++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2552

“The last lecture – what a wonderful world”

โดย อุษณีย์ เอกอุษณีษ์

คงจะไม่เป็นการล้าสมัยหรือว่าเชยจนเกินไป ที่จะพูดถึงหนังสือดังที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านหลายต่อหลายคน ให้ได้มีกำลังกายและกำลังใจในการจะทำงาน หรือสานต่อภาระหน้าที่อันเป็นที่รัก ดังเช่นที่ ศาสตราจารย์ ดร.แรนดี้ เพาซ์ (Randy Pausch) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ คอมพิวเตอร์และการออกแบบแห่งมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน ได้กระทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมาแล้ว ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ก่อนที่จะต้องยุติงานสอนหนังสืออันเป็นที่รักไปตลอดกาล เพราะโรคมะเร็งในตับอ่อนรุมเร้า
      
        โดย The last lecture ของ Pausch ที่เขียนร่วมกับผู้สื่อข่าว Wall Street Journal ชื่อ Jeffrey Zaslow มีเนื้อหาในลักษณะเป็นการถอดเทป และขยายความ “บทบรรยายครั้งสุดท้าย” ความยาว 76 นาที ในหัวข้อ “Really Achieving Your Childhood Dreams” แปลเป็นไทยว่า หนทางแห่งการทำฝันวัยเด็กของคุณให้เป็นจริง ซึ่งเป็นบันทึกประสบการณ์จริงที่ศาสตราจารย์เพาซ์ ได้ไปบรรยายไว้ในช่วงที่มีชีวิต ที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน เมื่อ 18 กันยายน 2007
      
        ปกติงานการบรรยายครั้งสุดท้าย ถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่นักวิชาการประจำมหาวิทยาลัยมีชื่อ และประสงค์จะวางมือจากการสอน จะกระทำไว้เพื่อเป็นการฝากผลงานเกียรติยศให้ชนรุ่นหลังได้หาความรู้และรำลึก ถึง แต่สำหรับศาสตราจารย์เพาซ์ งานชิ้นนี้เปรียบเสมือนมรดกชิ้นสุดท้ายในชีวิตของเขาจริงๆ ก่อนจะลาโลก โดยเพาซ์เลือกที่จะนำเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คนที่ผ่านเข้าในชีวิตของเขา -ประสบการณ์-ฝันในวัยเยาว์ มาถ่ายทอดแทนที่จะบรรยายเรื่องเกี่ยวกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่เขาชำนาญ อย่างที่เคยทำมา โดยหวังจะมอบสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดที่เขาจะทำได้ในวาระสุดท้ายให้กับผู้ฟัง ทุกคนร่วมถึงลูกๆ ของเขาที่อาจจะกลับมาดูเทปบรรยายการทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายของพ่อ เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น
      
        เมื่อดิฉันได้อ่านหนังสือเรื่อง The last lecture ฉับพลันก็ทำให้นึกถึงภาพกระดาษทดประเด็นบรรยายในมือของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ในเช้าวันศุกร์ที่ 17 เมษายน วันที่คนข่าววัยกว่า 60 ปี กำลังเดินทางออกจากบ้าน เตรียมจะมาเข้ารายการ “Good Morning Thailand” ตามปกติ แต่กลับถูกผู้ร้าย (ที่คาดว่าจะไม่ใช่คน) ยิงถล่มระหว่างทาง แต่เพราะพระ (คุณงามความดี) คุ้มครอง ทำให้คุณสนธิและพี่น้องที่ร่วมขบวนรถได้รับบาดเจ็บหายเป็นปกติเมื่อได้รับ การรักษาจากคณะแพทย์ได้อย่างทันท่วงทีในเวลาต่อมา และไม่ว่าใครคือผู้บงการเบื้องหลังเหตุการณ์ลอบสังหาร เป้าหมายของพวกมันเห็นได้ชัดว่าต้องการจะคุกคามสื่อมวลชนทั้งที่ในอีกไม่กี่ วันข้างหน้าก็จะถึง “วันเสรีภาพสื่อโลก” (3 พฤษภาคม)
      
        สำหรับตัวผู้บงการ “ฆ่า” คงเสียใจไม่น้อยที่ไม่อาจจะทำให้กระดาษทดประเด็นแผ่นนั้นเป็น “บทบรรยายชิ้นสุดท้าย” ได้ แต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม ก็คือ ยิ่งพยายามที่จะหยุดการทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชนในเครือผู้จัดการมากเท่า ไหร่ กลับจะยิ่งทำให้คนข่าวที่นี่ผนึกกำลังกันรายงานข้อเท็จจริงและช่วยกันจุด เทียนสร้างความสว่างไสวให้กับสังคมมากยิ่งขึ้น
      
        ต้องไม่ลืมว่าสื่อที่ประกาศตัวอยู่ตรงข้ามอำนาจที่ฉ้อฉลอย่างสื่อในเครือผู้ จัดการ ล้วนผ่านสถานการณ์ที่ทั้งถูกคุกคามและบีบคั้นในการทำงานมานักต่อนัก เว็บไซต์เคยถูกผู้มีอำนาจรัฐใช้ช่องทางซิกแซกในการสั่งปิด สถานีโทรทัศน์เคยถูกรัฐบาลใช้อำนาจผ่านกรมประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้าภูมิภาค สั่งยุติการถ่ายทอดสัญญาณ ถูกถล่มด้วยอาวุธสงคราม ถูกขู่จะวางเพลิงหลายต่อหลายครั้ง แต่คนที่นี้ก็ยังมีเจตนารมณ์อันหนักแน่น ในการจะทำงานบนพื้นฐานแรงบันดาลใจเดียวกันกับที่ศาสตราจารย์ ดร.แรนดี้ เพาซ์ ได้กระทำเป็นตัวอย่างไว้ นั่นคือ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดเสมือนเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้ทำ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ก็ตาม
      
        ถึง วันนี้ เชื่อเหลือเกินว่า ทุกคนคงกำลังรอการกลับมาอีกครั้งของบทเพลงอันแสนไพเราะ What a wonderful world จะแปลกอะไรเล่าถ้าเราจะเดินหน้า ทำหน้าที่ของเราต่อไปเพราะเราปรารถนา จะได้เห็นโลกที่สวยงาม การเมืองใหม่ และอนาคตที่สวยงามของแผ่นดินแม่...
      
       “what a wonderful world”
      
       I see trees of green........ red roses too
       I see em bloom..... for me and for you
       And I think to myself.... what a wonderful world.
      
       I see skies of blue..... clouds of white
       Bright blessed days....dark sacred nights
       And I think to myself .....what a wonderful world.
      
       The colors of a rainbow.....so pretty ..in the sky
       Are also on the faces.....of people ..going by
       I see friends shaking hands.....sayin.. how do you do
       Theyre really sayin......i love you.
      
       I hear babies cry...... I watch them grow
       Theyll learn much more.....than Ill never know
       And I think to myself .....what a wonderful world
      
       The colors of a rainbow.....so pretty ..in the sky
       Are there on the faces.....of people ..going by
       I see friends shaking hands.....sayin.. how do you do
       Theyre really sayin...*spoken*(I ....love....you).
      
       I hear babies cry...... I watch them grow
       *spoken*(you know their gonna learn
       A whole lot more than Ill never know)
       And I think to myself .....what a wonderful world
       Yes I think to myself .......what a wonderful world.


http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000048522

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น