ความกว้างของหน้าตักองค์พระ ๓๒ เมตร ส่วนสูง ๖๐ เมตร ชื่อบัญชี
วัดอ้อน้อย(ธรรมอิสระ) บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 358-2-20289-2 ธ.นครหลวงไทย
สาขากำแพงแสน โทรศัพท์ 034-204738,034-204823
แฟกซ์ใบโอนเงินมาที่ 034-204818,820
ความกว้างหน้าตักพระ กว้าง ๓๒ เมตร , ความสูง ๖๐ เมตร
ตัวองค์พระเป็น เนื้อทองแดง
ตัวองค์พญานาค เนื้อทองเหลือง
พระเกศ หล่อด้วยโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เงิน
ขอเชิญท่านผู้มีศรัทธา ร่วมกันทำบุญสร้าง พระพุทธรูป ปางนาคปรก ๙ เศียร
ความกว้างของหน้าตักองค์พระ ๓๒ เมตร ส่วนสูง ๖๐ เมตร
ซึ่งโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจาก ความดำริของ หลวงปู่พุทธะอิสระ
(พระสุวิทย์ ธีรธัมโม) แห่งวัดอ้อน้อย(ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
โดยมีจุดประสงค์ จัดสร้างเพื่อถวายพระราชกุศลแด่พ่อหลวงของแผ่นดิน
(ซึ่งเหตุผลที่เลือกเอาปางนาคปรก ๙ เศียร
ตามที่ผู้เขียนได้เคยได้ยินได้ฟังมา พอจะจับใจความได้ดังนี้ว่า)
๙ = เลขประจำแห่งรัชกาล และเป็นเลขมงคล
๓๒ เมตร = อาการแห่งกายครบบริบูรณ์ทั้ง ๓๒ ประการ
๖๐ เมตร = พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองสิริราชย์สมบัติครบ ๖๐ ปี
และ สืบเนื่องแต่เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล
เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ทรงได้ตรัสรู้มาใหม่ๆ ระหว่างนั้นเองพระพุทธองค์
ยังไม่ตัดสินพระทัยแน่นอนว่าจะทรงแสดงธรรมโปรดให้แก่ใคร
(เนื่องด้วยเหตุที่ธรรมที่พระองค์ตรัสรู้ เป็นธรรมที่ละเอียดลุ่มลึก
เกินกว่าสัตว์ผู้มากไปด้วยกิเลสกามจะพึงรู้ตามได้ง่ายๆ)
ภายหลังจากพระองค์ได้ฟังคำอาราธนาธรรมจากท้าวมหาพรหมชื่อ "ท้าวสหัมบดี"
มีใจความว่า "พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้โปรดทรงแสดงธรรม
ขอพระสุคตเจ้าได้โปรดทรงแสดงธรรม
เพราะสัตว์ทั้งหลายจำพวกที่มีธุลีในจักษุน้อยนั้นยังมีอยู่
เพราะเมื่อไม่ได้ฟังธรรมนั้นแล้วย่อมถึงความเสื่อม
ผู้รู้ทั่วถึงธรรมนั้นจักยังมีอยู่"
เมื่อนั้น
สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ทรงพิจารณาสัตว์โลกทั้งหลายด้วยพุทธจักษุ
จึงเปรียบเหล่าสัตว์ทั้งหลายนั้นด้วยดอกบัว 4 เหล่า
ได้ทรงเห็นสัตว์ทั้งหลายที่มีธุลี คือ กิเลส ในจักษุน้อยก็มี ที่มีธุลี
คือ กิเลส ในจักษุมากก็มี ที่มีอินทรีย์แก่กล้าก็มี
ที่มีอินทรีย์อ่อนก็มี ที่มีอาการดีก็มี ที่มีอาการทรามก็มี
ที่จะสอนให้รู้ธรรมได้ง่ายก็มีที่จะสอนให้รู้ธรรมได้ยากก็มี
ที่มีปกติเห็นปรโลกและโทษโดยความเป็นภัยอยู่ก็มี...
ครั้นแล้วด้วยพระมหาเมตตากรุณาอันยิ่งของพระพุทธองค์
จึงทรงรับคำทูลอาราธนาครั้งนั้น
เพื่อทรงดำเนินประกาศพระศาสนาเบื้องหน้าสืบต่อไป
ซึ่งตั้งแต่เมื่อพระองค์ทรงได้ตรัสรู้เป็นต้นมานี้
พระองค์ได้เสด็จแปรสถานที่ประทับถึง ๗ แห่ง แห่งละ ๗ วัน เรียกว่า
"เสวยพระวิมุตติสุข" และสถานที่ประทับแห่งที่สามนี้(สัปดาห์ที่ 3) คือ
ใต้ต้นมุจลินทร์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของต้นพระศรีมหาโพธิ์
ทรงเสด็จมาประทับอยู่ที่นี่
ฝนเจือลมหนาวตกพรำตลอดเจ็ดวันไม่ขาดสาย
ท่านผู้รจนาปฐมสมโพธิได้แต่งเล่าเรื่องไว้ว่า
พญานาคชื่อมุจลินทร์ขึ้นจากสระน้ำที่อยู่ในบริเวณแห่งเดียวกันนี้เข้าไปวง
ขนด ๗ รอบ แล้วแผ่พังพานปกพระพุทธเจ้าเพื่อป้องกันลมฝนมิให้พัดและสาดกระเซ็นมาต้องพระ
วรกาย ครั้นฝนหาย ฟ้าสาง พญานาคจึงคลายขนดออก
แล้วจำแลงแปลงเพศเป็นมาณพหนุ่ม
ยืนพนมอัญชลีเฝ้าพระพุทธเจ้าทางเบื้องพระพักตร์
พระพุทธรูปนาคปรกที่พุทธศาสนิกชนสร้างขึ้น
ก็เป็นนิมิตหมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับพระพุทธเจ้า ปางนี้
เป็นปางของพระพุทธรูป ที่มีความเชื่อถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ทางเมตตา
ปกป้องคุ้มภัย จากภยันอันตรายทั้งปวง
ซึ่งพระพุทธรูปปางนี้ยังเป็นภาพที่ใช้สอนคนโดยทางอ้อมได้
คือให้เห็นถึงอานิสงส์ หรือผลดีของเมตตา
เพราะแม้แต่พญางูใหญ่ผู้มีฤทธิ์มากอาศัยอยู่ในสระน้ำใหญ่ ก็ยังขึ้นจากสระ
เข้าไปเฝ้าถวายความอารักขา ปกป้อง แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทั้งนี้ด้วยเป็นพลานุภาพแห่งพระมหากรุณาของพระพุทธองค์โดยแท้
สถานที่ที่จะใช้ประดิษฐานพระพุทธรูป ปางนาคปรกนี้ จะอยู่บริเวณหลัง
หอคุณธรรมฟ้า วัดอ้อน้อย(ธรรมอิสระ)
นอกจากนี้ท่านผู้ที่มีจิตศรัทธาประสงค์ที่จะร่วมสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรก
โดยท่านสามารถจะร่วมบริจาคเป็นเศษโลหะ ทองเหลือง ทองแดง
แก่ทางวัดเพื่อจะทำได้ทำการรวบรวมไว้ใช้สำหรับหล่อพระปางนาคปรกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น