล็กๆ เหมือนภาคใต้เมื่อมีคนอื่นๆ สนใจก็เข้ามาร่วมกันต่อไป” นายสุทานินทร์ กล่าว               แนะรุ่นใหม่คว้าโอกาสช่วงชุมนุม                ทางด้าน นายศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง หรือ “เศก ศักดิ์สิทธิ์” ศิลปินเพื่อชีวิตรุ่นใหญ่ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะมีการขับเคลื่อนการให้สาระความรู้สถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งผลกระทบที่เกิดจากการบริหารงานของรัฐบาลออกไปสู่สังคมวงกว้างให้มากข ึ้นโดยเฉพาะในส่วนภูมิภาคต่างๆ ในรูปแบบของศิลปวัฒนธรรม               “ก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า งานเพลงเพื่อชีวิตห่างหายไปจากสังคม ทั้งนี้ เพราะไม่มีช่องทางในการเผยแพร่ผลงาน สื่ออื่นๆ ให้ความสำคัญกับโฆษณามากกว่าเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม แต่เมื่อมี ASTV ทำให้มีช่องทางในการสื่อสารสิ่งที่เป็นประโยชน์ แม้จะเป็นทีวีผ่านดาวเทียม แต่ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพมากในการสื่อสาร ตรงนี้ต้องขอบคุณ ASTV และพันธมิตรฯด้วยที่เปิดโอกาสให้ศิลปินได้มีโอกาสนำเสนองานที่มีสาระ ช่วงนี้เมื่อได้ออกไปแสดงดนตรีในที่ต่างๆ พบว่าคนฟังขอเพลงพันธมิตรมากกว่าเพลงทั่วไปที่เล่นกันอยู่ การตอบรับดีมาก” นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าว               นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับศิลปินรุ่นใหม่ที่อยากเข้ามาร่วมตรงนี้ต้องเข้าถึงต้นธารในการก่อเกิด ของบทเพลง หมายถึงว่า ต้องเข้ามาศึกษาจากการต่อสู้จริงๆ จึงจะสามารถถ่ายทอดผลงานออกมาได้อย่างตรงจุด ไม่ใช่นั่งเทียนเขียนผลงานอยู่ที่บ้านซึ่งนอกจากงานอาจจะไม่มีคุณภาพแล้ว อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ที่ถูกต้องได้อีกด้วย               “ เราต้องเรียนรู้เรื่องของข้อมูลและเทคนิคใหม่ๆ ของดนตรีว่าสไตล์ไหนจะเข้ากับยุคสมัยคนฟังไม่เบื่อ เล่นเร็กเก้บ้าง ฮิปฮอปบ้าง เพื่อความแปลกใหม่ส่วนเนื้อหาก็ต้องรับใช้การต่อสู้ของประชาชน” นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าว               หนุนยกระดับความรู้ประชาชน                ขณะที่ นายรพินทร์ พุฒิชาติ หรือ “น้าซู” ศิลปินวง “ซูซู” กล่าวว่า จะต้องมีการยกระดับการให้ความรู้แก่ประชาชนออกไปสู่วงกว้างในรูปแบบของเครือ ข่ายเหมือนที่ต่างประเทศเขาทำกัน เช่น เครือข่ายชาวนาที่ญี่ปุ่น คนผลิตและคนซื้ออยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ผู้ผลิตก็สามารถขายสินค้าได้ในราคาที่เหมาะสม ผู้บริโภคก็มีอาหารดีๆ ไว้บริโภค ชาวนาก็ไม่โดดเดี่ยวเหมือนชาวนาเมืองไทยพอเครือข่ายแข็งแรงก็สามารถทำอะไรที ่สร้างสรรค์ได้อีกหลายอย่าง               “ นอกเหนือจากเรื่องการเมืองแล้วเครือข่ายควรมองเรื่องทรัพยากรด้วย เพราะปัญหาต่อไปที่คนไทยและคนทั้งโลกต้องเผชิญคือเรื่องของทรัพยากร ป่าไม้ อาหาร ที่จะเป็นปัญหาต่อคนรุ่นต่อไป คนรุ่นใหม่ต้องมารับตรงนี้ไปทำต่อ ปัญหาของโลกในอนาคต คือ เรื่องทรัพยากร ศิลปินรุ่นใหม่ต้องมองเรื่องนี้ด้วย เปิดให้กว้างนำเครื่องดนตรีของต่างชาติ เช่น แอฟริกา มาเล่น เพื่อสื่อสารกับคนทั้งโลก เราต้องปรับทัศนะให้เป็นการมองโลกทั้งโลกไม่ใช่มองแต่เรื่องตัวเองหรือประเท ศของตัวเอง” นายรพินทร์ กล่าว