++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ละครช่อง 7 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ละครช่อง 7 แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2550

ภาพจากละคร กาษา นาคา 8 มิ.ย.2550

เป็นละครยอดนิยมที่หลายคนต้องเฝ้ารอดูครับ
เมื่อมีโอกาสได้ชม ต้องยอมรับว่า ยอดเยี่ยมจริงๆ
และนี้ คือ ภาพจากละครที่ออกอากาศเมื่อ 8 มิ.ย.2550 ครับ

แต่ละฉากสวยๆทั้งนั้น












































































































วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2550

รักแท้แซบหลาย : ละครเกี่ยวกับปลาร้าสนุกๆ ม่วน มัน ฮาถึงใจ แต่แฝงคติชีวิต



เห็นสปอร์ตโฆษณาละครรักแท้แซบหลายทางช่อง 7 มีหลายสัปดาห์ก่อน ที่ป๋อ ณัฐวุฒิ สะกิดใจ ตะโกนว่า "ปลาร้า!!!!" ในขณะที่นอนกลิ้งบนปลาร้าที่เลอะเตียงนอนแล้ว อะไรจะเว่อปานนั้น

รักแท้ แซบหลาย ละคร 7 สี เริ่มออกอากาศ 1 มิ.ย. 2550 ทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ 20.30-22.15 น. มาฉายต่อจากละคน อภิมหึมามหาเศรษฐี

ได้ ป๋อ ณัฐวุฒิ คู่กับ ป๊อก ปิยะธิดา วรมุสิก ที่คนจุดตะเกียงชื่นชอบในบทบาทการแสดงของเธออย่างมาก และเขตต์ คู่กับชมพู่ อารยา

ดูไปไม่กี่ฉากก็ฮาซะแล้ว กับหลายฉากในตลาดสด แม่ค้าทะเลาะตบตีกัน เอาไหปลาร้าทุ่มพื้น แลราดใส่ตัวคู่อริ อีกฝ่ายก็เอาถาดผัด - แกงมาราดใส่คู่อริเหมือนกัน

ดูฉากบู๊ เอ๊ย ทะเลาะตบตีกันในตลาดแล้ว ม่วนหลาย แต่เห็นเอาไหปลาร้าทุ่มพื้น ชักเสียดายเหมือนกัน ดีที่นั่นเป็นปลาร้าปลอมที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะ

"ปลาร้า" แม้จะเหม็น แต่แซบหลาย มีคนชอบกิน และติดใจปลาร้าเยอะแยะ




ได้เห็นป็อก ปิยะธิดา มารับบทแม่ค้าขายปลาร้าที่สู้ชีวิต ไม่ว่าจะรับบทไหน ป๊อกก็ยังสวยใส สวยพริ้งเหมือนเดิม ส่วนป๋อ ณัฐวุฒิ เล่นได้กวนโอ๊ยจริงๆ ลีลาหาเรื่องไม่เบา แต่แบบนี้แหละ ทำให้ละครสนุก

มีอีกคู่ที่รับบทร้าย บิ๊ก ภูชิสะ กับ เกรซ เล่นได้แสบสันดี แต่ 2 คนนี้ ถือว่าได้โอกาสพัฒนาฝีมือการแสดงได้ตลอด เพราะเดี๋ยวมารับบทพระเอก นางเอก เดี๋ยวมารับบทร้ายมั่ง ไม่จำเจดี... เล่นได้ทุกบท รับบทแบบนี้แหละ โผล่ในละครได้ทุกเรื่อง


เรื่องย่อ
ที่มา http://www.ch7.com/website/entertain/drama-actor-sablai.html












บทประพันธ์ โสภี พรรณราย
ควบคุมบทโทรทัศน์ คฑาหัสต์ บุษปะเกศ
บทโทรทัศน์ สถาพร สุชาติ , วลัย บุปผา , จีรนุช เอื้อน้อมจิตต์กุล ,
เจษฎา ปลอดแก้ว
กำกับการแสดง สำรวย รักชาติ




ชมจันทร์ แม่ค้าขายปลาร้าอยู่ที่ตลาดบางสำลี โดยมี กลอย เด็กสาวกำพร้าซึ่งเธอรักเหมือนน้องแท้ๆ เป็นลูกมือช่วยเหลือ ชมจันทร์มีน้องสาวคนเดียวชื่อ เมทินี ทั้งสองกำพร้าพ่อแม่ ชมจันทร์ทำงานส่งเสียน้องสาวด้วยสมบัติของตระกูล คือ สูตรทำปลาร้าของพ่อแม่ จนสามารถส่งเมทินีไปเรียนต่อที่อเมริกาได้ แต่วันหนึ่งชมจันทร์ก็ต้องปวดหัวเมื่อเมทินีได้โทรทางไกลมาบอกว่าจะเดินทางก ลับพร้อมกับ นคร ชายคนรัก และโภคิน อาของนคร และเมทินีได้โกหกครอบครัวของนครว่า ชมจันทร์เป็นนักธุรกิจทำการค้าผ้าไหมส่งนอก เพราะกลัวครอบครัวของนครจะรังเกียจถ้ารู้ว่าพี่สาวขายปลาร้า เมทินีต้องการให้ชมจันทร์เล่นละครเป็นนักธุรกิจ และเช่าบ้านหลังใหญ่เพื่อใช้ต้อนรับเฉพาะเวลาที่นครและโภคินแวะมาที่บ้าน ซึ่งชมจันทร์ไม่เห็นด้วย เพราะเห็นปัญหามากมายรออยู่ แต่จำเป็นต้องช่วยเมทินี

ชมจันทร์เป็นแม่ค้าที่มีลูกค้าอุดหนุนประจำ โดยเฉพาะร้านอาหาร,ร้านส้มตำ จนเป็นที่หมั่นไส้ของแม่ค้าขายข้าวแกง ชื่อ พงา และ แดง ผู้เป็นลูกสาว ทั้งสองแม่ลูกอิจฉาที่ชมจันทร์ขายดี เพราะชมจันทร์มักทำอาหารพิเศษจากปลาร้ามาขายด้วย เพราะลูกค้าจะแย่งกันซื้ออาหาร "ปลาร้า" จนทำให้ข้าวแกงขายไม่ดี สองแม่ลูกจึงพูดจากระทบกระทั่งชมจันทร์กับกลอยเป็นประจำ โดยพยายามบอกกับลูกค้าว่าปลาร้าสกปรกบ้าง มีเชื้อโรคบ้าง ถึงขนาดลงทุนอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ให้ลูกค้าฟัง แต่ก็ไม่มีใครสนใจ ยิ่งเวลาที่ชมจันทร์ทำเมนู "ปลาร้าสับนพเก้าสมุนไพร" ซึ่งขายหมดในพริบตา ชมจันทร์พยายามอดทนแต่บางครั้งก็เกิดมีปากเสียงบ้างโดยเฉพาะกับแดง ซึ่งแต่งตัวโป๊มาช่วยขายเพื่อเรียกลูกค้า เพราะต้องการเลียนแบบ ลำดวน และกานดา สองสาวบาร์ที่เช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ ตลาด

เทวัญ เป็นลูกค้าอีกคนของชมจันทร์ที่แวะมาอุดหนุนปลาร้าสับนพเก้าสมุนไพรเสมอ เทวัญเป็นลูกบุญธรรมของ ครูจิราพร ซึ่งเป็นสาวใหญ่วัยสี่สิบเก้า เป็นครูที่ชาวบ้านนับถือแต่ประวัติครูนั้นไม่มีใครทราบ เพราะครูมาเช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้านใกล้กับตลาดยี่สิบกว่าปีแล้ว เด็กหนุ่มสาวแถวตลาดล้วนเป็นลูกศิษย์ครูจิราพร รวมทั้งชมจันทร์ศิษย์เก่าที่ครูรักที่สุด ครูจิราพรรับเทวัญเด็กวัดเป็นลูกบุญธรรม ส่งเสียจนเทวัญเรียนครูปีสุดท้ายและเทวัญเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณไม่ทำให้ครูผิ ดหวัง

กานดา กับลำดวน เป็นหญิงสาวที่ทำงานบาร์ แต่ด้วยฐานะที่ยากจนและเป็นคนบ้านเดียวกัน ทั้งสองเดินทางมาแสวงโชคในกรุงเทพ โดยกานดามาก่อนเพราะถูกหลอก หลงเชื่อคำหนุ่มจากเมืองกรุง สุดท้ายถูกหลอกไปขายอาเสี่ย จากนั้นแฟนหนุ่มก็หายไปทำให้กานดาเจ็บใจ และด้วยความลำบากจะกลับบ้านต่างจังหวัดก็อายเพราะเป็นฝ่ายหนีมา กานดาต้องการเงินจึงยึดอาชีพเป็นสาวกลางคืน พร้อมลั่นวาจาไว้ว่าต้องรวยถึงจะกลับบ้านนอก เธอเป็นคนคล่องและช่างประจบประแจงจึงมีลูกค้ามาก เมื่อหาเงินได้ก็ทยอยส่งเงินไปให้พ่อแม่ปลูกบ้านแก้ตัวที่ทำให้พ่อแม่อับอาย

ส่วนลำดวนเองก็มีชีวิตไม่ต่างจากกานดา ถูกแฟนหลอกเพราะเป็นคนซื่อ มีนิสัยเรียบร้อย ลำดวนขอมาอยู่กับกานดาเพราะเห็นเพื่อนสามารถทำงานส่งเงินไปสร้างบ้านที่ต่าง จังหวัดแม้จะต้องทำงานเป็นสาวบาร์ก็ตาม ลำดวนทำงานได้ไม่นานก็มีเงินเก็บเป็นแสน อาศัยที่เธอเป็นคนประหยัด ทั้งสองชื่นชมชมจันทร์ทั้งรักและเคารพในฐานะพี่สาว ทั้งสองจึงช่วยปกป้องชมจันทร์จากพวกที่อิจฉาโดยเฉพาะพงากับแดง แม่ลูกนิสัยพอกัน
ชมจันทร์มาปรึกษาครูจิราพรถึงแผนการทั้งหมดที่เมทินีกำหนดไว้ว่ามีพี่สาวไฮโ ซร่ำรวย เพราะมีแฟนเป็นคนรวย หัวสูง ครูจิราพรรับฟังด้วยความสะเทือนใจอยู่ลึกๆ และไม่เห็นด้วย แต่เมื่อรู้ว่าชมจันทร์ต้องทำด้วยความรักน้อง ครูจิราพรจึงยอมเป็นที่ปรึกษาให้


ด้วยเวลาที่กระชั้นชิด ใกล้วันที่เมทินีจะกลับมา ชมจันทร์จึงไปหาเช่าบ้านของ เสี่ยมงคล เศรษฐีเจ้าของที่ดินและตลาดบางสำลี ซึ่งชาวบ้านรวมทั้งบ้านของชมจันทร์อาศัยเช่าจากเสี่ยทั้งหมด เพราะเสี่ยมงคลชอบลงทุนกับที่ดิน สร้างบ้านและตลาดให้เช่า มีคฤหาสน์หลายหลังให้ฝรั่งเช่า แต่เสี่ยเป็นคนขี้เหนียวจึงได้รวยวันรวยคืน เสี่ยมงคล เป็นพ่อม่ายมีลูกสองคน คือ กิตติ กับอินทิรา ซึ่งทั้งสองเอาแต่ใจตัวเองถือว่าร่ำรวยชอบเที่ยวเตร่จนผู้เป็นพ่อเอือมระอาว ่ากล่าวตักเตือนไม่ค่อยได้เป็นไม้แก่ดัดยาก ใช้เงินเก่งแต่เสี่ยพยายามจำกัดวงเงินให้ลูก ทั้งสองไม่ยอมทำงานแบมือขอเงินพ่อตลอดและรอพ่อแบ่งมรดก กิตติมีข้อเสียคือผู้หญิงกับการพนัน ส่วนอินทิรารักสวยรักงามชอบซื้อเพชรและของแบรนด์เนมราคาแพง วันๆ เอาแต่เที่ยวเตร่กลับดึกๆ ดื่นๆ

เสี่ยมงคลเป็นคนทั้งเค็มทั้งงกมาก ค่าเช่าที่ตลาดกับค่าเช่าบ้านต้องตรงต่อเวลาเสมอโดยมีผู้จัดการเป็นคนช่วยทว งหนี้ ชื่อ สมศรี ซึ่งเป็นคนปากจัดและเข้มงวดจึงสามารถเก็บเงินค่าเช่าได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ชมจันทร์ได้มาหาเสี่ยมงคลเพื่อขอเช่าบ้านพักใหญ่โตหรูหราตบแต่งหลายสิบล้านบ าท โดยเสี่ยมงคลคิดค่าเช่าเดือนละแสนสอง ซึ่งชมจันทร์ถึงกับมืออ่อน

ชมจันทร์ไปรับเมทินีที่สนามบินสาย เพราะรถเก๋งที่เช่าให้เทวัญช่วยขับเกิดเสียระหว่างทาง แถมยังลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน ระหว่างรอชมจันทร์เห็นกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งวางไว้บนกระเป๋ามีโทรศัพท์มือถื อวางอยู่ เสียงโทรศัพท์ดังหลายครั้ง ชมจันทร์เหลียวหาเจ้าของแต่ไม่พบจึงหยิบโทรศัพท์แต่ก็ตกใจเมื่อได้ยินเสียงต วาดและร้องว่าเธอเป็นขโมย ชมจันทร์ตกใจเพราะมือถืออยู่ในมือเธอเมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าของ ชมจันทร์พยายามอธิบายว่าเธอไม่ใช่ขโมย แต่เจ้าของโทรศัพท์ไม่เชื่อประกาศว่าเกลียดคนโกหกและบอกให้ชมจันทร์ยอมรับผิ ด แต่ชมจันทร์ไม่ยอม ทั้งสองต่อปากต่อคำกันและแยกกันไป

เมทินีแนะนำให้ชมจันทร์รู้จักกับ นคร ซึ่งรูปหล่อ สง่า หยิ่ง หัวสูง เพราะดูจากการแต่งกายที่เนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแบรนด์เนมชื่อดัง ซึ่งเพราะแบบนี้ทำให้เมทินีต้องให้ชมจันทร์แปลงร่างเป็นไฮโซ ซึ่งวันนี้ชมจันทร์แต่งตัวสวย นครไหว้ชมจันทร์ทั้งที่อายุมากกว่าและพูดชื่นชมชมจันทร์ตามที่ได้ยินเมทินีเ อ่ยถึงบ่อยๆ ว่าเป็นนักธุรกิจหญิงส่งผ้าไหมออกนอกและเป็นนักสังคมสงเคราะห์ชอบช่วยเหลือค นจนชมจันทร์ถึงกับหน้าเจื่อนๆ แต่ก็จำใจเล่นละครต่อไป ชมจันทร์แทบเป็นลมอีกครั้งเมื่อถูกแนะนำให้รู้จักกับโภคินอาของนคร ซึ่งก็คือผู้ชายเจ้าของ โทรศัพท์นั่นเอง

โภคินเองถึงกับชะงักและรู้สึกผิดหวังเมื่อเห็นชมจันทร์ผู้หญิงที่ขโมยโทรศัพ ท์เขา เพราะโภคินมองโลกในแง่ร้าย ฝังใจ พบกันครั้งแรกรู้สึกอย่างไรก็รู้สึกอย่างนั้นจึงรับไหว้ชมจันทร์ด้วยสีหน้าเ รียบๆ ไม่ค่อยเป็นมิตรนัก ชมจันทร์เชิญทุกคนขึ้นรถที่เทวัญรออยู่ เทวัญถึงกับกลั้นหัวเราะเมื่อต้องทักทายกับเมทินีเพียงแค่ยิ้มและพยักหน้าทั ้งที่เป็นเพื่อนกัน จนถึงบ้านที่เช่าไว้เมทินีดีใจที่พี่สาวสามารถหาบ้านที่หรูหราสมฐานะได้ถูกใ จเธอมาก โดยมีกลอยทำหน้าที่เป็นสาวใช้ แต่กลอยเจ้ากี้เจ้าการต้องการให้ดูหรูหรายิ่งขึ้นถ้ามีสาวใช้หลายคน จึงไปเกณฑ์เอากานดาและลำดวนซึ่งเต็มใจช่วยทันทีโดยจัดแจงหาชุดมาเสร็จเพราะด ูวิธีแต่งตัวจากในละคร ซึ่งชมจันทร์ถึงกับพูดไม่ออกที่เห็นสาวใช้ทุกคนแต่งหน้าทาปากเสียจนสวยซึ่งส วยเกินไปจนต้องมองซ้ำ กลอยกล่าวต้อนรับการกลับมาของเมทินีด้วยความยินดีเพราะรู้จักกันดีมีเพียงลำ ดวนกับกานดาซึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นสาวใช้คนใหม่ โภคินมองพฤติกรรมของสาวใช้ทั้งสามซึ่งรู้สึกจะยิ้มแย้มเกินเหตุด้วยความสงสั ย ชมจันทร์รีบตัดบทด้วยการเชิญทั้งสองเข้าบ้าน สามสาวซึ่งไปฝึกการทำงานมากับครูจิราพรได้ช่วยกันเสริฟ์กาแฟให้กับสองหนุ่ม แต่ด้วยที่ทั้งสามไม่ใช่มืออาชีพโดยเฉพาะลำดวนซึ่งดูเขินและประหม่าถึงกับชน กับกานดาที่หลุดคำอุทานที่ไม่สุภาพขึ้นมา ชมจันทร์ไม่โกรธแต่กลับขำเพราะรู้ว่าทุกคนไม่ใช่มืออาชีพมาช่วยเพราะไมตรีรั กใคร่กัน

โภคินและนครถึงกับติดใจกาแฟที่สามสาวชงให้มากจนต้องขอเพิ่ม โดยเฉพาะโภคินซึ่งรู้สึกเหมือนเคยกินกาแฟรสชาตนี้ตั้งแต่เป็นเด็กเริ่มกินกา แฟ ชมจันทร์เดินเข้าไปในครัวเพื่อขอกาแฟเพิ่ม พบสามสาวกำลังจับกลุ่มคุยกันซุบซิบจึงรู้ว่าครูจิราพรเป็นผู้สอนวิธีชงกาแฟแ ละยี่ห้อกาแฟให้กับกลอย

เมื่อสองหนุ่มลากลับโดยเทวัญขับรถไปส่ง ทุกคนรู้สึกโล่งอกไปตามๆ กัน เมทินีไม่สบายใจเมื่อรู้เรื่องที่โภคินเข้าใจผิดชมจันทร์และบอกว่าโภคินเป็น คนมีอิทธิพลต่อนครและพ่อมาก ซึ่งชมจันทร์รู้ถึงความเปลี่ยนไปของน้องสาว แต่เพราะความรักน้องทำให้เธอยอมให้อภัยเสมอ ทั้งหมดจึงชวนกันกลับบ้าน ระหว่างที่เทวัญไปส่งโภคินและนครที่บ้าน นครชวนเทวัญคุยถึงเรื่องชมจันทร์ซึ่งเทวัญรู้สึกอึดอัดเพราะเป็นคนไม่เคยโกห ก โภคินรู้สึกไม่ชอบใจที่ชมจันทร์ทำตัวเป็นกันเองกับลูกจ้างมากเกินไป ส่วนนครได้โทรศัพท์ไปรายงานการพบกับชมจันทร์ให้ คุณครรชิต ผู้เป็นพ่อฟัง คุณครรชิตได้ฝากโภคินให้ดูแลนครเพราะนครค่อนข้างใจร้อน

เมทินีกลับมาที่บ้านซึ่งเป็นที่ผลิตปลาร้า ซึ่งทันทีที่ได้กลิ่นเธอเหม็นจนรู้สึกอยากจะอาเจียนแต่พยายามกลั้นไว้เพราะก ลัวชมจันทร์เห็นและแก้ตัวว่ายังไม่ชินกลิ่นต้องขอเวลาปรับตัว ชมจันทร์รู้ได้ทันทีว่าเพราะน้องสาวรักกับหนุ่มหัวสูงจึงติดความเป็นไฮโซกลั บมาด้วย ความเป็นปลาร้าจึงจางไปจากตัวเมทินี

เทวัญได้ช่วยซ่อมรถให้กับอินทิราลูกสาวเสี่ยมงคลที่เขาแอบชอบอยู่ แต่อินทิราไม่สนใจเพราะเทวัญจน อินทิราให้ได้เพียงความเป็นเพื่อน ครูจิราพรเองรู้เรื่องนี้พยายามเตือนให้เทวัญหักห้ามใจซึ่งเหมือนกับกลอยเอง ก็แอบชอบเทวัญแต่เทวัญเห็นเธอเหมือนน้องสาวเท่านั้น ชมจันทร์พาเมทินีไปเยี่ยมครูจิราพรที่บ้าน ครูจิราพรเตือนเมทินีเรื่องความรักซึ่งฐานะต่างกันเพราะตัวเธอเคยมีประสบการ ณ์เรื่องนี้มาแล้วแต่เมทินีไม่สนใจ

ชมจันทร์ต้องอึดอัดใจอีกครั้งเมื่อนครเชิญเธอไปที่บ้านเขา เพราะรู้สึกเสียดายเงินที่ต้องจ่ายไปกับการเช่ารถและการซื้อเสื้อผ้าราคาแพง บ้านนครดูใหญ่โตกว่าคฤหาสน์ที่เธอเช่าเสียอีก ส่วนเมทินีนั้นตื่นเต้นกับความร่ำรวย นครจะพาสองสาวชมบ้านแต่ชมจันทร์ปฎิเสธขอชมเพียงสวนเท่านั้นเพราะเป็นคนชอบต้ นไม้ โดยมีโภคินเดินตามและพยายามจับผิดจากคำพูดของชมจันทร์ โภคินถามถึงธุรกิจส่งออกของชมจันทร์และตำหนิชมจันทร์ที่ไว้ใจลูกน้องจนเกินไ ป ชมจันทร์ว่าโภคินระแวงเธอทั้งที่หลานชายเขาจะแต่งงานกับน้องสาวของเธออยู่แล ้ว โภคินแย้งว่าเพราะต้องดูความเหมาะสมกันทั้งพื้นเพฐานะทางสังคมด้วย ชมจันทร์ไม่เห็นด้วยเพราะเธอคิดว่าเป็นเรื่องของความรักและความเชื่อใจกันเท ่านั้น

นครและโภคินเลี้ยงอาหารฝรั่งที่บ้านซึ่งชมจันทร์ไม่ชอบจึงทำให้กินได้น้อยจน สองหนุ่มสังเกต ชมจันทร์อ้างว่าเธอชอบทานอาหารเผ็ดโดยเฉพาะส้มตำปลาร้า นครทำท่าขยะแขยงส่วนโภคินถึงกับสำลักจนไอ และบอกว่าปลาร้าสกปรกเป็นของเน่าหนอนขึ้น ทำให้ชมจันทร์ไม่พอใจเถียงว่าโภคินได้ข้อมูลมาผิดและอธิบายการทำปลาร้าอย่าง ละเอียดจนเกือบหลุดปาก เมทินีรีบพูดแก้ว่าเป็นเพราะชมจันทร์ศึกษาจากหนังสืออาหารและบอกว่าเธอไม่เค ยทาน ชมจันทร์รู้สึกเสียใจ

เมทินีตามชมจันทร์มาขายปลาร้าที่ตลาดด้วยความเกรงใจพี่สาวและช่วงนี้เธอว่าง ยังไม่ออกหางานทำ ด้วยเหตุผลอีกข้อว่าบริษัทของนครอาจย้ายฐานการผลิตมาเมืองไทย เพราะเมื่อเธอแต่งงานกับนครเธอต้องช่วยกิจการของสามี จึงได้แต่ดูพี่สาวและกลอยขาย ซึ่งชมจันทร์ก็ไม่บังคับน้องเพราะเธอต้องการให้เมทินีปรับตัวกลับมาเป็นคนเด ิม แดงเห็นเมทินีซึ่งแต่งตัวสวยก็อดที่จะแขวะและดึงลูกค้าหนุ่มๆ ไป ชมจันทร์ต้องเตือนเมทินีไม่ให้มีเรื่องเพราะก่อนไปเรียนเมืองนอกเมทินีเคยมี เรื่องตบตีกับแดงมาก่อน กานดาและลำดวนซึ่งออกมาหาอะไรกินอดไม่ได้ที่จะช่วยชมจันทร์ที่ถูกแดงฉุดลูกค ้าไปจนทะเลาะกันลั่นตลาด

เมทินีบอกชมจันทร์ว่าเธอไม่ชอบกานดาและลำดวนที่ทำงานกลางคืน ชมจันทร์อธิบายให้เมทินีเห็นความดีของทั้งสองที่มีต่อเธอ และที่ทำงานกลางคืนเพราะความจำเป็น เมทินีบอกเรื่องที่นครให้ชวนไปงานธุรกิจส่งออกที่โภคินเป็นกรรมการในสมาคมนี ้ ชมจันทร์ไม่อยากไปแต่เมทินีไม่ยอมเพราะเธอคุยไว้เยอะและรับปากว่าจะสารภาพคว ามจริงกับนครเมื่อเธอแต่งงาน ชมจันทร์ไปขอคำแนะนำเรื่องการวางตัวกับครูจิราพรซึ่งบอกให้ชมจันทร์ใช้สติแล ะความมั่นใจในตัวเองค่อยๆ แก้ปัญหาเพราะเธอเป็นคนเก่งอยู่แล้ว

ในงานธุรกิจนครแยกตัวเมทินีไป ทิ้งให้ชมจันทร์อยู่กับโภคินที่อาสาจะแนะนำลูกค้าผ้าไหมให้ แต่อดไม่ได้ที่จะพูดจาแขวะเรื่องความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ชมจันทร์เห็นเสี่ยมงคลมางานกับกิตติและอินทิราจึงเดินหนี โภคินซึ่งรู้จักกับเสี่ยมงคลได้เข้าไปทักทายเพราะจำได้ว่าเสี่ยมงคลเป็นเพื่ อนเก่ากับคุณครรชิต อินทิราถามหาแม่ค้าปลาร้ากับโภคินเพราะเห็นคุยกัน โภคินปฎิเสธว่าเขาคุยกับนักธุรกิจผ้าไหม ชมจันทร์เมื่อแยกตัวมาได้พบกับมิสเตอร์พอล นักธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับอาหาร จึงแนะนำปลาร้าของเธอซึ่งได้รับความสนใจถึงกับแลกนามบัตรกัน ส่วนเมทินีเมื่อเห็นครอบครัวเสี่ยมงคลก็หลบทันทีเพราะต่างรู้จักกันดี

เสี่ยมงคลซึ่งหลงรักครูจิราพรแวะมาหาครูจิราพรที่บ้านพร้อมของฝากจากเยาวราช ครูจิราพรห้ามไม่ ให้เสี่ยซื้อของมาให้เธอ และตำหนิที่เสี่ยมงคลไม่ช่วยอุดหนุนแม่ค้าที่ตลาดทั้งๆ เป็นเจ้าของตลาด โดยในช่วงปีแรกเสี่ยก็แค่แอบมอง เมื่อครูมาขอซื้อที่ปลูกบ้านเสี่ยยอมขายให้ในราคาถูก ในระยะสิบปีหลังเสี่ยไม่ละความพยายามจีบจริงจังขึ้นด้วยการมาเยี่ยมทุกอาทิต ย์พร้อมของฝากจนชาวบ้านต่างรู้ดีแต่ไม่เคยสำเร็จ ครูให้แต่ความเป็นเพื่อนทั้งที่กิตติและอินทิราสนับสนุน ครูจิราพรใจแข็ง เด็ดขาด จนถูกลือกันว่าครูเคยผิดหวังจากความรัก เสี่ยมงคลกลับบ้านด้วยความผิดหวังและพบกับกิตติและอินทิราซึ่งนั่งรอขอเงิน เสี่ยมงคลอบรมเรื่องการใช้เงินของทั้งสองจนกระทั่งสมศรีซึ่งเป็นผู้จัดการตล าดนำเงินที่เก็บมาให้
ตลาดช่วงเช้าคึกคักด้วยแม่ค้าและลูกค้าโดยเฉพาะร้านของชมจันทร์ นางพงาและแดงมองด้วยความอิจฉาและแกล้งโยนเปลือกกล้วยไปที่หน้าร้านชมจันทร์ ทำให้ลูกค้าที่เดินอยู่เลื่อนไปชนปลาร้าทั้งในขวดในหม้อจนตัวเลอะเต็มไปด้วย ปลาร้า ชมจันทร์และกลอยรีบมาดูลูกค้าด้วยความเป็นห่วงและไม่คิดค่าเสียหายเพราะรู้ว ่าโดนแกล้ง แดงซึ่งเห็นสมศรีเดินเก็บค่าเช่าอยู่จึงยุให้ไล่ชมจันทร์ไม่ให้ขาย แต่สมศรีปฎิเสธเพราะตัวเองก็ชอบกินปลาร้าเหมือนกัน สมศรีตั้งใจมาเก็บค่าเช่าที่แผงนางสุก แม่ค้าซึ่งค้างจ่ายเพราะพ่อสามีตายต้องเสียเงินจัดงานศพ นางสุกจะขอผลัดผ่อนแต่สมศรีไม่ยอม ชมจันทร์เห็นเหตุการณ์จึงช่วยจ่ายส่วนที่เหลือให้แทน

ชมจันทร์ชวนเมทินีไปเป็นเพื่อนส่งปลาร้าแต่เมทินีปฎิเสธอ้างว่านัดกับนคร ชมจันทร์รู้ว่าน้องสาวเปลี่ยนไป อยู่บ้านจะไม่ชอบกลิ่นปลาร้า เมทินีชอบไปค้างที่บ้านใหญ่ที่เช่าจากเสี่ยมงคลจนกลอยว่าเธอลืมปลาร้าไปกินอ าหารฝรั่งแล้ว ต่างกับชมจันทร์ที่เห็นบ้านใหญ่แล้วไม่สบายใจเหมือนเธอเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ ระหว่างทางชมจันทร์ได้ขับรถหลบสุนัขที่ข้ามถนนทำให้เบียดกับรถที่ขับมาอีกเล นจนเกือบชน ชมจันทร์ขับหนีแต่รู้สึกว่าถูกขับตามจนทันกันเมื่อเห็นหน้าคนขับ ชมจันทร์ตกใจเมื่อเห็นเป็นโภคินซึ่งก็ตกใจเช่นกัน ชมจันทร์รีบขับฝ่าไฟแดงหนีเพราะกลัวความลับแตกจนโภคินตามไม่ทัน เมื่อเจอนครและเมทินีที่บ้านโภคินได้เล่าให้เมทินีฟังแต่เมทินีปฎิเสธว่าคงเ ป็นคนหน้าเหมือนเท่านั้น

กิตติชอบมาเที่ยวที่บลูไนท์คลับและเรียกลำดวนมาคุยด้วยทุกครั้ง ซึ่งลำดวนเองจะปรนนิบัติเอาใจกิตติเพราะเป็นลูกค้าประจำ สนิทสนมกับถึงขั้นไปค้างด้วยกันเพราะเธอขายบริการด้วยจนถึงขั้นรักและชื่นชม กิตติแต่เพราะรู้ฐานะของตัวเองที่ต่างกับกิตติมาก จึงได้แต่แอบรักไม่คิดเรื่องสมหวังเพราะสักวันเธอจะกลับไปอยู่บ้านนอก เธออดทนเก็บเงินได้เป็นแสนเพื่อส่งกลับไปปลูกบ้านเมื่อเสร็จเมื่อไหร่เธอจะเ ลิกทำงานกลางคืนทันที กิตติระบายความขี้เหนียวของเสี่ยมงคลให้ลำดวนฟัง ลำดวนเตือนกิตติและเล่าเรื่องชีวิตของเธอให้เขาฟังจนกิตติรู้ว่าลำดวนมีเงิน จึงขอยืมเพื่อเอาไปเล่นการพนันโดยจะคืนให้พร้อมดอกเบี้ยในวันรุ่งขึ้น ลำดวนหลงกลให้ยืมไปห้าหมื่นบาทซึ่งเป็นเงินที่เธอจะส่งไปให้ทางบ้าน กานดากลับมาถึงบ้านเช่าตอนตีสามเห็นกระป๋องเบียร์ก็แปลกใจเพราะลำดวนไม่กินข องมึนเมาจึงรู้ว่าลำดวนพาผู้ชายมาบ้าน ลำดวนยอมรับว่าพากิตติมาจริงเพราะตัวเองไม่สบายและสัญญาว่าจะไม่ทำอีก กานดารู้ว่าลำดวนแอบรักกิตติจึงเตือนด้วยความเป็นห่วง

เมทินีนำเรื่องที่โภคินเห็นชมจันทร์มาเล่าให้ชมจันทร์ฟังซึ่งชมจันทร์พยายาม จะพูดให้เป็นเรื่องเล็ก แต่เห็นสีหน้าของเมทินีไม่สบายใจ เธอจึงรู้ว่าน้องสาวแคร์ครอบครัวของโภคินมาก หวังกับครอบครัวนั้นเหลือเกินจนไม่ อาจพบกับความผิดหวัง ชมจันทร์ได้แต่บอกให้เมทินีทำใจไว้บ้าง โภคินกลับจากไปสำรวจตลาดและเยี่ยมลูกค้าพบนครที่ชวนไปกินน้ำชาที่บ้านเมทินี โภคินยอมไปเพราะสงสัยเรื่องผู้หญิงหน้าเหมือนชมจันทร์แต่ชมจันทร์ปฎิเสธ เมื่อ ได้เวลาเสริฟ์ของว่าง ทั้งสองหนุ่มต่างชื่นชอบกับพายไก่ที่อร่อยจนต้องเอ่ยปาก

กานดารับโทรศัพท์จากแม่ของลำดวนที่โทรมาเรื่องเงิน ทำให้กานดาซักถามจนลำดวนยอมสารภาพและไปตามกิตติที่บ้านเพื่อทวงเงินคืนแต่ไม ่พบ พบแต่เสี่ยมงคลกับอินทิรา เมื่อรู้ว่ากิตติยืมเงินลำดวนไปก็โกรธแต่ปฎิเสธที่จะจ่ายแทน ให้ไปคุยกับกิตติเองและให้คนใช้ไล่ทั้งสองออกจากบ้านไป เทวัญซึ่งมาทวงร่มที่ให้อินทิรายืมไป แต่อินทิราอ้างว่าทำหายไปแล้ว เสี่ยมงคลไม่พอใจลูกสาวเพราะรู้ว่าเป็นร่มของครูจิราพรจึงเอาร่มคันใหม่ให้เ ทวัญแต่เทวัญไม่รับและลากลับไป เสี่ยนำร่มคันใหม่มาคืนให้ครูจิราพรและขอโทษแทนอินทิราและพูดหว่านล้อมให้คร ูจิราพรเห็นใจในความรักของเขาแต่ไม่เป็นผล ครูจิราพรขอให้เสี่ยช่วยพูดกับกิตติเรื่องเงินของลำดวน เสี่ยรับปากจะจัดการให้ เสี่ยนั่งรอกิตติจนดึกเพื่อคุยเรื่องหนี้เพราะอายคนทั้งตลาดโดยเฉพาะครูจิรา พรทำให้กิตติเข้าใจเหตุผลทันที

นครชวนโภคินไปเที่ยวตามประสาผู้ชายที่ไนท์คลับแถวบ้านชมจันทร์และพบกับลำดวน กับกานดาในสภาพสาวบาร์ ลำดวนหลบโภคินด้วยความตกใจมีเพียงกานดาที่กล้าเผชิญหน้าและแกล้งทำเหล้าหกใส ่โภคิน

ลำดวนไม่สบายใจจนเป็นไข้เพราะแม่โทรมาเรื่องเงินสร้างบ้าน ทำให้กานดาซึ่งเจ็บแค้นแทนเพื่อนได้ไปดักรอกิตติที่บ้านแต่กิตติให้สาวใช้บอ กไม่อยู่กานดาไม่เชื่อจนมีปากเสียงกัน กิตติผลักกานดาจนล้มได้เลือด ชมจันทร์ซึ่งนำเงินค่าเช่าบ้านมาจ่ายได้เข้าช่วยและทวงถามเรื่องเงินลำดวนโด ยขู่ว่าจะหักจากเงินค่าเช่าบ้านในซองที่เธอเอามาจ่ายเสี่ยมงคล กิตติจึงยอมควักเงินจ่ายให้เพียงครึ่งเดียวเพราะไม่อยากมีเรื่องกับเตี่ย ชมจันทร์บังคับให้กิตติจ่ายเงินค่าทำแผลให้กับกานดาห้าร้อยบาทมิฉะนั้นจะแจ้ งความ กานดาดีใจที่ชมจันทร์ช่วยและเล่าเรื่องโภคินที่บาร์ให้ฟัง ส่วนลำดวนดีใจที่ได้เงินคืนจนหายไข้

ชมจันทร์ไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าพบกับโภคินที่มาซื้อของเช่นกัน โภคินมองชมจันทร์อย่างไม่แน่ใจเพราะการแต่งตัวที่แสนธรรมดา ชมจันทร์ได้โอกาสรีบวิ่งหนี โภคินกลับมาเล่าให้นครและเมทินีฟัง ซึ่งเมทินีแก้ตัวแทน โภคินขอไปที่บ้านเมทินีอีกเพื่อพิสูจน์ความจริง

รุ่งขึ้นโภคินและนครได้มาที่บ้านเมทินีซึ่งชมจันทร์ได้จัดฉากเตรียมรอไว้แล้ ว ลำดวนกับกานดาได้แต่งหน้าให้ดูแตกต่างจากที่โภคินเห็นที่ผับ เช่นเดียวกับชมจันทร์ซึ่งอยู่ในชุดผ้าไหมอันหรูหรา โภคินทักชมจันทร์ถึงเรื่องที่พบกันแต่ชมจันทร์ปฎิเสธ เมื่อถามถึงลำดวนและกานดาซึ่งสองสาวแต่งหน้าเหมือนคนตากแดดโดยอ้างว่าเพิ่งก ลับจากทำนาที่บ้านนอก กานดานำพายไก่ของโปรดนครมาเสริฟ์โดยตอนปรุงเธอใส่ยาถ่ายเฉพาะสองหนุ่มทำให้ท ้องเสียกลับไป เมทินีรู้เรื่องที่สองหนุ่มโดนแกล้งจึงโกรธทุกคน ชมจันทร์แก้ตัวแทนก็โดนเมทินีกล่าวหาว่าเข้าข้างสามสาว

ชมจันทร์มาขายปลาร้าที่ตลาดตามปกติโดยมีกลอยเป็นผู้ช่วย กานดาและลำดวนมาเดินเล่นได้ถูกแดงพูดแซวเรื่องยืมเงินจนมีเรื่องทะเลาะตบตีก ัน เมทินีซึ่งเห็นเหตุการณ์ถึงกับทนดูไม่ได้ ชมจันทร์เสียใจกับการกระทำของเมทินีที่ยิ่งนานวันยิ่งห่างเหินเหมือนอยู่คนล ะโลก เมทินีต่อว่าชมจันทร์ที่เข้าข้างสองสาวที่มีอาชีพน่ารังเกียจ ชมจันทร์ยืนยันว่าทั้งสองเป็นคนดี

นครและโภคินชวนเมทินีและชมจันทร์ไปรับคุณครรชิตที่สนามบิน คุณครรชิตประทับใจในตัวชมจันทร์เพราะชมจันทร์มีบุคลิกเหมือนภรรยาเขาที่หนีห ายไป เ มทินีบอกเมนูอาหารที่คุณครรรชิตชอบให้ชมจันทร์ทำเลี้ยงต้อนรับในวันรุ่งขึ้น ซึ่งชมจันทร์ได้นำเมนูไปปรึกษาครูจิราพรซึ่งถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินชื่อครอบค รัวคุณครรชิต แต่ยอมจัดเมนูอาหารให้และขอร้องไม่ให้เอ่ยชื่อเธอเด็ดขาด ชมจันทร์รับคำโดยไม่รู้ว่าครูมีอะไรปิดบัง ชมจันทร์อยากทำอาหารจากปลาร้าให้ทุกคนลอง ครูจิราพรจึงวางแผนให้ใช้ปลาร้าเป็นส่วนผสมของอาหารที่ทำต้อนรับ

ทุกคนต่างมาช่วยกันต้อนรับครอบครัวคุณครรชิต เมื่อเมทินีรู้ว่าชมจันทร์ใช้ปลาร้าเป็นส่วนผสมในอาหารจึงโกรธหาว่าชมจันทร์ แกล้งเธอ กานดาซึ่งทนกับคำพูดของเมทินีไม่ไหวได้มีปากเสียงกัน ทุกคนได้ให้การต้อนรับคุณครรชิตด้วยอาการปกติ โภคินมองกานดาอย่างจับผิดส่วนคุณครรชิตชวนชมจันทร์คุยเรื่องธุรกิจจนเห็นอาห ารที่เสริฟ์คุณครรชิตถึงกับอึ้งเพราะคิดถึงเรื่องในอดีตและชมอาหารด้วยความจ ริงใจ ต่างจากนครซึ่งอาหารไม่ค่อยถูกปากเพราะชอบอาหารฝรั่งมากกว่า หลังอาหารโภคินและนครแอบได้ยินสามสาวคุยกันเรื่องครอบครัวเขาและปลาร้าจนรู้ ว่าอาหารที่ทานนั้นมีส่วนผสมของปลาร้า ทั้งสองถึงกับอาเจียน สถานการณ์ของชมจันทร์และเมทินียิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้น

คุณครรชิตกลับมานั่งระลึกถึงอดีตชีวิตคู่ของตัวเอง ปัญหาเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้ซึ่งลูกสะใภ้เป็นแม่ครัวจนๆ ที่ถูกจ้างมาและได้เสียจนตั้งครรภ์ แต่ก็ถูกกีดกันจากแม่ผัวจนต้องหนีหลังจากคลอดลูกไม่กี่ปีเพราะหมดความอดทน ซึ่งโภคินได้เข้าใจความรู้สึกของคุณครรชิตที่มีต่อภรรยาที่จากไปจนไม่ยอมแต่ งงานใหม่
เมทินีทนอยู่กับกลิ่นปลาร้าในบ้านไม่ได้จึงย้ายไปอยู่บ้านเช่าหลังใหญ่แม้ชม จันทร์จะคัดค้านแต่เธออ้างว่าไม่ชอบปลาร้าและลำดวนกับกานดา เมทินีนัดให้ชมจันทร์ไปบ้านคุณครรชิตซึ่งให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ชมจันทร์ทานอาหารได้น้อยโดยอ้างว่าไม่ถนัดอาหารฝรั่งและไม่พยายามเรียนรู้มา รยาทบนโต๊ะอาหารจนเมทินีต่อว่า โภคินรู้สึกติดค้างในใจถึงพฤติกรรมของชมจันทร์ซึ่งดูต่างจากสาวไฮโซที่เขาเค ยรู้จักจนต้องขับรถไปที่บ้านเธอเพื่อพิสูจน์ความจริงแต่ไม่พบใครเลยที่บ้าน อินทิราขับรถผ่านมาเห็นโภคินจึงแวะถามด้วยความสงสัย อินทิราบอกโภคินว่าเป็นบ้านของเสี่ยมงคลที่เปิดให้เช่า โภคินตามอินทิราไปที่บ้านเพื่อสอบถามความจริง เสี่ยมงคลเล่าประวัติของชมจันทร์ให้โภคินฟังทั้งหมด และเพื่อให้เห็นกับตาโภคินได้แวะไปที่ตลาดบางสำลีพบชมจันทร์กำลังขายปลาร้าจ ึงแสดงตัวให้ชมจันทร์เห็น เมื่อรู้ว่าแผนแตกชมจันทร์ตามไปขอโทษโภคินและขอร้องให้เก็บเป็นความลับก่อนเ พราะเธอและเมทินีอยู่ในช่วงที่ไม่เข้าใจกันและให้เห็นแก่นครที่อาจตกใจเมื่อ รู้ความจริง โภคินรับปากเพราะอยากรู้ว่าชมจันทร์จะทำอย่างไรต่อไป

โภคินพยายามพูดเกริ่นกับนครเรื่องเมทินี ซึ่งนครยืนยันจะเลิกกับเมทินีถ้าเขาถูกหลอก เสี่ยมงคลแวะมาเยี่ยมคุณครรชิตที่บ้านและปรับทุกข์เรื่องลูกๆ ซึ่งไม่ช่วยทำงาน ส่วนชมจันทร์ได้เล่าความจริงให้ครูจิราพรฟัง ซึ่งครูจิราพรรู้ทันทีว่าที่โภคินช่วยชมจันทร์นั้นเป็นเพราะโภคินหลงรักชมจั นทร์ จึงพูดให้กำลังใจชมจันทร์ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ชมจันทร์ได้พยายามพูดเกลี่ยกล่อมให้เมทินีสารภาพความจริงแต่เมทินีปฎิเสธ เพราะเธอจะบอกความจริง ต่อเมื่อเธอแต่งงานกับนครแล้วเท่านั้น

คุณครรชิตได้ชวนชมจันทร์และเมทินีไปพักผ่อนที่บ้านพักชายทะเลพร้อมครอบครัว ซึ่งมีนางฉลวยกับมะลิ ผู้เป็นลูกสาวคอยต้อนรับ เมทินีตื่นเต้นเมื่อเห็นบ้านและขอร้องมิให้ชมจันทร์พูดถึงปลาร้าอีก แม้ชมจันทร์จะอ้างว่าเธอเป็นตัวของตัวเอง นางฉลวยได้เตรียมอาหารไทยไว้ต้อนรับเพราะทำอาหารฝรั่งไม่เป็น หลังอาหารเมทินีกับนครขอตัวไปเล่นน้ำทะเลส่วนคุณครรชิตขอตัวพักผ่อน ชมจันทร์ได้เข้าไปชวนนางฉลวยทำปลาร้าสมุนไพรที่ในครัว โภคินได้มาชวนชมจันทร์ไปเดินเล่นและยังพูดแหย่ชมจันทร์ด้วยเรื่องเดิมๆ แต่มีความรู้สึกที่เปลี่ยนไปเพราะยังไม่รู้ใจตัวเอง

คุณครรชิตพาทุกคนไปเลี้ยงอาหารฝรั่งที่โรงแรมในมื้อแรกซึ่งมีเพียงชมจันทร์ท ี่ทานได้น้อยและหิวในตอนดึกจนต้องลงมาในห้องครัวเพื่อกินข้าวกับปลาร้าสมุนไ พรที่ทำไว้แล้ว โภคินเข้ามาขัดจังหวะแต่ชมจันทร์ไม่สนใจนั่งกินต่อหน้าโภคินซึ่งยืนดูจนรู้ส ึกอยากกินแต่ไม่กล้าขอเพราะกลัวถูกหัวเราะเยาะ ชมจันทร์ตักปลาร้าให้โภคินชิมซึ่งรู้สึกชอบมากเมื่อได้ชิมแต่ชมจันทร์ไม่บอก ว่าเป็นปลาร้า

ชมจันทร์ซึ่งตื่นเช้าเพราะความเคยชินได้มาเดินเล่นที่ชายหาดโดยมีโภคินตามมา ก่อกวน แต่ถูกชมจันทร์ย้อนเรื่องที่โภคินกินปลาร้า โภคินถึงกับพูดไม่ออก ชมจันทร์บรรยายสรรพคุณของปลาร้าให้โภคินฟังและท้าว่าจะนำปลาร้าขึ้นโต๊ะให้ค ุณครรชิตและนครชิมเพื่อเป็นการพิสูจน์ คุณครรชิตถึงกับเอ่ยปากชมแต่นครเฉยๆ เพราะไม่ชอบอาหารไทย ชมจันทร์ประกาศชัยชนะกับโภคินซึ่งบอกว่าชนะเพียงครึ่งเดียวเพราะชมจันทร์ไม่ ได้บอกทุกคนว่าทำจากปลาร้า โภคินรู้สึกสับสนในตัวเองที่ให้ความสนใจชมจันทร์มากเป็นพิเศษโดยไม่รู้ตัว

นครขอให้คุณครรชิตพูดขอเมทินีแต่งงานกับชมจันทร์ซึ่งชมจันทร์ถึงกับอึ้งพูดไ ม่ออก เธอต้องการให้ทุกคนรู้ความจริงก่อนแต่งงานเพราะถ้าทุกคนทราบทีหลังเธอและน้อ งสาวจะถูกดูถูกและอับอายมากกว่านี้ แต่เมื่อคุณครรชิตรับปากจะดูแลเมทินีอย่างดี ทำให้ชมจันทร์ต้องยอมอนุญาต

เสี่ยมงคลได้เชิญครอบครัวคุณครรชิตมาเลี้ยงที่บ้าน กิตติและอินทิราอยู่กันพร้อมหน้า เมื่ออินทิรารู้ว่านครจะแต่งงานก็รู้สึกเสียดายเพราะนครเคยเป็นคนที่เธอหมาย ตาไว้ กานดาชวนชมจันทร์ไปทวงหนี้กิตติที่บ้านเพราะแม่ของลำดวนป่วยหนักต้องการใช้เ งินโดยไม่รู้ว่าครอบครัวของคุณครรชิตอยู่ที่บ้านเสี่ยมงคล กิตติได้ออกมาไล่ทุกคนให้กลับแต่ทุกคนไม่ยอม โวยวายเสียงดังจนแขกได้ออกดูจนเห็นกับตา คุณครรชิตและนครถึงกับอึ้งที่เห็นชมจันทร์ในสภาพสาวลุยๆ อินทิราเมื่อรู้ว่านครเป็นแฟนกับเมทินีก็เปิดโปงความจริงว่าชมจันทร์เป็นแม่ ค้าขายปลาร้า ส่วนลำดวนและกานดาทำงานบาร์ทำให้คุณครรชิตและนครผิดหวังมาก ชมจันทร์สารภาพความจริงทั้งหมดและขอโทษคุณครรชิตและนคร แต่ที่เมทินีทำไปเพราะรักนครกลัวนครจะรังเกียจถ้ารู้ว่าที่บ้านขายปลาร้า นครโกรธมากเพราะเข้าใจว่าที่เมทินีหลอกเขาเพราะว่าเขารวย มีเพียงโภคินที่เห็นใจชมจันทร์เพราะเขาเองต้องการให้เปิดเผยความจริงแม้จะทำ ให้นครเลิกกับเมทินีก็ตาม ส่วนกิตติขอยืมเงินเสี่ยมงคลคืนให้กับลำดวนเพราะอายทุกๆ คน

ชมจันทร์มาพบเมทินีที่แต่งตัวรอนครมารับไปลองชุดแต่งงานที่บ้านเช่า และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง เมทินีร้องไห้และโทษว่าเป็นความผิดของชมจันทร์ ชมจันทร์มาหาครูจิราพรด้วยตาแดงทำให้ครูจิราพรเดาเรื่องได้ทันที เมทินีมาพบนครซึ่งเอาแต่กินเหล้าโดยมีอินทิราคอยเอาใจ อินทิรากีดกันและต่อว่าเมทินีที่หลอกนครเมทินีขอคุยกับนครเป็นการส่วนตัว โภคินช่วยกันอินทิราให้ออกไป เมทินีขอร้องไม่ให้นครดื่มเหล้าเพราะสุขภาพไม่ดี นครต่อว่าเมทินีที่หลอกเขามาหลายปี เมทินีสารภาพว่าที่ทำเป็นเพราะกลัวนครรังเกียจและเธอเองไม่เคยรักนครที่ฐานะ เงินทองเลยแต่นครไม่เชื่อแถมยังพูดดูถูกเมทินี ทำให้เมทินีเสียใจกับคำพูดและรับไม่ได้ลากลับไป ส่วนคุณครรชิตและโภคินเมื่อเห็นน้ำตาของเมทินีก็ใจอ่อนยอมให้อภัยและให้นครเ ป็นคนตัดสินใจ ชมจันทร์เห็นเมทินีกลับบ้านด้วยน้ำตานองหน้าจึงปล่อยให้ร้องไห้ ส่วนตัวเองทำอาหาร เน้น "ปลาร้า" เพื่อให้น้องสาวยอมรับความจริงว่าเป็นใคร เพราะครอบครัวเธอต่างโตมากับปลาร้าตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ซึ่งชมจันทร์เองภูมิใจและไม่เคยอายใครเลยว่าขายปลาร้า

เมทินีตั้งสติและทบทวนเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นและยอมรับความจริงกลับมาเป็นเมทินีคนเดิม ยอมขอโทษชมจันทร์และทุกๆ คน และกลับไปช่วยชมจันทร์ทำและขายปลาร้าที่ตลาด อินทิราพานครไปเดินตลาดเพื่อตอกย้ำให้นครเห็นความเป็นแม่ค้าของเมทินี เมทินีซึ่งเจ็บในหัวใจแต่ได้กำลังใจจากทุกคน ครูจิราพรมาแอบมองนครแต่เมื่อชมจันทร์หันไปเห็นก็รีบหลบทำให้ชมจันทร์สงสัย โภคินตามนครมาที่ตลาดแต่ชมจันทร์เข้าใจว่าโภคินมาเยาะเย้ยพวกเธอจึงตามไปถาม ซึ่งโภคินก็ตอบไม่ได้รู้แต่เพียงว่าเขาคิดถึงชมจันทร์ โภคินบอกให้ชมจันทร์ให้เวลากับนครบ้างเพื่อที่ถามใจตัวเองเพราะรู้เรื่องที่ เกิดขึ้นกระทันหันจนตั้งตัวไม่ติด

เมทินีขอตามชมจันทร์มาพบกับครูจิราพรด้วยซึ่งครูจิราพรได้พูดให้ข้อคิดจนเมท ินีรู้สึกสบายใจขึ้น ชมจันทร์สงสัยที่เห็นครูจิราพรแอบดูนครด้วยสายตาแปลกๆ แต่ครูบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับ อินทิราซึ่งมาดูแลนครที่เอาแต่กินเหล้าทุกวันเริ่มเบื่อหน่ายเพราะนิสัยเธอเ ป็นคนชอบเที่ยวชอบเฮฮา เมื่อผ่านมาหลายวันแล้วนครยังเหมือนเดิมทำให้เธอเกิดอาการเบื่อที่ไม่มีอะไร ดีขึ้นจึงเริ่มเบนความสนใจไปที่โภคินแทน นครหลบอินทิราไปนั่งดื่มเหล้าที่ผับแห่งหนึ่งและพบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมาป ระคองและห้ามไม่ให้เขาดื่มเหล้า นครแปลกใจมากเพราะเป็นคนที่เขาไม่เคยรู้จักและเรียกเขาว่าลูก เธอสอนเขาให้เข้าใจชีวิตและรู้จักให้อภัยก่อนจะรีบหลบไปเมื่อเห็นอินทิราซึ่ งพาโภคินไปเที่ยวผ่านมาเห็นนคร ทั้งสองช่วยกันประคองนครกลับบ้าน รุ่งขึ้นนครได้เล่าเรื่องผู้หญิงที่เขาพบให้คุณครรรชิตและโภคินฟังว่าผู้หญิ งคนนั้นเรียกเขาว่าลูก คุณครรชิตฟังแล้วตกใจจนเป็นลม

คุณครรชิตคิดมากที่เห็นนครเอาแต่เมาจนล้มป่วยด้วยโรคหัวใจและความดันต้องเข้ าผ่าตัดที่โรงพยาบาล นครซึ่งสำนึกผิดรับปากว่าจะเลิกดื่มเหล้า เสี่ยมงคลแปลกใจที่กิตติอยู่ติดบ้านไม่ไปเล่นการพนัน ซึ่งจริงๆแล้วกิตติติดหนี้พนันจนต้องหนีเจ้าหนี้

ชมจันทร์ทุ่มเทพัฒนาปลาร้าสูตรเด็ดเพื่อให้ลืมโภคิน ซึ่งเมทินีดูออกว่าชมจันทร์รู้สึกอย่างไรกับโภคิน แต่ตัวเธอยังอกหักจากนครและอาการหนักกว่า ชมจันทร์ได้รับข่าวดีจากมิสเตอร์พอลซึ่งสั่งปลาร้าจำนวนมากไปขายที่ยุโรป เทวัญรู้ข่าวคุณครรชิตจากอินทิราได้ส่งข่าวให้ชมจันทร์ทราบ ชมจันทร์ให้เมทินีไปเยี่ยมก่อนส่วนเธอไปหาครูจิราพรซึ่งทราบเรื่องแล้วเช่นก ัน เมทินีไปเยี่ยมคุณครรชิตที่โรงพยาบาลและขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น คุณครรชิตยอมให้อภัยเมทินี ซึ่งเมทินีเมื่อพบกับนครต่างก็พูดอะไรไม่ออก โภคินแนะให้นครปรับความเข้าใจกับเมทินีแต่นครขอเป็นหลังจากคุณครรชิตผ่าตัด ชมจันทร์พบกับโภคินเมื่อแวะมาเยี่ยมคุณครรชิต และต่างแปลกใจที่เห็นครูจิราพรซึ่งมาเยี่ยมคุณครรชิตที่ยังไม่รู้สึกตัว โภคินซึ่งจำครูจิราพรได้ถึงกับชะงัก ครูจิราพรขอร้องไม่ให้บอกกับนครและคุณครรชิตก่อนรีบกลับไป ชมจันทร์เข้าใจเรื่องทันทีและขอให้โภคินให้เวลาครูจิราพร โภคินได้โอกาสบอกรักชมจันทร์และขอให้ชมจันทร์พูดกับครูจิราพรเพื่อเห็นแก่คุ ณครรชิตและนคร

ครูจิราพรได้ช่วยนครให้รอดพ้นจากการถูกรถชน นครจำได้ว่าเคยพบครูจิราพ เมื่อเล่าให้โภคินฟังซึ่งรู้ทันทีว่าเป็นครูจิราพร ชมจันทร์ช่วยพูดกับครูจิราพรให้เห็นแก่ความสุขของตัวเองและคุณครรชิตกับนคร คุณครรชิตปลอดภัยท่ามกลางความดีใจของทุกคนโดยเฉพาะนครซึ่งรู้สึกเหงาตั้งแต่ เลิกกับเมทินี คุณครรชิตขอให้นครให้อภัยเมทินีเพื่อเห็นแก่ความรักซึ่งนครรับปากจะไปง้อเมท ินี ส่วนโภคินนั้นคุณครรชิตก็สนับสนุนเมื่อรู้ว่าโภคินชอบชมจันทร์

กิตติเมื่อไปเล่นการพนันที่บ่อนไม่ได้แล้วจึงวางแผนที่จะหลอกเอาเงินจากเสี่ ยมงคลโดยแนะนำให้เสี่ยรื้อตลาดและสร้างห้างสรรพสินค้าแทนโดยยอมจ่ายค่ารื้อถ อนให้กับแม่ค้า เสี่ยมงคลดีใจคิดว่าลูกชายจะกลับตัวเป็นคนดีจึงสนับสนุน ทำให้แม่ค้าในตลาดเดือดร้อนกันไปทั่วแต่จริงๆ แล้วกิตติแอบนำเงินค่ารื้อถอนบางส่วนไปเล่นการพนันและจ่ายเงินค่ารื้อถอนในจ ำนวนน้อยนิด นางพงากับแดงก็เป็นผู้ที่เดือดร้อนกับเรื่องนี้ด้วยได้หันหน้ามาขอร้องให้ชม จันทร์ช่วยพูดกับเสี่ยมงคลแต่เสี่ยมงคลอ้างว่าเป็นการสนับสนุนให้ลูกทำงาน ชมจันทร์กลับมาที่ตลาดด้วยความผิดหวังและไปขอร้องครูจิราพรให้ช่วยพูดกับเสี ่ยมงคล ซึ่งครูจิราพรได้แนะนำเสี่ยมงคลถึงวิธีการทำธุรกิจโดยที่ชาวบ้านไม่เดือดร้อ นแต่กิตติปฎิเสธ เสี่ยมงคลเองพูดอะไรไม่ออก

ชมจันทร์พยายามหาทางช่วยพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดเพราะลำพังตัวเธอเองกิจการปลาร้ ากำลังไปได้ด้วยดี นครมาง้อเมทินีที่บ้านและได้ปรับความเข้าใจกัน ชมจันทร์มาที่ตลาดที่เงียบร้างและพบกับโภคินซึ่งมีแผนการจะช่วยทุกคนโดยให้ค ุณครรชิตซื้อที่ดินที่ตลาดทั้งหมดเพราะรู้ว่ากิตติไม่ได้ตั้งใจทำธุรกิจจริง และเสี่ยมงคลคงยอมขายเมื่อรู้ว่าถูกกิตติหลอก โภคินและชมจันทร์พาเสี่ยมงคลไปพิสูจน์ความจริงและพบกิตติที่ดื่มเหล้าเฮฮากั บผู้หญิงและได้ประกาศอย่างลืมตัวว่าหลอกเงินเตี่ยมาเที่ยว เมื่อเสี่ยมงคลปรากฎตัวกิตติแทบช้อคจนหายเมา แผนหลอกเงินของกิตติจึงพังทะลายลงทันที

ชมจันทร์มาบอกให้ครูจิราพรรีบไปที่โรงพยาบาลเพราะคุณครรชิตอาการหนัก แต่เมื่อครูจิราพรไปถึงโรงพยาบาลและพบว่าคุณครรชิตไม่ได้เป็นอะไร ก็รู้ว่าเป็นแผนของชมจันทร์ที่จะให้ครูจิราพรและคุณครรชิตได้กลับมาอยู่ด้วย กัน คุณครรชิตพูดขอร้องให้ครูจิราพรอยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูกซึ่งครูจิราพรถึงก ับน้ำตาไหลด้วยความดีใจ

คุณครรชิตกับครูจิราพรร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพงานทำบุญเลี้ยงพระและเลี้ยงชาวต ลาดทุกคน ซึ่งดีใจที่ตลาดไม่ต้องถูกรื้อถอน ทุกคนต่างมาร่วมฉลองรื่นเริงอย่างมีความสุข ครูจิราพรคอยดูแลคุณครรชิตที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล เสี่ยมงคลมาร่วมงานได้แสดงความยินดีกับคุณครรชิตและครูจิราพร คุณครรชิตแนะนำให้เสี่ยมงคลส่งกิตติไปอยู่กับตนที่เมืองนอกเพื่อเรียนและฝึก งานที่บริษัทเขา ซึ่งเสี่ยมงคลก็ยินดี

ในงานเลี้ยงโภคินมองหาชมจันทร์ซึ่งกำลังแจกปลาร้าสมุนไพรกับชาวบ้านหลังเลี้ ยงพระ อินทิราเดินกอดแขนโภคินไม่ห่าง โภคินปลดแขนอินทิราออกและเดินไปหาชมจันทร์ อินทิราถึงกับกริ๊ดลั่นตลาดและหันไปหาเทวัญซึ่งตัดใจจากอินทิราหันไปสนใจกลอ ยแทน ส่วนโภคินได้เข้าไปสารภาพกับชมจันทร์ว่าชอบทานปลาร้าและยอมรับว่าเขาเคยเข้า ใจเธอผิดแต่ตอนนี้เขาไม่รังเกียจปลาร้าและรักชมจันทร์ที่เป็นแม่ค้าปลาร้า ทั้งสองจึงเข้าใจกันและสัญญาว่าถ้ามีลูกก็จะหัดให้ลูกกินปลาร้า เป็นหมูแฮมแซมปลาร้า










































































นักแสดง


รับบทเป็น
ณัฐวุฒิ สกิดใจโภคิน
ปิยธิดา วรมุสิกชมจันทร์
เขตต์ ฐานทัพนคร
อารยา เอฮาร์เก็ตเมทินี
ภุชิสสะ ธนพัฒน์กิตติ
กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้าอินทิรา
ไพโรจน์ สังวริบุตรครรชิต
สุคนธวา เกิดนิมิตรกานดา
ปวีณา ชารีฟสกุลครูจิราพร
ปริษา ทนาวิวัตน์ลำดวน
ณัชฌุกรณ์ ไหมกันเทวัญ
เด่น ดอกประดู่เสี่ยมงคล
จารุศิริ คชหิรัญสมศรี
ธีรณัฐ ยูสานนท์กลอย
นันท์นภัส ภัทรายุตวรรตน์แดง
พรอนันต์ ศรีจันทร์พงา

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2550

บันทึกรักจากชายคนหนึ่ง : ดูละคร กาษา นาคาแล้วย้อนดูตัว


ทุกคืนวันพุธ - พฤหัส เวลา 20.30-22.15 น.ในตอนนี้ มีละครทางช่อง 7 เรื่อง
กาษา นาคา

หวานใจของชายคนหนึ่ง ชอบละครเรื่องนี้มาก
ปกติแล้ว เรื่องละครเธอไม่ค่อยชอบดู
แต่เธอชอบเรื่องนี้
ชอบในเนื้อหาที่อิงกับความเชื่อ และเรื่องราวจากอดีตชาติ


ดูนางเอก วาดจันทร์ นุ่น วรนุช ในฉากพลอดรักกับพระเอกของเรื่อง หวานใจของชายคนหนึ่งชักอิจฉาตาร้อน
ประมาณว่า กำลัง สวมบทวาดจันทร์ประมาณนั้นเลย


เห็นฉากบ้านสวนที่ร่มรื่น เห็นนพพล โกมารชุน แสดง
เธอก็นึกไปถึงรายการโทรทัศน์ที่เคยดู ที่พาไปเยี่ยมบ้านนพพล + ปรียานุช
บรรยากาศในบ้าน สวยงาม ร่มรื่น และเป็นคู่รักที่รักกันและดูแลกันอย่างดีมากๆ
หวานชื่น น่าอิจฉา


ดูละคร กาษา นาคา ต่อ เห็นรูปร่างของนุ่น วรนุช เธอชมว่า หุ่นเค้าดีจัง
ชายคนหนึ่งเลยบอกว่า งั้นต้อง ไปออกกำลังกาย รักษาสุขภาพแล้วล่ะ
จะได้หุ่นดีเหมือนนุ่น วรนุช ใส่เสื้อผ้า ชุดสวยๆ อวดรูปร่างเพรียวสวยได้
ไม่แพ้ นุ่น วรนุช!!!!




เธอบอกชายคนหนึ่งอีกว่า อยากไปยืดผมตรง
เปลี่ยนจากผมหยิก เป็นผมตรง

ชายคนหนึ่งบอกว่า ดีเหมือนกัน นะ เวลาถ่ายรูป จะได้ดูน่ารัก
ถ้าผมตรง เวลาลมพัด ผมจะพริ้วสลวย น่ารัก น่ามอง
แต่เมื่อเธอถามคนอื่นว่า
ระหว่างไว้ผมหยิก กับ ไว้ผมตรง แบบไหนดูดีกว่า
หลายคนบอกว่า เธอควรไว้ผมหยิก จะน่ารักกว่า

อือม ขนาดได้ดูละครแค่ไม่กี่นาที
ยังเกิดแรงบันดาลใจ เพียงนี้
ถ้าให้ดูละครทุกๆวัน เห็นรูปร่างของบรรดานางเอก และดาราสาวหลายๆคน
น่าจะมีแรงบันดาลใจดูแลรูปร่างให้หุ่นดีมากขึ้นกว่านี้แหงๆ






Technorati : , , , , ,

วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

'วิวาห์อลเวง' ละครฮาๆอลวนอลเวง ตามล้างตามตบจูบ









"วิวาห์อลเวง " ละครหลังข่าวช่อง 7 ออกอากาศต่อจาก เพลงรักริมฝั่งโขง ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.2550

เรื่องนี้เป็นละครดราม่า ตบจูบ แก้แค้นกัน ถูกใจคอละครเดียวนี้มาก นางเอกมาในบท ไฮโซขี้ิวินซะด้วย
เป็นละครที่ไปถ่ายตามรีสอร์ท คอกม้า ได้บรรยากาศธรรมชาติดี





วันออกอากาศ วันจันทร์
ช่องที่ออกอากาศ 7
วันที่เริ่มออกอากาศ 15 พฤษภาคม 2550
เวลาออกอากาศ 20:30 - 22:00 น.

กำกับโดย สิทธิวัชร์ ทับแป้น
ประพันธ์โดย อาริตา





เรื่องย่อ
ทิพเกสร ถูกเทวีผู้เป็นมารดาเรียกตัวกลับจากเมืองนอกโดยด่วน เมื่อเทวีรู้ว่าทิพเกสรกำลังจะชอบพอกับฝรั่ง ทิพเกสรไปเรียนเมืองนอกจนจบปริญญาโท ทำงานด้านท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์ชีวิต เธอไม่พอใจที่ถูกเรียกตัวกลับ แต่จำเป็นต้องกลับเพราะเทวีไม่ส่งค่าใช้จ่ายไปให้ ทิพเกสรอาจหาเงินใช้ได้เองแต่ก็ยังอาศัยเงินจากเทวีตลอดมา เธอกลัวลำบากจึงกลับมา

แต่เมื่อมาถึงบ้านดูจะซ้ำร้ายหนักไปอีกเมื่อรู้ว่าเทวีจะให้ทิพเกสรแต่งงานก ับชาวี หนุ่มซึ่งตั้งรกรากอยู่ต่างจังหวัด ทิพเกสรอาละวาดกับเทวีที่จับเธอคลุมถุงชน เธอบอกว่าเธอไม่มีทางจะแต่งงานกับชาวีหนุ่มบ้านนอกอย่างเด็ดขาด เทวีพยายามอธิบายให้ทิพเกสรฟังถึงคุณสมบัติของชาวีว่าเป็นคนดี แต่ไม่ได้บอกว่าชาวีเป็นน้องชายของพัฒนาพ่อเลี้ยงของทิพเกสร ซึ่งทิพเกสรเกลียดหนักหนา แม้พัฒนาจะทำดีอย่างไรก็ตามทิพเกสรก็ไม่เคยญาติดีด้วย เธอคิดว่าพัฒนาแต่งงานกับแม่ของเธอเพราะหวังสมบัติ เพราะพัฒนาอายุน้อยกว่าแม่เธอมาก ทิพเกสรไม่รู้ว่าแม่ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายและฐานะการเงินของแม่เธอย่ ำแย่ลง และพัฒนามาช่วยกอบกู้ไว้ บ้านไร่ของแม่ก็ขายไป แล้วแม่ทนการรังเกียจจากญาติพี่น้องของพัฒนาไม่ไหวหากเธอจะต้องอยู่ที่บ้านไ ร่ในจังหวัดเดียวกันกับจันทร์แจ่มแม่ของพัฒนาและชาวี และผู้ที่พัฒนาขอร้องให้ซื้อไร่ไว้คือชาวี พัฒนาอายุอ่อนกว่าเทวีถึงเจ็ดปีแต่ด้วยความรักเพียงอย่างเดียวทำให้พัฒนายอม ขัดใจกับจันทร์แจ่มผู้เป็นมารดา มีแต่ชาวีที่เข้าใจพัฒนาเพราะชาวีมองว่าความรักเป็นเรื่องส่วนตัวทุกคนมีสิท ธิ์เลือกเองตามใจปราถนา

แม้ว่าเทวีจะชักแม่น้ำทั้งห้ามาอ้างอย่างไรทิพเกสรก็ไม่ยอมแต่งงาน พัฒนามาช่วยพูดก็ถูกทิพเกสรว่าเอาอย่างแรงจนเทวีโมโหที่ทิพเกสรก้าวร้าวพัฒน า เทวีตบหน้าทิพเกสร ทิพเกสรเสียใจและโกรธเทวีมาก พัฒนาปลอบเทวีว่าทิพเกสรกำลังสับสน เทวีเป็นห่วงว่าชาวีจะต้องทนฤทธิ์เดชของทิพเกสรที่เอาแต่ใจตัว ไหนจะเรื่องญาติพี่น้องของชาวีอีก ไหนจะกลัวว่าชาวีจะกลับคำไม่ยอมแต่งงานตามที่ได้ตกลงกันไว้ พัฒนาบอกเทวีไม่ต้องเป็นห่วงเพราะชาวีเองก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันดื้อรั้นเอาแต ่ใจตัว ทรนงพอๆ กับทิพเกสร ส่วนเรื่องญาติพี่น้องไม่ต้องกังวลหากชาวีตกลงเรื่องแต่งงานใครก็ไม่กล้าหือ เลือดบ้าของชาวีมีมากกว่าพัฒนาเยอะ แล้วชาวีก็เป็นลูกรักของจันทร์แจ่มถึงจะทำอะไรออกนอกทางไปบ้างก็มีคนพร้อมอภ ัยให้เสมอ แถมเสน่ห์ก็แรงสาวๆ หมายปองกันมากมาย แต่ชาวีเป็นลูกผู้ชายแท้คำสัญญาที่ชาวีให้ไว้คือข้อตกลงมั่นคง แต่หากทิพเกสรไม่ตกลงแต่งงานจริง ชาวีก็คงไม่ติดใจอะไร

ทิพเกสรตัดสินใจหนีออกจากบ้านโดยจะไปที่บ้านไร่ที่เธอเองก็จำบ้านไร่ได้อย่า งเลือนลางเต็มทีเพราะเคยไปเมื่อสมัยตอนเด็กๆ เธอไม่รู้ว่าบ้านไร่นั้นไม่ใช่ของแม่เธออีกแล้ว ทิพเกสรพยายามร่างแผนที่ไปบ้านไร่แต่ว่าลืมไว้ เธอเขียนจดหมายทิ้งไว้ฉบับหนึ่ง เทวีมาพบเข้าเมื่อทิพเกสรไปแล้ว เธอตกใจมากและพยายามคิดว่าทิพเกสรจะไปอยู่กับใครพยายามสอบถามจากเพื่อนหลายๆ คนของทิพเกสรแต่ไม่ได้เรื่อง จนได้พบกระดาษที่ทิพเกสรลืมไว้จึงเดาได้ว่าทิพเกสรไปบ้านไร่ พัฒนาบอกเทวีว่าหากทิพเกสรไปบ้านไร่ก็จะได้พบกับชาวี หากทิพเกสรได้เจอกับชาวีก็คงมีเรื่องสนุกๆ อีกมากมายเนื่องจากต่างคนต่างไม่ยอมกันแน่ และนั่นจะช่วยดัดนิสัยทิพเกสรได้

ชาวีรับรู้เรื่องทิพเกสรมาบ้านไร่จากพัฒนาและไม่สนใจอะไรมากมาย เขาเคยเห็นทิพเกสรจากรูปที่พัฒนาส่งมาให้แล้วรู้สึกว่าเป็นคนสวยดี สวยพอจะเทียบกันได้กับบัวรินนางงามสามตำแหน่งที่เขากำลังคั่วอยู่ เมื่อทิพเกสรจะมาบ้านไร่ก็ดีเหมือนกันที่จะได้ใกล้ชิดกับตัวจริง ถือเป็นการสลับฉากกับบัวรินซะเลย อยากรู้เหมือนกันว่าทิพเกสรจะมีเสน่ห์พอมัดใจเขาได้หรือไม่ ชาวีเองก็ยังไม่อยากแต่งงานกับทิพเกสร ตอนที่พัฒนาขอร้องนั้นเขากำลังเมาเลยตกปากรับคำไปงั้นเอง พอสร่างเมาก็กังวลใจอยู่เหมือนกัน แต่พัฒนาก็รู้จักจุดอ่อนของน้องชาย เขาบอกชาวีว่าทิพเกสรเรียกชาวีว่าไอ้บ้านนอก ชาวีเลยฮึดขึ้นมาอยากเจอตัวจริงของทิพเกสรนัก ชาวีทระนงว่าตนเองทั้งร่ำรวยและรูปหล่อมีหญิงทั้งเมืองหมายปอง มาถูกดูแคลนจากทิพเกสรอย่างนี้ก็ต้องสู้กันละ เรื่องอะไรจะยอมเสียเชิงชาย

ชาวีแวะมาที่บ้านไร่เพื่อมาเตี๊ยมแผนการกับลุงขาบคนเฝ้าไร่ นายขาบเป็นคนเก่าแก่ของเทวี เมื่อชาวีซื้อบ้านไร่เขาให้นายขาบเป็นผู้ดูแลเหมือนเดิม ชาวีบอกเรื่องนายขาบกับทิพเกสรจะมาบ้านไร่และสั่งนายขาบไม่ต้องบอกทิพเกสรว่ าเขาเป็นใคร

ทิพเกสรมาถึงตัวอำเภอเอาตอนค่ำและต้องต่อรถไปอีกแต่ไม่มีรถรับจ้างยอมไปเพรา ะจะมืดแล้วหนทางน่ากลัว ทิพเกสรเพิ่มค่าจ้างให้อีกแต่คนรถไม่ยอมไปและแนะนำให้ทิพเกสรพักที่โรงแรมแล ะเดินทางวันรุ่งขึ้น ทิพเกสรกำลังถามเจ้าของโรงแรมถึงบ้านไร่เทวี บังเอิญชาวีที่มาทำธุระที่โรงแรมเดินเข้ามาชาวีจำทิพเกสรได้ เขาอาสาจะพาทิพเกสรไปที่บ้านไร่โดยบอกว่าเขาอยู่ไร่ใกล้กับบ้านไร่เทวี ทิพเกสรตกลงจ้างชาวีให้ไปส่ง ระหว่างทางชาวีพูดจากวนโทโสทิพเกสรไปตลอด ทิพเกสรก็ตอบโต้ไม่ลดละจนเป็นสงครามย่อยๆ ชาวีทนฤทธิ์เดชของทิพเกสรไม่ไหวเลยแกล้งทิ้งทิพเกสรไว้กลางทาง แต่ไม่ห่างบ้านไร่มากนัก แล้วไปบอกให้ลุงขาบเอารถไปรับทิพเกสร ชาวีอยากเล่นเกมกับทิพเกสรอยากรู้ว่าเธอจะเก่งสักแค่ไหนถ้าถูกทิ้งไว้กลางทา ง

ลุงขาบมารับทิพเกสร ทิพเกสรเล่าเรื่องที่หนีออกจากบ้านมาและชาวีไล่เธอลงกลางทางมาถึงบ้านไร่ทิพ เกสรเห็นรถชาวีจอดอยู่ ทิพเกสรถามลุงขาบว่าทำไมไม่ปิดประตูไร่ ทำไมปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาได้ ทิพเกสรคิดว่าต้องทำกำแพงไร่ แต่ลุงขาบบอกว่าคนแถวนี้เป็นเหมือนญาติพี่น้องกันไปมาหาสู่กัน ทิพเกสรเล่นงานชาวีที่บุกรุกเข้ามาในบ้านไร่ แต่ชาวีบอกว่าเขาเอาของกินมาให้

ทิพเกสรเห็นสภาพบ้านไร่ทรุดโทรมมาก เธอคิดจะปรับปรุง ลุงขาบหาคนทำงานบ้านมาให้สองคนคือนิ่มกับนุ่ม ทิพเกสรคิดว่าเธอต้องปรับสภาพตัวเธอเองให้เป็นชาวบ้าน เธอให้ลุงขาบเลิกเรียกเธอว่าคุณหนู

ชาวีรับโทรศัพท์เล่าความร้ายของทิพเกสรให้เทวีและพัฒนาฟัง เทวีขอชาวีว่าถึงทิพเกสรจะร้ายไปบ้างก็อย่าทำร้ายทิพเกสร เทวีอายพัฒนามากที่ทิพเกสรไปตู่เอาบ้านไร่ว่าเป็นของเธอ พัฒนาบอกอย่าคิดมากเขาตั้งใจจะยกบ้านไร่คืนให้ทิพเกสรอยู่แล้ว เทวีซึ้งในน้ำใจของพัฒนามาก

บัวรินมาหาชาวีที่บ้านพบแต่จันทร์แจ่ม พูดจาปะทะกัน จันทร์แจ่มไม่ชอบบัวริน บัวรินเป็นลูกแม่ค้า พูดจาจัดจ้าน ด่าทอได้สารพัดรูปแบบ เมื่อประกวดได้ตำแหน่งนางงามประจำจังหวัด บัวรินพยายามปรับปรุงตัวแต่ก็ยังหลงเหลือพื้นเดิมอยู่ ยิ่งยามที่ลืมตัวพื้นนิสัยเดิมก็จะแสดงออกมาชัดแจ้ง จันทร์แจ่มหงุดหงิดใจมากเรื่องคู่ครองของลูก เธอผิดหวังมาจากพัฒนาที่ไปคว้าแม่ม่ายอายุมากกว่าอย่างเทวีมาเป็นคู่ และเริ่มห่วงชาวีที่ทำท่าจะไปคว้าเอาบัวรินมา จันทร์แจ่มรู้ว่าบัวรินกลัวงูมากและถือโชคลาง และที่บ้านจันทร์แจ่มเลี้ยงงูหลามไว้ชื่ออุ้ยอ้าย จันทร์แจ่มหาทางกันไม่ให้บัวรินมาวุ่นวายที่บ้านของเธอด้วยการใช้อุ้ยอ้ายเป ็นตัวไล่บัวรินทุกครั้งที่บัวรินมาที่บ้าน คราวนี้ก็เช่นกันบัวรินมาถามทางไปบ้านไร่ จันทร์แจ่มไม่ยอมบอกและให้คนงานเอางูหลามมาโยนใส่รถบัวริน บัวรินตกใจมากคิดว่าต้องโชคร้ายแน่จึงเลิกล้มที่จะไปหาชาวี



จันทร์แจ่มโทรไปหาชาวีที่ไร่ซึ่งอยู่ติดกับไร่เทวีที่ทิพเกสรมาพักและบอกเรื ่องที่บัวรินจะตามมาที่บ้านไร่ แต่จันทร์แจ่มและมณีจัดการให้เสียก่อน จันทร์แจ่มซักไซ้ชาวีว่าพาใครมานอนด้วยที่บ้านไร่ ชาวีบอกว่ามีผู้หญิงมาอยู่กับเขาจริงคือทิพเกสรลูกเทวี แต่ไม่ได้มีอะไรกัน จันทร์แจ่มตกใจที่ลูกสาวของคู่ปรับมา และสั่งเด็ดขาดไม่ให้ชาวีไปยุ่งเกี่ยวกับทิพเกสรเพราะคิดว่าผู้หญิงคนนี้น่า จะปราบบัวรินและลูกชายเธอได้ จันทร์แจ่มให้มณี แม่บ้านของเธอ เดินทางไปบ้านไร่กับเธอโดยด่วน ชาวีขอร้องไม่ให้จันทร์แจ่มแสดงตัวว่าเป็นแม่ของเขา จันทร์แจ่มตกลง

จันทร์แจ่มและมณีมาที่บ้านทิพเกสรโดยทำท่าว่ามาเยี่ยมเยียนและถามสารทุกข์สุ ขดิบและไม่แสดงตัวว่าเป็นแม่ของชาวี ทิพเกสรต้อนรับจันทร์แจ่มอย่างดี และถามว่าชาวีเป็นใครมาวุ่นวายที่บ้านเธอราวกับเป็นบ้านของเขาเอง ทิพเกสรบอกว่าจะเอาเรื่องชาวี จันทร์แจ่มชอบความกล้าบ้าบิ่นของทิพเกสร เธอคิดว่าให้ทิพเกสรนี่ละดัดนิสัยชาวีเสียให้เข็ด

เมื่อกลับถึงบ้านจันทร์แจ่มปรารภกับมณีว่าทิพเกสรไม่เหมือนเทวีและไม่ได้มาต ิดใจชาวี แต่ชาวีคงไปกวนทิพเกสรก่อน มณีถามจันทร์แจ่มว่าจะเปิดเผยว่าเป็นแม่ชาวีเมื่อไร่ จันทร์แจ่มบอกว่ารอดูไปก่อนยังไม่รู้ว่าทิพเกสรมาที่บ้านไร่ทำไม อาจเป็นไปได้ว่าทิพเกสรเข้ากับชาวีและพัฒนาไม่ได้ จันทร์แจ่มดูท่าทางชาวีดูสนใจทิพเกสรแน่ เธอปรารภว่าเมื่อเทวีขโมยพัฒนาไป เธอก็จะขโมยทิพเกสรมาเป็นลูกบ้าง ดูซิว่าเทวีจะรู้สึกอย่างไร มณีว่าสงสัยจะต้องแถมชาวีให้กับเทวีอีกคนมากกว่า

ชาวีแวะมาที่บ้านทิพเกสรเพื่อขอกินข้าวด้วย ทิพเกสรไม่พอใจที่ชาวีถือวิสาสะเข้ามาในบ้านเธอ ทิพเกสรด่าชาวีว่าเป็นคนเถื่อน เป็นพวกวัวควาย ชาวีโกรธมากไม่เคยมีใครกล้าว่าเขาอย่างนี้ ในชีวิตเขามีแต่ผู้หญิงมาสยบและงอนง้อเขา ทิพเกสรเป็นใครกล้าว่าเขาอย่างนี้ ชาวีจึงเขาถึงเนื้อถึงตัวทิพเกสรแบบจะปล้ำเธอ ทิพเกสรอวดเก่งไม่กลัวและท้าให้ชาวีปล้ำ แถมยังคุยอวดว่าตัวเองแน่ เรื่องแค่นี้ไม่ยี่หระ ชาวีถูกสบประมาทก็ทนไม่ได้และอีกอย่างก็รู้ว่าทิพเกสรคือคู่หมั้น และที่สำคัญเขารู้สึกชอบ เขาดูท่าทีทิพเกสรแล้วว่าไม่เคยแน่กับเรื่องบนเตียง แต่ทำเป็นปากกล้าอวดเก่ง อยากรู้ว่าทิพเกสรจะเก่งแค่ไหน ชาวีอุ้มทิพเกสรไปที่ห้องนอน ทิพเกสรตกใจไม่คิดว่าชาวีจะกล้าเลยเถิดจริงๆ เธอพยายามดิ้นหนีร้องเรียกให้คนช่วย นิ่มกลับมาจากตลาดได้ยินเสียงร้องรีบเข้าไปในบ้านแต่ชาวีออกมาสั่งให้นิ่มกล ับไป นิ่มกลัวชาวี รู้กิตติศักดิ์ชาวีดีว่าเป็นคนโมโหร้าย นิ่มไปตามลุงขาบมาช่วยทิพเกสร แต่กว่าจะเจอ ทิพเกสรก็ไม่พ้นมือชาวีที่มีอารมณ์รักจนเต็มที่ไปแล้ว ทิพเกสรพ่ายแพ้แก่ชาวี สงครามความรักยุติลง ชาวีมีความสุขมาก เขารู้ว่าทิพเกสรเป็นสาวบริสุทธิ์

ชาวีบอกลุงขาบว่าทิพเกสรเป็นเมียเขาแล้ว ชาวีพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ชาวีแสดงความลุ่มหลงทิพเกสรออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัวต่อหน้าลุงขาบ แต่เขาไม่รู้ว่าเขาไม่มีวันได้ฝ่ายเดียว ทิพเกสรไม่ได้มานั่งคร่ำครวญกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอยังเป็นสาวมั่นดังเดิม เธอไล่ชาวีกลับไป แต่ชาวีตื้อจะอยู่กับเธอ ทิพเกสรให้ชาวีไปบอกให้พ่อแม่เขามาสู่ขอเธอ หากชาวีเบี้ยวทิพเกสรจะแจ้งความว่าชาวีข่มขืน ลุงขาบหัวเราะก้าก ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าทำกับชาวีอย่างนี้ ชาวีมองลุงขาบตาเขียวและสั่งไม่ให้ใครเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปพูดต่อ

ชาวีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับทิพเกสรให้จันทร์แจ่มฟังและบอกว่าทิ พเกสรต้องการให้จันทร์แจ่มไปสู่ขอ ชาวีทั้งวิตกว่าทิพเกสรจะบ้าไปแจ้งความและทั้งกลัวว่าจะเสียทิพเกสรไป จันทร์แจ่มสมน้ำหน้าว่าคราวนี้ชาวีจะต้องเจอดีแน่นอน ให้ชาวีหาทางแก้เอาเอง เธอเสียดายว่าถ้าทิพเกสรไม่ใช่ลูกเทวีคู่ปรับก็คงจะดี

เทวีรู้เรื่องที่ชาวีปล้ำทิพเกสรจากพัฒนา เทวีเป็นห่วงมากว่าผู้ชายได้ผู้หญิงก่อนแล้วยากที่จะมาแต่งงานด้วย พัฒนาบอกเทวีว่าไม่ต้องห่วงเพราะชาวีเป็นคนรับผิดชอบ ชาวีเป็นคนผยองในตัวเอง หากชาวีถูกทิพเกสรปฏิเสธชาวีคงคลั่ง เทวีไม่แน่ใจนักแต่เธอก็พยายามเชื่อพัฒนา เทวีรู้ว่าทิพเกสรต้องปะทะกับจันทร์แจ่มแน่นอน เทวีอยากบอกเรื่องที่พัฒนาช่วยครอบครัว เธออยากให้ลูกรู้ว่าพัฒนาเป็นคนดีมากๆ แต่พัฒนาห้ามไว้และบอกว่าเขาไม่แคร์ไม่ว่าทิพเกสรจะมองอย่างไร ขอให้เทวีเข้าใจเขาก็สุขใจแล้ว

ชาวีหายเงียบไป ทิพเกสรเริ่มกังวล ต่อหน้าทิพเกสรทำเป็นไม่แย่แสกับการเสียตัว แต่พอลับหลังทิพเกสรก็คิดมาก หากชาวีไม่มาสู่ขอ เธอจะทำอย่างไร เรื่องจะจบอย่างไร ชาวีคงไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแน่ดูจากท่าทีของนิ่มกับนุ่มที่กลัวชาวีมาก ทิพเกสรเรียกนุ่มกับนิ่มมาถามเรื่องชาวี นิ่มกับนุ่มเล่าเรื่องชาวีให้ทิพเกสรฟัง ทิพเกสรจึงรู้ว่าจันทร์แจ่มคือแม่ของชาวี

เรื่องชาวีพาภรรยามาอยู่ที่บ้านไร่เป็นที่รู้กันทั้งอำเภอ ทิพเกสรคิดว่าจะไปหาชาวีเพื่อถามเรื่องแต่งงานแต่เธอก็กลัวว่าหากชาวีกลับคำ เธอคงหน้าแตก แต่ในที่สุดทิพเกสรตัดสินใจว่าจะต้องไปพูดกับชาวีให้รู้เรื่อง

ชาวีกลุ้มมาก จันทร์แจ่มก็ไม่ช่วยอะไรและยังพูดจาถากถางสะใจอีกด้วย ชาวีมาหาบัวรินที่บ้านบัวริน บัวรินดีใจมาก บัวรินเอาใจชาวี เธอรู้ว่าผู้ชายแพ้การปร่นเปรอเอาใจ ยิ่งชาวีมาหาเธอด้วยสีหน้าที่กลุ้มใจ บัวรินต้องให้การเยียวยาอย่างรวดเร็ว บัวรินทุ่มเทตัวให้ชาวี ทีแรกชาวีก็บ่ายเบี่ยงแต่บัวรินรู้จุดอ่อนของชาวีดี เพราะเป็นวัวเคยขากันมาก่อนและเป็นเพราะชาวีคิดถึงทิพเกสรมากชาวีจึงหลับนอน กับบัวริน ทุกครั้งที่ชาวีมีความสัมพันธ์กับบัวรินเขาจะป้องกันเสมอ บัวรินออดอ้อนให้ชาวีแต่งงานกับเธอ แต่ชาวีบ่ายเบี่ยงและทบทวนให้บัวรินฝังถึงข้อตกลงที่ต่างคนต่างฟรี พอใจก็มาแชร์ความสุขกัน บัวรินแค้นใจเสียใจมาก เธอไม่ต้องการเป็นแค่คู่นอน เธอต้องการแต่งงานกับชาวี และต้องหาทางให้ชาวีแต่งงานกับเธอให้ได้ และทางเดียวที่จะทำให้เขาปฏิเสธเธอไม่ได้แน่นอนคือเธอต้องท้องกับเขา
ทิพเกสรคิดว่าเธอต้องมีงานทำเพราะเงินทองที่ติดตัวมาหร่อยหรอลงไปทุกที ทิพเกสรไปสมัครงานในเมืองแต่ไม่มีใครรับเธอเพราะเธอคือเมียของชาวีมหาเศรษฐี ทุกคนรู้ว่าชาวีไม่พอใจแน่หากทิพเกสรทำงาน มันเป็นการหักหน้าและดูถูกชาวีที่ไม่สามารถเลี้ยงเมียได้ต้องให้มาตะลอนหางา นทำ ทิพเกสรตัดสินใจไปหาแก้วดาราเพื่อนเก่าของเธอสมัยที่เธอมาอยู่ที่บ้านไร่ แก้วดาราเป็นลูกของเจ้าทิพย์ทอง เธอพึ่งกลับมาจากต่างประเทศและกลุ้มใจมากที่เจ้าทิพย์ให้เธอเลิกกับแฟนและเต รียมแต่งงานกับทัศนัยหลานห่างๆ ของท่าน ทัศนัยเป็นคนเรียบร้อย ทุกอย่างดีเลิศ แต่ไม่มีใครรู้ว่าทัศนัยเป็นเกย์ ระหว่างเดินทางทิพเกสรสวนกับรถของชาวี ชาวีจำได้และตามไป

แก้วดาราดีใจมากที่ได้พบทิพเกสร ต่างคนต่างเล่าเรื่องของกันและกัน แก้วดาราปรับทุกข์เรื่องแฟนของเธอที่เจ้าทิพย์ทองให้เลิกกันเพื่อแต่งงานกับ เจ้าทิพย์ทองหาให้ ทิพเกสรเองก็เล่าถึงสาเหตุที่เธอมาอยู่ที่บ้านไร่และต้องการหางานทำ

ชาวีตามทิพเกสรมาที่คุ้มเจ้าทิพย์ทอง เจ้าทิพย์ทองคุ้นเคยกันดีกับจันทร์แจ่มและชาวี แต่ไม่ค่อยได้พบกัน เจ้าทิพย์ทองแปลกใจมากที่ชาวีมาถึงคุ้มเธอ ชาวีถามสารทุกข์สุขดิบและถามถึงแก้วดารา เจ้าทิพย์ทองเล่าเรื่องถึงความดื้อรั้นของแก้วดาราให้ชาวีฟังและถามถึงธุระข องชาวี ชาวีบอกว่าเขามาตามทิพเกสรเมียของเขาและร่ายยาวเรื่องราวให้เจ้าทิพย์ทองฟัง เจ้าทิพย์ทองถามว่าจะแต่งงานกับทิพเกสรเมื่อไหร่ ชาวีอึกอัก เจ้าทิพย์ทองดักคอหรือว่าจะไม่แต่ง เจ้าทิพย์ทองไม่เห็นด้วยถ้าจะอยู่กันเฉยๆ เพราะเธอเองก็มีลูกสาว โชคดีที่แก้วดาราไม่เก่งกล้าสามารถอย่างทิพเกสร เจ้าทิพย์ทองบอกชาวีว่าเธอต้องการให้แก้าดาราแต่งงานกับทัศนัย ทัศนัยก็เต็มใจที่จะแต่งงานกับแก้วดารา มีแต่แก้วดาราที่ยังหลงอยู่กับแฟนเก่า ชาวีตกใจมากเจ้าทิพย์ทองไม่รู้ว่าทัศนัยเป็นเกย์แต่เขาก็ไม่กล้าบอกเจ้าทิพย ์ทองเพราะทัศนัยเป็นญาติห่างๆ ของเจ้าทิพย์ทอง เจ้าทิพย์ทองให้คนไปตามแก้วดาราและทิพเกสรมาพบและไม่ต้องบอกว่าชาวีมาคอยพบ แก้วดาราและทิพเกสรมาพบเจ้าทิพย์ทอง ทิพเกสรแปลกใจมากว่าชาวีมาได้อย่างไร เจ้าทิพย์ทองบอกทิพเกสรว่าชาวีมาตามกลับ และว่าเป็นผัวเมียกันอย่างงอนกันเลย ทิพเกสรหน้าชาวีและปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่เมียชาวี เจ้าทิพย์ทองเริ่มสับสน และคิดว่าชาวีมั่วเอาเอง ชาวีไม่มีทางเลือกเขาจำเป็นต้องพูดอะไรที่ตัวเองรู้สึกทุเรศออกไปว่าทิพเกสร เป็นเมียเขาให้ถามทิพเกสรดูว่านอนกับเขามากี่ครั้งแล้ว ทิพเกสรอายเจ้าทิพย์ทองมาก ชาวีบอกเจ้าทิพย์ทองว่าทิพเกสรทะเลาะงอนกับเขาแล้วหนี้มาเพราะเธออยากทำงาน แต่เขาไม่อยากให้เมียทำงาน เขาหาเลี้ยงได้ ทิพเกสรโมโหชาวีมาก เถียงกันจนเจ้าทิพย์ทองจะเป็นลม แก้วดาราต้องให้ชาวีและทิพเกสรหลบไปคุยกันที่ห้องพักแขก ทิพเกสรกับชาวีมาโต้เถียงกันต่อ คราวนี้อยู่ในห้องชาวีถือว่าได้เปรียบไม่เถียงอย่างเดียวยังลวนลามทิพเกสรอี กด้วย ทิพเกสรตกเป็นของชาวีอีกเพราะจริงๆ เธอก็รักเขาเข้าให้แล้วด้วย

เจ้าทิพย์ทองเล่นงานแก้วดาราที่ปิดบังเธอเรื่องทิพเกสรกับชาวี และสั่งห้ามไม่ให้ไปยุ่งเรื่องของผัวเมียเขาอีก ชาวีพาทิพเกสรไปหาจันทร์แจ่มที่บ้าน แม้จันทร์แจ่มจะไม่ชอบเทวีแม่ของทิพเกสรแต่ก็มีความเมตตาต่อทิพเกสรไม่น้อย จันทร์แจ่มถูกใจนักที่ทิพเกสรไม่ยอมลงให้ชาวี เธอมั่นใจว่าทิพเกสรจะดัดนิสัยเสียๆ ของชาวีได้บ้าง สาวใช้มาบอกว่าบัวรินมาหาชาวี ชาวีเลี่ยงที่จะพบชาวี ทิพเกสรถามชาวีว่าจะหนีไปไหน และบัวรินเป็นใคร ชาวีมองหน้าทิพเกสรที่กำลังจะเล่นบทตัวร้าย จันทร์แจ่มกับมณีก็กำลังคอยดูอยู่ คนอย่างชาวีเสียหน้าไม่ได้ ชาวีบอกทิพเกสรว่าบัวรินเป็นเพื่อน ทิพเกสรว่าแน่นะ และไปพบบัวรินเพื่อให้แน่ใจว่าแค่เพื่อน ทิพเกสรบอกเพียงเธอต้องการรู้ความจริงจะได้รับมือได้ถูก ชาวีโมโหมากและถามทิพเกสรว่ามีสิทธิ์อะไร ทิพย์เกสรได้ทีสวนกับ

ชาวีว่าเมื่อตอนอยู่ที่คุ้มเจ้าทิพย์ทองก็บอกใครๆ ว่าทิพเกสรเป็นเมีย ตอนนี้เธอจะใช้สิทธิ์ความเป็นเมียไปต้อนรับเพื่อนของชาวี ทิพเกสรควงแขนชาวีออกไปต้อนรับบัวริน บัวรินแทบช็อคเพราะภาพที่เห็นบอกชัดว่าทิพเกสรเป็นผู้หญิงพิเศษของชาวีและชา วีก็ดูกลัวทิพเกสร ทิพเกสรแสดงฤทธิ์ใส่บัวรินเมื่อบัวรินบอกว่าเธอเป็นเมียมาหาผัว ทั้งคู่ต่อปากต่อคำกันอย่างเผ็ดร้อน บัวรินยื้อยุดฉุดกระชากชาวีและส่งเสียงร้องกรี๊ดๆ จันทร์แจ่มกับมณีดูด้วยความสะใจ ชาวีเรียกให้จันทร์แจ่มช่วยแต่จันทร์แจ่มไม่สนใจ ทิพเกสรสั่งให้ชาวไล่บัวรินกลับไป ชาวีปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากเพราะทำอะไรสองสาวไม่ได้ทั้งนั้น สุดท้ายชาวีสบัดหนีไป ทิพเกสรตามชาวีไป ทิ้งให้บัวรินเต้นเร่าๆ อยู่ บัวรินขอความเห็นใจจากจันทร์แจ่มแต่จันทร์แจ่มไม่สนใจ สุดท้ายบัวรินก็ต้องล่าถอยไปพร้อมกับความอาฆาตทิพเกสรและจันทร์แจ่ม

จันทร์แจ่มสมใจมากที่ในที่สุดก็มีคนที่จะดัดนิสัยชาวีได้ มณียังสงสัยว่าจันทร์แจ่มจะยอมรับทิพเกสรได้แน่หรือ จันทร์แจ่มบอกไปกันได้เธอก็ไม่รังเกียจ มณีไม่คิดว่าทิพเกสรจะปราบชาวีได้ แต่จันทร์แจ่มวิเคราะห์ว่าถ้าทิพเกสรเป็นฝ่ายปฏิเสธการแต่งงานกับชาวีก็แสดง ว่าเธอแน่จริงและชาวีนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายสับสนทุรนทุราย และทิพย์เกสรก็เป็นอย่างที่จันทร์แจ่มคิดจริงๆ หลังจากได้เสียกับชาวีแล้ว เธอไม่ได้คร่ำครวญเรียกร้องให้เขาแต่งงานด้วยเลย มีบางครั้งทิพเกสรลั่นวาจาว่าต้องแต่งงานกับเธอแต่แล้วก็ทำท่าไม่สนใจใยดีว่ าจะได้แต่งหรือไม เมื่อชาวีถามทิพเกสรว่าจะแต่งงานกับเขาไหม ทิพเกสรแสดงอาการเหมือนปฏิเสธ ชาวีสับสนมากว่าเธอจะเอาอย่างไงกันแน่ เขาอ่านใจทิพเกสรไม่ออก ยามเธอหวงเธอก็เล่นแรง เธอบอกว่าเธอไม่ได้รักเขาแต่เธอก็ไม่ปล่อยเขา ไม่ยอมให้บัวรินมามีบทบาท ชาวีถามตัวเองว่าหรือเขาต้องเอาจริงจังกับทิพเกสรมากกว่านี้แล้ว ชาวีถามทิพเกสรว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ อยากให้รับผิดชอบก็ทำแล้วจะเอาอย่างไรอีก ทิพเกสรว่าชาวีมีบัวรินอยู่แล้วเธอไม่สนใจ เทวีกังวลใจในความสัมพันธ์แบบเล่นแง่กันของทิพเกสรและชาวี พัฒนาสงสารเทวี บอกว่าจะไปจัดการเรื่องนี้เอง พัฒนามาหาจันทร์แจ่ม จันทร์แจ่มดีใจมากแต่ก็ยังอดกระทบกระเทียบเรื่องเทวีไม่ได้ พัฒนาบอกว่าเขามาจัดการเรื่องทิพเกสรกับชาวี สองคนนี้ควรแต่งงานกันได้แล้ว จันทร์แจ่มถามพัฒนาว่าเป็นผู้วิเศษหรือไง ตัวเองก็พยายามจัดการอยู่ยังไม่สำเร็จเลย พัฒนาบอกว่าเขาจะต้องทำให้ได้ให้ทันที่เทวีจะได้เห็นการแต่งงานก่อนที่มะเร็ งจะพรากชีวิตเธอไป จันทร์แจ่มตกใจ เพิ่งรู้ว่าเทวีเป็นโรคร้ายและกำลังจะตาย จันทร์แจ่มห่วงพัฒนาว่าหากเทวีตายจากไปพัฒนาจะทำอย่างไร เพราะจากแววตาและน้ำเสียงของพัฒนาคงจะตายตามเทวีไปด้วยแน่

ชาวีพยายามพูดกับทิพเกสรให้เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่ต้องไปหางานทำ แต่ทิพเกสรไม่ยอม เธอมองว่าเธอยังมีประโยชน์และมีคุณค่าเพราะว่าเธอเรียนมามาก แต่ชาวีกลับมองว่าการที่เขามีความเต็มใจที่จะหาเลี้ยงเมียไม่ใช่เรื่องประหล าด ทิพเกสรเข้าใจว่าชาวีทำไปเพื่อให้ตัวเองภูมิใจว่าเป็นลูกผู้ชาย แล้วความรักเล่า...ทิพเกสรรู้สึกตลอดมาว่าระหว่างที่ต่างคนจะเอาชนะคะคานกัน เธอกับชาวีไม่เคยพูดถึงเรื่องความรักเลย เธอกับเขาไม่ได้รักกัน มันเป็นความพลั้งเผลอทางกายและเป็นเรื่องราวที่ปรารถนาทางเพศเท่านั้นเอง ชาวีเป็นคนเปิดประตูเรื่องเพศให้เธอรู้และตัวเองก็ยอมรับและปฏิเสธมันไม่ได้ นี่แหละคือความผิดของทิพเกสร เธอเดินไปตามแรงปรารถนาและด้วยความพอใจ ชาวีมีแต่ความใคร่ ชาวีเริ่มโมโหว่าทิพเกสรไม่เข้าเรื่องการไปทำงาน ชาวีบอกทิพเกสรว่าไม่ต้องการให้ทิพเกสรมาประนามว่าเขาไม่รับผิดชอบเขาต้องรั บผิดชอบทุกอย่างทั้งเรื่องการแต่งงาน แล้วชาวีเองก็ยังไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเมื่อเราไม่เคยรักกันอะไรหลายอย่างที่เป็นลบจะเกิดตามมาหลังการแ ต่งงาน แล้วชาวีเองก็ยังไม่เคลียร์เรื่องบัวริน ชาวีบอกงั้นมาลองรักกันมาลองพูดจากันดีๆ เพราะจริงทั้งทิพเกสรและเขาก็มีใจให้กันเกินกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว

พัฒนามาหาชาวีและบอกเรื่องที่เทวีกำลังจะตายและต้องการเห็นการแต่งงานของลูก สาว ชาวีตกใจมาก พัฒนาไปหาทิพเกสร ทิพเกสรตั้งท่าเป็นศัตรูด้วยอย่างเคย แต่เมื่อพัฒนาล่าเรื่องเทวีให้ฟัง ทิพเกสรตกใจมากและคิดว่าเธอทำให้เทวีเสียใจมามากแล้ว เธอควรทำให้เทวีมีความสุขมากที่สุดในช่วงวาระสุดท้าย ทิพเกสรโทรขอโทษเทวีและต่อว่าด้วยความน้อยใจที่เทวีปกปิดเรื่องราวทุกอย่าง เทวีบอกว่าเธอต้องการให้ทิพเกสรมีแต่ความสุข ทิพเกสรบอกว่าเธอจะทำตามที่เทวีต้องการเรื่องแต่งงาน แต่ชาวีไม่ได้รักเธอ เทวีบอกว่าทิพเกสรให้ความรักกับชาวีแล้วทิพเกสรจะได้ความรักกับคืนมา เทวีบอกว่าจะรีบมาหาทิพเกสร ทิพเกสรขอโทษพัฒนาที่เธอเข้าใจเขาผิด

ทิพเกสรเริ่มญาติดีกับชาวี พูดคุยกันด้วยความเข้าใจ ยามนี้เธอน่ารักอ่อนหวานจนชาวีเองก็รักเธอมากขึ้น ทิพเกสรคิดจะเลี้ยงไก่ ปลูกผัก เพื่อความเพลิดเพลิน ส่วนผลผลิตที่เหลือก็จะนำไปขาย ชาวีบอกทิพเกสรว่าเธอจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่เขาสงสัยว่าทิพเกสรจะอยู่ที่นี้ได้นานแค่ไหน ทิพเกสรบอกเธอตัดสินใจแล้วจะเป็นคนที่นี่และแต่งงานกับชาวี พัฒนาได้ยินเรื่องที่ชาวีคุยกับทิพเกสร พัฒนาถามชาวีตรงๆ ชาวีสารภาพเรื่องที่ผ่านมาระหว่างเขากับทิพเกสร พัฒนาดีใจที่ชาวีเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้และที่สุดชาวีรักทิพเกสรจริง พัฒนาบอกชาวีว่าอย่ามัวแต่เอาชนะกัน ใครบอกรักใครก่อนไม่ใช่เรื่องน่าอาย ชาวีบอกพัฒนาว่าอย่ากลัวใจทิพเกสรเพราะเธอเปลี่ยนไปบ่อยครั้งจนตามไม่ทัน พัฒนาบอกว่าคราวนี้รับรองไม่ผิดหวัง

บัวรินยังหาทางที่จะเอาชนะทิพเกสรตลอด แต่ก็แพ้ทิพเกสรตลอดเหมือนกัน ทิพเกสรไม่หมูเหมือนที่บัวรินคิด และชาวีเองก็ไม่มีใจให้กับบัวริน ทำให้บัวรินแค้นมาก บัวรินมาหาจันทร์แจ่มที่บ้าน จันทร์แจ่มกำลังจะไปทำบุญที่วัดให้พัฒนา เพราะพัฒนาท่าทางเศร้าโศรกกับเรื่องของเทวีมาก หากเทวีตายไปพัฒนาจะอยู่อย่งไร บัวรินเริ่มอุบายที่เธอเตรียมมาทันที ทำเป็นขอความเห็นใจจากจันทร์แจ่มแต่จันทร์แจ่มบอกว่าเป็นเรื่องของชาวีเธอไม ่ยุ่งด้วยและให้บัวรินกลับไป บัวรินบอกจันทร์แจ่มว่าเธอป่วยเป็นโรคเอดส์และเชื่อว่าชาวีก็ต้องได้รับเชื้ อด้วย จันทร์แจ่มตกใจ แต่ความเจนโลกทำให้ยังไม่เชื่อบัวริน จันทร์แจ่มบอกบัวรินว่าทำไมกล้าเอาตัวเองมาประจานอย่างนี้ เธอจะเชื่อบัวรินก็ต่อเมื่อมีผลการตรวจเลือดมาแสดง แต่จันทร์แจ่มก็ยังกลุ้มใจ ถ้าบัวรินเป็นเอดส์จริงเธอจะทำอย่างไร จันทร์แจ่มปรึกษาพัฒนา พัฒนาบอกว่าทางที่ดีที่สุดคือให้ชาวีและทิพเกสรไปตรวจเลือด

บัวรินคิดว่าระเบิดที่เธอวางไว้จะได้ผลบ้างไหม เธอทุรนทุรายอยากเจอชาวีแต่เธอไม่รู้ว่าบ้านไร่อยู่ที่ไหนและทิพเกสรก็เป็นต ัวมารคอยขวางอยู่ แต่เธอก็ต้องสืบให้ได้ว่าบ้านไร่อยู่ที่ไหน

พัฒนาเล่าเรื่องบัวรินเป็นเอดส์ให้ชาวีและทิพเกสรฟัง ทิพเกสรสงบเฉยแม้แววตาจะหวั่นไปบ้าง ชาวีบอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ทุกครั้งที่เขามีอะไรกับบัวรินเขาใช้ถุงยางอนาม ัยทุกครั้ง พัฒนาให้ไปตรวจเลือดเสียจะได้ไม่ต้องมานั่งวิตกกังวล

พัฒนาไปซื้อของห้างสรรพสินค้าในเมืองก่อนกลับบ้าน เขาได้พบกับแก้วดาราที่อ้างว่ามาซื้อของแต่ที่จริงเธอนัดเจอกับคนรักและกำลั งเซ็งเพราะความรักของแก้วดาราเปลี่ยนไปเขาเริ่มห่างเหินจากเธอ แก้วดาราจำพัฒนาได้และเดินเข้าไปแนะนำตัวกับพัฒนา พัฒนาเริ่มจำแก้วดาราได้ แก้วดาราบอกว่าเธอเป็นเพื่อนกับทิพเกสรแฟนของชาวี และกำลังจะไปหาทิพเกสร พัฒนาบอกทิพเกสรคือลูกเลี้ยงของเขา และบอกว่าอีกสองวันเขาจะกลับไปที่บ้านไร่ แก้วดาราจะไปพร้อมเขาก็ได้

แก้วดารากลับไปถึงบ้านพบจันทร์แจ่มคุยกับเจ้าทิพย์ทองอยู่ แก้วดาราบอกจันทร์แจ่มว่าเธอเพิ่งพบกับพัฒนาที่ห้างสรรพสินค้าและนัดกันจะไป เยี่ยมทิพเกสร จันทร์แจ่มบอกทิพเกสรกำลังจะแต่งงานกับชาวี ที่ต้องรีบแต่งเพราะเทวีแม่ทิพเกสรเป็นมะเร็งใกล้ตาย เทวีมีลูกสาวคนเดียวอยากจะจัดการแต่งงานให้สมหน้าสมตาก่อน แก้วดาราเข้าใจแล้วว่าเรื่องเทวีนี้เองที่ทำให้พัฒนาดูเศร้าหมอง แก้วดาราขอตัวออกมา จันทร์แจ่มพอใจแก้วดารามากและอยากให้แก้วดาราได้เป็นคู่กับพัฒนาเพื่อไม่ให้ พัฒนาเศร้าเสียใจมากเมื่อเทวีตายไป เจ้าทิพย์ทองไม่ขัดข้องแต่ขอหยั่งเสียงแก้วดาราดูก่อน
จันทร์แจ่มกลับไปแล้ว แก้วดารามาคุยกับเจ้าทิพย์ทองเรื่องพัฒนา เธอสงสารพัฒนามาก เจ้าทิพย์ทองถามแก้วดาราว่าถึงเรื่องคู่รัก แก้วดาราบอกว่าเขาเปลี่ยนไปแล้วเธอเองก็เสียใจแต่ก็ต้องหักใจ เจ้าทิพย์ทองโล่งอกที่แก้วดาราไม่คิดสั้น เจ้าทิพย์ทองบอกแก้วดาราว่าจันทร์แจ่มขอแก้วดาราให้พัฒนา แก้วดาราบอกทุกอย่างขึ้นอยู่กับพัฒนาเขาจะว่าอย่างไร

พัฒนาเก็บตัวอยู่เงียบๆ จันทร์แจ่มกับมณีไม่กล้ามายุ่งไม่กล้าเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด จันทร์แจ่มปรับทุกข์กับมณีว่ายิ่งนับวันพัฒนายิ่งดูห่างเหิน ขนาดเทวียังอยู่เขายังเก็บตัวเพียงนี้ หากเทวีตายลงพัฒนาจะเป็นแบบไหน มณีปลอบจันทร์แจ่มว่าทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น

พัฒนากับแก้วดารามาที่บ้านไร่ ทิพเกสรดีใจมากที่พบแก้วดารา แก้วดาราบอกทิพเกสรว่าเธอเลิกกับแฟนแล้วตอนนี้อกหัก แก้วดาราสนใจพัฒนาแต่พัฒนาไม่สนใจเธอ เขาซื่อตรงต่อเทวีมาก

ชาวีถามพัฒนาว่าได้รู้จักแก้วดาราอย่างไร ท่าทางแก้วดาราจะสนใจพัฒนา พัฒนารู้สึกตามที่ชาวีว่า พัฒนาบอกชาวีว่าแก้วดาราอกหัก ชาวีให้พัฒนาเชื่อมความสัมพันธ์ไว้ แต่พัฒนาปฏิเสธ

บัวรินคิดถึงชาวีมาก เธอไปบ้านจันทร์แจ่ม จันทร์แจ่มกำลังเตรียมจะไปบ้านไร่ บัวรินแสดงท่าหวานเข้าไปโอบกอดจันทร์แจ่ม จันทร์แจ่มทำท่ารังเกียจเพราะบัวรินเป็นเอดส์ แต่บัวรินลืมเรื่องที่ตัวเองกุเอาไว้ บัวรินต่อว่าจันทร์แจ่มว่าทำท่ารังเกียจเธอเหมือนเธอเป็นโรคติดต่อ จันทร์แจ่มบอกเธอบอกเองไม่ใช่หรอว่าเธอเป็นเอดส์ บัวรินงงกับคำถามของจัทร์แจ่ม จันทร์แจ่มจับพิรุธได้และว่าบัวรินโกหกเธอเรื่องเป็นเอดส์ บัวรินรูว่าพลาดไปแล้ว จันทร์แจ่มด่าว่าบัวรินอย่างไม่ยั้ง บัวรินเมื่อพลาดเสียทีจันทร์แจ่มแล้วก็ไม่เกรงใจจันทร์แจ่มอีกต่อไป มณีเข้ามาพอดีเลยมีเรื่องกับบัวริน บัวรินจะเข้าตบมณีแต่เสียหลักล้มลงจมูกที่เสริมไว้กระแทกพื้นจนบิดเบี้ยว จันทร์แจ่มเวทนาให้คนพาส่งโรงพยาบาล แต่ฤทธิ์เดชบัวรินยังไม่หมดเธอขู่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

จันทร์แจ่มและมณีมาที่บ้านไร่บอกเรื่องที่บัวรินโกหกว่าเป็นเอดส์ และเล่นงานชาวีที่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้ทุกคน จันทร์แจ่มบอกเรื่องบัวรินไปอาละวาดที่บ้านและได้รับบาดเจ็บจมูกเบี้ยว ชาวีบอกว่าจะช่วยค่าเสียหายให้บัวรินและจะแถมเงินปลอบใจให้อีกจะได้เลิกยุ่ง กันไป มณีอดกระทบไม่ได้ว่าเคยๆ กันอยู่จะอดไหวหรือ ชาวีบอกว่าไหวเพราะเขากำลังจะมีเมียที่น่ารัก

พัฒนายังหลบหน้าแก้วดาราเหมือนเคย แก้วดาราเป็นผู้หญิงสมัยใหม่เธอชอบใครเธอก็แสดงออกมา พัฒนารู้และพยายามเลี่ยงที่จะอยู่กับแก้วดาราลำพัง เขารู้สึกว่าผู้หญิงสมัยนี้ใจถึงกันเหลือเกิน แก้วดาราเล่าเรื่องที่เธอตามแหย่พัฒนาให้ทิพเกสรฟังอย่างไม่ปิดบัง และขอให้ทิพเกสรเข้าใจด้วยว่าแก้วดาราไม่ได้มีเจตนาจะแยกพัฒนาจากเทวี แล้วจริงๆ พัฒนาอาจจะไม่สนใจเธอก็ได้ แก้วดาราบอกว่าทิพเกสรเปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือจากสาวเปรี้ยวมาเป็นแ ม่ศรีเรือน ทิพเกสรบอกตอนนี้เธอต้องการมีชีวิตที่สงบ

ชาวีให้อำนาจทนายความไปจัดการเรื่องบัวริน บัวรินได้รับรู้จากอำนาจว่าชาวีกำลังจะแต่งงานอีกสองเดือนข้างหน้า บัวรินปวดร้าวมาก เธอต้องหาทางไปบ้านไร่ให้ได้เพื่อไปถามความจริงจากชาวี

วันรุ่งขึ้นบัวรินไปหาอำนาจที่บริษัท บัวรินยั่วยวนอำนาจเพื่อสอบถามทางไปบ้านไร่แต่อำนาจไม่สนใจและไล่บัวริน อำนาจโทรหาจันทร์แจ่มเล่าเรื่องที่บัวรินมาที่บริษัทให้ฟังและบอกว่าเขาไม่เ ห็นด้วยที่ชาวีไม่ให้เงินบัวริน มันจะทำให้บัวรินคิดว่าชาวียังมีเยื่อใยต่อเธอ จันทร์แจ่มอึ้งไปเหมือนกัน เธอเคยบอกชาวีแล้วแต่ชาวีแล้วแต่ชาวีเห็นแก่มนุษยธรรม จันทร์แจ่มคิดว่าบัวรินต้องหาทางมาที่บ้านไร่ได้จนแน่

บัวรินมาหาจันทร์แจ่มที่บ้าน จันทร์แจ่มไม่ต้อนรับบัวรินแต่บัวรินก็ออดอ้อนต่างๆ นานาอ้างว่าเอาจมูกที่ทำมาใหม่มาให้ดู บัวรินลืมไปหมดว่าเคยด่าจันทร์แจ่มไว้อย่างไร มณีเอาอุ้ยอ้ายงูหลามที่เลี้ยงไว้เข้ามา บัวรินร้องลั่นด่ามณี และทะเราะกันขั้นตบตี บัวรินสู้ไม่ได้ไปแจ้งความให้ตำรวจมาจับมณี แต่มณีพูดจาน่าเชื่อถือกว่าบัวรินตำรวจจึงกลับไป
พัฒนาเดินทางไปรับเทวีที่กรุงเทพ แก้วดารารู้ว่าเธอเป็นส่วนเกินจึงเดินทางกลับ เจ้าทิพย์ทองสังเกตว่าแก้วดาราแปลก ๆ ไป แก้วดาราสารภาพกับแม่ว่าเธอรักพัฒนาและครั้งนี้ไม่เหมือนความรักที่ผ่านมา เธออยากให้พัฒนามีความสุขแม้พัฒนาจะไม่สนใจเธอเลยก็ตาม

บัวรินจ้างนักสืบให้สืบหาจนรู้ทางไปบ้านไร่ บัวรินไปถึงบ้านไร่ก็ส่งเสียงดังอ้างตัวเป็นเมียชาวี ชาวบ้านที่ได้ยินต่างไม่เชื่อเพราะรู้ว่าชาวีกำลังจะแต่งงานกับทิพเกสร นุ่มรีบไปตามทิพเกสรมา ทิพเกสรรู้ว่าต้องเป็นบัวริน บัวรินพูดจาก้าวร้าวทิพเกสร แต่ทิพเกสรด่าบัวรินอย่างผู้ดี บัวรินทนไม่ได้กับท่าทีที่ทิพเกสรทำกับเธอเหมือนเธอเป็นไพร่สถุน บัวรินจะตบทิพเกสรแต่ชาวบ้านและนุ่มเข้าขวาง บัวรินกลัวพวกชาวบ้าน บัวรินถามทิพเกสรว่า

ชาวีจะกลับเมื่อไร ทิพเกสรบอกชาวีไปทำงานคงกลับค่ำๆ และให้บัวรินไปหาชาวีที่บริษัท บัวรินไม่กล้าไปเพราะเคยไปแล้วและยามไม่ให้บัวรินเข้าไป บัวรินบอกว่าเธอจะคอยอยู่ใกล้ๆ บ้านไร่ ทิพเกสรบอกตามใจ บัวรินบอกว่าจะไปรอที่ร้านกาแฟแต่เจ้าของร้านไม่ให้บัวรินเข้าไปในร้าน ชาวบ้านทุกคนไม่ยอมรับบัวริน สุดท้ายบัวรินต้องขับรถไปรอที่วัด

ลุงขาบดัดรอชาวีเพื่อบอกว่าบัวรินคอยอยู่ที่วัดและให้เด็กคอยวิ่งดูชาวีหลาย หนแล้ว ชาวีให้ลุงขาบบอกไปบอกบัวรินว่าเขาจะกลับเที่ยงคืน ชาวีคิดว่าเขาต้องจัดฉากต้อนรับบัวรินซะเสียแล้ว

ชาวีมาถึงบ้านก็เจอการต้อนรับอย่างเย็นชาจากทิพเกสร ทิพเกสรให้ชาวีเตรียมการเรื่องบัวรินให้เสร็จโดยเร็วไม่เช่นนั้นจะไม่แต่งงา นด้วย ชาวีบอกสักเที่ยงคืนจะไปหาบัวรินที่วัด ทิพเกสรว่าชาวีไม่ควรทำแบบนั้น ควรไปพูดจากันดีๆ บัวรินคงไม่ดันทุรังหากได้รับการชี้แจงและให้เหตุผลเพียงพอ ชาวีบอกเรื่องบัวรินเขาหยุดแล้วแต่บัวรินไม่หยุดและเมื่อทิพเกสรต้องการให้เ ขาจัดการเขาก็ต้องจัดการ แต่การจัดการต้องมีแผน ชาวีทำผีหลอกบัวริน

บัวรินกระวนกระวายใจและกลัวมากอยู่ที่วัดในตอนเที่ยงคืน มันไม่น่าอภิรมณ์สักนิด บัวรินคิดจะกลับแต่มีค้างคาวมาตกที่หน้ารถ บัวรินกลัวอยู่แล้วยิ่งกลัวใหญ่คิดว่าผี พอเธอเปิดประตูรถลงไปค้างคาวก็บินมาชนและเล็บมันข่วนเธอ บัวรินยิ่งกลัวใหญ่เป็นลมล้มลง ชาวีและลุงขาบออกจากที่ซ่อนประคองบัวรินขึ้นรถและพามาส่งที่บ้านบัวรินโดยที ่บัวรินไม่ได้สติไปตลอดทาง คราวนี้บัวรินคงเข็ดไปอีกนาน บัวรินรู้สึกตัวเอาตอนเช้า เธอคิดว่าฝันแต่เมื่อเห็นรอยข่วนบัวรินก็รู้สึกไม่ได้ฝัน บัวรินขยาดที่จะเข้าไปตามชาวีอีก แม้จะบอกกับตัวเองว่าไม่ได้โดนผีหลอกแต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรกันแน่ บัวรินกลัวจับใจแต่ก็ไม่เลิกล้มที่จะเจอชาวีให้ได้ บัวรินกะเปลี่ยนแผนใหม่กะบุกไปยึดบ้านชาวีและแจกข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ให้รู้ไปว่าชาวีจะยังเงียบไม่ยอมมาพบเธอีก
ทิพเกสรรู้เรื่องที่บัวรินโดนผีหลอก ชาวีบอกทิพเกสรว่าทำไปเพราะเขาต้องปกป้องภรรยาที่รักของเขา ทิพเกสรพอใจที่ชาวีให้ความสำคัญและห่วงใยเธอ และหาทางจัดการกับบัวริน แต่เธอก็ยังแสร้งทำเป็นไม่พอใจ

แก้วดารารอการกับมาของพัฒนา เธอบอกว่าเธอต้องดูแลพัฒนาต่อจากเทวีแม้พัฒนาจะไม่สนใจเธอก็ตาม จันทร์แจ่มรู้เรื่อง มาขอพบแก้วดาราที่บ้านและต่อหน้าเจ้าทิพย์ทอง จันทร์แจ่มขอบใจน้ำใจของแก้วดาราที่จะดูแลพัฒนาเมื่อสิ้นเทวีลง เจ้าทิพย์ทองเตือนแก้วดาราให้รู้ว่าพัฒนาไม่ได้ชอบเธอ แต่แก้วดาราบอกสำหรับเธอแล้วเธอยอมทำทุกอย่าง แก้วดาราบอกว่าวันหนึ่งพัฒนาต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อเธอบ้าง เจ้าทิพย์ทองหวั่นใจแต่สำหรับแก้วดาราแล้วท่าทีเธอมั่นใจว่าต้องชนะใจพัฒนาไ ด้

พัฒนาพาเทวีมาที่บ้านไร่ จันทร์แจ่มต้องข่มความรู้สึกที่ไม่ดีต่อเทวียามที่ต้องเผชิญหน้ากัน ไม่รู้จะเรียกขานกันอย่างไร จันทร์แจ่มคิดว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการยอมรับสภาพความจริงที่เป็นอยู่ เทวีกำลังจะตาย ไม่มีอะไรดีไปกว่าการให้อภัยกัน จันทร์แจ่มจึงต้อนรับเทวีด้วยสีหน้าปกติ ไม่ถึงกับยิ้มแย้มแต่ก็ไม่บึ้งตึงเหมือนก่อน จันทร์แจ่มมองพัฒนาที่ประคองเทวีด้วยความรัก และพยายามเข้าใจพัฒนาและเทวี ทิพเกสรกอดเทวีด้วยความรักและความรู้สึกสำนึกผิดที่ออกฤทธิ์กับเทวีไว้มาก

จันทร์แจ่มกับเทวีปรึกษากันเรื่องงานแต่งงาน รุ่งขึ้นชาวีพาทิพเกสรไปเลือกชุดแต่งงาน มีผู้หวังดีโทรไปรายงานบัวริน บัวรินถูกเพื่อนๆ ถามว่าทำไมชาวีไปแต่งงานกับทิพเกสรยิ่งทำให้บัวรินแทบคลั่ง เธอไม่ยอมรับความจริงว่าชาวีไม่ได้รักเธอ บัวรินตามไปที่ร้านที่ชาวีที่ชาวีกับทิพเกสรกำลังเลือกชุดแต่งงานกันอยู่ เด็กในร้านรีบมาบอกทิพเกสรว่ามีผู้หญิงชื่อบัวรินมาอาละวาดอยู่หน้าร้าน ทิพเกสรออกไปดู ปะทะคารมกับบัวริน บัวรินอยู่ในสภาพที่บ้าคลั่ง ผิดกับทิพเกสรที่ใจเย็นและรู้ว่าเป็นต่อ ทิพเกสรตอกหน้าบัวรินด้วยคำพูดที่เจ็บแสบ บัวรินได้แต่แผดเสียงกรีดและด่าทออย่างคนไม่มีการศึกษา บัวรินไม่ได้ถูกหล่อหลอมมาด้วยความอดทนและอดกลั้น เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองให้เยือกเย็นได้เหมือนทิพเกสร ยิ่งแก้วดาราออกมาสมทบด้วยอีกคนบัวรินก็แพ้กระจุย แก้วดารายิ่งยั่วให้บัวรินบ้าคลั่ง ผิดกับทิพเกสรด้วยคำพูดด่าแบบผู้ดี บัวรินเข้าทำร้ายแก้วดารา แต่แก้วดาราเคยเรียนยูโดมาก่อน บัวรินเลยถูกทุ่มลงไปนอนวัดพื้น

แก้วดาราตามชาวีและทิพเกสรกลับมาที่บ้านไร่ เธอเล่าเรื่องที่ปะทะกับบัวรินให้พัฒนาและชาวีฟัง เทวีจับตาดูแก้วดารา แก้วดาราเป็นผู้หญิงสมัยใหม่สดใสตรงไปตรงมา เปิดเผย เทวีสังเกตแก้วดารามีบางอย่างที่ซ่อนอยู่ เทวีสังเกตพัฒนาเขาอึดอัดยามที่ต้องพบกับแก้วดารา เทวีรู้ได้เพราะเธออยู่กับพัฒนามานาน ปกติพัฒนาไม่เป็นแบบนี้ พัฒนาทำราวกับว่าอยากจะลุกหนีไป อะไรทำให้เขาอยากทำแบบนี้ไม่ใช่ทิพเกสรและชาวีแน่ พัฒนาเริ่มรำคาญความช่างเจรจาของแก้วดาราเต็มที พัฒนาพาเทวีกลับเข้าห้อง เมื่ออยู่ในห้องเทวีตั้งคำถามกับพัฒนาว่าแก้วดาราชอบพัฒนาทำไมพัฒนาต้องปิดก ั้นตัวเอง แก้วดาราเป็นคนดี ก่อนหน้านั้นเทวีเป็นห่วงมากว่าหากไม่มีเทวี แล้วพัฒนาจะอยู่อย่างไร แต่เวลานี้ไม่มีอะไรต้องห่วงพัฒนาแล้ว แก้วดาราจะดูแลพัฒนาได้ดี เทวีขอร้องพัฒนาให้เปิดใจรับแก้วดารา ชีวิตของพัฒนาจะต้องเดินต่อไปไม่ใช่มาจบลงไปกับความตายของเธอ

พัฒนาออกมาสงบสติอารมณ์ที่ลานหน้าบ้าน พบแก้วดารา กำลังเดินออกมาจากที่พัก พัฒนาหาทางเลี่ยงที่จะพบแก้วดารา แก้วดาราพูดแย่พัฒนาว่ากลัวเธอต้องหนี พัฒนาโกรธหันมาว่าแก้วดาราว่าอย่าทำเป็นยั่วดีเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน แก้วดารายังยั่วต่อ พัฒนากระฉากแก้วดารามาจูบ แก้วดาราสะบัดวิ่งหนีไป เทวีที่ยืนอยู่ที่หน้าต่าง ไม่ได้แอบดูแต่อยากให้แน่ใจ เทวีเห็นพัฒนาจูบแก้วดารา ไม่ว่าพัฒนาจะมีเหตุผลใดแต่ก็เชื่อได้ว่าพัฒนามีใจกับแก้วดารา ส่วนพัฒนาก็พยายามถามตัวเองว่าทำไมเขาถึงตบะแตกเมื่ออยู่กับแก้วดารา

แก้วดารากลับมาด้วยท่าทีซึมจนเจ้าทิพย์ทองสังเกตุเห็น เจ้าทิพย์ทองจะหาคู่ให้แก้วดาราใหม่ แต่แก้วดาราปฏิเสธ เธอไม่อาจรักใครได้อีกนอกจากพัฒนา การที่แก้วดารากลับมาบ้านก็เพราะคำพูดถากถางดูแคลนของพัฒนา มันเหมือนกับว่าเหตุการณ์ในคืนนั้นเข้าได้แตะต้องล่วงเกินแก้วดารามาก พัฒนาพูดจาหมิ่นประมาทและดูแคลนอย่างแสนจะเจ็บปวดว่าการที่แก้วดาราพยายามไป ที่บ้านพัฒนาก็เพื่ออยากเข้าไปใกล้ชิดเขาแก้วดาราอยากรู้ว่าพัฒนารักเทวีมาก แค่ไหน อยากให้เห็นว่าต้องทำตัวแบบไหนพัฒนาถึงจะหันมาสนใจใยดีเธอน่าอายทำให้เขาดูห มิ่นเอาได้ เจ้าทิพย์ทองมองเห็นแก้วดาราหงอยเหงา แนะนำให้แก้วดาราไปหาจิตแพทย์เพื่อพูดคุยระบายเรื่องที่ไม่อาจเล่าให้ใครฟัง ได้ แก้วดาราตัดสินใจไปพบจิตแพทย์




พัฒนาเข้าเมืองและแวะมาหาแก้วดารา เขารู้สึกผิดที่ว่าแก้วดาราอย่างแรง เขาตั้งใจจะไปขอโทษแก้วดารา พัฒนามาที่บ้านเจ้าทิพย์ทองและรู้ว่าแก้วดาราไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาล แต่เจ้าทิพย์ทองไม่ได้บอกว่าเป็นจิตแพทย์เพราะเธอรู้ว่าสำหรับคนไทยทั่วไปกา รไปหาจิตแพทย์หมายถึงสติไม่ดีหรือเป็นบ้าไปเลย พัฒนากระวนกระวายใจมากกว่าแก้วดาราป่วยเป็นอะไรไป พัฒนาร้อนรุ่มกลับไปบ้าน เขาโทรไปหาแก้วดาราอีกหลายหน แต่แก้วดารายังไม่กลับจากโรงพยบาล พัฒนาถามชื่อโรงพยาบาลและรีบตามไป ได้พบแก้วดารา พัฒนาถามอาการด้วยความเป็นห่วง เขากังวลกับการเจ็บป่วยของเธอมาก เขากลัวว่าจะมีข่าวร้ายเหมือนกับที่เขาเคยได้รับข่าวร้ายเรื่องเทวี ใจเขาจึงไม่ดีหนักเหมือนกับการที่คนที่เขารักมาโรงพยาบาล แก้วดาราบ่ายเบี่ยงว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่พัฒนาซักไซ้อย่างละเอียด จนแก้วดาราต้องยอมรับว่าเธอมาหาจิตแพทย์เพราะเธอคิดมากกังวล พัฒนาพาลโกรธแก้วดาราหนักไปอีกเพราะตอนแรกเขาคิดว่าแก้วดาราเจ็บป่วยทางร่าง กาย แต่เขาก็โล่งใจที่เธอไม่เจ็บป่วยทางร่างกาย พัฒนาเกลียดใจตัวเองที่ยอมเปิดใจรับแก้วดารา เขารู้สึกขัดใจตลอดเวลาที่เขาอยู่ใกล้ชิดแก้วดาราเขามีความสุขมาก แต่เขาจะทรยศเทวีไม่ได้ แก้วดาราเปิดเผยตัวเองว่าเธอรักพัฒนา พัฒนาให้แก้วดาราลืมเขาเสีย แต่แก้วดาราบอกว่าเธอลืมเขาไม่ได้

ทิพเกสรดูแลเทวีพัฒนายังไม่กลับมา ทิพเกสรตำหนิพัฒนาว่าควรอยู่ดูแลเทวี เทวีบอกทิพเกสรว่าพัฒนารักแก้วดารา เทวีเห็นพัฒนาจูบแก้วดาราทิพเกสรห่วงเทวีมาก แต่เทวีบอกเธอเข้าใจพัฒนาและก็ดีใจด้วย ทิพเกสรสับสน คนหนึ่งก็แม่อีกคนก็เพื่อน เทวีสอนทิพเกสรว่าคนเราเมื่อตายไปก็ตัดขาดกันแม้จะอาลัยกันแค่ไหนก็ชั่วระยะ หนึ่ง อย่าไปตำหนิพัฒนาและแก้วดาราเลย

บัวรินพยายามสุดฤทธิ์จะกลับไปหาชาวี อำนาจทนายความของชาวีห้ามบัวรินไปงานแต่งงานเด็ดขาด บัวรินโกรธมากเธอไม่อาจเลิกรักชาวีได้ เพื่อนบัวรินมาหาและให้สติบัวรินไปเที่ยวและแนะนำให้บัวรินรู้จักหนุ่มลูกคร ึ่ง บัวรินไม่สนใจ แต่หนุ่มลูกครึ่งสนใจบัวรินและตามตอแยเย้าแหย่บัวริน บัวรินรำคาญมากแต่เขาก็ตามตื้อตลอดเวลา บัวรินอ่อนใจที่จะไล่เขาไป บัวรินจึงยอมพูดคุยด้วยและได้พบว่าหนุ่มคนนี้ก็ไม่เลว

บัวรินหายเงียบไปนาน ทิพเกสรกลัวอยู่เหมือนกันว่าบัวรินจะตามไปอาละวาดในงานแต่งของเธอกับชาวี ทนายอำนาจมาหานำการ์ดงานแต่งงานของบัวรินกับหนุ่มลูกครึ่งมาให้ ชาวีและทิพเกสรแปลกใจมากเพราะบัวรินจะแต่งก่อนทิพเกสรและชาวีเพียงสองสามวัน แถมการ์ดเชิญยังจ่าหน้าซองว่าเรียนเชิญผัวเก่าและเมียใหม่ ชาวีหัวเราะก้าก ทิพเกสรสุกเขม่น

เพื่อนบัวรินประหลาดใจที่บัวรินแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ บัวรินบอกว่าคบกันครั้งแรกก็เฉยๆ ไม่สนใจแต่เข้ามาทุกวัน ให้ความสนใจบัวริน เขามั่นคงและบัวรินก็พอใจทีละน้อยจนกระทั่งเขาขอแต่งงาน หนุ่มลูกครึ่งไม่สนใจอดีตของบัวริน บัวรินปรึกษาแม่และญาติ ทุกคนเห็นดีด้วย

งานแต่งงานของบัวรินจัดอย่างใหญ่โตชาวีและทิพเกสรไม่ได้ไปร่วมงานแต่ให้ทนาย อำนาจนำการ์ดอวยพรไปให้ บัวรินฝากคำพูดกับอำนาจไปว่าชาวีไม่แน่จริงไม่กล้ามางานบัวรินแต่บัวรินกล้า ไปงานชาวีและทิพเกสร การแต่งงานทำให้บัวรินเชิดหน้าได้อีกหนแม้ในใจลึก ๆ จะมีบาดแผล แต่บัวรินจะไม่โหยหาอดีตที่เฝ้าแต่หลงรักเขาข้างเดียวอีกแล้ว บัวรินจะเดินไปข้างหน้า

ก่อนหน้าวันงานเล็กน้อย อาการเทวีเริ่มทรุดลง พัฒนาเฝ้าอย่างใกล้ชิด เทวีบอกพัฒนาว่าหากไม่มีเธอแล้วให้พัฒนายอมรับแก้วดาราและขอให้พัฒนาพาแก้วด ารามาพบเป็นการส่วนตัว แก้วดาราบอกเจ้าทิพย์ทองว่าเทวีอยากให้เธอไปพบ เจ้าทิพย์ทองไม่ให้แก้วดาราไปเพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าละอายที่เทวีจะมาย กพัฒนาให้แก้วดารา แต่แก้วดาราบอกเธอจะไปพบเทวีก็เป็นแม่ของเพื่อน เทวีดีใจที่แก้วดารายอมมาและพูดไม่อ้อมค้อมว่าพัฒนาชอบแก้วดาราและอยากให้แก ้วดาราอย่ามองพัฒนาเป็นคนเหลือเดน แก้วดาราบอกเทวีว่าเธอไม่ได้คิดว่าพัฒนาเป็นของเหลือเดนแต่กลัวว่าพัฒนาไม่ม ีใจให้เธอ กลัวพัฒนาจะไปบวชหลังจากที่เทวีเสียแล้ว เทวีของให้แก้วดารารับปากว่าจะดูแลพัฒนาอย่าทิ้งพัฒนา แก้วดารารับปาก ตลอดเวลาที่เทวีคุยกับแก้วดารานั้นพัฒนารับรู้เรื่องราวโดยตลอดเพราะเขาอยู่ ในห้องข้างๆ
งานแต่งงานของชาวีและทิพเกสรยิ่งใหญ่สมหน้าตา เทวีปลื้มปิติมาก ทิพเกสรได้รับการรับรองอย่างสมเกียรติ บัวรินกับสามีมาร่วมงานด้วย แถมเยอะเย้ยชาวีว่าไม่กล้าไปงานเธอ เทวีไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงกลางคืน เธอนอนพักเอาแรงเพราะรุ่งขึ้นจะต้องเข้ากรุงเทพแต่เช้า แต่กลางดึกคืนนั้นหลังงานเลี้ยงเลิกอาการเทวีทรุดหนัก ถูกนำส่งโรงพยาบาลในเมือง และเมื่อคนใกล้ชิดทุกคนมาพร้อมหน้ากันที่โรงพยาบาลได้ไม่นานเทวีก็จากไปอย่า งสงบ พัฒนาเสียใจมาก แก้วดาราคอยปลอบโยน ทิพเกสรกับชาวีไม่ได้เข้าหอ ต้องเตรียมงานศพเทวีต่อ ทิพเกสรให้จัดงานศพเทวีที่บ้านไร่

หลังงานศพเทวี พัฒนากลับกรุงเทพและหายไปนานมากโดยไม่ติดต่อใครเลย แก้วดารากับทิพเกสรตามไปที่กรุงเทพก็ไม่พบ พบแต่บ้านที่มีฝรั่งมาเช่าอยู่ จันทร์แจ่มร้อนใจหนักกว่าทุกคนถึงกับไปทรงเจ้าและหาหมอดู จนวันลอยกระทงผ่านไป ใกล้ปีใหม่พัฒนาก็กลับมาอย่างเงียบๆ ทิพเกสรได้พบพัฒนาเป็นคนแรก พัฒนาบอกเขาสบายใจขึ้นมากและจะแวะมาดูว่าแก้วดารายังรอพัฒนาอยู่หรือเปล่า พัฒนาไปหาแก้วดาราที่บ้าน เจ้าทิพย์ทองแปลกใจมากที่พัฒนากลับมา เพราะตลอดเวลาที่พัฒนาหายไปแก้วดาราก็เหมือนคนซังกะตาย เอาแต่ทำงานให้เวลาหมดไปวันๆ พัฒนาบอกเจ้าทิพย์ทองว่าเขากลับมาหาแก้วดารา เจ้าทิพย์ทองให้พัฒนาไปหาแก้วดาราที่บริษัท แก้วดาราดีใจมากที่ได้พบพัฒนาอีกครั้ง พัฒนาบอกเขาหายไปบวชสงบจิตใจมาและบอกว่าเขาดีใจที่แก้วดารายังคอยเขาอยู่แก้ วดาราเองก็รับรู้ได้ว่าพัฒนากลับมาพร้อมกับหัวใจรักเธอ และเธอจะไม่รีรออีกแล้วที่จะแต่งงานกับเขา
.............................................


นักแสดง

รับบทเป็น
วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ ชาวี
วรัทยา นิลคูหา ทิพเกสร
เคลลี่ ธนพัฒน์ พัฒนา
ธัญสินี พรมสุทธิ์ แก้วดารา
นพพล พิทักษ์โล่พานิช พล
พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ บัวริน
รัชนี ศิระเลิศ เทวี
สุภัสสร มามีเกตุ บัวลอย
ทรงวุฒิ ศรีเชิดชูธรรม ทัศนัีย
วีระชัย หัตถ์โกวิท อำนาจ
ฟร้อนท์ มอนท์โกเมรี่ มณี
ปนัดดา โกมารทัต จันทร์แจ่ม
พิราวรรณ ณ นคร เจ้าทิพย์ทอง
สมาน มะลิซ้อน ลุงขาบ
พิมพ์ศิริ ภูวนัย นุ่ม
กมลพรรณ ธารตะวิรยะ นิ่ม


ที่มา http://www.ch7.com/website/entertain/drama-detail-viva.html

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

แก่งกระโดน ละครแนวลูกทุ่งบ้านไร่ แฝงคติสอดแทรกการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ความบันเทิงเบาสมองยามเย็น




ละครช่วงเย็นทางช่อง 7 สี ที่มาฉายแทนละคร ฝนเหนือ ที่หลายคนติดใจ คือเรื่อง
แก่งกระโดน เริ่มออกอากาศวันที่ 8 พ.ค. 2550 ช่วง 18.45-19.40 น. ฉายทุกวัน

"แก่งกระโดน" ละครเรื่องใหม่สอดแทรกการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง มาพร้อมเรื่องป่วนๆ ของคู่พระนางที่มีความคิดเดียวกัน คือต้องการยกระดับความเป็นอยู่ของชาวบ้านในตำบล "แก่งกระโดน" ให้ดีขึ้น


เป็นการเจอกันของพระเอก นางเอก อย่าง อู ภานุ และ เชียร์ ฑิฆัมพร ที่มารับบทแก่น ห้าว ที่หลายคนชอบ
ดูแล้ว ยิ้มได้ เฮฮาดีจริงๆ




แม้จะดูเป็นละครเบาสมอง แต่เมื่อฟังเพลงประกอบละครแล้ว ดูเข้มข้นเหมือนกันนะ

” ……แต่น้ำใจบางที่ ไม่พอรดผักสักแปลง
เปิดฟาร์มเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ให้ใครต่อใครเข้ามาหลงใหลชมแก่ง มาเยี่ยมมาหาแต่อย่ามาเคลือบแคลง
ลวงหรือทำลายแก่งให้สั่นสะท้าน สะเทือน

แก่งกระโดน น้ำมนต์รอใครหรือเปล่า จะรอรู้ข่าว กี่คราวกี่เดือนกี่ปี
ถ้าแก่งพัง หัวใจคงพังดังแก่งสะเทือน รอหัวใจในเพื่อน..............”

ละครเบาสมองแบบนี้ ที่หลายคนรีบสรุปทันทีว่า น้ำเน่า
และเมื่อพูดถึงละคร ก็จะบอกว่า ละครน้ำเน่าทุกเรื่อง
แต่เมื่อได้ติดตามดูไปหลายๆตอน ผู้ชมละครหลายคนกลับบอกว่า เป็นละครน้ำดีที่สะท้อนสังคมต่างหาก

เรื่องแบบนี้ก็ไม่รู้จะเชื่อใครดีเหมือนกัน เมื่อคนที่บอกว่า น้ำเน่า แต่ไม่เคยดูละครจนรู้เรื่องราวในละครเสียเลย แต่คนที่บอกว่า น้ำดีกลับติดตามดูละครแทบจะทุกตอน

แต่ใครจะว่ายังไงก็ช่าง
ละครได้ทำหน้าที่ให้ความบันเทิง และสอดแทรกคติ ความคิดเข้าไปด้วย

ดูพระเอกนางเอก ที่เล่นบทซ่าๆ ห้าวๆ แล้วขำๆดีเหมือนกัน
เห็นละคนแบบคุณหนู คุณหญิงไฮโซจนชักเอือม เพราะไกลตัวจนเกินไป เมื่อมาเจอชีวิตแบบติดดิน ดูแล้ว สนุกสนานกว่าดูละครที่โชว์ความไฮโซเยอะเลยเนาะ




เรื่องย่อ ....















////// เพิ่มเติม
"เชียร์-ฑิฆัมพร" สุดไฮเปอร์

นางเอกสาววัยใส "เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์" ออกอาการกระดี๊กระด๊าที่ได้ร่วมงานละคร

เป็นครั้งเเรกกับบ.ดีด้าฯ ในละคร "เเก่งกระโดน" จับคู่พระเอก "อู ภานุ สุวรรณโณ" โดยสาว

เชียร์ คุยให้ฟังว่า " ในเรื่องเชียร์รับบทเป็นทิชา เป็นลูกสาวกำนัน บทจะออกเเก่นๆ

ไม่ยอมใคร จะมีเเก๊งเป็นของตนเอง มีพี่เเพร พรรัมภา พี่มิงค์ ฐรินดา บทนี้เชียร์มี

มีโอกาสได้ทำอะไรหลายๆอย่างมาก ทั้ง ยิงนก ตกปลา เเถมเตะฟุตบอลด้วย เราจะเป็น

คนไฮเปอร์มากๆๆพี่ๆ ทีมงานบอกไม่มีใคร เหมาะเท่าเชียร์ เพราะซนยังกับลิง บทที่เชียร์ได้

ส่วนใหญ่จะเป็นเเนว นักเรียน นักศึกษา ซะมากกว่า เเต่เรื่องนี้เป็นสาวบ้านนอก ออกเเนว

เเก่นๆก็ฉีกไปอีกเเบบค่ะ เชียร์อยากให้แฟนๆ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ กับบทบาทใหม่ๆ "

(เดลินิวส์ 26 เมษายน 2550 )






‘อู’ ใส่เสน่ห์..เลิฟซีน ‘เชียร์’ จนเคลิ้ม !

กำลังจะออนแอร์เรียกคะแนนแฟนละคร ตอนเย็น กับละครดราม่าคอมเมดี้ฟอร์มดี “แก่ง กระโดน” ของค่ายดีด้าฯ ที่ได้พระ-นาง “อู–ภาณุ สุวรรณโณ” มาประกบนางเอกนิสัยดี “เชียร์–ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์” เป็นครั้งแรก งานนี้ดีด้าฯรับประกันความสนุก แต่มีสาระจะบอกให้

วันนี้ “บันเทิงเดลินิวส์” เลยขอติดขอบกองถ่าย มาเก็บภาพเบื้องหลังฉากกุ๊กกิ๊กของ อู กับ เชียร์ ที่ในเรื่องเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด แต่ฉากนี้แฟน ๆ แอบยิ้มกันหน้าจอได้เลย เพราะสวีทไม่เกรงใจใครเล้ย ในฉากเป็นตอนที่ ธนะเทพ (อู) ได้พา ทิชา (เชียร์) มารักษาตัวที่บ้านเพื่อนซึ่งเป็นหมอ หลังจากที่ทิชา ปลอมตัวเป็นทอม และได้ถูกพวก ดาวฤกษ์ (โจ้-จักรกฤษ คชรัตน์) รุมทำร้าย หลังจากไปก่อเรื่องมา ธนะเทพจึงเข้าไปช่วยเหลือและทนเก็บความรู้สึกที่มีต่ อทิชาไว้ไม่ได้ จึงแอบจูจุ๊บเข้าให้ พอทีมงานพร้อม ผู้กำกับฯ “เอส–วัชรา สังข์สุวรรณ” ก็จัดแจงให้อูเดินเข้ามาหาเชียร์ ซึ่งนอนซมหลับอยู่ในห้องด้วยพิษไข้ และจัดการป้อนข้าวป้อนน้ำ ซึ่งในบทเชียร์จะไม่ยอมอูท่าเดียว เนื่องจากทั้งคู่มีเรื่องปะทะกันมาตลอด ตอนแรกเชียร์ก็แสดงอาการไม่ยอมกินอาหาร แต่ป้อนไปป้อนมาอาหารเริ่มหายเกลี้ยง (ฮา) และก็มาถึงฉากที่เชียร์ต้องเคลิ้มหลับด้วยพิษไข้ และอูแอบจูจุ๊บด้วยความรัก อูบรรจงหอมแก้มเชียร์สุดเนียน แต่จูจุ๊บขอเปลี่ยนเป็นใช้มุมกล้องล่ะกัน แหม..ละครเย็นเด็กดูเยอะนะ เสียงจากสาวเชียร์ แต่ฉากนี้ก็ผ่านไปด้วยดีพร้อมใบหน้าที่แดงเป็นลูกตำล ึงของสาวเชียร์

“อู” โม้..เอ๊ย..คุยว่า “ฉากนี้ไม่ยากครับ ผมแอบอิจฉาเชียร์มากเลย ก็น้องเขาหลับแบบเอาจริงเอาจัง ในกองแซวว่าผมใส่เสน่ห์อะไรเชียร์หรือเปล่า ก็เป็นฉากที่ดูน่ารักดีครับ อยากให้แฟน ๆ ติดตาม” ด้าน “เชียร์” ก็คุยมั่ง.. “ฉากหวานในเรื่องเนี้ย นาน ๆ จะมีนะ เชียร์จะแสบซ่าส์มาก ๆ เป็นลูกสาวกำนันไม่ยอมคน แต่ฉากนี้เราจะอ่อนแอ มีผู้ชายดูแล พี่อูน่ารักค่ะ เลิฟซีนก็เขินนิดหน่อย พี่อูตาดุ แต่ก็หวานได้ เชียร์โดนแซวเยอะเพราะหลับไปเลยตอนเล่นฉากนี้ แหม..ใส่เสน่ห์อะไรลงไปก็ไม่บอกนะ อูรู้ป่ะ..หนุ่ม ๆ แอบค้อนกันทั้งเมืองแล้ว แฟน ๆ ก็ติดตามฉากสวีทนี้ได้ใน “แก่งกระโดน” ที่จะออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 พ.ค. นี้ ก่อนข่าวภาคค่ำทางช่อง 7 สี

เรื่องย่อ
ที่มา http://www.ch7.com/website/entertain/drama-actor-gankgadone.html

ทิชา เป็นลูกสาวคนเดียวของ กำนันชุ้ง แห่งบ้านแก่งกระโดน พ่อและแม่ของทิชา เลิกกันตั้งแต่ทิชายังเป็นเด็ก เพรา คุณทิพาวดี...แม่ของทิชารับความเจ้าชู้และบ้านนอกของกำนันชุ้งไม่ได้ตอนแรกเ ธอนึกว่ากำนันจะยอมตามใจ ด้วยการขายที่ดินต่างจังหวัดแล้วมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน แต่ กำนันชุ้งนั้นเป็นนักพัฒนา เลือกจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิด จน ได้เป็นกำนันในเวลาต่อมา

คุณหญิงธิดา... ผู้เป็นยายก็ไม่ชอบกำนันชุ้งเลยยุให้ลูกสาวเลิกกับสามีและเอาหลานมาเลี้ยงตล อด เวลา คุณหญิงธิดามอง เทวัญ เศรษฐีหนุ่มเอาไว้ เมื่อทิพาวดีเลิกกับกำนันชุ้ง คุณหญิงธิดาก็พยายามจะให้ลูกสาวแต่งงานกับเทวัญ แต่ทิพวาดีไม่ยอม เพราะลึกๆ แล้วยังรักกำนันชุ้งอยู่ เทวัญรักทิพาวดี และถือคติรักแท้แพ้ใกล้ชิด คอยตามดูแลเอาใจใส่ทิพาวดี และทิชามาตลอด หวังว่าวันหนึ่งทิพาวดีจะใจอ่อน




เมื่อเลิกกัน คุณหญิงธิดาบังคับเอาตัวทิชาไปเลี้ยงที่กรุงเทพฯ เพราะไม่อยากให้ทิชาเติบโตมาอย่างเด็กต่างจังหวัด แต่ตอนที่ฟ้องหย่ากันนั้น กำนันชุ้งได้สิทธิ์ที่จะรับทิชาไปอยู่ด้วย ในเวลาที่โรงเรียนปิดเทอม คุณหญิงธิดาจึงแยกพ่อกับลูกได้ไม่เด็ดขาด ทุกปิดเทอม กำนันชุ้งจะมารับลูกสาวไปอยู่ด้วย ทิชาจึงเติบโตมาแบบสองภาคในตัวเอง คือเวลาอยู่กับแม่และยาย เธอจะไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง ถูกบังคับให้เรียนเปียโน เรียนแจ๊ซแด๊นซ์ แต่เวลาอยู่กับพ่อกำนัน เธอจะมีความสุขมาก เพราะได้เล่นซน ยิงนกตกปลาเต็มที่เหมือนเด็กผู้ชาย

เมื่อเติบใหญ่ ทิชาเลือกเรียนคณะเกษตรศาสตร์ในท่ามกลางความไม่พอใจของแม่และคุณหญิงยาย แต่ทิชาก็ยังดื้อที่จะเรียน เพราะชอบในหลักเศรษฐกิจพอเพียงจองพระบาทสมเด็กพระเจ้าอยู่หัวฯ ทิชาจึงขู่แม่และยายว่าถ้าไม่ยอมให้เรียนวิชาที่เธอชอบ เธอจะไปเรียนเมืองนอก และแต่งงานกับฝรั่ง ไม่กลับมาเมืองไทยอีกเลย สุดท้ายแม่และยายเลยต้องยอม

ในที่สุดทิชาจึงเรียนจบมาดด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่งและในสมัยที่เรีย นนั้นเธอได้ทำโครงการเลี้ยงหมูปลอดสารพิษ และเคยไปฝึกงานที่โครงการฟาร์มตัวอย่างของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ฯ ทำให้ทิชามีความรู้เรื่องไร่นาสวนผสม การทำเกษตรแบบพอเพียงเป็นอย่างดี

เมื่อเรียนจบ บริษัทอาหารสัตว์ในกรุงเทพฯพากันจองตัวทิชาโดยอยากให้ไปทำงานด้วยเพราะเธอเป ็นคนเก่ง มีหัวคิดดี แต่ทิชายังไม่ตัดสินใจเลือกทำงานที่ใด




คุณหญิงยายและแม่ได้เห็นทิชาเรียนจบ ก็กลัวว่าลูกจะไปรักกับคนบ้านนอก หรือพวกเรียนเกษตรด้วยกัน เลยพยายามจะจับคู่ให้ ด้วยกานหมายมั่นปั้นมือจะให้แต่งงานกับธนะเทพ ลูกชายของเพื่อนสนิท ธนะเทพเป็นหนุ่มรูปหล่อ เป็นสัตวแพทย์ เรียนจบมาจากต่างประเทศ แต่ทิชาไม่ชอบเรื่องคลุมถุงชน จึงใจร้อน รีบหนีแม่ไปหาพ่อที่บ้างแก่งกระโดน โดยยังไม่ทันรู้ว่าผู้ชายคนที่แม่นัดให้เจอกันนั้น ชื่ออะไร หน้าตาเป้นอย่างไร ทางบ้านของธนะเทพโกรธบ้านทิชามาก หาว่าดูถูก เลยตัดขาดความเป็นเพื่อนกันที่คบกันมานานปี

หมู่บ้านของกำนันชุ้ง คือ หมู่บ้านแก่งกระโดน เป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากกรุงเทพ ฯ ประมาณ 150 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ขนาดประชากร 50-60 หลังคาเรือน ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำฟาร์มเลี้ยงหมูและเลี้ยงไก่ มีทำนาทำสวนบ้างแต่ไม่มาก เพราะพื้นที่หมู่บ้านเป็นที่ดอน ไม่ใช่ที่ลุ่ม ไม่เหมาะกับการทำนา รายได้จากการเกษตรก็ทำให้ชาวบ้านพออยู่พอกิน ไม่เดือดร้อนอะไร

ทิชาสั่งห้ามพ่อไม่ให้บอกแม่ว่าเธอหนีมาอยู่ด้วย ซึ่งพ่อก็ยอมลูกสาวคนนี้แต่โดยดี ทั้งที่ปกติแล้วเป็นกำนันจอมอิทธิพล แถมยังเป็นนายก อบต.อีกหนึ่งตำแหน่ง นอกจากนี้ พ่อของทิชายังเป็นคนที่ชาวบ้านนับหน้าถือตา เป็นคนดี คอยดุแลให้ลูกบ้านอยู่ดีมีความสุข เสียอย่างเดียวคือเจ้าชู้ มีเมียหลายคน ปัจจุบัน มีเมียเป็นทางการ 2 คน คือ เจ๊หลินฮุ่ย สาวใหญ่ชาวจีนที่ชาวบ้านมักให้สมญานามว่า หลิงหลิง เพราะว่าอ้วนเหมือนหมีแพนด้า เมียอีกคนคือ น้องก้ามปู นางงามฟาร์มหมูปีล่าสุดที่ตกหลุมรักกำนันหนุ่มใหญ่ ตอนนี้ขึ้นแป้นเป็นเมียคนโปรด มีเรื่องทะเลาะด่าทอกับเจ๊หลินฮุ่ยเป็นประจำ ทะเลาะกันทีไร กำนันชุ้งก็ต้องปวดหัว เพราะไม่สามารถจะจัดการเมียทั้งสองได้สำเร็จสักครั้ง ต้องให้ทิชามาจัดการเคลียร์ให้ทุกครั้งไป ทั้งตัวกำนันเองและสองแม่นั้นจะกลัวทิชามาก เพราะทิชาคือลูกบังเกิดเกล้า ด่าเก่ง แถมยังกลัวใคร

ตั้งแต่หนีมาอยู่บ้านแก่งกระโดน ทิชามีหน้าที่เป็นผู้ช่วยกำนันไปโดยปริยาย เธอจะช่วยพ่อคอยตรวจตราดูแลความสงบในหมู่บ้าน และดูฟาร์มหมูของกำนันอีกด้วย ทิชามีสมุนสองคน เป็นเพื่อนสนิทสมัยเด็กๆ คือ โอเล่ กับ ต๋อย

เวลาคนในหมู่บ้านมีเรื่องทะเลาะเด่าทอ ตกลงกันไม่ได้ ทิชาไปไกล่เกลี่ยทีไร ทุกคนต้องยอม เพราะถือว่าทิชาเป็นขาใหญ่ประจำหมูบ้าน แม้แต่กำนันยังกลัวลูกสาวเลย ชาวบ้านมีหรือจะกล้าหือ เรียกได้ว่าทั้งแก่งกระโดนนี้ ทิชาคุมหมด

โอเล่เป็นหนุ่มร่างอ้วน แต่พูดไม่ค่อยชัด พูดแบบคนจมูกบี้ สร้างความรำคาญให้ลูกพี่ทิชาอยู่เนืองๆ ส่วนต๋อยนั้น ตัวใหญ่ แต่คิดโง่ๆ คิดอะไรไม่ค่อยเป็น ต้องให้ทิชาคอบบอกเลี้ยว ซ้ายเลี้ยวขาว ให้ทิชาคอยสั่งการทำโน่นนี่อยู่เสมอ แต่ทั้งสองนับถือ เฮียทิชา เป็นอย่างมาก สามคนคือนายและลูกสมุนมักสร้างความปั่นป่วนให้กับหมู่บ้านอยู่เรื่อยๆ

ความสวยของทิชานั้นไปเข้าตา กำนันตุ้ย กำนันหนุ่มโสดแห่งหมู่บ้านแก่งกระเบากำนันตุ้ยมักจะเทียวไปเทียวมาเพื่อจีบท ิชาอยู่เสมอๆ แต่โดนทิชา และ สมุนแกล้งจนกระเจิดกระเจิงทุกครั้งไป ด้วยการแกล้งหลอกผีกำนันตุ้ย เพราะรู้ว่ากำนันตุ้ยกลัวผีจนขึ้นสมอง และกำนันตุ้ยก็จะโดนหลอกแบบนี้จนวิ่งกระเจิดกระเจิงเป็นประจำ

ที่จริงนั้น กำนันตุ้ยไม่โสดจริง แต่มีคู่ขาลับๆคือดาวทอง ซึ่งเป็นไฮโซฯ ประจำหมู่บ้านเพราะฐานะดี ร่ำรวย เป็นลูกสาวของบริษัทขายสารเคมีทางการเกษตรใหญ่ของจังหวัด มีพี่ชายทำงานอยู่บนศาลกลางจังหวัด ดาวทองชอบกำนันตุ้ยเพราะรวย รูปหล่อแบบลูกทุ่งและคารมดี แถมยังมีฟาร์มหมูใหญ่โต

ดาวทองขายสารเคมีผสมอาหารหมูเร่งให้โตเร็ว และสารเร่งเนื้อแดงให้กับกำนันตุ้ยและพวกหมู่บ้านแก่งกระเบาในราคาถูกชาวบ้า นและกำนันตุ้ยชอบมากเพราะทำให้หมูของหมู่บ้านกำนันตุ้ยตัวอ้วน เนื้อสีแดงสวย และมีราคาดีกว่าหมูจากหมู่บ้านทิชา

ดาวทองไม่ชอบทิชาเลยรุ้สึกหมั่นไส้ เพราะทิชาทำให้กำนันตุ้ยไม่ยอมแต่งงานกับเธอดาวทองจึงหาโอกาสคอบแกล้งทิชาเส มอ เวลาทิชาและพวกอบต.แก่งกระโดนเสนองานอะไรไปที่จังหวัดมักจะโดนดาวฤกษ์

พี่ชายจองดาวทองเอาไปดองไว้ ทำให้งบประมาณและการดำเนินการค่อนข้างล่าช้ากว่าตำบลอื่น

และอยู่มาวันหนึ่ง ไก่ในหมู่บ้านเกิดล้มตายไปเป็นเบือโดยไม่ทราบสาเหตุ แถมมีชาวบ้านหลายคนมีอาการป่วยเป็นไข้ ไอ เจ็บคอ คล้ายกับไขหวัด ดุไปไม่น่าจะใช่เชื่อ H5N1 ที่เป็นเชื้อหวัดนก จังหวัดเลยขอความช่วยเหลือไปที่กรุงเทพ ทางกรมฯส่งธนะเทพ สัตวแพทย์หนุ่มไฟแรงเข้ามาตรวจดูสถานการณ์

ธนะเทพเป็นคนติดดิน เขาใช้รถปิกอัพแบบเดียวกับกำนันตุ้ยทิชา และพวกเข้าใจผิด เลยดักแกล้งระหว่างทาง เอาลวดหนามวางบนถนนจนยางรถของธนะเทพแบนหมดทั้งสี่ล้อ เขาเลยต้องเดินเป็นระยะทางเกือบสิบกิโลกว่าจะเข้าไปถึงหมูบ้าน พอไปถึงก็พบว่า ไก่ที่ตายนั้นไม่ใช่ไข้หวัดนก แต่เป็นโรคระบาดที่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ธนะเทพต้องรีบแจ้งให้กรมฯทราบทันที เพื่อลงมาทำวิจัยและควบคุมไม่ให้โรคแพร่กระจายไปยังหมู่บ้านอื่น

กำนันตุ้ยที่เคยชอบทิชา พอมาถึงหมู่บ้านแก่งกระโดน รุ้ข่าวไก่ตายเข้า เลยรังเกียจและกลัวจะติดดรค กำนันตุ้ยไม่เข้าใจว่าโรคใหม่นี้ต่างกับหวัดนกอย่างไร จึงทำท่าขยะแขยงทิชาจนกำนันชุ้งโกรธ เอาปืนมาไล่ยิงกำนันตุ้ยจนวิ่งหนีกลับหมู่บ้านตัวเองไป ทิชาดีใจเพราะกำนันตุ้ยจะได้เลิกยุ่งกับตัวเองเสียที

ดาวทองก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสดีของเธอ เพราะกำนันตุ้ยเริ่มกลัว ไม่อยากเข้าใกล้ทิชา เพราะกลัวจะติดโรคไปด้วย และเพื่อเป็นการถล่มทิชาซ้ำ ไม่ให้ได้ลุกมาตั้งตัวได้ดาวทองเลยเที่ยวป่าวประกาศไปทั่วจังหวัดว่าหมู่บ้า นแก่งกระโดนเกิดกระระบาดของไข้หวัดนก ทำให้หมู่บ้านของทิชาเป็นที่รังเกียจของคนทั้งจังหวัด

ถึงตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านเริ่มตกใจแต่กำนันชุ้งประชุมให้ทุกคนอยู่ในความสงบบอกว่าธนะเทพกำลังช่วยเหลือยู่

ขณะเดียวกัน ทิชาไม่พอใจธนะเทพเป้นอย่างมาก เพราะหลงเข้าใจผิด คิดว่าเขาทำการวินิจฉัยโรคแบบกำกวม เลยทำให้ชาวบ้านตกใจมากจนเกินไป เนื่องจากเธอเรียนเกษตรมา พอรู้อาการของโรคพวกนี้อยู่บ้าง

ทิชาคิดว่าไก่แค่เป็นโรคไข้หวัดธรรมดาไม่ใช่โรคระบาดที่น่ากลัว แต่ที่ตายกันมากนั้น เป็นเพราะชาวบ้านไม่มีความรู้ ไม่ได้แยกไก่ที่ป่วยออกจากไก่ดี หวัดเลยระบาดจนตายกันมากมาย

ธนะเทพเองก็หมั่นไส้ทีชาที่ทำตัวเก่งเกินคนอื่น แถมเขารู้ความลับจากโอเล่และต๋อยว่าที่ยางรถเขาแตกนั้นเป็นเพราะแผนการของทิ ชา และรู้อีกว่าทิชาคือคนที่แม่นัดดูตัวจะให้แต่งงานเขาเลยยิ่งไม่ชอบหน้าลูกสา วกำนันชุ้งมากขึ้นทุกขณะ

หมู่บ้านแก่งกระโดนนั้นไม่มีสัญญาณมือถือ ทิชาเลยจำเป็นต้องขับรถของกำนันชุ้งไปส่งธนะเทพที่ในจังหวัด พอไปถึง ก็พบกับน้องวินนี่ไฮโซฯสาวที่ตามธนะเทพมาจากรุงเทพฯ

พอวินนี่เห็นธนะเทพมากับทิชาก็วีนแตก โวยวายอาละวาดว่าที่ธนะเทพไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ ก็เพราะว่าแอบมามี เมียอยู่ที่บ้านนอกนี่เอง ทิชาโกรธมาก เดินหนีไป แต่วินนี่ไม่ยอมเลิกรังควาน เดินตามไปด่าประจานทิชาจนทั่วทั้งสำนักงานของธนะเทพ จนทุกคนเข้าใจผิดว่า ธนะเทพกับทิชาคงจะเป็นแฟนกันจริงๆ

โดนกล่าวหาจนสุดจะทน ทิชาเลยชกวินนี่ไปหนึ่งหน จนตาเขียว ธนะเทพโกรธทิชามากว่าทำตัวเป็นคนป่าเถื่อน ไปทำร้ายร่างกายคนอื่น ทิชาโวยวายว่าวินนี่ด่าเธอก่อน แต่ธนะเทพไม่ฟังบังคับให้ทิชาขอโทษวินนี่ เพราะวินนี่แค่ทำร้ายทิชาด้วยวาจา แต่ ทิชาไปทำร้ายร่างกายวินนี่ ถือเป็นความผิดทางอาญาได้เลย ถ้าวินนี่จะเอาเรื่อง ทิชาจนด้วยเหตุผลต้องยอมขอโทษวินนี่ และแอบน้อยใจธนะเทพอยู่ลึกๆ

ทางกรมฯ รุ้เรื่องโรคระบาดในไก่ จึงสั่งให้ธนะเทพรับพาลูกน้องเข้าไปพ่นยาฆ่าเชื้อที่เล้าไก่ และแยกไก่ที่ยังมีชีวิตไปกักที่อื่นทันที เพราะเรื่องนี้รอนานไม่ได้ โรคที่เกิดอาจะรุนแรงพอๆกับหวัดนก ต้องควบคุมให้ดีเอาไว้ก่อน ธนะเทพจึงจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้ากลับไปหมู่บ้านแก่งกระโดนตามไปด้วย นอกจากธนะเทพ ทิชา วินนี่ และ ลุกน้องของธนะเทพแล้ว ยังมี หมองยศที่เป็นเพื่อนสัตวแพทย์ของธนะเทพตามไปด้วยอีกคน เพื่อเก็บซากไก่มาพิสูจน์

และพอขากลับเข้าหมู่บ้านรถจึงแน่นมากเพราะมีสมาชิกงอกมาอีกหลายคน จนรถของทิชาคันเดียวไม่พอ จำเป็นต้องเอารถของวินนี่ตามไปอีกคันเพราะเป้นโฟร์วีล ธนะเทพไม่ยอมนั่งรถวินนี่เพราะไม่อยากให้ลูกน้องนินทาว่าอยากสบาย เลยนั่งรถปิกอัพของทิชากลับไปด้วยกัน โดยหมอยงยศนั่งไปเป็นเพื่อนกับวินนี่

พอไปถึงถนนช่วงก่อนจะเข้าหมู่บ้าน ต๋อยกับโอเล่เกิดเข้าใจผิด เอาลวดหนามไปวางเอาไว้ระหว่างทางอีก คราวนี้รถของทิชาเลยโดนเสียเอง เกิดยางแบน ส่วนรถของวินนี่และรถของลูกน้องธนะเทพใช้อีกทางหนึ่ง

เลยไม่โดน ตกลงเป็นอันว่า ทิชาและธนะเทพ ต้องลงเดินกลับหมู่บ้าน ทั้งคู่เดินกันไปทะเลาะกันไปตลอด

ทางธนะเทพหัวเราะสะใจหาว่ากรรมตามสนอง เคยแกล้งเขา คราวนี้มาโดนเอง ทิชาโกรธจนพุดไม่ออก และจุดที่รถยางแบนแบบนั้น คราวนี้อยู่ไกลหมู่บ้าน แก่งกระโดนมากฝนจะตก ทิชาเลยตัดสินใจพาธนะเทพเดินไปทางลัดที่ต้องผ่านหมู่บ้านแก่งกระเบา

ระหว่างทาง ฝนตกหนักจนเสื้อผ้าของทิชาและธนะเทพเปียกปอน ธนะเทพเห็นทิชาหนาวก็เลยถอดเสื้อคลุมให้ กำนันตุ้ยผ่านมาเห็นพอดี คิดว่าทิชานัดผู้ชายมามีอะไรกันในป่าละเมาะก็เลยดื่มเหล้าจนเมามาย เสียใจมาก และเอาเรื่องนี้ไปโพทะนาทั่วหมู่บ้าน ทุกคนเลยเอาไปลือกันว่าทิชามีอะไรกับ ธนะเทพ ทำให้ทิชาเจ็บใจกำนันตุ้ยมากและโกรธ ธนะเทพ ทั้งที่เรื่องที่เกิดไม่ใช่ความผิดของเขาเลยส่วนวินนี่ก็วีนแตกทิชาอีกรอบ

และเมื่อทุกคนกลับมาถึงหมู่บ้านตัวเองแล้ว หมอยงยศ และทุกคนก็ไปจัดการพ่นยาฆ่าเชื้อจนเสร็จ และแยกไก่ดีออกจากไก่ที่เป็นโรค กำนันชุ้งจัดให้ทุกคนพักที่บ้านตัวเอง เพราะเป็นบ้านหลังใหญ่ มีห้องนอนหลายห้อง ธนะเทพต้องอยู่คอยศึกษาอาการป่วยของไก่ที่หมู่บ้านอีกพักใหญ่

คืนนั้น ทิชาเริ่มเป็นไข้ แต่หายากินเอง และอดทนเอาไว้ไม่บอกใคร เพราะพ่อกำนันกำลังวุ่นวายกับเหตุการณ์ในหมู่บ้านมากจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน

คนในบ้านกำนันชุ้งเองก็เกือบไม่ได้นอนด้วยเช่นกัน เพราะวินนี่โวยวาย ไม่มีน้ำร้อนให้อาบน้ำ แถมโดนยุงกัด อากาศก็ร้อน ห้องไม่มีแอร์ กำนันเห็นหนูวินนี่สวยหน้าตาน่ารัก เลยอยากเอาใจ สั่งให้หนูก้ามปูกับเจ๊หลินฮุ่ยมานั่งพัดให้วินนี่ทั้งคืน สองแม่นั้นกลัวพ่อกำนันจะไม่รัก ก็เลยยอมมาพัดให้วินนี่ แต่ก็พัดไปด่าไปทั้งคืนจนกระทั่งถึงเช้า

พอถึงรุ่งเช้าเกิดมีไก่ตายอีกหลายตัว ต๋อยและโอเล่แอบเอาไก่ชนของตัวเองมาแอบที่เล้าหมูของทิชา เพราะกลัวว่าธนะเทพจะฆ่าไก่ของตัวเอง จนกระทั่งสองวันต่อมา หมูที่ฟาร์มของทิชาก็เริ่มป่วย

วินนี่โวยวายไม่ยอมอยู่บ้านกำนัน เพราะเห็นทิชาไม่สบาย หาว่าทิชาต้องติดโรคระบาดจากไก่แน่ๆ ทิชาเองเริ่มไม่สบายใจว่าตัวเองจะเป็นหรือเปล่า ชาวบ้านหลายคนยังคงมีอาการเหมือนหวัดอยู่

ธนะเทพคุยกับหมอยงยศด้วยความวิตกว่า โรคติดเชื้อในไก่อาจมีการกลายพันธุ์และติดมาถึงหมู ทำให้หมูเริ่มป่วย หมอยงยศจึงเสนอให้ฆ่าหมูในฟาร์มของทิชาทั้งหมด ก่อนที่อาการไข้จะระบาดไปยังฟาร์มอื่นอีก ทิชาเดินมาได้ยินพอดี เธอจึงออกมาอาละวาดขัดขวาง ไม่ยอมให้ธนะเทพฆ่าหมูของตัวเอง

พ่อกำนันเองก็รักหมูในฟาร์มมาก โดยเฉพาะหมูที่เป็นพ่อพันธุ์ แต่เมื่อพิจารณาเหตุผลของธนะเทพแล้วก็ตัดสินใจยอมฆ่าหมูเล้าอื่นและอาจติดมา ยังคนได้อีกด้วยจึงสั่งให้ธนะเทพฆ่าหมูในฟาร์มของตัวเองได้ ทิชาโกรธพ่อมาก เธอว่าหมูป่วยแต่ยังไม่ตาย น่าจะสังเกตอาการได้ ไม่ถึงกับจะต้องฆ่ากัน ทิชามีแม่หมูตัวหนึ่งที่รักมาก ชื่อหนูอี๊ด หนูอี๊ดเป็นหมูแสนรู้ เธอเลี้ยงมาตั้งแต่มันยังเป็นลูกหมูไปไหนมาไหนมักจะพาไปด้วย เอยอมไม่ได้ที่ธนะเทพจะฆ่ามัน จึงวางแผนกับต๋อยและโอเล่ต้อนเอาหมูในฟาร์มทั้งหมดหนีไปแอบที่ท้ายหมู่บ้าน จากนั้นทิชาก็ย้อนกลับมาหาหมอยงยศขอร้องอย่าเพิ่งฆ่าหมู

พ่อกำนันโกรธทิชามากจึงเกิดการทะเลาะกัน จนพ่อกำนันลืมตัวตบหน้าทิชาเป็นครั้งแรกที่พ่อกำนันทำร้ายลูกสาว แต่ในเวลานั้นพ่อกำนันคิดถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว จึงคิดแต่ว่าลูกสาวไม่มีเหตุผล ถึงเวลานี้ต้องยอมเสียสละแล้ว เพราะไม่งั้นเกิดโรคระบาดจริง คนอาจจะป่วยกันทั้งหมู่บ้าน ธนะเทพเห็นทิชาร้องไห้ก็สงสาร แอบบอกกับหมอยงยศให้ช่วยทิชา

ทิชาไม่รู้ว่าธนะเทพไปขอร้องหมอยงยศด้วยอีกคนหนึ่ง หมอยงยศเห็นแก่ทิชาเลยยอมต้องลง แล้วยังไปเกลี้ยกล่อมกำนันให้ใจเย็นรอสังเกตอาการของหมูก่อน กำนันไม่เห็นด้วยแต่เห็นทิชาร้องไห้หมดสภาพก็เลยสงสาร ยอมใจอ่อน ธนะเทพและหมอยงยศยืนยันจะช่วยกันควบคุมหมูที่มีอาการป่วยให้ดี ไม่ให้เชื้อแพร่ไปฟาร์มอื่นแน่นอน วินนี่ได้แต่โวยวายไปตามเรื่อง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมตามที่ธนะเทพเสนอ

หมอยงยศยาที่เอามาด้วย รักษาหมูทิชาจนหาย แต่ทิชากลับไข้สูงจนเพ้อหมดสติพ่อกำนันพาไปส่งโรงพยาบาล วินนี่กับนักข่างสองสามคนรู้จักกัน นักข่าวเลยขอสัมภาษณ์วินนี่ วินนี่ได้ดอกาสเลยโวยวายป่าวประกาศว่าหมูบ้านแก่งกระโดนเกิดหวัดนกระบาด ทำให้เกิดการเข้าใจผิดไปทั้งประเทศ ชาวบ้านแก่งกระโดนถูกแอนตี้ ขายไก่ ขายไข่ ขายหมู ไม่ได้ ชาวบ้านที่กู้ยืมสินมาลงทุนทำฟาร์มเริ่มเครียด และไม่มีเงิน

ธนะเทพโกรธวินนี่มากที่ไปให้ข่าวอย่างนั้น ทั้งที่ผลการตรวจพิสูจน์ซากไก่ก็ยังไม่ออกมา ทั้งสองทะเลาะกันรุนแรง วินนี่ว่า ธนะเทพเห็นอีบ้านนอกดีกว่าตัวเอง ก็น้อยใจขับรถกลับกรุงเทพฯไปแต่ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุรถตกข้างทาง หมอยงยศผ่านมาช่วยเอาไว้พอดี

วินนี่ไม่ยอมกลับบ้านร้องไห้ขอตามหมอยงยศไป หมอยงยศไม่รู้จะทำอย่างไรเลยต้องยอมพาวินนี่ไปพักที่บ้านของตัวเอง ยอมยกห้องนอนให้ ตัวเองไปนอนที่ห้องรับแขก กลางคืนวินนี่ออกมาเข้าห้องน้ำ เห็นหมอยงยศนอนหนาวอยู่เลยสงสาร เอาผ้ามาห่มให้ ตัวเองเริ่มรู้สึกดีกับหมอยงยศขึ้นมาบ้าง

พอรุ่งเช้า วินนี่เลยพยายามหาข้ออ้างเรื่องจะอยู่ดูผลเรื่องของไข้หวัดนก เพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆหมอยงยศ ไม่ต้องกลับกรุงเทพฯ หมอก็ยอมให้วินนี่อยู่ด้วย ทั้งที่ยังงงๆ และเกรงว่านะเทพจะเข้าใจผิด

ผลการตรวจซากไก่ออกมา พบว่าเป็นเพียงไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่เท่านั้น หมูของทิชาที่หมอยงยศช่วยรักษาให้ก็หายดี ไม่มีไก่ตายในหมู่บ้านเพิ่มอีก ผลตรวจของทิชาก็ไม่มีหวัดนก แต่เป็นปอดบวมเพราะทิชาเดินตากฝน ส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่นั้น หมอเคลื่อนที่ไปตรวจพบว่าเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา และรักษาจนหาย ทุกคนสบายใจขึ้น ทิชาหายกลับบ้านได้ แต่ปัญหายังไม่หมด เพราะสังคมยังไม่เข้าใจ คิดว่าทางการปิดข่าวบอกเรื่องหวัดนก จึงพากันแอนตี้ไม่ซื้อไก่ ไข่ และหมู จากหมู่บ้านแก่งกระโดน

เด็กจากหมู่บ้านแก่งกระโดนไปโรงเรียนก็โดนเพื่อนไล่ เพราะกลัวจะติดไข้หวัดนก แม้แต่กำนันตุ้ยแห่งหมู่บ้านแก่งกระเบาที่ควรจะเข้าใจดี แต่ก็ยังรังเกียจหมู่บ้านที่อยู่ติดกัน ไม่ให้ความช่วยเหลือ ทำให้กำนันชุ้งแค้นใจมาก

ดาวทองแอบมาเสนอขายสารเคมีเร่งโต และเร่งเนื่อแดงให้หมู่บ้านแก่งกระโดน แต่บังเอิญทิชาไปแอบรู้เข้า ก็เลยร่วมมือกับวินนี่ เปิดโปรแผนการร้ายของดาวทอง ตำรวจไปตามจับดาวทอง แต่ดาวฤกษ์ช่วยขอร้องเอาไว้ ดาวทองจึงแค้นทิชามาก

ดาวฤกษ์เห็นทิชาก็รู้สึกติดใจว่าสวย ทิชาไปติดตามเงินช่วยเหลือจากจังหวัดที่ถูกดาวฤกษ์ดองเรื่องเอาไว้ ดาวทองวางแผนให้ดาวฤกษ์หลอกทิชาไปที่บ้านเพื่อปลุกปล้ำทิชาเป็นเมีย ทิชาปกติจะเก่งกล้า แต่วันนั้นโดนหลอกให้กินยานอนหลับ เลยไม่สามารถจะต่อสู้กับดาวฤกษ์ได้ แต่บังเอิญธนะเทพเข้ามาตามเรื่องเงินเดือนของลูกน้องพอดี เลยพอทิชากำลังจะเสียทีดาวฤกษ์ เลยช่วยเอาไว้ทัน ทิชารู้สึกขอบคุณธนะเทพ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกอายที่ตัวเองต้องเสียหน้า

หมดภารกิจเรื่องหวัดนก ธนะเทพกับทีมก็เดินทางออกจากหมู่บ้าน ระหว่างทางพบกับคนแก่คนหนึ่งเดินหาบของอยู่ข้างทางแล้วเกิดเป็นลมก็เลยหยุดช ่วยเหลือ

พอยายจวงฟื้น ธนะเทพก็ถามถึงสาเหตุของการเป็นลมจึงได้ความว่า พอรู้ว่ามาจากบ้านแก่งกระโดน รถโดยสารไม่ยอมให้ยายขึ้นรถ เพราะกลัวจะเอาหวัดนกไปติด ไปขายของในเมืองก็ขายไม่ได้เลย โดนเอาก้อนหินขว้างไล่อีกด้วย และเมื่อธนะเทพพายายจวงไปส่งที่บ้านก็พบว่ายายจวงมีหลานเล็กๆอยู่ที่บ้านอีก สี่คน ทุกคนไม่ได้ไปเรียน ไม่มีข้าวกินเพราะยายจวงขายของไม่ได้ ไม่มีเงิน ทุกคนในหมู่บ้านตอนนี้ได้ผลกระทบไป

ธนะเทพจึงเปลี่ยนใจ ขออยู่ที่หมู่บ้าน เพื่อจะช่วยเหลือชาวบ้านก่อน เพราะคิดว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ ตัวเองก็มีส่วนทำให้คนเกิดความเข้าใจผิดว่าหมู่บ้านแก่งกระโดนเกิดหวัดนก ธนะเทพปรึกษากับกำนันชุ้งและทิชา เพื่อหาทางแก้ไขและช่วยเหลือชาวบ้าน ทิชานั้นหมั่นไส้ธนะเทพมากเพราะเรื่องทั้งหมดเกิดจากเขา แต่ตอนนี้จำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันเสียก่อน หมอยงยศรู้เรื่องจากลูกน้องของธนะเทพที่กลับมาจากจังหวัด เลยเข้าไปหมู่บ้านแก่งกระโดนอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือธนะเทพอีกแรง

วินนี่ร้องตามไปด้วยเพราะลึกๆแล้วเธอเองก็รู้สึกว่ามีส่วนผิดที่ทำให้เกิดเร ื่องใหญ่โต และที่จริงอยากอยู่ใกล้หมอยงยศด้วย แต่หมอยงยศไม่อยากให้วินนี่ไป เพราะกลัวว่าจะไปอาละวาดทิชาอีก แต่วินนี่สัญญาว่าคราวนี้จะทำตัวให้ดี

ทิชาว่าควรจะแนะนำให้ชาวบ้านเลี้ยงหมูให้ถูกวิธี ไม่ใช้สารเร่งโตและทำให้เนื้อแดง เราะสารเหล่านั้นทำให้หมูโตเร็วและเนื้อดูแดงสวยงามก็จริง แต่เป็นสารทำให้ก่อมะเร็ง ทิชาเลยเอาโครงที่ตัวเองเคยทำประกวดชนะเลิศและได้เกียรตินิยมมาเสนอชาวบ้าน โดยมีธนะเทพ และหมอยงยศ รวมทั้งวินนี่คอยช่วยเหลือ

ทิชาแนะนำชาวบ้านทำปศุสัตว์แบบปลอดสารเคมี และนำเอาความคิดเรื่องไร่นาสวนผสมตามแนวพระราชดำริมาให้ชาวบ้านใช้เป็นแนวทา งการประกอบอาชีพ แรกๆชาวบ้านไม่เห็นด้วยเพราะกว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลานาน แต่ด้วยความพยายามของทิชาและธนะเทพ ทุกคนจึงตัดสินใจจะทดลองดู

วินนี่เป็นคนสวย ช่างฉอเลาะ จึงเป็นอีกคนที่ช่วยโน้มน้าวใจชาวบ้านได้ดีมาก หมอยงยศเริ่มเห็นว่าวินนี่นั้นก็เป็นคนดี เพียงแต่ถูกเลี้ยงมาอย่างตายใจ เลยเสียเด็ก แต่พอได้มาทำงานช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่า เธอก็เริ่มมีนิสัยดีขึ้น

ชาวบ้านทั้งหมดพร้อมใจกันทำฟาร์มหมูรูปแบบใหม่ ตามที่ทิชาและธนะเทพเสนอ โดยทิชายอมบากหน้ากลับไปหาแม่และคุณหญิงยายเพื่อขอยืมเงินแม่มาลงทุนให้กลับ ทุกคน

ตอนแรกทิพาวดีและคุณหญิงธิดาไม่ยอม เพราะนึกว่าลูกสาวโดนพ่อกำนันหลอกจะเอาเงิน แต่สุดท้ายก็ยอม เมื่อเธอให้สัญญาว่าจะทำตามที่แม่และคุณหญิงยายต้องการทุกอย่าง หากเธอได้เงินก้อนนี้ไปช่วยพ่อกำนันจนทุกอย่างสำเร็จเรียบร้อยแล้ว และเมื่อเธอรู้เงื่อนไขของแม่และคุณหญิงยายว่า เธอจะต้องแต่งงานกับมนัสชัย หลานชายเพื่อนคุณหญิงธิดา เธออึ้งพูดไม่ออกไปทันที เธอรู้แล้วว่าเธอไม่สามารถที่จะบิดพลิ้วเหมือนอย่างคราวของธนะเทพได้สำเร็จอ ีกแล้ว เพราะด้วยความที่เธออยากช่วยหมู่บ้านพ่อมากนี้เอง ทิชาจึงยอมตกลง ซึ่งจริงๆแล้วในใจเธอคิดว่าตกลงไปก่อน พอถึงเวลาจะต้องแต่งจริงๆแล้ว ค่อยหาทางเอาตัวรอดทีหลังดีกว่า ด้วยไม่ให้เสียชื่อลูกสาวกำนันชุ้ง

มาถึงตอนนี้ หมูและไก่ของหมูบ้านแก่งกระเบาเริ่มป่วยบ้าง อาการป่วยนั้นเริ่มมาจากฟาร์มของกำนันตุ้ยและดาวทองก่อน หมูของฟาร์มนี้ไม่แข็งแรง เพราะถูกให้สารเคมีเยอะมาก แต่กำนันกลัวว่าชาวบ้านจะรู้เรื่อง เลยปิดข่าว และแอบเอาหมูตายไปแล่เนื้อขายราคาถูกโดยไม่ยอมบอกใคร

เมื่อหมูรุ่นแรกของแก่งกระโดนโตพอจะขายได้ ธนะเทพและหมอยงยศก็ไปเชิญให้สาธารณะสุขมาตรวจรับรองมาตรฐาน ปรากฎว่าเนื้อหมูของหมู่บ้านแก่งกระโดนได้มาตรฐานดีมากระบบฟาร์มของทิชาก็เด ้งโดนใจกรรมการ จนอาจจะทำให้หมู่บ้านได้รับรางวัลหมู่บ้านปศุสัตว์ดีเด่นประจำปี

และเมื่องานเกษตรประจำปีมาถึง ซึ่งในงานมีกิจกรรมต่างๆมากมาย โดยหนึ่งในกิจกรรมต่างๆนั้น มีการประกวดหมู ทิชาเลยพาหนูอี๊ดไปโชว์ด้วย หนูอี๊ดดังเพราะเป็นหมูฉลาด สามารถทำตามคำสั่งของทิชาได้ หนูอี๊ดจึงได้รางวัลชนะเลิศ

ดาวทองและกำนันตุ้ยร้อนใจมาก เพราะหมู่บ้านแก่งกระเบาก็เข้าประกวดโครงการปศุสัตว์ดีเด่นนี้เช่นกัน เขารู้ว่าถ้ามาตรวจเจอสารเร่งเนื้อแดง นอกจากจะแพ้แล้วยังอาจจะถูกจับได้อีกด้วยดาวทองเลยให้ดาวฤกษ์ใช้เส้นพาเข้าไ ปในห้องแข่งขันก่อนถึงเวลา แล้วแอบเอาเนื้อหมูที่มีสารเร่งโตกับสารเร่งเนื้อแดงของหมู่บ้านแก่งกระเบาไ ปสลับกับเนื้อหมูของหมู่บ้านทิชา ทำให้เวลากรรมการตรวจแล้วหมู่บ้านทิชาโดนหักคะแนน แถมยังขายหน้าเพราะอุตส่าห์คุยเอาไว้มาก กรรมการปรึกษากันเครียดเรื่องจะแจ้งจับทิชาและกำนันตุ้ยดีไหม

คุณหญิงธิดาและทิพาวดีเห็นข่าวทางโทรทัศน์ก็โกรธทิชามาก นึกว่าทิชาโดนหลอกหรือไม่ทิชาก็เป็นคนหลอกแม่กับยายเสียเอง เลยทวงเงินที่ช่วยลงทุนคืน แต่เทวัญซึ่งรู้ข่าวนี้เช่นกันจากทิพาวดีที่มาพูดบ่นเชิงปรึกษาว่าจะทำอย่าง ไรดีกับทิชา เขาจึงคิดช่วยเหลือทิชาด้วยการขอร้องทิพาวดีให้ใจเย็นๆก่อนอย่าเพิ่งวู่วามท ำอะไรลงไปก่อนที่จะถามหาความจริงกับทิชา ทิพาวดีจึงยอมทำตามคำแนะนำของเทวัญ

ในที่สุด หมู่บ้านของกำนันตุ้ยก็ได้คะแนนยอดเยี่ยมจากการประกวดครั้งนี้ เพราะเนื้อหมูมีคุณภาพปลอดจากสารเคมี เนื่องจากแอบขโมยเอาเนื้อหมูของทิชาไปแอบอ้างเป็นของตัวเองนั้นเองโดยไม่มีใ ครรู้ในเรื่องการกระทำนี้เลย ยกเว้นดาวทองและดาวฤกษ์

แม่หลินฮุ่ยกับก้ามปูรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ เลยช่วยแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อน โดยการปลุกระดมชาวบ้านแก่งกระโดนมารุมล้อมกรรมการ ยืนยันให้ตรวจสอบเนื้อหมูใหม่ถ้าไม่ยอมจะรุมประชาทัณฒ์ กรรมการหนักใจมาก แต่ก็ต้องยอมเพื่อความปลอดภัย ให้โอกาสให้กับหมู่บ้านแก่งกระโดน โดยเอาหมูมาประกวดใหม่ และนัดว่าจะเอามาตรวจอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

ทิชากับธนะเทพลงทุนมาเฝ้าเต็นท์นิทรรศการเอง เพื่อไม่ให้ใครเข้าออกได้ แต่ดาวทองแกล้งพาพวกมาหาเรื่องกับทิชา และกำนันตุ้ยพาพวกมาหาเรื่องกับธนะเทพ เกิดการทะเลาะกันขึ้น ดาวฤกษ์เลยฉวยโอกาสที่กำลังชุลมุนแอบเข้าไปในเต็นท์เพื่อสลับเนื้อหมูตามแผน

วินนี่รู้สึกถึงความผิดปกติ เพราะเธอมั่นใจว่าเนื้อหมูจะต้องถูกเปลี่ยนโดยดาวฤกษ์ เพราะเธอเห็นดาวฤกษ์แอบเข้าไปในเต็นท์ จึงตามเข้าไปแอบดูแล้วถ่ายภาพดาวฤกษ์สลับหมูกับทิชาเอาไว้ด้วยคลิปมือถือ แต่ดาวฤกษ์เห็นเข้า เลยให้ลูกน้องจับตัววินนี่เอาไว้

ธนะเทพสงสัยว่าวินนี่หายไปไหน จึงเดินตามหากับโอเล่และต๋อย ขณะเดียวกันหนูอี๊ดก็หลุดมาจากคอก จึงเดินดมกลิ่นโน่นนี่ไปเรื่อยๆ จนไปพบวินนี่โดนมัดเอาไว้ในเล้าหมูหลังเต็นท์นิทรรศการ เลยตามธนะเทพมาช่วยวินนี่เอาไว้ได้ทัน

พอคณะกรรมการมาตรวจหมูอีกครั้ง ผลปรากฏว่าหมูของทิชาก็มีสารเร่งโตกับสารเนื้อแดงอีกเหมือนอย่างเดิมอีก ขณะที่หมูของกำนันตุ้ยนั้นดีมีคุณภาพ วินนี่หลุดออกมาทันเวลา เลยเอาคลิปวิดีโอมาเปิดเผย ทำให้ทุกคนรู้ความจริง กำนันตุ้ยและดาวทองโดนจับเพราะใช้สารเคมีต้องห้ามฉีดให้หมูแถมยังโดนเล่นงาน เรื่องที่ปิดบังเรื่องหมูมีอาการป่วยจนตายไปเกือบหมดฟาร์ม แถมยังเอาหมูตายมาขายในตลาดอีกด้วย

ดาวฤกษ์โดนจับฐานเป็นเจ้าหน้าที่ราชการแต่ประพฤติตนในทางที่ผิด เอื้อให้เกิดการคอรัปชั่น ข่าวโทรทัศน์มาถ่ายทำแพร่ภาพใหญ่โต แถมยังตีประเด็นบ้านแก่งกระเบาเกิดโรคระบาดในหมู จนทุกคนลืมเรื่องหวัดนกของหมู่บ้านแก่งกระโดน คนในเมืองตามนิยมอยากซื้อเนื้อหมูจากหมูบ้านแก่งกระโดน ชาวบ้านเริ่มมีรายได้มากขึ้น ขณะที่ชาวบ้านแก่งกระเบาเริ่มแย่

ทิชาและธนะเทพสงสารคนหมู่บ้านนั้นที่โดนกำนันตุ้ยและดาวทองหลอกมานาน จึงร่วมมือกับหมอยงยศและวินนี่ เอาแนวพระราชดำริเรื่องไร่นาสวนผสมและการปศุสัตว์ปลอดสาเคมีไปสอนและช่วยจนค นในหมู่บ้านแก่งกระเบาเริ่มลืมตาอ่าปากได้

หลายเดือนที่ตกระกำลำบากด้วยกัน ทำให้ทิชาและธนะเทพเห็นใจกัน เข้าใจกันมากขึ้น ทิชารู้ตัวว่าหลงรักธนะเทพเข้าแล้ว และในขณะเดียวกันทิพาวดีและคุณหญิงธิดาก็เริ่มทวงสัญญาเรื่องที่ทิชารับปากจ ะแต่งงานกับมนัสชัย

ธนะเทพรู้สึกเศร้าใจ เพราะถึงเวลาต้องจากทิชาและหมู่บ้านแก่งกระโดนไปแล้ว เขารู้ดีตัวเองรักทิชา แต่ไม่ยอมบอกทิชาจนแล้วจนรอดว่าตัวเองก็คือคนที่แม่ของทิชาหมายมั่นจะให้แต่ งงานกัน อีกทั้งเขาได้ทำอะไรให้ทิชาไม่พอใจเยอะจึงไม่กล้าสารภาพว่าเขารักทิชา วินนี่เห็นธนะเทพเศร้าก็เลยเข้ามาคุยจนรู้ว่าเขารักทิชา

แต่ทุกอย่างสายไปแล้วเพราะคุณหญิงส่งคนมารับทิชากลับกรุงเทพฯแล้ว เพื่อแต่งงานกับมนัสชัยตามสัญญา ทิชาเศร้ามาก แต่คิดว่าธนะเทพไม่ได้รักตัวเองเลย ทิชาจึงตัดสินใจยอมทำตามที่แม่ขอ แทนที่จะบิดพลิ้วอย่างที่คิดเอาไว้แต่แรก

ทิชาได้พบกับธนะเทพที่กรุงเทพฯ ในงานเลี้ยงงานหนึ่งโดยบังเอิญ จึงได้รู้ความจริงว่าที่แท้ธนะเทพก็คือคนที่คุณทิพาวดีหมายมั่นปั้นมือจะให้ แต่งงานด้วย แต่ถึงตอนนี้ก็แก้ไขอะไรไม่ได้เพราะรับปากแต่งงานกับมนัสชัยไปแล้วธนะเทพเอง ก็เศร้าใจ เพราะคิดว่าทิชารักมนัสชัยที่หน้าดีและรูปหล่อ ที่กำลังจะบอกรักทิชาก็เลยไม่กล้า เพราะคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะทำแบบนั้น ยังไงก็รักกันไม่ได้อยู่ดี ทิชากำลังจะแต่งงานกับคนอื่นอยู่แล้ว

และเวลานี้ วินนี่ก็ได้เป็นแฟนกับหมอยงยศไปแล้ว และมีโอกาสเจอกับทิชาที่กรุงเทพฯได้คุยกัน เลยรู้ว่าทิชาก็รักธนะเทพเหมือนกันแต่ต้องแต่งงานกับมนัสชัยตามสัญญา

วินนี่รู้จักมนัสชัยเป็นอย่างดีเพราะทั้งสองเป็นเพื่อนกันสมัยเรียนอยู่ที่ต ่างประเทศ วินนี่รู้อยู่เต็มอกว่ามนัสชัยนั้นเป็นเกย์ เธอจึงไปขอร้องให้มนัสชัยล้มเลิกความคิดนี้เสีย แต่มนัสชัยไม่ยอมจึงเกิดการทะเลาะกัน ถึงขนาดจะตัดขาดความเป็นเพื่อนหากวินนี่เปิดเผยความจริงเรื่องนี้ให้พ่อแม่เ ขารู้

เมื่อวินนี่รู้ว่าการที่มนัสชัยจะแต่งงานกับทิชาก็เพื่อปกปิดตัวเอง และหวังมรดกนับร้อยล้านของพ่อแม่ที่จะยกให้เขาทั้งหมด ถ้าเขาแต่งงานกับทิชาเรียบร้อยแล้ว และหลังจากนั้นเขาจึงค่อยอย่ากับทิชาที่หลังซึ่งเมี่อวินนี่รู้อย่างนี้แล้ว ก็ไม่ชอบใจ วินนี่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับทิชาเลย วินนี่จึงวางแผนกับหมอยงยศเพื่อเปิดโปงมนัสชัย ดดยช่วยกันตามหาตรอง...แฟนของมนัสชัยนั่นเอง และเมื่อทั้งสองตรมหาตรองพบก็ได้บอกความจริงทั้งหมดให้ตรองรู้ ตรองโกรธมากที่มนัสชัยโกหกเลยตามวินนี่มาอาละวาดในงานหมั้นระหว่างทิชากับมน ัสชัย

ฉะนั้น งานหมั้นของทิชาและมนัสชัยเลยล้มเลิกไปโดยปริยาย เพราะทุกอย่างเผยความจริงออกมาทั้งหมด ทิพาวดีเริ่มเห็นใจลูกสาว ขณะที่คุณหญิงธิดาประกาศเลิกยุ่งเรื่องแต่งงานของทิชาอีกเลย เพราะวุ่นวายเหลือเกิน ขณะที่ทิชาเสียความมั่นใจและไม่สบายใจอย่างมาก จึงขออนุญาติแม่กลับไปหาพ่อกำนันที่แก่งกระโดน

ขณะเดียวกัน ธนะเทพเองก็ไม่รู้เรื่องที่ทิชากับมนัสชัยเลิกล้มงานหมั้นไปแล้ว เขาคิดว่าทิชากำลังจะแต่งงานกับมนัสชัยในไม่ช้า ตาเขาก็ยังคงรักทิชามาก ไม่อยากเห็นทิชาไปแต่งงานกับคนอื่น เลยหลบมาบ้านแก่งกรโดนเช่นกัน เขาคิดว่าได้กลับมาที่ที่ได้พบกับทิชาครั้งแรก อาจจะช่วยให้ความรู้สึกของเขาดีขึ้น

หมอยงยศรู้ว่าธนะเทพหนีไปแก่งกระโดนก็เลยมาเล่าให้วินนี่ฟัง วินนี่ชักรำคาญว่าต่างคนต่างรักกันทั้งคู่ แต่ไม่ยอมพูดกันให้รู้เรื่องสักที เลยยื่นมือเข้ามาช่วยอีกครั้ง

วินนี่ตามมาที่แก่งกระโดนด้วยการวางแผนกับหมอยงยศ กำนันชุ้งและสองแม่ เพื่อให้ทิชายอมรับออกมาเสียทีว่ารักธนะเทพ โดยการแกล้งหลอกว่าหมูในฟาร์มเกิดโรคระบาดขึ้นมาอีก และตอนน้ะนะเทพก็กำลังไปรักษาหมูอยู่ด้วย พอทิชารู้รีบตามไปในฟาร์ม เห็นหมูนอนตายหลายตัว (ที่จริงไม่ตาย แต่โดนหมอยงยศให้กินยานอนหลับ) ก็ตกใจว่าทำไมธนะเทพจับตัวหมูโดยไม่ใส่ถุงมือเพราะทำแบบนี้อาจติดโรคได้ กำลังคุยๆอยู่ ธนะเทพแกล้งล้มหมดสติลงไปนอนกับพื้น ทิชาตกใจมากเลยเผยความในใจให้เขารู้ว่าเธอรักธนะเทพมาก

และพอดีกับหมูที่นอนหลับเริ่มทยอยตื่นขึ้นมา ทิชาเลยรู้ว่าตนเองโดนแกล้ง แต่ก็ดีใจที่ธนะเทพไม่เป็นอะไร

ธนะเทพจึงขอทิชาแต่งงาน กำนันรีบยกให้ เพราะเห็นว่าลูกสาวห้าวขนาดนี้ ขืนไม่ยกให้ธนะเทพ คงไม่มีใครตาถั่วมาสู่ขอทิชาแน่ ทิพาวดีกับคุณยายก็ดีใจด้วยเพราะไม่คิดว่าคนที่ตั้งใจจะจับคู่ให้ทิชาแต่แรก นั้นก็ได้ลงเอยตามที่เคยตั้งใจไว้ และคิดว่าช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันดีเหลือเกิน

ส่วนเทวัญก็ได้ขอทิพาวดีแต่งงานอีกครั้ง คราวนี้ทิพาวดีตกลง เพราะคิดว่าระหว่างเธอกับกำนันชุ้งคงไม่มีทางกลับมาอยู่ด้วยกันได้อีกแล้ว แต่ทั้งสองก็สัญญากันว่าจะยอมมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

ธนะเทพและทิชาจึงแต่งงานอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข...

นักแสดง

รับบทเป็น
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ทิชา
ภาณุ สุวรรณโณ ธนะเทพ
สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ หมอยงยศ
ชมพูนุช ปิยธรรมชัย วินนี่
มนตรี เจนอักษร กำนันชุ้ง
ปภัสรา เตชะไพบลูย์ ทิพวาดี
พรรัมภา สุขได้พึ่ง ก้ามปู
ฐรินดา กรรณสูต หลินฮุ่ย
สราวุฒิ พุ่มทอง กำนันตุ้ย
สุกัญญา ไรวินท์ ดาวทอง
ดร.ปัทมาฆะ สุคนธมาณ คุณหญิงธิดา
จักรกฤษ คชรัตน์ ดาวฤกษ์
ฝันเด่น จรรยาธนากร ต๋อย
ปิยะดา เพ็ญจินดา แม่วินนี่
กิตติ ดัสกร โอเล่
ด.ญ.สุพิชชา มงคลจิตตานนท์ ทิชา (เด็ก)
เกษศริน พูลลาภ เทพเทวี