ไมโครซอฟท์ (Microsoft)
ประกาศพร้อมเต็มที่สำหรับการให้บริการแอนตี้ไวรัสฟรีชื่อรหัส "Morro"
เพื่อคอมพิวเตอร์พีซีทุกเครื่องที่ใช้วินโดวส์ถูกกฎหมาย
ท่ามกลางการจับตาของหลายฝ่ายเนื่องจากบริการดังกล่าวอาจทำให้ค่ายแอนตี้
ไวรัสยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างไซแมนเทค (Symantec) และแมคอาฟี (McAfee)
ต้องสูญเสียลูกค้ารายย่อยไปก็ได้
ประชาสัมพันธ์ไมโครซอฟท์ให้สัมภาษณ์ว่า
ไมโครซอฟท์กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัส Morro
เวอร์ชันล่าสุดในกลุ่มพนักงาน
คาดว่าเวอร์ชันดังกล่าวจะผ่านการทดสอบจนสามารถเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปร่วมทดสอบ
ในนาม Morro เบต้าเวอร์ชัน (beta) ในเร็ววันนี้
ประชาสัมพันธ์ไมโครซอฟท์ระบุว่าซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรีของ
ไมโครซอฟท์จะเปิดให้ลูกค้าไมโครซอฟท์ทุกคนดาวน์โหลดที่เว็บไซต์ของ
ไมโครซอฟท์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
แต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลกรอบเวลาในการให้บริการที่แน่นอนได้ในขณะนี้
ทันที ที่ข่าวความเคลื่อนไหวของไมโครซอฟท์แพร่กระจายออกไป
มูลค่าหุ้นของไซแมนเทคดีดตัวลดลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ที่ตลาดแนสแดค
เช่นเดียวกับหุ้นแมคอาฟีที่ลดลง 1.3 เปอร์เซ็นต์ ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก
สวนทางกับมูลค่าหุ้นไมโครซอฟท์ที่เพิ่มขึ้น 2.1 เปอร์เซ็นต์
Morro เป็นชื่อรหัสบริการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ของไมโครซอฟท์
ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการอันดับหนึ่งของโลก
นักลงทุนหวั่นเกรงว่าการให้บริการ Morro
ฟรีของไมโครซอฟท์จะส่งผลกระทบต่อยอดขายผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัสเบอร์หนึ่งและ
สองอย่างไซแมนเทคและแมคอาฟี รวมถึงค่ายแอนตี้ไวรัสรายอื่นๆ
ซึ่งมีรายได้หลักจากการจำหน่ายซอฟต์แวร์กันภัยร้ายจากเหล่านักโจรกรรมข้อมูล
ซึ่งจำเป็นต้องติดตั้งในเครื่องพีซีทุกเครื่อง
ไมโครซอฟท์เคยให้ข้อมูลว่า Morro
จะให้บริการฟีเจอร์พื้นฐานเพื่อให้คอมพิวเตอร์พีซีมี"ภูมิคุ้มกัน"สำหรับ
ต่อสู้กับไวรัสซึ่งแพร่ระบาดในวงกว้าง
ซึ่งหลายฝ่ายนำไปเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์พื้นฐานของไซแมนเทคและแมคอาฟี
สำหรับผู้บริโภคโลว์เอนด์ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 40 เหรียญสหรัฐฯ
หรือประมาณ 1,400 บาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม
รายได้หลักของไซแมนเทคและแมคอาฟีไม่ได้มาจากกลุ่มโลว์เอนด์
แต่มาจากชุดรักษาความปลอดภัยซึ่งมีความสามารถในการป้องกันภัยฟิชชิ่ง
หรือการลวงให้ผู้ใช้ใส่ข้อมูลความลับลงในเว็บไซต์ปลอม
ด้วยการให้ฟีเจอร์เข้ารหัสข้อมูล ไฟร์วอลล์ ปกป้องรหัสผ่าน
และสำรองข้อมูล
นี่ ไม่ใช่ครั้งแรกในวงการแอนตี้ไวรัสของไมโครซอฟท์
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์เคยแหย่เท้าลงมาในตลาดนี้ด้วยการส่ง "OneCare"
ซึ่งครั้งหนึ่งไมโครซอฟท์เคยให้บริการแบบคิดค่าใช้จ่ายแต่ไม่เป็นที่นิยม
โดย Morro นั้นถูกบรรจุเป็นหนึ่งในแผนของ OneCare
ซึ่งในขณะนั้นมีการกำหนดกรอบเวลาไว้ที่ปลายปี 2009
เชื่อว่านักวิเคราะห์ทั้งหลายกำลังรอพบกับ Morro เวอร์ชันทดลอง
เพื่อจะได้รับรู้ฟีเจอรที่แท้จริงว่าจะสามารถแข่งขันกับซอฟต์แวร์แอนตี้
ไวรัสในตลาดขณะนี้ได้หรือไม่ โดยก่อนหน้านี้
ไมโครซอฟท์ประกาศว่าจะพัฒนาให้ Morro
สามารถป้องกันซอฟต์แวร์อันตรายได้หลายรูปแบบ ทั้งไวรัส สปายแวร์ รูทคิตส์
และโทรจัน
แน่นอนว่าตัวแทนทั้งไซแมนเทคและแมคอาฟีต่างออกมาแสดงความเห็นว่า
Morro ไม่ใช่ภัยคุกคามที่สามารถเขย่าบัลลังก์ในตลาดแอนตี้ไวรัสได้ง่ายๆ
เจนิซ ชาฟฟิน (Janice Chaffin)
ประธานฝ่ายลูกค้าคอนซูเมอร์ของไซแมนเทคถึงกับบอกว่า Morro เป็นร่างทรงของ
OneCare ที่ไมโครซอฟท์จะโละออกจากร้าน
โดยบอกว่าชุดรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบคือสิ่งที่ผู้บริโภค
ทุกวันนี้ต้องการ เพื่อการถูกปกป้องแบบครบวงจร
ฝ่ายจอริส เอเวอร์ส (Joris Evers)
ประชาสัมพันธ์แมคอาฟีกล่าวในเชิงว่าแมคอาฟีสามารถยืนหยัดได้สวยงามท่ามกลาง
ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรีหลากชนิดอยู่แล้ว หากเพิ่ม Morro
ขึ้นมาอีกรายก็คงไม่ต่างกัน
ไม่มีรายงานความเห็นจากประชาสัมพันธ์เทรนด์ไมโคร (Trend Micro)
บริษัทแอนตี้ไวรัสอันดับ 3 ของสหรัฐฯ
Company Related Links :
Microsoft
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น