++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เปิดโลก ไหมไทย เส้นสายใยอันอบอุ่น

'ไหม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bombyx mori Linn. เป็นแมลงจำพวก ผีเสื้อชนิดหนึ่งอยู่ในวงศ์ Bombycidae กินพืชจำพวกใบหม่อน (moraceae) เป็นอาหาร
ลักษณะพิเศษประจำตัวของไหมคือ สามารถสร้างเส้นใย ซึ่งมนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ เป็นเครื่องนุ่งห่ม และสวยงาม ได้ถูกขนานนามว่า ผ้าไหม ที่เมื่อสวมใส่แล้วจะรู้สึกอบอุ่น...
มนุษย์ได้รู้จักการใช้ประโยชน์จากไหม เป็นเวลานานหลายพันปี..!!..
ชีพจักรและการเจริญเติบโตของไหม แบ่งออกเป็น 4 ระยะ...

1. ระยะเป็นไข่ (eggs) หากเป็นไหมที่ฟักหลายครั้งต่อปี ตามธรรมชาติมีอายุ 9-12 วัน ใช้เวลาน้อยมากแตกต่าง จากสายพันธุ์ไหม ที่ฟักตัวออก 1-2 ครั้งต่อปี จะมีอายุถึง 4-10 เดือน
2. ระยะเป็นตัวหนอน (larvae) ที่ฟักออกจากไข่ใหม่ๆ new-born larvae จะมีลำตัวสีดำหรือสีน้ำตาลไหม้ แถมยังมีขนปกคลุมทั้งตัว 22-25 วัน
3. ระยะเป็นดักแด้ (pupae) หลังจากที่หนอนไหมลอกคราบ กลายเป็นดักแด้อยู่ภายในรังเฉยๆ กระทั่ง 6-7 วัน ก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นดักแด้ และในเวลาเช้าต่อมาก็จะกลายเป็น...
ระยะที่ 4 คือเป็นผีเสื้อ (moth) เมื่อกลายเป็นผีเสื้อ ก็จะพ่นน้ำลายซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง เพื่อละลายรังไหม แล้วดันตัวเองออกสู่ภายนอก รอจนกระทั่งตัวผีเสื้อจะแห้ง ปีกก็จะกางออกพร้อมที่จะทำการผสมพันธุ์และวางไข่
ต่อไป หลังจากที่เปลี่ยนสภาพเป็นผีเสื้อได้ 7-9 วัน ผีเสื้อก็จะตายในที่สุด
คุณเบญจพล ดั่นประดิษฐ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการ วิชาการด้านพืช และปัจจัยการผลิตสุรินทร์ เผยว่า เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาสถานีทดลอง หม่อนไหมสุรินทร์ ได้เปิด พิพิธภัณฑ์ผ้าไหม แห่งเดียวของประเทศไทย พร้อมกับเปิดโลกไหมไทย ให้เข้าชมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จนกระทั่งถึงกระบวนการสาวไหม และทอผ้าไหมตัดเย็บ กลายเป็นเครื่องนุ่งห่ม นักท่องเที่ยวหรือผู้สนใจกริ๊งกร๊างได้ที่ 0-1938-4469, 0-4451-1393.
ไชยรัตน์ ส้มฉุน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น