++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

น้องผมเข้าโรงพยาบาลเพราะหมูปิ้งครับ

---------- Forwarded message ----------
From: T Saensuk
Date: Apr 27, 2009 10:25 AM
Subject: น้องผมเข้าโรงพยาบาลเพราะหมูปิ้งครับ]
To:


Subject: น้องผมเข้าโรงพยาบาลเพราะหมูปิ้งครับ]

มีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟังครับ ผมมีรุ่นน้องคนนึงสนิทกันมาก
ทุกๆวันเสาร์เค้าจะมาบ้านผม มีอยู่สัปดาห์นึงน้องเค้าไม่มา
ผมก็นึกว่าเค้าคงไม่ว่างหรือไปกับที่บ้าน เลยไม่ได้โทรไป
5วันผ่านไปน้องคนนี้ก็ยังเงียบไม่มีการติดต่อ
(ปกติไม่ผมก็เค้าจะโทรมาคุยกันเสมอ) จนแม่น้องภาแปลกใจ จึงโทรไปหา ปรากฏว่า
น้องเค้าเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากอาหารเป็นพิษ อาการหนักขนาดนอน ICU 2คืน
ให้ยาผ่านสายน้ำเกลือ วันที่โทรไปนี่เค้าจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว
พอเค้ากลับมาพักฟื้นที่บ้าน ผมก็โทรไปหา จึงรู้เรื่องว่า
เย็นวันเสาร์ก่อนเลิกงาน น้องคนนี้ไปซื้อหมูปิ้งที่หน้าโรงงานมากินกับเพื่อน
รวมทั้งหมด4คน กินไปคนละ3-4ไม้ กับข้าวเหนียวคนละห่อ
แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่รุ่นน้องผมเค้ายังต้องอยู่เคลียร์งานอีกนิดหน่อย
หลังจากที่กินหมูปิ้งกับข้าวเหนียวไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
รุ่นน้องผมก็เริ่มมีอาการท้องใส้ปั่นป่วน
จึงเก็บของแล้วขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ที่ทำงานอยู่พระราม7 บ้านอยู่บางโพ
ก็ถือว่าไม่ไกลมาก แค่10นาทีก็ถึง พอน้องเค้าขี่ไปได้ซักป้ายรถเมล์เดียว
ก็เกิดอาการมึนหัวมากๆ อยากอ้วก(ขออภัยที่ต้องใช้คำไม่สุภาพนะครับ
เนื่องจากจะให้เห็นอาการว่ารุนแรงมากครับ) เค้าจึงจอดรถ
ถอดหมวกแล้วค่อยๆลงจากรถ พอลงมาได้ก็อ้วกเต็มถนนเลย พออ้วกเสร็จ
ก็รู้สึกดีขึ้น จึงรีบขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน พดถึงบ้าน
น้องเค้าก็บอกพ่อกับแม่ว่าสงสัยไม่สบาย มึนหัวมาก
แล้วก็เดินเข้าไปอ้วกในห้องน้ำอีกที แล้วก็เดินกลับมาที่ห้อง พอขึ้นเตียงได้
เค้าก็บอกว่าเค้าวูบไปเลย ไม่รู้สึกตัว
จนดึกน้องชายของรุ่นน้องผมก็เข้ามาในห้อง แรกๆก็ไม่ได้คุยอะไรกัน
แต่น้องชายของรุ่นน้องผมเห็นว่าอาการไม่ดี
รุ่นน้องผมนอนเหงื่อแตกทั้งๆที่ห้องเปิดแอร์อย่างเย็นมากๆ
น้องชายเค้าเลยรีบไปบอกพ่อกับแม่ให้รีบพารุ่นน้องผมไปโรงพยาบาล

พอไปถึงหมอตรวจแล้วบอกว่าความดันต่ำมากต้องให้น้ำเกลือ และต้องนอนดูอาการ
พอกลางดึกอาการทรุดหนังลง หมอจึงเอาเข้าICU ขณะนั้นก็อ้วกออกมาอีกครั้ง
หมอจึงเอาเศษอาหารไปตรวจพบว่าถูกสารพิษ
ยังโชคดีที่เอามาโรงพยาบาลก่อนไม่งั้นไม่รอดแน่ๆ

2วันผ่านไป พออาการดีขึ้นหมอก็ให้ออกจากICU แต่ยังต้องดูอาการอีก2-3วัน
จนวันที่ผมโทรไป น้องเค้ากำลังจะออกจากโรงพยาบาลพอดี  เค้าก็บอกผมว่า
ตอนกลางวันเค้าโทรไปลางานที่โรงงานจึงรู้ว่าเพื่อนอีก3คนที่กินด้วยกันก็เป็นเหมือนกัน
แต่มีคนนึงที่อาการหนักปางตาย ยังไม่ออกจากโรงพยาบาลเลย (5วันไปแล้ว)

สรุปคือทุกคนกินหมูปิ้งร้านเดียวกัน 1ใน4คนไม่ได้กินข้าวเหนียว
ก็ตัดเรื่องข้าวเหนียวไปได้ ดังนั้นก็ต้องมองที่หมูปิ้ง
น้องเค้าเล่าว่าตอนซื้อก็ได้กลิ่นแปลกๆ แต่ไม่ได้คิดอะไร เพราะหิวมาก
เข้าประชุมตั้งแต่11โมง ออกมาตอนบ่าย4โมง เลยไปซื้อมากิน แล้วแยกย้ายกันกลับ
รุ่นน้องผมเป็นคนไปซื้อ ผมก็ถามว่าได้กลิ่นแปลกๆแล้วทำไมยังกิน
หมูมันเน่าหรือปล่าว เค้าก็บอกว่าปกติ ไม่เห็นหมูเขียวหรือหมูเหม็น
แต่ที่บอกว่าได้กลิ่น มันเหมือนกลิ่นยา เท่านั้นแหละ ผมรู้เลย ""ถ่าน""
แน่นอน ผมเลยถามไปว่าเห็นถ่านที่ใส่ในเตาปิ้งไม๊ น้องเค้าบอกว่าเห็น
มันเป็นแผ่นๆแบนๆไม่เป็นก้อนกลมๆ ผมบอกว่านั่นแหละโดนจากถ่านชัวร์
น้องเค้าก็งงว่า มันจะเกิดจากถ่านได้ไง ผมก็บอกว่าได้
เพราะมันคือถ่านที่ทำจากเศษไม้ที่อบยาแล้ว
พูดง่ายๆคือเป็นเศษไม้ที่เหลือจากไม้ที่ทำเฟอร์นิเจอร์
แล้วมีคนเอามาทำถ่านออกขาย

ทำไมผมถึงรู้ เพราะ
เมื่อ2ปีก่อนที่สวนกล้วยไม้ที่บ้านแม่น้องภาก็โดนถ่านแบบนี้มาหลอกขาย
ว่าถ่านแบบนี้จะเบาตาชั่ง อมน้ำดี ไม่ต้องทุบ ใช้ได้เลย
โดยปกติที่สวนจะต้องใช้ถ่านปลูกกล้วยไม้จำพวกแวนด้า และแคทรียาบางพันธุ์
ถ่านที่ใช้จะใช้ถ่านไม้โกงกาง เป็นท่อนๆ มาทุบให้เป็นก้อนๆ
แต่ตอนที่โดนร้านขายถ่านเอามาหลอกขาย มันจะเป็นแบบชิ้นๆแผ่นๆ
ซึ่งตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าถ่านพวกนี้เป็นเศษไม้เฟอร์นิเจอร์ซึ่งอาบน้ำยากันปลวก
และอบน้ำยากันเชื้อรามา ก็เลยเอามาปลูก พิษของมันแรงขนาดที่ยังไม่โดนไฟ
แค่เอากล้วยไม้ลงปลูก ยังรากขาด รากเน่า ต้นแคระแกรน
จนสุดท้ายที่สวนส่งต้นกล้วยไม้ไปตรวจที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
จึงรู้ว่าไม่เกิดจากสายพันธุ์ แต่เกิดจากเครื่องปลูกนั่นก็คือถ่าน
ทางมหาวิทยาลัยยังแจ้งมาว่า ให้เผาทิ้งและต้องทำลายให้หมด
อย่าให้คนงานเอาไปหุงหรือทำอาหารเพราะมันจะมีพิษต่อระบบทางเดินอาหาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น