"ครูแจ้ง คล้ายสีทอง" บรมครูขับกรับ สิ้นใจด้วยอาการหัวใจล้มเหลว
ขณะทำกายภาพบำบัด ที่โรงพยาบาลศิริราช ด้วยวัย 74 ปี ภรรยาและญาติ
เตรียมเคลื่อนศพไว้ที่วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.นางบุญนะ คล้ายสีทอง ภรรยา ครูแจ้ง
คล้ายสีทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (คีตศิลป์) พ.ศ.2538
เปิดเผยว่า ครูแจ้งได้เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยอาการหัวใจล้มเหลวที่โรงพยาบาลศิริราช
ขณะกำลังทำกิจกรรมกายภาพบำบัดจากการเป็นอัมพฤกษ์
ซึ่งทางคณะแพทย์ด้านโรคหัวใจได้วินิจฉัยว่า
เกิดจากอาการเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน ส่งผลให้ระบบหัวใจล้มเหลว
โดยคณะแพทย์ได้ทำการปั๊มหัวใจครูแจ้งอย่างสุดความสามารถแล้ว
แต่ร่างกายครูแจ้งไม่ตอบสนองจึงจากไปอย่างสงบเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.
ทั้งนี้ ครูแจ้งได้เข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบด้านขวาเฉียบพลัน
ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม
ตนคิดว่าจะนำศพครูแจ้งไปบำเพ็ญกุศลยังวัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี
ซึ่งจะมีการกำหนดวันสวดพระอภิธรรมกี่วันอีกครั้ง
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า
ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว
โดยในส่วนกระทรวงวัฒนธรรมจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เนื่องจาก
ครูแจ้ง เป็นศิลปินแห่งชาติ
อยู่ในความดูแลของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ทั้งนี้
ตนขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของบรมครูขับกรับที่ยิ่งใหญ่
ซึ่งประเทศไทยได้สูญเสียปูชนียบุคคลด้านศิลปวัฒนธรรมไปอีกคนหนึ่ง
นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
กล่าวว่า ทางสวช.ขอแสดงความเสียใจกับทางญาติของครูแจ้ง
เพราะถือว่าประเทศไทยได้สูญเสียศิลปินที่มีความสำคัญของประเทศไทยอีกท่าน
หนึ่ง อย่างไรก็ตาม สวช.จะเป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมศพ
พร้อมทั้งมอบเงินค่าจัดพิมพ์หนังสือ 120,000 บาท
และขอพระราชทานเพลิงศพให้ต่อไป
สำหรับประวัติ ครูแจ้งนายแจ้ง คล้ายสีทอง เกิดเมื่อวันที่ 10
มีนาคม 2478 ที่ จ.สุพรรณบุรี จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนวัดโบสถ์ดอนคำแพน และเข้ารับราชการในตำแหน่งคีตศิลปินจัตวา
กรมศิลปากร เนื่องจากครูแจ้งเป็นผู้มีความสามารถในการขับเสภาพร้อมขยับกรับ
ไพเราะหวานหู จนได้รับสมญาว่า "ช่างขับคำหอม" เพราะเสียงดี
ขยับกรับได้ยอดเยี่ยมจนไม่มีใครเทียบ
เป็นนักขับเสภาที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้
ขับเสภาได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถขับบทเสภาเก่าๆ
ที่ถูกลืมกลับมามีชีวิตโดดเด่นจนกระทั่งได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ เช่น
เรื่องขุนช้าง ขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม
นอกจากนี้ ครู
ยังเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาศิลปะการขับกล่อมให้แก่ศิษย์มากมาย
จนได้รับพระราชทานเหรียญราชรุจิ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อคราวขับไม้ประกอบซอสามสายในพระราชพิธีขึ้นระวาง
สมโภชพระศรีนรารัฐราชกิริณี ที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2520
และได้รับพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ในงานพระราชพิธีขึ้นระวาง
และสมโภชช้างสำคัญ 3 เชือกที่ จ.เพชรบุรี ปี 2521
และได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (คีตศิลป์) จาก
สวช. เมื่อปี 2538
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000067837
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น