++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549

"คนกับดินมิใช่สอง"

หลักการรักษาโรคมะเร็งตามแนวปรัชญาจีน

แพทย์จีนถือว่าการเจ็บป่วยไม่ว่าโรคใด ตำแหน่งใด และจะเรียกชื่ออะไรก็ตามเป็นการผิดดุลของพลังฟ้า-ดิน สองขั้วที่วิ่งเข้ามาโคจรบรรจบพบกันในร่างกายคนเรานั้น ไม่ได้สัดส่วนมากน้อยเกินหรือ
วงจรการหมุนเวียนไม่ได้แนวสะดุดช้าหรือเร็วมากเกินไป
อวัยวะในร่างกายก่อนเราเกิดถูกออกแบบและสร้างโครงกระดูก ด้วย
พลังหยิน-หยาง ของฟ้า-ดินผ่านแม่สื่อตัวกลางคือ ครรภ์มารดา ดังนั้น
เมื่อเกิดมาบนโลกพลังที่หล่อเลี้ยงบำรุงเราทุกวันมีพลังหลัก พลังแม่ก็
คือ การวิ่งแนวฟ้า-ดิน

เมื่อใดพลังฟ้า-ดิน-บน-ล่าง เข้าออกผ่านร่างกายเป็นเส้นตรง
สะดวกและทะลุปรุโปร่ง ร่างกายสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตก็จะสบาย กระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา
เมื่อพลังฟ้า-ดินที่พยายามเสาะหาขั้วตรงข้ามผ่าน ร่างกายเราต้องสะดุด ผิดวงจร ช้าหรือเร็วเกิน
เมื่อนั้นเราป่วยเรามีอาการผิดปกติตามอวัยวะที่พลังสะดุด พลังฟ้าแรง
เกิน กดลงล่าง ท้องก็จะร่วง อุจจาระเป็นน้ำ เมื่อใดพลังฟ้าพร่องอ่อน
ในขณะพลังดินแกร่งเกิน พลังหยินจะดันขึ้นเบื้องบน ก็จะมีอาการ อาเจียน ปวดศีรษะ เป็นหวัด
น้ำมูกไหล แพทย์จีนจึงบัญญัติเป็นคำสอนสั่งว่า
พื้นดินกับคนมิใช่สอง แต่เป็นหนึ่งต่อหนึ่งกัน
หมายถึงกฎฟ้า-กฎดิน-กฎของคนเป็นกฎเดียวกัน
ในวิชาฮวงจุ้ยที่คนจีนนิยมดูตำแหน่งที่ตั้งอาคาร
บ้านเรือนว่า ทิศใดเป็นคุณ ทิศใดเป็นโทษ ก็ด้วยอุปกรณ์สำคัญเรียกล่อ-แก เป็นเข็มทิศติดตั้งบนแผ่นไม้หมุนรูป สี่เหลี่ยมภายนอก (คือโลก) วงกลมตรงกลางคือ เข็มทิศ (ฟ้า) การหาตำแหน่งของคนก็คือ
การปรับรูปวงกลมให้ได้ตำแหน่งสมดุลหรือคู่ควรกับตำแหน่งสี่เหลี่ยมแทนโลก หรือพื้นดิน วิธีการของวิชาฮวงจุ้ยนี้เป็นที่ยอมรับและแพร่หลายกันมานับพันปีแล้ว
แต่เราไม่ควรหยุดแค่การใช้วิชาฮวงจุ้ยกับการหาตำแหน่งสมดุลกับบ้าน
เราควรจะพัฒนานำมาใช้กับการรักษาโรคและการปรับดุลพลังในร่างกาย
คนเราได้ดีเช่นกัน ปรัชญาจีนกล่าวว่า คนกับจักรวาลมีธรรมชาติเดียวกัน
ดังนั้น ล่อ-แก เข็มทิศจีนก็น่าที่จะมีประโยชน์ต่อการ
คำนวณพลังให้กับร่างกายสุขภาพคนเราได้
คนเรานั้นมีสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติอาจแบ่งได้ 7 ระดับ

ระดับที่ 1 คือสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวที่สุดคือ สภาวะร่างกายภายในหรือ
(Homeostasis) ระดับเลือด/น้ำตาล/อุณหภูมิสภาพกรด/ด่าง/ปริมาณของเหลว/น้ำและลมหายใจ ฯลฯ
ระดับนี้คือเป็นกุญแจสำคัญที่สุดในการรักษาโรคทุกชนิดเพราะร่างกายมี
สภาวะสิ่งแวดล้อมภายในที่อยู่ใกล้ และอยู่ในการดูแลรับผิดชอบของเรา
ดังนั้น อาหารการกินก็ดี กิจการใดๆ ก็ดี ที่เรากระทำ
ย่อมมีผลโดยตรง และมีความสำคัญของสาเหตุกำเนิดโรคอันดับแรก
ที่เราต้องคำนึงและแก้ไข

ส่วนระดับ 2 ถึง 7 เป็นสิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งเป็นอันดับสำคัญ รอง
ถัดไปจากเสื้อผ้าที่ห่อหุ้มร่างกาย เครื่องประดับตัวสายสร้อย แหวน นาฬิกา รองเท้า เข็มขัด ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งแวดล้อมระดับ 2 ถัดตัว เราออกมา เครื่องประดับกายส่วนมาก
ในปัจจุบันเป็นโลหะ เป็นสารสังเคราะห์หรือเป็นวัสดุที่ก่อให้เกิดประจุ
สังเคราะห์เหนี่ยวนำผิดธรรมชาติเข้าสู่ร่างกาย หรือบางครั้ง เครื่อง
ประดับก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กปิดกั้น พลังฟ้า-ดิน ธรรมชาติมิให้ไหลบรรจบพบกันได้สะดวก
จึงเกิดการสะดุดหรือลัดวงจรต่อร่างกายได้

ทัศนคติของคนในยุคปปัจจุบันกับการรักษาโรค
เนื่องจากสถาบันแพทย์ในประเทศเรานี้ ได้รับอิทธิพล
จากตะวันตกอย่างเต็มที่ การรักษาพยาบาลคนไข้จึง
ถูกกำหนดและใช้ภาษาทั้งระบบของแพทย์วิทยาการ
สมัยใหม่ ความคิดเรื่องวิธีการรักษาจึงมีหลายวิธีตั้งแต่การรับประทานยา การผ่าตัด การฉายแสง
การรับประทานยาสมุนไพร การรดน้ำมนต์ การสะเดาะเคราะห์ การเข้าทรง
การนั่งสมาธิ การรับประทานผลไม้ล้วนๆ ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีวิธีการอีกมากมายล้วนแต่อ้างเหตุผลสนับสนุนว่าเป็นการรักษาที่ดีที่สุด
แต่วิธีการทั้งหลายที่กล่าวมานี้ หากเราหันมาเข้าใจ วงจรพลังทั้ง 7 ระดับในธรรมชาติ เราก็จะลดความสับสนลง
เพราะแต่ละวิธีล้วนเป็นไปได้ขึ้นอยู่ว่าเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมระดับใด เป็นการบำบัด
พลังในร่างกายขั้น 3 ขั้น คลื่นจิตและสนามแม่เหล็ก ซึ่งยังห่างไกลจากพลังขั้น 7 ที่มีพลังเลือดที่ได้รับมาจากสารอาหารเป็น
พื้นฐานการฝึกสมาธิจะบำบัดได้ก็ต่อเนื่องเมื่อผู้ป่วยปรับปรุงเรื่องอาหาร
การกินเป็นหลักก่อนแล้วเสริมด้วยการฝึกสมาธิจึงจะเป็นผล คนไข้ปวดท้องเพราะอาหารเป็นพิษ ไม่มีจิตใจนั่งสมาธิ
คนเป็นโรคเบาหวาน หากไม่ลดน้ำตาล อารมณ์ยิ่งหงุดหงิด จะนั่งสมาธิคงจะไม่ได้ผลคนป่วยรับประทานยา หรือสมุนไพรก็ควรจะใช้เป็นวิธีการระยะสั้น ชั่ว คราว ไม่ควรใช้นานเกินไป เพราะจะมีผลข้างเคียงดังนั้น จะเห็นได้ว่า ไม่
ว่าการบำบัดรักษาด้วยวิธีใดก็ตาม จะต้องเริ่มต้นที่การควบคุมและปรับ
ดุลอาหารก่อนเป็นหลักวิธีการอื่นจึงเป็นการบำบัดเสริมรวมไปด้วย จึง
จะได้ผลดีกว่า เริ่มต้นด้วยการรับประทานข้าวกล้อง หุงด้วยหม้อดิน แช่ค้างคืน
ใส่เกลือทะเลเล็กน้อยคลุกข้าวด้วยงาคั่วบดคลุกเกลือ (gomashid) เสริมด้วย
ต้มผัก จับฉ่าย สาหร่ายทะเล ถั่วแดงถั่วดำ ไชโป้ว ผักกาดดองเต้าเจี้ยว จิบน้ำชา อมบ๊วยเสริม
เดินเท้าเปล่าบนสนามหญ้า นอนหันศีรษะไปทาง ทิศเหนือ เพื่อรองรับสนามแม่เหล็กโลกปรับตัวเอง
เหมือนเข็มทิศเพราะกระดูกสันหลังก็คือเข็มทิศที่ธรรมชาติให้ติดตัวมา ขั้วอวัยวะเพศกับขั้วสมอง
เป็นศูนย์รวมประจุไฟฟ้าสถิตในร่างกาย เมื่อเวลานอนตอนกลางคืนเราหันศีรษะขั้วเหนือใต้
เราจะได้รับพลังธรรมชาติบำบัดสูงสุด เหมือนเสาอากาศทีวี ใครนอนไม่
ตรงทิศก็พลาดโอกาส อดรับโบนัสที่ควรจะได้เครื่องอำนวยความสะดวก
ภายในบ้าน สิ่งใดใกล้หรือถูกตัวสัมผัสผิวหนัง เลี่ยงกระแสไฟฟ้าถูกร่างกาย
เตาอบไฟฟ้า อาหารแช่ใน ตู้เย็นนานให้หลีกเลี่ยง อาหารกระป๋องอย่าแตะ สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อประจุสังเคราะห์ ทำลายภูมิ
ต้านทานโรคของร่างกาย ทำให้เราอ่อนแอลง อ่อนเพลียง่าย ความจำเสื่อม ขี้ลืม
ผ้านุ่งห่มใช้ผ้าแพร ผ้าฝ้าย ฝ้าใยธรรมชาติ เลี่ยงใยสังเคราะห์
เลี่ยงการเปิดโทรทัศน์นานในห้อง เลี่ยงผลิตภัณฑ์พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ ฟองน้ำ ปลูกต้นไม้ในกระถางนำ
มาตั้งในห้องเพิ่มความเขียวชอุ่ม เลี่ยงการอาบน้ำแบบรวดเป็นขัด
นานเกินไปอาบน้ำ แช่น้ำนานร่างกายจะสูญเสียเกลือแร่ไปทำให้
อ่อนเพลียง่าย ผมจะหงอกเร็วกว่าปกติ เปิดหน้าต่างให้ลมโกรกได้ ถ่ายเทสะดวกถึงแม้เปิด
แอร์ก็ให้เปิดช่องลมไว้ถ่ายเทอากาศเสีย นำอากาศบริสุทธิ์เข้ามาทดแทนใหม่ได้
ทุกครั้งหลังตื่นนอนให้ใช้ลิ้นดุนเพดานหมุนไปรอบๆ เพื่อช่วยขับน้ำลาย
ออกมา น้ำลายเหล่านี้เมื่อคืนได้สะสม ประจุจากศีรษะสมองลงสู่ลิ้นไก่
ชาร์จน้ำลายเรียบร้อยรอเป็นภูมิประจำตัวประจำวัน หากเราได้
รับพลังจากน้ำลายเคลือบผนังกระเพาะ จะช่วยให้กระเพาะแข็งแรง ย่อยอาหารได้ดี น้ำ
ย่อยก็เข้มข้นด้วย ช่วยเป็นวัตถุดิบอย่างดีที่จะสร้างเม็ดเลือดใหม่ในวัน
ต่อไป การนอนหันทิศเหนือ-ใต้เป็นการรักษาแบบเสริมด้วย
พลังขั้น 3 คือ สนามแม่เหล็กธรรมชาติที่เป็นระดับเดียวกับการฝึกสมาธิ
และการปล่อยวางลดความเครียด และประเด็นสำคัญก่อนนอน 3 ชั่วโมง
มิควรรับประทานอาหารหนัก เพราะร่างกายไม่สามารถย่อยได้เสร็จสมบูรณ์
สารอาหารไม่ได้ใช้ กลายเป็นส่วนเกิน นำไปสู่ต้นเหตุของการเกิดเศษส่วนเกิน
แปรรูปทุกระดับในร่างกาย ทั้งน้ำหนักตัว การนอนกรน
การนอนขบฟัน การนอนน้ำลายไหล การฝันร้าย
การนอนละเมอ ล้วนเป็นสภาวะการรับประทานอาหารผิดมากเกินไป จะ
เห็นได้ว่า ตัวเราหันมาประยุกต์ศาสตร์ของฮวงจุ้ย การหาตำแหน่งที่
เหมาะสมกับภูมิสถาปัตย์เข้ากับร่างกาย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของสิ่งแวดล้อมของพลังในธรรมชาติทั้ง 7 ระดับ
เราจะเข้าใจและหันมาให้ความสำคัญแก่การเลือกรับประทาน และการปรุง
อาหารให้ถูกวิธี แทนที่จะปล่อยโอกาสนี้ คอยแต่หาซื้อยา ตามคำ โฆษณาชวนเชื่อของผู้ผลิต
ผู้หวังค้ากำไรโดยไม่คำนึงถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นต่อชีวิตและสุขภาพของเพื่อนมนุษย์ส่วนรวม
เราจะเข้าใจธาตุแท้ของพื้นฐานระดับจิตใจของคนตะวันตก ต้นกำเนิด
แนวความคิดทุนนิยม ใครจะรักและรู้จักตัวเราดีเท่าเราเรียนรู้เท่าทัน
วิทยาการสมัยใหม่ก่อนจะสายเกินไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น