++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

อึ้ง! คนไทยออกกำลังกายแค่ 3 ใน 10 น่าเศร้ารณรงค์ 3 ปี กระเตื้องไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กันยายน 2552 17:37 น.
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
อึ้ง! คนไทยออกกำลังกายแค่ 3 ใน 10 คน เหตุผลสุดฮิตไม่มีเวลา
เศร้า 3 ปีผ่านไป เอ็กเซอร์ไซส์เพิ่มไม่ถึง 1% "สธ.-คณะอนุฯ หวัด สสส."
เร่งชวน "ออกกำลังกาย รวมพลังสู้หวัด 2009" งานวิจัย ชี้
แอโรบิกช่วยแอนติบอดีจัดการเชื้อโรคในร่างกายได้มากขึ้น ตะลุยโรดโชว์ทั้ง
ห้าง-หัวลำโพง-รถไฟใต้ดิน

วันที่ 9 กันยายน ที่ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ กระทรวงสาธารณสุข
(สธ.) ร่วมกับ คณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกัน ควบคุม
และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาด ของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงาน "ออกกำลังกาย
รวมพลังสู้หวัด 2009" โดย นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า
ข้อมูล สำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2550 ระบุว่า คนไทยอายุ 11 ปี
ขึ้นไปออกกำลังกาย 29.65% ขณะที่ปี 2547 ออกกำลังกาย 29%
จึงเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1% โดยกีฬาที่นิยม 3 อันดับแรก คือ 1.เดิน 19% 2.วิ่ง
17.78% 3.แอโรบิก 8.05% เหตุผลที่ทำให้ออกกำลังกายมากที่สุด คือ
อยากมีสุขภาพแข็งแรง ส่วนเหตุผลที่ไม่ออกกำลังกายมากที่สุด คือ ไม่มีเวลา
ตนอยากเชิญชวนให้คนไทยออกกำลังกายมากขึ้น
เพราะการออกกำลังกายคือวัคซีนป้องกันโรคได้ดีที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ระบาดอยู่ขณะนี้หรือโรคอื่นๆ

นาย วิทยา กล่าวอีกว่า ขณะนี้น่ายินดีว่า
ห้างสรรพสินค้า/ธุรกิจค้าปลีก 9 แห่ง ร่วมกับ คณะอนุกรรมการ หวัด
สสส.ได้จัดลานอเนกประสงค์เพื่อออกกำลังกาย 150 แห่ง
บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีก
เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการออกกำลังกายได้มากขึ้น
โดยเฉพาะการออกกำลังกายระดับปานกลาง คือ แอโรบิก
ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่เจ็บป่วยง่าย
โดยทั่วไประบบภูมิคุ้มกันทำงาน 2 แบบ คือ
1.อาศัยเซลล์โดยตรงเมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
เม็ดเลือดขาวไปพบเข้าก็จะจับกินทำลายเสีย 2.อาศัยเซลล์โดยอ้อม คือ
เมื่อมีเชื้อโรคเข้ามา ร่างกายจะมีเซลล์เข้าไปทำความรู้จักกับเชื้อโรค
แล้วส่งข้อมูลไปให้เซลล์ที่มีหน้าที่สร้างสารต่อต้าน
และจะสร้างสารขึ้นมาต่อต้าน เรียกว่า แอนติบอดี ซึ่งงานวิจัยจำนวนมาก
ระบุว่า การออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ระดับความหนักปานกลางอย่างสม่ำเสมอ
ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้มแข็งขึ้นได้
เพราะระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น
มีการแตกแขนงของหลอดเลือดในเนื้อเยื่อต่างๆมากขึ้น
เม็ดเลือดขาวหรือแอนติบอดี้ก็สามารถเข้าสู่เนื้อเยื่อได้ง่าย
เมื่อมีเชื้อโรคเข้ามาจะเข้าไปจัดการได้เร็ว

นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า
นอกจากลานอเนกประสงค์เพื่อออกกำลังกายทั้ง 150 แห่งแล้ว
ยังมีกิจกรรมรณรงค์ เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009
ในพื้นที่ชุมชนโดยรอบ การตรวจสุขภาพ ทดสอบสมรรถภาพร่างกายแบบเคลื่อนที่
พร้อมทั้งกิจกรรมโรดโชว์ ไปที่แหล่งชุมชนต่างๆ
โดยนอกจากให้ความรู้เรื่องไข้หวัด 2009 แล้ว
ยังจะแนะนำสถานที่ออกกำลังกายใกล้บ้าน
เพื่อให้คนไทยใช้การออกกำลังกายเป็นยาวิเศษป้องกันโรคไข้หวัด 2009
ซึ่งสถานที่จะไปโรดโชว์ อาทิ สถานีรถไฟฟ้าสยาม วันที่ 18 ก.ย. เดอะมอลล์
บางแค วันที่ 26 ก.ย.เซ็นทรัล ภูเก็ต วันที่ 3 ต.ค.สถานีรถไฟหัวลำโพง
วันที่ 16 ต.ค.สถานีรถไฟใต้ดิน จตุจักร วันที่ 7 พ.ย.นี้

ภายหลังการเปิดงาน นายวิทยา นพ.มงคล ร่วมเต้นแอโรบิก "ผ้าขนหนู"
ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่สามารถใช้ผ้าขนหนูเป็นอุปกรณ์ได้
โดยร่วมเต้นกับ นายสมจิตร จงจอหอ
นักกีฬามวยสากลสมัครเล่นเหรียญทองโอลิมปิก 2008 น.ส.เยาวภา บูรพลชัย
"น้องวิว" นักกีฬาเทควันโดเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2004 และ นายพีระพล
เอื้ออารีกุล พิธีกรรายการกีฬา
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000104709

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น