โดย: โลกทรรศนะ
Theขี้ฝุ่นริมทาง
วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557
กาลเวลาที่เปลี่ยน แปลงไปอย่างมิเคยหยุดนิ่งเป็นธรรมชาติ
ปีใหม่ขอจงสดใส... ปีเก่าผ่านไปปีใหม่เข้ามา เป็นกาลเวลาที่เปลี่ยน แปลงไปอย่างมิเคยหยุดนิ่งเป็นธรรมชาติที่สอนให้มนุษย์เรารู้จักปรับตัว และเข้าใจกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คนเราจะมีอายุยืนยาวเท่าใด ไม่สำคัญเท่ากับได้มีโอกาสทำความดีให้กับตนเองและผู้อื่นว่ามากน้อยเพียงใด ทุกคนที่เกิดมาล้วนมีโอกาสที่จะได้ทำความดีด้วยกันทั้งนั้น จะตกอยู่ในสถานะใดทางสังคม จะมีชีวิตและความเป็นอยู่เช่นใดก็ตาม ล้วนมีคุณค่าและมีความสำคัญต่อโลกนี้ทั้งนั้น เมื่อปีเก่าผ่านไปเช่นนี้เราได้ตรวจสอบผลงานของชีวิตตนเองหรือยัง? เราได้เตรียมพร้อมหรือยังสำหรับการก้าวเดินไปในวันข้างหน้า? ปีเก่าอาจจะเป็นปีแห่งความโชคร้ายของผู้คนหลายคน บางคนเกิดการพลัดพรากจากกัน บางคนได้สูญเสียผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือไปบางคนสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง บางคนสุขภาพไม่อำนวยเกิดการเจ็บป่วยซ้ำแล้วซ้ำอีก บางคนทำอะไรก็ไม่เจริญก้าวหน้ามีแต่ความเสื่อมไม่เคยเจริญรุ่งเรืองกับเขาเลยบางคนมีแต่เรื่องร้าย ๆ เข้ามาหาจนถึงกับขึ้นโรงพักขึ้นศาลกลายเป็นวิถีชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว เหล่านี้ล้วนเป็นความทุกข์อันแสนสาหัสที่ได้เกิดขึ้นกับชีวิต ในปีเก่าจึงอยากจะให้ความโชคร้ายและความเดือดร้อนเช่นนี้ได้ตกอยู่กับเพียงปีเก่าอย่าได้ติดตามไปจองเวรให้เกิดมีขึ้นมาอีกในปีใหม่ ในขณะเดียวกันบางคนกลับกลายเป็นกรณีที่ตรงกันข้ามกับที่กล่าวมาแล้วปีเก่าเป็นปีที่โชคดีมีความสุขมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตในครอบครัวและในหน้าที่การงาน ทำกิจการใดก็เจริญรุ่งเรืองประสบความสำเร็จ สุขภาพก็ไร้โรคภัยไข้เจ็บ จึงอยากจะให้ปีใหม่นี้ได้เป็นเหมือนกับปีเก่าจะได้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่มีแต่ความสุขและความเจริญตลอดไปแต่นั่นทั้งฝ่ายที่พึงปรารถนาและไม่พึงปรารถนามันเป็นสัจธรรมของโลกที่ทุกคนต้องได้พบและได้สัมผัสกัน ใครจะได้รับส่วนใดมากน้อยแตกต่างกันเท่านั้น ได้รับสิ่งที่พึงปรารถนาก็มีความสุขได้รับสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาก็มีความทุกข์ดังนั้นสุขกับทุกข์เป็นของอยู่คู่กันตลอดไปคนที่เข้าใจกับสภาพความเป็นจริงแล้วรู้จักทำใจรู้จักปรับตัวได้ก็มีความสุขหรือมีความทุกข์น้อยลงไป ชีวิตของคนเราไม่มีใครเลยที่ต้องการความทุกข์ต่างต้องการความสุขด้วยกันทั้งนั้น การคิดการพูดและการกระทำที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่นไม่สร้างความเดือดร้อนให้ทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่น นั่นเป็นสิ่งที่ดีแต่ในทางตรงกันข้าม การคิดการพูดและการกระทำที่ก่อให้เกิดโทษสร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและผู้อื่นนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ดีและไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง แต่คนเรายังมี “กิเลส” คือสิ่งที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองประกอบไปด้วย “ความโลภ ความโกรธ ความหลง”กันอยู่จึงมีโอกาสที่จะทำกรรมชั่วได้ อย่างเช่นคนที่มีความโลภเป็นที่ตั้งโลภผิดกติกาทางสังคม ผิดกฎหมายบ้านเมือง ผิดศีลธรรมอันดีของศาสนาเมื่อได้สิ่งนั้นมาโดยไม่สุจริตแล้วล้วนเป็นไปในทางลบอีกไม่นานผลของความโลภก็จะปรากฏขึ้นมาในที่สุดก็สร้างความเสื่อมเสียและความเดือดร้อนให้กับตนเอง คนที่ถูกความโกรธและความหลงเข้าครอบงำก็เช่นเดียวกันช่วงที่มีโอกาสและมีอำนาจวาสนาอยู่ก็มักจะยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่เมื่อหมดอำนาจวาสนาหรือบทบาททางสังคมได้ตกต่ำลงไปแล้วความชั่วที่ได้โกรธไว้แล้วที่ได้หลงไว้แล้วจะโผล่ขึ้นมาให้เห็นชัดและสร้างความทุกข์ให้กับตนเองทันทีเรียกว่า “น้ำลดตอผุด” เป็นต้น ถ้าอยากจะเป็นคนดีมีความสุขแล้วขออย่าได้ตกอยู่ในอำนาจของกิเลสคือความโลภความโกรธและความหลง ขอให้ดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยอมหนักเอาเบาสู้อย่าได้ท้อถอยชีวิตจะลำบากเช่นใดก็ขออย่าได้ประพฤติผิดศีลธรรมและผิดกฎหมายของบ้านเมืองรวมถึงผิดกติกาทางสังคม อีกไม่นานผลของความอดทนและความเพียรพยายามก็จะปรากฏให้เราได้ชื่นชม ’คนเราจะล่วงพ้นความทุกข์ได้เพราะความเพียร“ เมื่อปีเก่ายังไม่สำเร็จ ปีใหม่ก็ขอให้มีความเพียรพยายามกันต่อไป การดำเนินชีวิตประจำวันของคนเรานี้ไม่ควรอ้อนวอนโดยไม่ลงมือกระทำ คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานล้วนอาศัยสติปัญญาของตนเองเป็นที่ตั้ง วันนี้ยังตกต่ำอยู่แล้วก็ค่อย ๆ เดินหน้าอย่างสม่ำเสมอจุดบกพร่องจากการดำเนินงานหรือดำเนินชีวิตก็นำมาแก้ไขและปรับปรุงให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปสะสมไปวันละเล็กวันละน้อยอย่างเช่นปลวกหรือมดแดงมันทำรังหรือทำที่อยู่อาศัยมันมีความเพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอ มันอาศัยความสามัคคีถึงแม้ว่าบางครั้งได้มีฝนตกกระหน่ำลงมา ได้มีลมพัดกระโชก มีไฟมาเผาผลาญ มีดินโคลนถล่มที่พักอาศัยของมันเมื่อภัยร้ายเช่นนั้นผ่านพ้นไปแล้ว มันยังมีชีวิตอยู่ มันก็เริ่มสร้างบ้านสร้างรังของมันให้กลับคืนมาสู่สภาพเดิมหรือให้ดีกว่าเดิมด้วยความขยันขันแข็งจนกลายเป็นตัวอย่างที่ดีของความขยันขันแข็งและความสามัคคีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมนุษย์เราก็ควรจะยึดเอาวิถีชีวิตของสัตว์ตัวเล็ก ๆ เช่นนี้มาเป็น ’ตัวอย่างที่ดี“ เสียบ้าง ชีวิตจะได้ดีและมีสุข การใช้ชีวิตที่อยู่ภายใต้กรอบคำสอนศาสนาของพระศาสดาก็จะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะนำพาเราให้ไปสู่ความสดใสและความสุขของชีวิตได้ทุกศาสนาล้วนสอนให้คนเราเป็นคนดี การน้อมนำเอาหลักธรรมที่ตนเองพึงปฏิบัติได้อาจจะไม่ทั้งหมดของคำสอนแล้วมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันในการประกอบอาชีพหน้าที่การงานในการอยู่ในสังคมเดียวกันให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอก็ย่อมจะเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเรามีความสุขและเจริญก้าวหน้าชีวิต เราดีก็ย่อมมีผลต่อชีวิตของคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ข้างอีกด้วย ชีวิตเราราบรื่นผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงก็พลอยราบรื่นไปด้วย ดังนั้นหลักคำสอนของพระศาสดาในศาสนานั้น ๆ จึงเป็นหัวใจอันสำคัญยิ่งที่จะก่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี จะก่อให้เกิดความสุขจะก่อให้เกิดความรักความสามัคคีของคนในสังคมจะก่อให้เกิดการเห็นอกเห็นใจและเข้าใจซึ่งกันและกันเพราะทุกคนที่เกิดมาล้วนต้องการความสำเร็จในการดำเนินชีวิตและต้องการความสุขที่จะเกิดกับตนเองกับครอบครัวของตนเองกับสังคมที่ตนเองอยู่อาศัยปีเก่าผ่านไปปีใหม่เข้ามานี้จึงขอให้ทุกท่านได้ยึดเอาหลักธรรมคำสอนของพระศาสดามาประพฤติปฏิบัติกันเถิดปีใหม่ก็จะมีความสดใสและมีความหมายต่อเพื่อนมนุษย์เรา ปีใหม่ขอจงคิดใหม่พูดใหม่และทำใหม่ความคิดเก่าคำพูดเก่าและการกระทำเก่าที่เคยสร้างความเสื่อมเสียสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นให้กับตนเองดังที่เคยเกิดขึ้นมานั้นขอให้ลด ขอให้ละ ขอให้เลิกเสียอย่านำเอามาเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีให้กับตนเองหรืออย่านำมาเป็นสันดานที่ไม่ดีของตนเองขอให้มีจิตใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตากรุณา คิดเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนอื่นพูดที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่คนอื่น ทำให้กลายเป็นของขวัญปีใหม่แก่คนอื่นอย่าเป็นคนเห็นแก่ตัว อย่าเป็นคนว่านอนสอนยาก สิ่งที่ไม่ดีขอให้งดเว้นเสีย สิ่งที่ดีและสร้างสรรค์ขอจงช่วยกันทำให้เกิดมีมากขึ้นจงปรับนิสัยของตนเองให้เป็นคนรู้จักให้ จงให้เพื่อการเสียสละจงให้เพื่อการช่วยเหลือ จงให้เพื่อการให้จริง ๆ แต่อย่าให้เพื่อหวังผลประโยชน์ตอบแทน อย่าให้เพื่อหวังเอาหน้าตาทางสังคม อย่าให้เพื่อจะนำไปเป็นผลงาน อย่าให้เพื่อจะได้รับความช่วยเหลือมากกว่าเดิม ขอจงให้เพื่อการทำลาย “กิเลส” ของตนเองจงให้เพื่อให้เพื่อนมนุษย์ร่วมโลกเดียวกันได้รับความสุขแล้วเราจะมีความสุขอยู่ร่วมกันอย่างสดใสตลอดไป... ปีใหม่ขอจงได้พบกับสิ่งที่ดีและใหม่ด้วยการละเว้นสิ่งที่ไม่ดีในอดีตแล้วมาสร้างสรรค์สิ่งที่ดีตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นไป ขอจงใช้ชีวิตด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน เห็นอกเห็นใจกันถนอมน้ำใจซึ่งกันและกัน อย่าได้คิดว่าคนอื่นมิใช่ญาติของเรา อย่าได้คิดว่าคนอื่นคือศัตรูเรา ขอจงคิดว่าทุกคนทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกนี้ล้วนเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บตายด้วยกันทั้งนั้น ส่วนใดที่พอจะแบ่งสุขให้กับเขาบ้างก็ควรทำ สิ่งใดที่จะเกิดโทษหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับเขาก็อย่าทำ เมื่อคนอื่นมีความสุขแล้ว เรามีความสุขปีใหม่ก็คงจะสดใสกันทั้งโลกกันไปเลยทีเดียว... ปีใหม่นี้ขอให้เราได้ใส่ใจในศาสนา รู้จักนำเอาธรรมะไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ศาสนาคือคำสั่งสอนที่นำพาให้เราพ้นทุกข์ ศาสนาจึงเปรียบเสมือนแสงสว่างในใจเรา ขอจงนำธรรมะมาเป็นแนวทางแห่งการดำรงชีวิตในปีใหม่เป็นต้นไปกันเถิด แล้วปีใหม่ก็จะกลายเป็นของใหม่ และสดใสสำหรับคนไทยและชาวโลกทั้งมวล... พระมหาสมัย จินฺตโฆสโก มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน
โดย: โลกทรรศนะ
โดย: โลกทรรศนะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น