++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

นวด "ลังกาสุกะ" กับเคล็ดลับ "ยี่หร่าดำ"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 กันยายน 2552 07:32 น.
หมอมะนาเซ (เสื้อขาว) ขณะกำลังตรวจอาการผู้ป่วย
อันว่าภูมิปัญญา การนวดของมนุษยโลกนั้นมีมานานนับแต่โบร่ำโบราณ
แต่ละประเทศแต่ละดินแดนก็มีแตกต่างกันไปตามภูมิปัญญาที่สืบต่อกันมาของแต่ละ
ชนชาติ แม้กระทั่งในประเทศเดียวกันเช่นประเทศไทยเอง
ศิลปะภูมิปัญญาการนวดก็แตกต่างกันภูมิภาคเช่นกัน

ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ก็มีภูมิปัญญาด้านการนวดรักษาแบบพื้นถิ่น ซึ่งหากดูเผินแค่กรรมวิธีการนวด
อาจจะมองว่าไม่ต่างจากการนวดในภาคอื่นๆ ของไทย
หากทว่าข้อเด่นเคล็ดลับของการนวดอันเป็นเอกลักษณ์ของ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น อยู่ที่ "น้ำมัน"
ที่สกัดมาจากพืชที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู นั่นก็คือ "ยี่หร่าดำ"

มะนาเซ เจะแน หัวหน้าแผนกการแพทย์แผนไทย รพ.จะแนะ อ.จะแนะ
จ.นราธิวาส ย้อนรอยถึงที่มาของการนวดชนิดนี้ว่า
เดิมที่วิชาการนวดแขนงนี้เป็นองค์ความรู้เฉพาะพื้นถิ่นของคน 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นองค์ความรู้แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน
มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยวัตถุประสงค์หลักของการนวดชนิดนี้
ส่วนใหญ่จะใช้รักษาอาการปวดเมื่อยทั่วไปและใช้สำหรับนวดสตรีหลังคลอดเป็น
หลัก

หน้าตาของเมล็ดยี่หร่าดำ
"ต่อมาเมื่อราวๆ ปี 2549
ผมได้รับงบประมาณก้อนหนึ่งจากสำนักงานสร้างเสริมสุขภาพมุสลิมไทย
ประกอบกับยุทธศาสตร์ของโรงพยาบาลจะแนะ
ที่สนับสนุนให้มีการประยุกต์ภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับการรักษา
เพื่อลดช่องว่างปัญหาที่เกิดมาจากความรุนแรงในพื้นที่
ที่ส่งผลให้ประชาชนรู้สึกไม่ดีต่อหน่วยงานรัฐ
แต่เมื่อเรานำภูมิปัญญาด้านการรักษาแบบท้องถิ่นเข้ามาใช้ในโรงพยาบาล
อย่างเช่นในห้องคลอดของโรงพยาบาล เมื่อเด็กที่คลอดออกมาเป็นชาย
หากพ่อแม่ต้องการให้ทำสุหนัดหรือขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศตามข้อบัญญัติของ
อิสลาม ก็จะมีเจ้าหน้าที่ทำให้เลย และเรายังได้จ้างอุสตาซ
หรือผู้รู้ในศาสนาอิสลาม
มาทำพิธีเปิดปากให้เด็กแรกเกิดตามธรรมเนียมมุสลิมด้วย ซึ่งเมื่อทำเช่นนี้
ประชาชนในพื้นที่ก็จะรู้สึกดีต่อหน่วยงานรัฐ
และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับหน่วยงานรัฐก็จะดีขึ้นเป็นลำดับ

"ผม จึงตัดสินใจนำงบประมาณก้อนนั้น
เพื่อการเฟ้นหาหมอภูมิปัญญาการนวดแบบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หามาได้ 30
คน จากนั้นก็คัดเหลือ 15 คน
แล้วเลือกท่าที่เหมาะสมมาประยุกต์รวมกันเพื่อนำท่าที่เลือกและประยุกต์แล้ว
เหล่านี้ไปใช้ในโรงพยาบาลควบคู่ไปกับการรักษาแบบการแพทย์แผนปัจจุบัน
และได้เรียกชื่อการนวดชนิดนี้เสียใหม่
เพื่อให้คนทั่วไปรับทราบถึงเอกลักษณ์แห่งภูมิปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ก็เลยตั้งชื่อใหม่ว่านวดแบบลังกาสุกะ"

การสาธิตการนวดแบบลังกาสุกะ
หัวหน้าแผนกการแพทย์แผนไทยรายนี้
อธิบายถึงลักษณะพิเศษที่ทำให้การนวดแบบลังกาสุกะ
แตกต่างออกไปจากการการนวดแบบอื่นๆ ว่า อยู่ที่ "น้ำมัน"
ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะอันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ได้จากการนำพืชสมุนไพร 15
ชนิด ต้มรวมกันแล้วใส่ "พระเอก" ของรายการอย่าง "ยี่หร่าดำ" ลงไปด้วย

"ยี่หร่าดำ หรือฮับบะตุซเซาดาอ์ หรือที่บางคนอาจจะรู้จักในชื่อของ
"เทียนดำ" เป็นสมุนไพรที่ถูกใช้เพื่อรักษาโรคมาแต่ครั้งโบร่ำโบราณ
ในพระวจนะของศาสดามูฮัมหมัดองค์ที่ 25 ได้ระบุชัดว่า
สูเจ้าจงใช้ฮับบะตุซเซาดาอ์ มันจำเป็นสำหรับสูเจ้า
ฮับบะตุซเซาดาอ์จะรักษาได้ทุกโรคยกเว้นความแก่และความตาย
ในการนวดแบบท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สืบต่อกันมา
ก็มีการใช้น้ำมันยี่หร่าดำมาใช้เป็นยานวดเพื่อบำบัดอาการเจ็บป่วยด้วย
และในชีวิตประจำวันของคนในท้องถิ่นนี้ หากมีอาการปวดเมื่อยไม่สบายตัว
ส่วนใหญ่มักจะไปหาหมอพื้นบ้านเพื่อไปนวดตำรับนี้กันทั้งนั้น
ทางโรงพยาบาลจึงเล็งเห็นประโยชน์และนำมาปรับใช้ในโรงพยาบาล
ซึ่งขณะนี้เป็นที่นิยมมากในกลุ่มประชาชนในพื้นที่"

การสาธิตการนวดแบบลังกาสุกะ
มะนาเซ ให้ภาพขั้นตอนการรักษาด้วยวิธีการนวดแบบลังกาสุกะ
ภายในโรงพยาบาลจะแนะ ว่า เริ่มลงทะเบียนประวัติผู้ป่วย
และซักอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของผู้ป่วยเหมือนกับทำทะเบียนประวัติในโรงพยาบาล
อื่นๆ ตามปกติ แต่หากว่าผู้ป่วยมีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว
หรือปวดตามข้อด้วยสาเหตุที่ไม่ร้ายแรง
แพทย์ก็จะส่งผู้ป่วยมารับการรักษาด้วยการนวดแบบลังกาสุกะ

"ปกติ การนวดทั้งแบบเชลยศักดิ์และการนวดแบบราชสำนัก
จะเริ่มนวดจากส่วนเท้าก่อน แต่การนวดแบบลังกาสุกะจะแตกต่างออกไป
โดยจะเริ่มจากส่วนหน้าท้องที่บริเวณสะดือก่อน
เพราะเชื่อว่าจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นประสาทต่างๆ จำนวนมาก
ซึ่งสอดคล้องกับวิชาการแพทย์อายุรเวทที่ระบุว่าจุดนี้เป็นจุดกำเนิดของเส้น
ประธานทั้ง 10"

มะนาเซ ยังกล่าวอีกด้วยว่านอกจากการนวดและการใช้น้ำมันนวดแล้ว
การนวดแบบลังกาสุกะยังมี "ตัวช่วย" สำคัญอย่าง "ลูกประคบ"
ที่รวบรวมสมุนไพรที่ออกฤทธิ์ช่วยทางด้านแก้ปวดเมื่อยจำพวกไพล ขมิ้น
ฯลฯและ "หินร้อน" ที่ใช้วางและประคบบริเวณจุดปวด
เพื่อให้ความร้อนช่วยให้น้ำมันยี่หร่าดำที่ถูกต้มผสมกับสมุนไพรสูตรเฉพาะของ
โรงพยาบาล ซึมซาบสู่ร่างกายได้ดีขึ้น

การสาธิตการนวดแบบลังกาสุกะ
"ปัจจุบันการให้บริการ การรักษาแบบการนวดลังกาสุกะ
มีผู้นิยมใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะประชาชนในท้องถิ่นที่จะเชื่อถือองค์ความรู้ด้านนี้
ก็จะเดินทางมาใช้บริการกันเป็นจำนวนมากไม่เว้นแต่ละวัน
ถือเป็นการบูรณาการที่นำเองภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ควบคู่กับการรักษาแบบเดิม
เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ป่วย ทำให้เมื่อป่วยด้วยอาการไม่ร้ายแรง
แค่ปวดเมื่อยหรือปวดข้อธรรมดา
คนไข้ก็สามารถเลือกได้ว่าจะกินยาแผนปัจจุบันหรือเลี่ยงการกินยาด้วยการนวด
แบบลังกาสุกะ และในส่วนของประโยชน์ทางอ้อม
ทางโรงพยาบาลเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชน
ประชาชนก็เข้าหาหน่วยงานรัฐมากขึ้น เกิดความสามัคคีในชุมชน"
หัวหน้าแผนกแพทย์แผนไทยแห่งโรงพยาบาลจะแนะทิ้งท้าย

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000104737

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น