Theขี้ฝุ่นริมทาง
วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2551
อาหารกับโรคหัวใจ
เมื่อสองอาทิตย์ก่อนได้ พูดถึงเรื่องความอ้วนกับโรคหัวใจ และได้ อธิบายโดยคร่าวๆ ชนิดของโรคหัวใจไว้ 8 ชนิด ซึ่ง 7 ชนิดนั้นไม่เกี่ยวกับความอ้วนเลย แต่ชนิดสุดท้ายคือ โรคหัวใจซึ่งเกิดจากความผิดปกติ ด้านโภชนาการนั้น มีส่วนเกี่ยวกับความอ้วน ได้ตั้งใจไว้ว่าจะพูดถึงโรคหัวใจชนิดนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่บังเอิญมีปัญหาด่วน ซึ่งท่าน ผู้อ่านถามมามากเกี่ยวกับน้ำอาร์.โอ. ต้องรีบตอบ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อาทิตย์นี้จึงขออนุญาตพูดถึงเรื่องโรคหัวใจ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติด้านโภชนาการ
ในหนังสือคู่มือการแพทย์ของ AMA สหรัฐอเมริกาได้ระบุไว้แน่นอนว่า ความอ้วนเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของโรคหัวใจ และโรคหัวใจเกี่ยวแก่ความอ้วน มีสาเหตุย้อนหลังไปถึงการเป็นเบาหวาน การที่มีความดันโลหิตสูง และการที่มีคอเลสเทอรอลในเลือดสูง ได้เคยอธิบายไว้ในไทยรัฐของเราแล้วนะครับว่า คอเลสเทอรอลนั้นมีอยู่ในไขมันแทบ ทุกชนิด แต่ไม่ได้หมายความว่าไขมันทุกอย่างจะมีคอเลสเทอรอลที่เป็นอันตรายต่อหัวใจทุกตัว เราแบ่งไขมันออกเป็นไขมันปานกลาง (LDL) และไขมันเลว (VLDL) ไขมันเลว (VLDL) นั้นส่วนมากเป็นไขมันจากเนื้อสัตว์ กะทิ น้ำมันมะพร้าว และ น้ำมันปาล์ม น้ำมันพวกนี้แหละที่เมื่อสะสมใน ร่างกายมากๆเข้า นอกจากจะทำให้น้ำหนักมากแล้ว ก็ยังเป็นอันตรายต่อหัวใจด้วย ที่เส้นเลือดหัวใจอุดตันก็เพราะไขมันพวกนี้ ที่ร่างกายอ่อนเพลียไม่มีแรง บางคนข้อต่ออักเสบเดินไม่ได้ บางคนน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงลิบ ความดันโลหิตสูง จนเส้นเลือดแตก นี่ก็เพราะไขมันเลว ซึ่งมีคอเลสเทอรอลรวมอยู่ด้วยนั่นเอง การศึกษาเรื่องอันตรายของคอเลสเทอรอลจากไขมันเลวนี้ทำกันมาเกือบ 20 ปีแล้ว แรกทีเดียววงการแพทย์ไม่ค่อยมีใครเชื่อว่าเรื่องของ อาหารหรือโภชนาการจะเป็น สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ แต่เมื่อมีส่วนเกี่ยวข้องของผู้ที่มีน้ำหนักมาก กับการเป็นโรคหัวใจมากขึ้น วงการแพทย์ก็เริ่ม มาสนใจและค้นคว้าเรื่องอาหารและโรคหัวใจ มีแพทย์เห็นด้วยหลายคน และในที่สุดก็มีการ เรียกร้องให้สมาคมโรคหัวใจของอเมริกาออกมา แถลงและให้คำแนะนำเรื่องอาหารที่ถูกต้องแก่ ประชาชน เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน ความนิยมเรื่อง เนื้อนมไข่และฟาสต์ฟู้ด (แฮมเบอร์เกอร์ ฮอทดอก ไอศกรีม เค้ก ช็อกโกแลต และน้ำ อัดลม) กำลังได้ รับความนิยม สูงสุดในอเมริกา ก็ต้องรู้ไว้อย่างหนึ่งว่า เวลาทางการหรือราชการ จะออกกฎหรือแนะนำอะไร ออกมาสำหรับประชาชน นั้น เขาต้องนึกถึงพ่อค้าหรือกลุ่มเศรษฐีเสียก่อน ว่าจะถูกต่อว่าหรือคัดค้านอะไรบ้าง ฉะนั้นคำแนะนำของสมาคมโรคหัวใจเกี่ยวกับอาหารไขมันนั้น จึงออกมาอย่างเกรงใจ พ่อค้าเหลือเกินว่า "ไม่ควรกินอาหารไขมันเกิน 30% ของอาหารทั้งหมด และจะต้องจำกัดคอเลสทอรอลไม่ให้เกิน 300 มก." ถ้ากินอาหารตามคำแนะนำของสมาคมโรคหัวใจของอเมริกาตามนี้ ก็หมายความว่า หนึ่งในสามของอาหารของคุณก็อุดมไปด้วย เนื้อ นม ไข่ ลองนึกถึงภาพก้อนสเต็กเกือบครึ่งกิโล ที่เขาใส่ถาดไม้ ควันฉุยมาตั้งตรงหน้า ที่เรียกกันว่า JUICY STEAK
แล้วพอจะนึกออกไหมครับ ก่อนจะคว้ามีดกับ ส้อมมาตัดชิ้นเนื้อ ได้นั้น คุณอเมริกัน คนนั้นแกต้องกลืนน้ำลายเข้า ไปกี่สิบเอื๊อกกันแน่ ก็เกิดเคสคน ไข้ที่น่าสนใจคนหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นเรื่องโด่งดังทั่วประเทศ คนไข้คนนี้ เป็นพระสอนศาสนา ชื่อ โรเบิต รอแยล อายุ 53 ปี เกิดมีอาการปวดหัวใจอย่างรุนแรง ไปหาแพทย์ โรคหัวใจ ตรวจพบว่า เส้นเลือดกล้ามเนื้อหัวใจเส้นหนึ่งอุดตันถึง 37% แพทย์แนะนำให้เขาคุมอาหารตามสูตรของ สมาคมโรคหัวใจ ให้กินเนื้อ นม ไข่ น้อยลง และให้ออกกำลังกาย อีกสามเดือนต่อมา เขากลับไปหาแพทย์อีก ปรากฏว่าคอเลสเทอรอล ลดลงจาก 390 มก./เดซิลิตร ลงมาเหลือ 360 มก. ซึ่งถึงแม้ จะลดลงได้ 30 มก. แต่ปริมาณคอเลสเทอรอลก็ยังสูงอย่างน่ากลัวอันตรายเช่นเดิม พระองค์นั้นยังคงควบคุมอาหารตามแบบเดิม คือลดไขมันลงเหลือไม่เกิน 30% อีกหนึ่งปี ให้หลัง โรเบิต รอแยล รู้สึกเจ็บหัวใจอย่างรุนแรงอีก เขาจึงกลับไปหาแพทย์ เมื่อตรวจคราวนี้ ปรากฏว่าเส้นเลือดหัวใจอุดตันถึง 77% แม้ว่าเทคนิคการผ่าตัดหัวใจจะพอมีหวังอยู่บ้าง แต่รอแยลก็ยังไม่กล้าเสี่ยง เขาคิดว่ารอความตาย และ ปฏิบัติตัวเรื่องอาหารอย่างเคร่งครัด กว่าเดิมคงจะช่วยได้บ้าง ในขณะเดียวกันก็มีการประกาศว่าได้คิดค้นยาสำหรับแก้ไขคอเลสเทอรอลได้ จากการใช้ กับสัตว์ทดลองปรากฏ ว่า ลดคอเลสเทอรอลได้ผลดีพอสมควร นายแพทย์เดวิด แบลงเกนฮอร์น แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ เซาท์เทิน แคลิฟอร์เนีย จึงได้ทดลองลดคอเลสเทอรอลแก่ คนไข้โรคหัวใจ และใช้การควบคุมอาหารตามคำ แนะนำของสมาคมโรคหัวใจ คือจำกัดไขมันลง เหลือ 30% พร้อมกันไปด้วย ผลปรากฏว่าในจำนวนคนไข้โรคหัวใจทั้งหมด เมื่อได้รับยาลดคอเลสเทอรอลแล้ว ปรากฏว่า มีเพียง 16% ที่อาการอุดตันของเส้นเลือดในหัวใจลดลง อีก 44% ไม่ได้ผล คือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และอีก 40% กลับมีอาการเลวกว่าเดิม ต่อมาอีก 3 ปี ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ก็ได้ ทดลองให้ยาลดคอเลสเทอรอลแก่คนไข้ โรคหัวใจอีกกลุ่มหนึ่ง โดยให้ยาเป็นเวลาถึงสองปีครึ่ง ผล ก็เป็นเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัย แพทย์แคลิฟอร์เนีย คือ คนไข้ส่วนมากมีอาการหนักลง ที่เป็นเช่นนี้พิสูจน์อะไรให้เห็น พิสูจน์ได้ สองอย่าง 1. การที่สมาคมโรคหัวใจ ให้ลดอาหารไขมันเหลือเพียง 30% นั้น ไม่ได้ช่วยอะไรสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจเลย และ 2. ยาลดคอเลสเทอรอลนั้นไม่ได้ช่วยคนไข้หัวใจเลยอีกเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นจะมีทางแก้อย่างไร สมัยนี้การผ่าตัดหัวใจคนไข้มีโอกาสดีขึ้น และปลอดภัย ขึ้นกว่าสมัยก่อน แต่การผ่าตัดหัวใจก็มีข้อเสี่ยง มากมายด้วย ทางออกอย่างอื่นมีหรือไม่ นายแพทย์ดีน ออร์นิช มีคำตอบ ดีน ออร์นิช มีสูตรการรักษาโรคหัวใจด้วย วิธีง่ายๆคือ เน้นที่การปฏิบัติตัวเรื่อง คุมอาหารและออกกำลังกาย เขาไม่เรียกวิธีการของเขาว่า "รักษาโรค หัวใจ" แต่เขาใช้คำว่า "ปรับฟื้นหัวใจให้กลับ คืนดี" (REVERSING HEART DISEASE) หลักการเรื่องอาหารของดีน ออร์นิช ดูเหมือนจะปฏิบัติได้ง่ายมาก คือ เขาจำกัดไขมัน ให้เหลือเพียง 10% เท่านั้น ลดคอเลสเทอรอลให้เหลือเพียง 5 มก. ไข่ให้กินได้เฉพาะไข่ขาว อาหารเนื้อสัตว์ทุกชนิดไม่ให้กินเลย รายละเอียดเกี่ยวแก่การรักษาโรคหัวใจของดีน ออร์นิช ยังมีอีกมากมาย รวมทั้งการ ออกกำลังกายด้วย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ขอบคุณนะค่ะ
ตอบลบ