'ไหม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bombyx mori Linn. เป็นแมลงจำพวก ผีเสื้อชนิดหนึ่งอยู่ในวงศ์ Bombycidae กินพืชจำพวกใบหม่อน (moraceae) เป็นอาหาร
ลักษณะพิเศษประจำตัวของไหมคือ สามารถสร้างเส้นใย ซึ่งมนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ เป็นเครื่องนุ่งห่ม และสวยงาม ได้ถูกขนานนามว่า ผ้าไหม ที่เมื่อสวมใส่แล้วจะรู้สึกอบอุ่น...
มนุษย์ได้รู้จักการใช้ประโยชน์จากไหม เป็นเวลานานหลายพันปี..!!..
ชีพจักรและการเจริญเติบโตของไหม แบ่งออกเป็น 4 ระยะ...
1. ระยะเป็นไข่ (eggs) หากเป็นไหมที่ฟักหลายครั้งต่อปี ตามธรรมชาติมีอายุ 9-12 วัน ใช้เวลาน้อยมากแตกต่าง จากสายพันธุ์ไหม ที่ฟักตัวออก 1-2 ครั้งต่อปี จะมีอายุถึง 4-10 เดือน
2. ระยะเป็นตัวหนอน (larvae) ที่ฟักออกจากไข่ใหม่ๆ new-born larvae จะมีลำตัวสีดำหรือสีน้ำตาลไหม้ แถมยังมีขนปกคลุมทั้งตัว 22-25 วัน
3. ระยะเป็นดักแด้ (pupae) หลังจากที่หนอนไหมลอกคราบ กลายเป็นดักแด้อยู่ภายในรังเฉยๆ กระทั่ง 6-7 วัน ก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นดักแด้ และในเวลาเช้าต่อมาก็จะกลายเป็น...
ระยะที่ 4 คือเป็นผีเสื้อ (moth) เมื่อกลายเป็นผีเสื้อ ก็จะพ่นน้ำลายซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง เพื่อละลายรังไหม แล้วดันตัวเองออกสู่ภายนอก รอจนกระทั่งตัวผีเสื้อจะแห้ง ปีกก็จะกางออกพร้อมที่จะทำการผสมพันธุ์และวางไข่
ต่อไป หลังจากที่เปลี่ยนสภาพเป็นผีเสื้อได้ 7-9 วัน ผีเสื้อก็จะตายในที่สุด
คุณเบญจพล ดั่นประดิษฐ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการ วิชาการด้านพืช และปัจจัยการผลิตสุรินทร์ เผยว่า เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาสถานีทดลอง หม่อนไหมสุรินทร์ ได้เปิด พิพิธภัณฑ์ผ้าไหม แห่งเดียวของประเทศไทย พร้อมกับเปิดโลกไหมไทย ให้เข้าชมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จนกระทั่งถึงกระบวนการสาวไหม และทอผ้าไหมตัดเย็บ กลายเป็นเครื่องนุ่งห่ม นักท่องเที่ยวหรือผู้สนใจกริ๊งกร๊างได้ที่ 0-1938-4469, 0-4451-1393.
ไชยรัตน์ ส้มฉุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น