++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ปัญญาแกนพันธมิตรฯ

โดย สันติ ตั้งรพีพากร 23 มิถุนายน 2552 12:55 น.
ในการสร้างการเมืองใหม่
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องสร้างปัญญาแกนขึ้นมาให้ได้

ปัญญาแกนก็คือปัญญาใหญ่ที่เป็น "แก่นแกน" ของระบบปัญญารวมในสังคม
ที่นำพาคนในสังคมคิดและทำ อยู่ในฐานะแก่นแกนทางวัฒนธรรมระดับชาติ

ในอดีตก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475
มีปัญญาแกนสะท้อนโลกทัศน์ของเจ้าศักดินาเป็นหลัก แต่พอหลังจากนั้น
อำนาจปกครองแตกเป็นเสี่ยง กระจายไปอยู่ในมือของกลุ่มอำนาจที่เรียกว่า
"อำมาตย์" เสียส่วนใหญ่ บวกกับการไหลบ่าเข้าของอำนาจครอบงำจากโลกตะวันตก
ตามช่องทางและสายเชื่อมต่างๆ อย่างหลากหลาย ในรูปของความคิด
ค่านิยมสมัยใหม่ สะท้อนวิสัยทัศน์ทุนนิยม
แต่ปัญญาคร่ำครึของกลุ่มอำมาตย์กับปัญญาต่างด้าวจากตะวันตกเข้ากันไม่ได้และ
กินกันไม่ลง กระจัดกระจาย กลายเป็น "ปัญญาฝอย" ลอยฟุ้งไปทั่ว

พัฒนาการสังคมไทยหลังจากนั้นจึงวนเวียนและเวียนวน เหมือนคนตาบอด
หาหนทางไปไม่เจอ จวบจนทุกวันนี้

จากนี้พอจะเห็นได้ว่า อำนาจกับปัญญาเป็นของคู่กัน
เป็นคนละด้านของเหรียญเดียวกัน

บัดนี้ อำนาจประชาชนโดยการนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ก่อตัวขึ้นมาตาม
ความเรียกร้องต้องการของประชาชน และตามกฎเกณฑ์พัฒนาการทางประวัติศาสตร์
และได้แสดงตัวเป็นอำนาจกำหนดใหม่ทางการเมืองและสังคมไทยอย่างเด่นชัด
เพราะเป็นอำนาจตื่นรู้ ใช้ปัญญาชี้นำ มุ่งจุดเทียนปัญญาให้แก่มวลมหาชน
มีจุดหมายที่จะนำประเทศชาติและประชาชนออกไปให้พันจากวังวนที่เป็นอยู่ทุก
วันนี้ให้สำเร็จเป็นจริงในเร็ววัน

เพื่อภารกิจทางประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่นี้
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงต้องสร้างและพัฒนาปัญญาแกนของตนขึ้นมา
หาไม่แล้ว อำนาจประชาชนก็จะเสื่อมสลาย ขบวนการการเมืองภาคประชาชนก็จะฝ่อ
การเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยก็จะถูกเลื่อนออกไปอีกหลายสิบปี

จากบทเรียนในอดีต เราพบว่า "ปัญญาฝอย" ช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
ผิวเผินได้ แต่แก้ปัญหาใหญ่ๆ ระยะยาวๆ ในระดับองค์รวมไม่ได้ ด้วยเหตุนี้
คนไทยหลังปี 2475 จึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาระดับชาติได้แบบเบ็ดเสร็จ
ไม่สามารถทำให้สังคมไทยร่มเย็นได้จริง

ดังนั้น การแก้ไขปัญหาประเทศชาติครั้งนี้ของชาวพันธมิตรฯ
(ในฐานะแกนนำของขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่แสดงตนเป็นเจ้าภาพเปลี่ยนแปลง
ประเทศไทย) จึงต้องใช้ปัญญาแกน ตั้งแต่เริ่มต้น
โดยเน้นสร้างความเป็นปึกแผ่นภายในพันธมิตรฯ เป็นเบื้องต้น

น่าดีใจที่ปัจจุบันนี้ ปัญญาแกนของชาวพันธมิตรฯ
ได้ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
บนฐานองค์ความรู้จากการต่อสู้ของมวลมหาชนชาวพันธมิตรฯ
ภายใต้การนำของแกนนำทั้ง 5 หลายระลอกด้วยกัน
โดยเฉพาะจากการเคลื่อนไหวชุมนุมอย่างยืดเยื้อ 193 วัน

ปัญญาแกนพันธมิตรฯ มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ ดังนี้

1. จิตใจ ได้แก่ ความเสียสละ กล้าหาญ ซื่อสัตย์ และทุ่มเท
(สุดความสามารถ) ซึ่งได้ปรากฏออกมาเป็นคุณลักษณะของ "คนพันธมิตรฯ" ( "ดี"
และ "มีความสามารถ")

2. ภูมิปัญญา ได้แก่

2.1 การเมืองใหม่ เป็นอุดมการณ์หรือ "ธง"
คอยชี้นำให้พัฒนาแนวคิดแก้ไขปัญหาของชาติในทุกระยะของการต่อสู้
โดยปรากฏออกมาในรูปของวิสัยทัศน์ แนวคิด และนโยบายรูปธรรมต่างๆ
สำหรับแก้ไขปัญหาของชาติ ตลอดจนแนวนโยบายสร้างชาติอย่างรอบด้านด้วย
ซึ่งบัดนี้ ได้ก้าวถึงขั้นการตั้งพรรคการเมืองใหม่แล้ว

2.2 อำนาจปัญญา เป็นอำนาจประชาชนที่เกิดจากการ "จุดเทียนปัญญา"
เป็นเนื้อหาสาระหลักของ "อำนาจกำหนดใหม่"
ที่จะต่อสู้ห้ำหั่นเอาชนะอำนาจกำหนดเก่า
ล้างการเมืองเก่าและสร้างการเมืองใหม่
เป็นส่วนที่แสดงความเป็นตัวเป็นตนของภูมิปัญญาชาวพันธมิตรฯ มากที่สุด

2.3 ประชาธิปไตยมวลมหาชน เป็นระบบกลไกชั้นเยี่ยมที่ชาวพันธมิตรฯ
ร่วมกันประดิษฐ์คิดสร้างขึ้นมาในท่ามกลางการเคลื่อนไหวต่อสู้
ทำหน้าที่ขับเคลื่อนกระบวนการใช้อำนาจภายในของพันธมิตรฯ
ที่มวลประชามหาชนเบื้องล่างเป็นผู้กำกับการใช้อำนาจของแกนนำเบื้องบน
ในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น การลงมติในสภาพันธมิตรฯ
และการขอฉันทานุมัติในที่ชุมนุมใหญ่ ก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ
เมื่อวันที่ 24-25 พ.ค. ที่ผ่านมา อยู่ในฐานะเป็น "หัวใจ"
ของการเมืองใหม่
และจะเป็นรูปแบบประชาธิปไตยใหม่ในระบบรัฐสภาของการเมืองใหม่ในอนาคต

3. ท่วงทำนอง หรือวิธีคิดวิธีการทำงานของชาวพันธมิตรฯ ประกอบด้วย

3.1 ไม่ตัดอดีต มองเห็นอดีตที่ผ่านมาแบบต่อเนื่องดุจสายน้ำ
เข้าใจเหตุปัจจัยของความเป็นมาอย่างถูกต้อง สอดคล้องกับความเป็นจริง
ที่สำคัญคือมองเห็นความเชื่อมโยงของสิ่งดีๆ ของอดีตกับปัจจุบัน
สามารถเก็บรับสิ่งดีๆ สานต่อสิ่งดีๆ ไม่ทิ้งสิ่งดีๆ ไปในระหว่างทาง

การไม่ตัดอดีต
ตีความกว้างครอบคลุมถึงสิ่งสืบทอดทางประวัติศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งของบรรพบุรุษชาวไทย และบรรพบุรุษของมวลมนุษยชาติ

3.2 ไม่จำนนปัจจุบัน หลักๆ
คือสามารถมองเห็นภาพรวมทั้งหมดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หรือ
"มองเห็นป่าทั้งป่า"
มองเห็นปมปัญหาที่เป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดที่จะต้องร่วมกันลงแรงแก้ไขให้ตกไป
ซึ่งจะทำให้เรามองเห็นทางออกเสมอ

3.3 ยึดมั่นอนาคต อีกนัยหนึ่งก็คือ ยึดมั่นในอุดมการณ์
ปัจจุบันก็คือ "การเมืองใหม่" ซึ่งเป็น "ธง" โบกไสวโดดเด่นอยู่เบื้องหน้า
ทำให้เราไม่ย่อท้อ หรือหลงทิศผิดทาง

"ปัญญาแกน" นี้ ไม่เพียงแต่จะค้ำจุนให้พันธมิตรฯ
เข้มแข็งเกรียงไกรเท่านั้น
แต่จะสามารถค้ำจุนให้ประเทศไทยเข้มแข็งเกรียงไกรด้วยเช่นเดียวกัน
ในทันทีที่การเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ
ได้รับการสถาปนาขึ้นแทนที่การเมืองเก่า

เมื่อ นั้น สังคมไทยก็จะหลุดพ้นจากสภาพการใช้ "ปัญญาฝอย"
แก้ปัญหาชาติ ปัญหาวิกฤตร้ายแรงก็จะได้รับการแก้ไขให้ตกไป
และก้าวเข้าสู่ยุคเฟื่องฟูได้สำเร็จ ด้วยพลานุภาพของ "ปัญญาแกน"
ที่เริ่มต้นจากพวกเราชาวพันธมิตรฯ

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000070750

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น