++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2557

7 พื้นฐานของชีวิตที่คุณควรรู้ (และทำ) เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น


________________________________________

ในบรรดาพวกหนังสือ Self-Improvment หรือแม้แต่เทคนิคการบริหารจัดการสำหรับผู้บริหารนั้น ชื่อของ Stephen Convey คงเป็นอีกชื่อที่หลายคนคุ้นๆ อยู่ แต่ถ้าจะคุ้นมากสุดก็คงจะเป็นปกหนังสือของเขาที่ขายดีมากๆ อย่าง 7 Habbits of Highly Effective People หริือ The 8th Habbit (แนะนำให้หาอ่านกันนะครับ หนังสือดี ให้ข้อคิดมากมาย)
วันก่อนผมก็เปิดไปเจอคนทำสรุปแนวคิดของ Convey เอาไว้เป็น 7 Cardinals Rules of Life ซึ่งถ้าจะแปลกันง่ายๆ คือ 7 กฏพื้นฐานของชีวิต โดยอธิบายหลักปฏิบัติที่ทำให้ประสบความสำเร็จในแง่การใช้ชีวิต มีอะไรบ้างลองมาดูกันเลย
1.ยอมรับกับอดีตของคุณ
แน่นอนว่าอดีตสำหรับหลายๆ คนนั้นมักจะไม่ได้สวยงามเสมอไป หลายอย่างในอดีตกลายเป็นความทรงจำที่เลวร้ายหรือถ้าหนักๆ เข้าก็ถึงกับกลายเป็นตัวถ่วงให้ชีวิตเราไม่ก้าวไปข้างหน้าเลยก็มี ผมเองก็เคยประสบเหตุการณ์แบบนั้นอยู่ไม่น้อย แน่นอนว่าการปล่อยวางอดีตย่อมช่วยให้คุณสามารถอยู่กับมันได้แทนที่จะต้องทนทุกข์ทรมานจนมันทำลายปัจจุบันไปเสีย อย่าลืมเสียว่าอดีตไม่ได้สร้างอนาคต แต่คือสิ่งที่คุณทำวันนี้ต่างหาก
2 อย่าใส่ใจกับสิ่งที่คนอื่นมองว่าคุณเป็นอย่างไร
การพะวงหรือคอยห่วงว่าคนอื่นจะคิดอย่างโน้นอย่างนี้กับเราหลายๆ ทีก็ทำให้ชีวิตเรายุ่งหรือไปต่อไม่ได้เพราะสร้างความกลัวกังวลไปเสียหมด วิธีที่ดีคืออย่าได้ไปพะวงหรือยึดติดกับมันเสียจนไม่เป็นอันทำอะไร สิ่งสำคัญคือการที่คุณมองคุณค่าของตัวเองให้เจอและเริ่มต้นคิดว่าคุณสำคัญอย่างไร แน่นอนว่าวิธีการคิดแบบนี้ก็ดูดีแต่ก็ต้องระวังเล็กน้อยเพราะการฟังคนอื่น (ที่ควรฟัง) ก็เป็นเสียงวิจารณ์ที่ดีและนำทางเราเหมือนกัน และการหลงตัวเองบางครั้งก็ทำให้เกิดปัญหาอีกด้วย
3. เวลาจะช่วยรักษาทุกอย่าง
เวลาเราเจอทุกข์ แรกๆ เราก็ทรมานแทบตาย ผมเคยเจอเหตุการณ์ที่หลายคนชนิดที่พูดว่า “ตายเสียดีกว่าอยู่” ประเภทกินไม่ได้นอนไม่หลับ ทรมานทั้งกายทั้งใจและคิดไม่ได้ว่าจะหายจากความทรมานนี้ได้อย่างไร แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกๆ อย่างมันก็ดีขึ้นตามกาลเวลา แม้ว่ามันอาจจะทิ้งบาดแผลเอาไว้บ้างแต่เราก็ไม่ได้ทรมานจะเป็นจะตายแบบก่อน บาดแผลที่ถูกเยียวยาจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต
4. คุณเองนั่นแหละคือสาเหตุของความสุข
คนเรามักแสวงหาความสุขจากสิ่งต่างๆ เช่นจากการครอบครองสิ่งที่อยากได้ การได้มีคนรัก ฯลฯ และเราก็เชื่อกันว่านั่นคือ “ความสุข” ที่แท้จริง แต่จริงๆ แล้วความสุข (หรือแม้แต่ความทุกข์) ไม่ได้อยู่ที่สิ่งรอบข้างตัวเราเลย หากแต่เป็นตัวเราเองที่คิดและตัดสินไปว่านั่นคือความสุข (หรือความทุกข์) ฉะนั้นแล้ว สัจธรรมข้อนี้เองที่ทำให้เราไม่หลงทางหรือมัวเมาตัวเองจนลืมคิดไปว่าทำอย่างไรให้มีความสุข วันไหนที่เรารู้สึกเครียด ท้อ หรือหดหู่ลองกลับมาคิดเสียว่าจริงๆ แล้วแค่คุณมองโลกในมุมที่เปลี่ยนไป คุณก็สุขขึ้นได้แล้ว
5.อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
การเปรียบเทียบเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ยากจะห้าม และการเปรียบเทียบนี้เองที่ทำให้หลายคนทุกข์แล้วทุกข์เอง ในขณะที่หลายๆ คนก็เอาคนอื่นเป็นที่ตั้ง มองชีวิตคนอื่นจนกลัวไปเสียหมดว่าจะเดี๋ยวจะเป็นแบบคนโน้น เดี๋ยวจะพลาดแบบคนนี้ สุดท้ายเลยเป็นกังวลจนไม่เป็นทำอะไร เราต้องไม่ลืมว่าชีวิตแต่ละคนมีพื้นฐานไม่เหมือนกัน การเปรียบเทียบคนที่พื้นฐานไม่เท่ากันนั้นก็คงยากจะเทียบให้สมเหตุสมผล ฉะนั้น อย่าได้เทียบตัวเองกับคนอื่นจนจิตใจคุณฝ่อหรือท้อเลยจะดีกว่า
6. หยุดคิดมาก
การอยากรู้และพยายามหาคำตอบเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งมันก็อาจจะไม่คำตอบที่ตายตัวหรือคำตอบที่ถูกต้องเสมอ การพยายามครุ่นคิดมากเกินไปก็อาจจะทำให้เราจมกับการคิดและไปไหนต่อไม่ได้ ฉะนั้นบางครั้งการมองว่า “ไม่มีคำตอบ” คือ “คำตอบ” ก็ช่วยให้คุณหลุดจากการจมปลักได้เหมือนกัน
7. ยิ้มไว้
โลกไม่ได้มืดหม่นตลอด การยิ้มช่วยให้โลกของคุณสดใสขึ้น แม้ในบางสถานการณ์นั้น การยิ้มอาจจะยากอยู่เสียหน่อย แต่การยิ้มก็เป็นจิตวิทยาให้กับตัวเองเพื่อที่จะมองโลกในแง่บวกมากกว่าที่จะหม่นหมองเศร้าจนรู้สึกแย่ไปเสียทุกอย่าง ฉะนั้น ยิ้มกันนะครับ ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น