ประเพณีการให้ของขวัญถูกกระแสสังคมกำหนดว่าจะต้องสรรหาสินค้าจากต่างประเทศ ของมีราคามามอบให้แก่กันจนกลายเป็นค่านิยม
แต่ในยามที่บ้านเมืองมีหนี้สินต่างประเทศ การเลือกซื้อเลือกของขวัญในยามนี้จึงต้องมีจิตสำนึกในฐานะคนไทย เลือกที่จะให้แบบเงินทองไม่รั่วไหลออกต่างประเทศ
เพราะปัจจุบันผลิตภัณฑ์ ที่ผลิตเองในประเทศ
โดยเฉพาะจากกลุ่มเกษตรกรทั้งหลาย มีการผลิตออกมาสู่ตลาดกันมากมายแต่ขาดคนซื้อ
กำลังซื้อ ที่เคยเกิดในกลุ่มข้าราชการทั้งหลายหยุดนิ่ง
ขณะนี้ในตลาดของสินค้า จากกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรจึงตัน
ช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการเลือกซื้อสินค้าเหล่านี้
หาก ซื้อไปแล้วได้รับการจัดตกแต่งให้สวยงามของเหล่านั้นจะมีคุณค่าในตัวเองไม่ แพ้ของ นอกราคาแพงเทศกาลปีใหม่ปีนี้จึงมีไอเดียการเลือกสรรของขวัญผลิตภัณฑ์พื้น บ้านจาก ร้านวาสุเทพอาศรม ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแผนไทย กระทรวงสาธารณสุขที่เน้นเลือกผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ สินค้าจากภูมิปัญญาชาวบ้านให้เป็นตัวจุดประกาย สร้างค่านิยมการมอบของขวัญจากฝีมือคนไทยให้คนไทยด้วยกัน
ความคิดของขวัญแนวนี้ถูกจัดแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ได้ประมาณ 10 กลุ่มฝากไว้เป็นแนวทางหากใครกำลังคิดหาของขวัญ
กลุ่มแรกได้แก่ผัก-ผลไม้โดยเฉพาะผลไม้พื้นบ้าน เช่น ส้มโอ กล้วย มะม่วง ฝรั่งขี้นก สับปะรดจัดแต่งเป็นกระเช้าผูกโบ
ถ้าเป็นผักสีเขียวเลือกหาผักพื้นบ้านได้น่าจะดี
เพราะปลอดจากยาฆ่าแมลง เช่น ผักปลัง ฟักทอง ผักบุ้งไทย ตกแต่งด้วยพริก ฟักทอง แครอท มะเขือเทศ เพื่อสร้างสีสันให้กับกระเช้าผักเลือกให้ผู้ได้รับสามารถแปลงเป็นอาหารมื้อ พิเศษในวันนั้น แถมให้เป็นอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอาจจะเขียนระบุสรรพคุณแนบไว้ เพื่อเย้ายวนให้ชวนกิน อาทิพริกกินแล้วช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด กินแครอท ผักบุ้ง ฟักทอง ช่วยยับยั้งมะเร็งได้
ส่วนกลุ่มที่ 2 ธัญพืชประเภทข้าวกล้อง ถั่วแดง ถั่วดำ
สารพัดถั่วที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางอาหารเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากข้าว เช่นนางเล็ด งาตัด ข้าวเม่า ก็สามารถจัดรวมกันเป็นชุดห่อรวมใส่ตะกร้าได้ไฉไล
สำหรับ กลุ่มที่ 3 เครื่องเทศ พริก หอม กระเทียมและของแห้ง นับเป็นสิ่งถูกใจของกลุ่มผู้รับในวัยตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปเพราะคนวัยนี้ชอบทำอาหารทานเอง พริก หอม กระเทียมยิ่งเป็นสิ่งจำเป็น จัดใส่ชะลอมเหมือนผลไม้เก๋ ไปอีกแบบ ถ้าจะเพิ่มคุณค่าด้านสมุนไพรเข้าไปอาจ จัดขิง ข่า ตะไคร้ ผัก พื้นบ้านสะเดา กระถิน กะเพรา พริกเข้าไปได้คุณค่าทางอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย
เปลี่ยนจาก เรื่องกับข้าวกับปลา หันมาพิจารณาผลิตภัณฑ์ชนิดเหล้าไทยและยา ดองถูกจัดไว้ในกลุ่มของขวัญชนิดที่ 4 ที่ผ่านมาจะเห็นภาพการให้ของขวัญเหล้านอกเป็นราคาแพงสูงลิ่ว ปีนี้อาจจะเปลี่ยนเสียเป็นเหล้าไทย ในนามว่า "ยาดอง"
แนะว่าการให้ของขวัญด้วยเหล้าดอง อาจจะเป็นในลักษณะมีเหล้าที่ดองใส่ขวดไว้เรียบร้อยแล้ว
และในกระเช้าอาจมียาดองเหล้าสักห่อ พร้อมระบุสรรพคุณของยาและเหล้าขาวสักขวดเพื่อให้ไปดองเอง
แต่เรื่องยาดองหลายคนไม่ถนัด ที่จะกินเปลี่ยนเป็นไวน์ไทยเช่น ไวน์มะยม ไวน์มะเม่า ไวน์ลูกหว้า
ยอด ขนมขบเคี้ยวทั้งหลายอาจลดลงในเทศกาลปีใหม่ปีนี้ หากเลือกซื้อหาของกินแปรรูปมาจากสินค้าเกษตรแทน เช่น กล้วยตาก สับปะรดกวน ทุเรียนกวน มะม่วงกวน ทอฟฟี่สมุนไพรหรือประเภทชาสมุนไพรทั้งหลาย ยาสมุนไพร ประจำบ้านชนิดต่าง ๆ รวมถึงแชมพู สบู่สมุนไพรจัดใส่ตะกร้าแปลกตาแล้วมีประโยชน์ผู้รับได้กินได้ ใช้ยามคับขันเป็นของขวัญในกลุ่มที่ 5 ที่จะเอาไปพลิกแพลงดัดแปลงให้ผู้ได้รับปลื้ม
และพอใจขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์
ของขวัญประเภทเครื่องหอมเป็นอีกกลุ่มลำดับที่ 6
อันนี้จะทำเองหรือหาซื้อไม่ยากเกินไป เอาดอกไม้ไทยมาทำเป็นบุหงา ถุงหอม สำหรับแขวน หรือตั้งโต๊ะทำงาน ห้องนอน ในรถ จัดเป็นกระเช้าไปมอบสร้างคุณค่าและมิตรภาพเป็นอย่างดี
ขยับมาที่ของมีค่ามีราคาอีกกลุ่มคือกลุ่มที่ 7
ในชุดของขวัญผ้าไทยเลือก ให้เหมาะกับบุคลิกของแต่ละบุคคลไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้ายหรือไหม คำนวณเงินทองในกระเป๋าก่อนซื้อ เชื่อว่าผู้รับย่อมภูมิใจเป็นอีกกระบวนการหนึ่ง
ที่ทำให้เม็ดเงินไหลลงสู่ชาวบ้านในชนบท
กลุ่ม ที่ 8 ถูกจัดให้ใกล้เคียงกันเรียกว่าผลิตภัณฑ์จากนุ่นและฝ้าย หรือสิ่งที่ไม่ใช่การสังเคราะห์ เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เช่น หมอนอิง หมอนขิด เป็นสินค้าที่ผลิตมาจากกลุ่มแม่บ้านเกือบทั้งสิ้น
ของขวัญแนวคิดแปลกที่ทำด้วยใจอีกกลุ่มคือกลุ่มที่ 9
ไม่ต้องลงทุนสูงแต่ลงแรงมากสักหน่อย อาจจะต้องบวกฝีมือเข้าไปเล็กน้อย
ใช้ใบตองมาจัดทำเป็นพานพุ่มดอกไม้ แม้ผู้รับจะไม่ได้ใช้แต่บังเกิดความปีติใจยามเมื่อได้รับของชิ้นนี้ เชื่อหรือไม่เชื่อแต่ก็น่าลอง
สำหรับกลุ่มสุดท้ายมอบพันธุ์ไม้และกล้าไม้ให้แก่กัน
สร้างค่านิยมในการมอบพันธุ์ไม้ หรือกล้าไม้เป็นของขวัญใส่กระถางห่อด้วยกระดาษ สวย ๆ
ตกแต่งให้สวยงามคิดไม่ออก ให้นึกถึงกล้าไม้สมุนไพร เช่น ฟ้าทลายโจร เสลดพังพอน กะเพรา มะนาว สะระแหน่ สารพัดสมุนไพร ปลูกไว้ทำกับข้าวเผื่อเหลือเผื่อขาดเป็นยาสมุนไพรแก้โรคร้ายต่าง ๆ ได้
ด้วยแนวคิดทั้งสิบแบบถ้าใครได้รับแล้วมีจิตใจน้อมรับแบบไม่กังขาไม่เกี่ยงว่า เป็นของด้อยค่าน้อยราคาคิดว่าน้ำใจยิ่งใหญ่กว่าของขวัญ
คนนั้นจะมีความสุขตลอดปีใหม่และตลอดไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น