ครูภูมิปัญญาไทย เป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดความรู้
เพิ่มบทบาทช่วยสอนการทั้งการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย
พร้อมจัดตั้งสมาคมครูภูมิปัญญาไทย
เพื่อทำหน้าที่ศึกษาวิจัยเรื่องภูมิปัญญาไทยในทุกภูมิภาค
เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับภูมิปัญญาไทย และเสนอผลงานนวัตกรรม
วันนี้ (3 ก.ย.) ที่โรงแรม เอส ดี อเวนิว
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) จัดการประชุมสัมมนา
"การยกย่องเชิดชูเกียรติครูภูมิปัญญาไทย" รุ่นที่ 6
พร้อมมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ครูภูมิปัญญาไทย
และมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติแก่ครูภูมิปัญญาไทยรุ่นที่ 6
โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
กล่าวในการบรรยายพิเศษเรื่อง "กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
กับการส่งเสริมภูมิปัญญาไทยในการจัดการศึกษา" ว่า
ศธ.ได้กำหนดนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนครูภูมิปัญญาไทย
โดยจะนำเรื่องภูมิปัญญาไทยกำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พ.ศ.2551 เพื่อปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ภูมิใจในความเป็นไทย
และภูมิปัญญาไทย
และร่วมกันพัฒนาประเทศชาติด้วยการเผยแพร่ภูมิปัญญาไทยสู่สากล
รวมทั้งจะสนับสนุนงบประมาณในการบันทึกองค์ความรู้ภูมิปัญญาไทย
เพื่อนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน นอกจากนี้
จะส่งเสริมให้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทย ณ ภูมิลำเนา
หรือสถานที่ทำงาน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดภูมิปัญญาไทย
โดยปัจจุบันจัดตั้งแล้ว 82 แห่ง
และในอนาคตจะจัดตั้งให้ครบตามจำนวนครูภูมิปัญญาไทยที่มีอยู่
เพราะแต่ละคนมีภูมิความรู้ที่แตกต่างกัน จึงต้องมีศูนย์เฉพาะตัว
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ขณะ เดียวกัน
จะส่งเสริมให้ครูภูมิปัญญาไทย มีบทบาทเพิ่มขึ้นในการเข้าไปช่วยสอน
และถ่ายทอดความรู้ ทั้งการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย
รวมทั้งให้จัดตั้งสมาคมครูภูมิปัญญาไทย
เพื่อทำหน้าที่ศึกษาวิจัยเรื่องภูมิปัญญาไทยในทุกภูมิภาค
และเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และประสบการณ์
ตลอดจนเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับภูมิปัญญาไทย
และส่งเสริมให้มีการเสนอผลงานนวัตกรรมบนพื้นฐานภูมิปัญญาไทย
เพื่อเป็นพลังปัญญาที่จะช่วยพัฒนาการศึกษาของชาติให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานา
อารยประเทศด้วย
นายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) กล่าวว่า
สกศ.ได้ยกย่องเชิดชูเกียรติครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 6 รวม 59 คน
ครอบคลุมทุกภูมิภาค
และในปีนี้มีผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริ
ญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ ทั้งสิ้น 7 คน ได่แก่ 1.
นายมนูญ ใยบัวทอง ด้านการเกษตรกรรม 2.นางเอือม แยบดี
ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม 3.นายสำเนียง ผดุงศิลป์ ด้านศิลปกรรม
4.นายบุญเรือง ยางเครือ ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
5.นายสมภาร บุญซ้อน ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี 6.นายบุญชู จันทรบุตร
ด้านแพทย์แผนไทย และ 7.นายพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา ด้านภาษาและวรรณกรรม
ซึ่งครูภูมิปัญญาไทยเหล่านี้จะมีหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาไทย 9
ด้าน เพื่อการศึกษาและอาชีพ ได้แก่ เกษตรกรรม อุตสาหกรรมและหัตถกรรม
การแพทย์แผนไทย การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กองทุนและธุรกิจชุมชน ศิลปกรรม ภาษาและวรรณกรรม ปรัชญา ศาสนา และประเพณี
และ ด้านโภชนาการ
โดยใช้ภูมิปัญญาไทยเป็นฐานสำคัญของการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการเรียนรู้
แบบภูมิปัญญไทยที่มีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละท้องถิ่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น