ช่วงนี้กระแส GREEN IT
หรือเทคโนโลยีสีเขียวได้จางหายไปทั้งที่ควรจะเป็นกระแสต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
เพราะ GREEN IT เป็นการเลือกใช้งานอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จัดสรรและลดการใช้พลังงานได้มากที่สุด
ซึ่งทุกองค์กรสามารถ"เพิ่มรายได้จากการลดต้นทุน"ด้วย GREEN IT ที่ว่านี้
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ต้นทุนหลัก ๆ ที่ทุกองค์กรจะต้องเจอในปัจจุบันคือ ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบปรับอากาศ และการเดินทาง รวมทั้งค่าเอกสารและจัดเก็บเอกสาร
ถ้าเราสามารถลดการใช้งานพลังงานเหล่านี้ได้
ก็จะทำให้องค์กรเราเพิ่มรายได้ให้ได้มากขึ้น
นอกจากนั้นยังจะช่วยให้ลดมลพิษที่เกิดขึ้นในโลกนี้ลงไปได้ด้วย
โดยนำเอาเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันมาใช้งานร่วมด้วยและทำให้เกิดประโยชน์
มากที่สุด ผมขอยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่จะทำให้องค์กรลดค่าใช้จ่ายมาให้ดูสัก
5 ข้อนะครับ
1. หันมาใช้งานระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น :
องค์กรสมัยใหม่ส่วนมากจะต้องมีระบบคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์
หรือซอร์ฟแวร์จำนวนมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นระบบอีเมล์ (Email Server)
ระบบจัดเก็บไฟล์ (File Server) หรือระบบบเว็บไซต์ (Web Server) รวม ๆ
แล้วจะต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ (Physical)
เข้ามาให้บริการระบบต่าง ๆ พวกนี้ไม่น้อยกว่า 3 เครื่อง
ซึ่งในส่วนนี้ก็จะต้องเสียค่าจัดการอุปกร์เครื่องแม่ข่าย
ค่าจัดวางอุปกรณ์ ค่าไฟฟ้า หรือแม้กระทั้งค่าจ้างสำหรับผู้ดูแลระบบ เป็น
3 เท่าตามไปด้วย
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ในแง่ของการลดต้นทุน : แต่ถ้าเราหันมาลดต้นทุนโดยใช้งานระบบ
Virtualization หรือระบบคอมพิวเตอร์แบบรวมศูนย์ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย (ฟรี)
เพื่อสร้างคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine) และลดจำนวนเซิร์ฟเวอร์
(Physical) ลง ซอฟต์แวร์บางชนิดอย่างเช่น VMWARE ESXi สามารถรองรับ
Virtual Machine ได้มากถึง 256 เครื่อง ให้อยู่ในเซิร์ฟเวอร์เพียง 1
เครื่องได้ เพื่อที่จะได้ใช้งานเครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ทำให้องค์กรลดค่าเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ค่าไฟฟ้า ค่าแอร์
รวมทั้งค่าที่วางเครื่อง จากที่ต้องใช้เครื่องจำนวน 3 เครื่อง
ลดลงมาเหลือเพียง 1 เครื่อง
ทำให้ค่าใช้จ่ายลงไปได้อย่างมากและรองรับการทำงานได้เต็มที่เหมือนเดิมที่
เดียวเลย
2. เลือกใช้งาน Thin Client : แนวคิดของ Thin Client
เป็นการลดขนาดและคุณสมบัติของเครื่องคอมพิวเตอร์
ชนิดนี้ลงให้เหมาะสมกับงาน โดย Thin Client
จะตัดความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลเช่น ฮาร์ดดิสก์ ออกจากตัวอุปกรณ์
รวมทั้งลดความสามารถของหน่วยประมวลผลและหน่วยความจำลง
หรือบางผู้ผลิตจะมีเพียง จอ Monitor เพียงอย่างเดียว
โดยจะไปใช้งานผ่านเครื่องประมวลผลกลางแทนหรือที่เรียกว่า เซิร์ฟเวอร์ เบส
ซึ่งจะทำการติดตั้งซอฟต์แวร์และระบบปฎิษัติการไว้ที่เครื่องเพื่อให้เครื่อง
Thin Client เข้ามาใช้งานที่เครื่อง เซิร์ฟเวอร์ เบส หรือ
สามารถใช้งานร่วมกับระบบเซิร์ฟเวอร์แบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น
ที่มีอยู่ในองค์กรก็ทำได้
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ในแง่ของการลดต้นทุน :
คงจะได้ผลมากกับองค์การที่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์จำนวนมาก
เพราะว่าต้นทุนของเครื่อง Thin Client มีราคาถูก กินไฟฟ้าน้อย
รวมทั้งการดูแลรักษาทำได้ง่ายดายมาก
ไม่ต้องวุ่นวายในการแก้ปัญหาเรื่องซอฟต์แวร์และระบบปฎิษัติการที่เครื่องผู้
ใช้งาน ในส่วนนี้เราอาจจะสร้างคอมพิวเตอร์เสมือนในระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น
สำหรับพนักงานแต่ละคน โดยพนักงานทำแค่ Remote
ไปที่เครื่องเสมือนของตัวเองที่อยู่ในระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น
เท่านั้นก็จะได้สภาพแวดล้อมเหมือนใช้งานที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป ๆ
เลย ในส่วนนี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องจ่ายผู้ดูแลจำนวนมาก อาจจะมีช่างเทคนิค 1
ท่านดูแล Thin Client ได้ถึง 50 เครื่องในทีเดียว
และเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เสมือนเกิดปัญหาเราสามารถกู้คืนง่าย ๆ
ผ่านฟังก์ชั่น SnapShot ก็จะกลับมาอยู่ในสถานะเดิมในเวลาไม่กี่นาที
ผ่านซอฟท์แวร์จากศูนย์กลางจากที่เดียว
แถมยังประหยัดค่าไฟฟ้าและค่าเดินทางไปดูแลเครื่องพนักงานได้อีก
3. เลือกใช้งานซอฟต์แวร์แบบออนไลน์ : ทุก
วันนี้เราใช้งานระบบอีเมล์ในการส่งข้อมูลไปให้กับลูกค้าอยู่แล้ว
ถ้าเราหันมาใช้งานซอร์ฟแวร์แบบออนไลน์แทนระบบเดิมที่ใช้งานอยู่
เช่นระบบบริหารงานบุคคล (HR Management) พัฒนาระบบเอกสารใบลางานออนไลน์
หรือ ระบบจัดการบริหารจัดการเอกสาร (Document Management) เช่น Microsoft
Sharepoint มาจัดการบริหารระบบไฟล์ข้อมูลขององค์กรทั้งหมดให้อยู่ในรูปแบบ
อิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้กระทั้ง ทำใบเสนอราคาผ่านระบบออน์ไลน์
รวมกับระบบที่มีอยู่ในบริษัทอยู่แล้ว
ก็จะทำให้เราทำงานได้สะดวกรวดเร็วและลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนลงไป
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ในแง่ของการลดต้นทุน :
คงหนีไม่พ้นระหยัดพื้นที่ในการทำงานและค่าเดินทางไปได้อย่างมาก
เพราะว่าทุกอย่างอยู่บนระบบออนไลน์ทำให้สามารถดูจากที่ไหนก็ได้ที่เชื่อมต่อ
กับระบบอินเตอร์เน็ต (Work at Home)
แถมพนักงานยังไม่ต้องเสียค่าน้ำมันรถในช่วงที่น้ำมันแพงเพื่อเข้ามาเพื่อส่ง
ใบลาหรือทำเอกสารเสนอราคา
และประหยัดกระดาษลดการตัดต้นไม้ได้อีกได้ผลดีทั้งองค์กรและธรรมชาติ
4. เปลี่ยนมาใช้ระบบสื่อสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ต :
ส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดต้นทุนมากขึ้นก็คือการสื่อสารและการเดินทาง
เราหันมาเปลี่ยนใช้การโทรศัพท์ผ่านระบบ Internet หรือ Network
แทนการใช้โทรศัพท์ผ่านระบบโครงข่ายทั่วไป
ระบบสื่อสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเรียกว่า VoIP
ในส่วนนี้เราจะเสียค่าใช้จ่ายต่อครั้งต่ำกว่าหรือแทบจะไม่เสียค่าใช้จ่าย
และเมื่อเราเดินทางไปทำงานนอกสำนักงาน ก็สามารถใช้ Soft Phone
ที่ติดตั้งในคอมพิวเตอร์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
เพื่อโทรศัพท์มายังสำนักงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ส่วนถ้าต้องการประชุมแบบเห็นภาพก็สามารถเลือกใช้งานระบบ Video Conference
ที่ทำให้เห็นภาพผู้ร่วมประชุมได้แบบออน์ไลน์เสมือนเราไปนั่งอยู่ในห้อง
ประชุมจริง ๆ เลย
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ในแง่ของการลดต้นทุน : ลองคิดตามนะครับ
ว่าถ้ามีติดต่อกับต่างประเทศหรือต่างจังหวัดบ่อย ๆ และครั้งละนาน ๆ
เราเพียงแค่ไปร้าน Internet แล้วโทรผ่าน Soft Phone
มายังสำนักงาของเราผ่าน ของระบบ VoIP ได้เลย
ไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์ให้กับผู้ให้บริการพื้นฐาน
ซึ่งจะเสียค่าค่าติดตั้งระบบในครั้งแรกเท่านั้น
หรือในกรณีที่ต้องเดินทางหรือต้องการแสดงเอกสารเพื่อประชุมในต่างประเทศหรือ
ต่างจังหวัดก็ต้องศูนย์เสียค่าเดินทางไปร่วมทั้งเวลาในการเดินทางอีก
แต่ถ้าเราใช้งานผ่านระบบ Video Conference
ผู้ร่วมประชุมก็สามารถเห็นเราได้เสมือนเราอยู่ที่ประชุมนั้นเลย
โดยดูผ่านกล้อง Video ในห้องประชุม
แน่นอนแบบนี้อย่างน้อยเราก็มีเวลาในคิดหรือทำงานได้มากขึ้นเพราะว่าเราไม่
ต้องเสียเวลาเดินทาง
5. เลือกอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงาน : ช่วงที่มีกระแส GREEN IT แรก
ๆ ทางผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ
ได้พัฒนาอุปกรณ์ให้รองรับการประหยัดพลังงานลง เช่น อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
(Hard Disk) หยุดหมุนเมื่อไม่ได้ใช้งาน หรือ อุปกรณ์ Network
ที่หยุดจ่ายกระแสไฟฟ้าที่พอร์ทนั้นเมื่อไม่มีการส่งข้อมูลมายังเครื่อง
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การเปลี่ยนมาใช้งาน Wifi แทนการเดินสาย LAN
ที่ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินสาย หรือการจัดเก็บซ่อมแซมสาย LAN
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ในแง่ของการลดต้นทุน :
ถ้าเราเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานเช่นหรือออกแบบมาให้หยุดทำงานได้
เองตอนไม่มีการใช้งาน
ก็จะทำให้เราประหยัดได้ตั้งแต่ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์
เพราะว่าอุปกรณ์ไอที จะมีอายุในการใช้งานได้ประมาณ 3 ปี
ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว
รวมทั้งฟังก์ชั่นที่ไม่ได้ใช้งานก็ไม่ควรจะซื้อเฝื่ออนาคตไว้นะครับ ..
สุดท้ายการเพิ่มรายได้โดยการลดต้นทุน ก็คงต้องพึ่งพาทุกคนในองค์กร
ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกันปิดไฟทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
หรือการช่วยกันลดการใช้กระดาษด้วยใช้ผ่านระบบบริหารจัดการเอกสารออน์ไลน์
หรือโทรศัพท์ผ่านระบบ VoIP หรือ Video Conference
รวมทั้งช่วยกันลดการใช้งานผ่านระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น
เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนฮาร์ดแวร์ และระบบทำความเย็น
เพื่อให้โลกนี้ทำงานน้อยลง .. และน่าอยู่กันมากขึ้น สมกับการเป็น
เทคโนโลยีสีเขียว อย่างแท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น