++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

Last Friends ค่าใช้จ่ายของคำว่าเพื่อน/ต่อพงษ์

Last Friends ค่าใช้จ่ายของคำว่าเพื่อน/ต่อพงษ์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โลกนี้จำเป็นจะต้องมีละครโทรทัศน์ที่ว่าด้วยความรัก...ส่วนหนึ่งเพราะว่าแรงขับเคลื่อนของสังคมนี้มีความรักเป็นองค์ประกอบ

คนผลิตสื่อล้วนแต่รู้ดีว่า
ความรักนั้นจะเป็นประเด็นที่ขายได้ง่ายที่สุดและเรียกแขกได้ดีที่สุด

แม้แต่ในเรื่องที่ไม่น่าจะมีความรักมาเกี่ยว
คนทำสื่อก็จะต้องหาตัวละครมาให้กุ๊กกิ๊กเพื่อเพิ่มสีสันให้แก่ละครเหล่านั้น
ศิลปะของการทำละครคุณภาพอยู่ตรงนี้เองนะครับว่า
ทำอย่างไรจะทำให้เรื่องของความรักที่ใส่เข้ามานั้นมันไม่เน่าและให้อะไรกลับ
ไปสู่คนดูด้วย

แต่หลายครั้งที่ความรักถูกเข้ามาแล้วทำให้เราต้องเหนื่อยชะมัดกับการดู
เพราะรักในเรื่องที่ใส่เข้ามานั้นเป็นรักที่ทำให้เกิดทุกข์ขึ้นทั้งสิ้น...
อาทิเช่น ทุกข์เพราะเป็นรักต้องห้าม
ทุกข์เพราะเป็นรักที่รักแล้วผิดไปจากที่หวัง
ทุกข์เพราะรู้ว่าเมื่อรักแล้วต้องเจ็บปวดแน่ๆ
หรือไม่กล้ารักเพราะความผิดปรกติบางอย่างในร่างกาย ฯลฯ

ประเด็นของรักที่ทำให้เกิดทุกข์เหล่านี้
ส่วนมากผู้สร้างมักจะเลือกแค่ประเด็นเดียวแล้วขยายออกให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา

แต่คงมีไม่บ่อยนักที่ผู้สร้างจะยกทุกประเด็นเหล่านี้มาใส่รวมกันแล้วทำเป็นละครออกมาให้ดู

ผม เพิ่งจะเจอละครที่ว่านี้ในเรื่อง Last Friends
ละครที่สร้างโดยสถานีโทรทัศน์ฟูจิ
ซึ่งระบุไว้ในคำอธิบายของละครเรื่องนี้อย่างเป็นทางการว่าเป็นเรื่องของ
มิตรภาพ สะท้อนปัญหาของผู้คนในสังคมโดยเฉพาะเรื่องของเกย์และเลสเบี้ยน
ละครได้เรตติ้งสูงถึง 17.7 พร้อมกับกวาดรางวัลละครโทรทัศน์มาได้เพียบ

ละครเรื่องนี้ระดมดารามากมายในระดับเกรด เอ
โดยเฉพาะใครที่เป็นแฟนของ 'จูริ อูเอโนะ' จากเรื่อง Nodame Cantabile
ก็คงจะไม่พลาด ที่สำคัญคุณจะพบว่าพรสวรรค์ในการแสดงของดาราสาวอายุ 20
เศษๆคนนี้อยู่ในขั้นสุดยอดทีเดียว เธอกวาดรางวัลจาก 3
สถาบันหลักในฐานะดารานำ ขณะที่ตัวนำอีกตัวคือ 'นางาซาว่า มาซามิ'
ก็เคยได้รับชื่อว่าเป็นสาวที่ยิ้มสวยที่สุดมาแล้ว ตัวอื่นๆ
ก็โดดเด่นไม่แพ้กันนะครับ
พล็อตเรื่องนั้นว่าด้วยความรักและเพื่อน...แต่เป็นความรักต้องห้าม
และส่วนหนึ่งก็เป็นเพื่อนต้องห้ามคู่ขนานกันไป

Last Friends เป็นเรื่องของรูกะ
ทอมสาวนักซิ่งมอเตอร์ครอสที่หวังจะแข่งชนะผู้ชายและเป็นแชมป์ญี่ปุ่นให้ได้
แต่อีกส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ รูกะ 'แอบ'
รักเพื่อนสาวสมัยเรียนมัธยมที่ชื่อมิจิรุ
ความสัมพันธ์นี้จบลงเพราะแม่ของมิจิรุ
คงระแคะระคายเรื่องนี้จนกลัวขี้ปากชาวบ้าน
เธอก็เลยพาลูกย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น

หลายปีผ่านไปทั้งคู่กลับมาเจอกันอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้มิจิรุซึ่งมีอาชีพทำผมได้มีรักแล้วกับชายหนุ่มแสนดีที่ชื่อ
โซซุเกะ ( แสดงโดย Nishikido Ryo) เจ้าหน้าที่ของศูนย์ดูแลเยาวชน
พันธะของความเป็นเพื่อนและพันธะของความรักที่รูกะมีก็น่าจะจบลงอย่างง่ายๆ
...แต่มันไม่อย่างงั้นซิครับถ้าโซซุเกะที่แสนดีไม่ 'กระทืบ'
แบบโคตรโหดและโคตรโรคจิตใส่มิจิรุของเขาตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้าไปใช้ชีวิต
อยู่ด้วยกันในคอนโดของฝ่ายชาย...

ไม่ว่าจะเพราะเป็นเพื่อนหรือเป็นเพราะคนที่ตัวเองรักอยู่โดนทำร้าย
รูกะจึงต้องปกป้องและดูแลมิจิรุอย่างเต็มที่ พร้อมกับลากเอาเพื่อนๆ
ในบ้านเช่าของรูกะมาร่วมรับรู้และดูแลโศกนาฏกรรมแห่งรักที่ซ่อนเร้นนี้ด้วย
กัน

เรื่องนี้เหนื่อยครับ
เพราะมันไม่ใช่แค่ทอมใจโหดปะทะกับผัวเพื่อนจอมซาดิสต์
แต่เพราะสภาพสังคมญี่ปุ่นนั้นยังไม่รับกับคำว่า "เบี่ยงเบนทางเพศ"
เหมือนอย่างบ้านเรา
การต่อสู้เพื่อปกป้องคนที่รูกะรักจึงเต็มไปด้วยอุปสรรค
ทั้งต้องปกปิดสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ให้สังคมรับรู้
ทั้งต้องปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงต่อมิจิรุ แถมต้องอยู่ในกรอบของกฏหมาย
ต้องไม่คิดใช้ทางลัดในการแก้ปัญหา (เช่นลากปืนไปยิงผัวโหดเพื่อจบเกมนี้)

(ขณะที่ผมนั่งดูเรื่องนี้อยู่ ผมอดจะนึกเปรียบเทียบกับข่าว
'ป๋าต็อบกับน้องปีใหม่' ไม่ได้
เพราะนอกจากแกจะมีความสุขจากการได้ฉลองขึ้นปีใหม่ทุกวันแล้ว
แกยังอยู่ในสังคมที่ไม่ได้ต่อต้านเรื่องหญิงรักหญิงนี้เท่าไหร่)

แต่ปมของความรักยังไม่ใช่แค่นั้นเพราะคนที่รูกะลากเข้ามาสู่วังวนนี้
ล้วนแล้วแต่มีปัญหาด้วยกันทั้งสิ้น ทาเครุ (แสดงโดย Eita)
เพื่อนชายของเธอก็ยังสับสนว่า เขาเป็นชายหรือเป็นเกย์กันแน่
เพราะเขารู้สึกรักและอยากปกป้องรูกะ
แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัวการมีสัมพันธ์กับเพศหญิง ขณะที่เอริ
(แสดงโดย Mizukawa Asami)
เพื่อนอีกคนในบ้านเช่าเป็นแอร์ที่พร้อมที่จะมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่ม
แต่ไม่พร้อมที่จะมีความรักกับใครทั้งสิ้น
และสุดท่านโซซุเกะผัวจอมซาดิสต์...มันก็ป่วยได้ใจเอามากๆ
แถมยังโหดชนิดคนที่ดูเรื่องนี้อาจจะรู้สึกโชคดีที่ชีวิตหนึ่งของเราไม่ได้
เจอคนแบบนี้เลย

ละครเรื่องนี้ดูแค่พล็อตอาจจะรู้สึกเหมือนผมก็คือเหนื่อย
(แล้วก็เหนื่อยจริงๆ เสียด้วยกับการชม เพราะมันเร้าใจกันตลอดทุกนาที )
หรือบางคนที่เป็นพวกรังเกียจเกย์หรือทอมอาจจะไม่รู้สึกว่าน่าจะหามาดู
แต่เชื่อผมเถอะว่า อย่าพลาดเรื่องนี้ครับ
โดยเฉพาะการแจกแจงรายละเอียดของตัวละคร
แนวคิดของตัวละครนั้นจะทำให้คุณเข้าใจและเห็นใจเพศที่เบี่ยงเบนมากขึ้น
คุณจะมองเห็นความทุกข์ของเขาที่ต้องเป็น
ภายใต้ภาพลักษณ์หรือหน้ากากที่เข้มแข็งเหล่านั้น
คุณจะพบว่าพวกเขาก็ไม่ต่างไปจากคนทั่วๆ ไปที่มีรักโลภโกรธหลง
แต่ที่เหนื่อยกว่าและกดดันกว่าก็เพราะเขาจะต้องอยู่รอดในสังคมให้ได้ท่าม
กลางสายตาของคนในสังคมมองว่าเขาไม่ปรกตินี่แหล่ะ

ละครเรื่องนี้ควรถูกขนานนามว่า เป็นละครสร้างสรรค์สังคมแท้จริง
เพราะผมเชื่อว่าถ้าคุณดูแล้วทัศนคติของคุณที่มองเกย์ ทอม ดี้
จะเปลี่ยนไปแน่ๆ ครับ

แต่ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ
ซีรีส์เรื่องนี้ยังฉายภาพของความซับซ้อนของความเป็นเพื่อนที่ผมชอบมากๆ
เรื่องหนึ่งทีเดียว อย่างน้อยมันทำให้เราคิดถึงคำว่า "เพื่อน"
นั้นแท้จริงแล้วมันมีค่าใช้จ่ายในความสัมพันธ์นี้อย่างสูงเหลือเกิน
ยิ่งถ้าคุณยึดว่าเขาเป็นเพื่อนแท้
ค่าใช้จ่ายนั้นอาจจะหมายถึงชีวิตทั้งชีวิตของเขาเหล่านั้น

ดูเรื่องนี้แล้วหลายคนคงย้อนกลับมา
สำรวจว่าแล้วเพื่อนของเราที่เราเรียกมันว่าเพื่อนนั้นอยู่ใกล้เคียงกับคำว่า
เพื่อนแท้ได้หรือเปล่า

คำว่าเพื่อนในซีรีส์เรื่องนี้ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือหาประโยชน์ได้อีกมาก
มาย โดยเฉพาะมันเป็นข้ออ้างที่คนในเรื่องนี้ใช้เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับความรักที่
ตัวเองต้องการ ขณะเดียวกันคำว่าเพื่อนก็เป็นจุดเริ่มของความทุกข์เช่นกัน
เพราะ ในพันธะแห่งเพื่อนนั้นมันได้ก่อกำแพงให้ความรักที่ซ่อนกันอยู่ในใจนั้นไปได้
ไม่ถึงจุดที่พวกเขาหวัง

บอกตามตรงว่า คำว่าเพื่อนนี้ศักดิ์สิทธิ์ครับ
แถมยังเป็นหนึ่งในคำบอกเลิกที่ชะงัดที่สุดอย่างหนึ่งทีเดียว(ดีกว่าคำว่า
เธอดีเกินไป) เพราะถ้าคุณกำลังจีบใครอยู่ แล้วอีกฝ่ายเขาบอกว่า
เราเป็นเพื่อนกันเถอะนะ
คุณจะรู้ได้โดยทันทีว่าอนาคตแห่งความรักของคุณมันห่างออกไปแล้ว

ผมชอบบทสรุปของหนังเรื่องนี้
(แอบกระซิบว่า...มันโคตรจะช็อกคนดูเลย!!) ที่เขาบอกว่า
สุดท้ายความรักและความสัมพันธ์ของคนทุกคนในบ้านนี้ไม่ได้ถูกระบุไปว่า
ใครจะเป็นสามี ใครจะเป็นภรรยา ใครจะเป็นพ่อ ใครจะเป็นแม่
เพราะสุดท้ายคำเรียกแทนว่าพ่อหรือ แม่ หรือสามี หรือภรรยา จริงๆ
มันไม่มีความหมายและความสำคัญอะไรเท่ากับการที่คุณดูแล 'คนสำคัญ'
ของคุณได้ดีแค่ไหนมากกว่า? หรือ
คุณดูแลคนสำคัญของคุณด้วยความรักแบบไหนกันแน่? และสุดท้าย
คุณทุ่มเทและเสียสละอย่างที่สุดแล้วหรือยังเพื่อคนสำคัญของคุณ?

ลองดูข่าวสารรอบๆ
ตัวเราตอนนี้ซิครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องพ่อข่มขืนลูก
สามีซ้อมเมียปางตายเพราะขอเงินแล้วไม่ให้
ภรรยาแอบไปคบกับชู้แล้วหลอกต้มผัวหมดตัว
ลูกทรพีซ้อมแม่เพราะอยากได้มอเตอร์ไซค์กับมือถือ ฯลฯ

เมื่อนึกขึ้นมาแล้วคำว่า พ่อ แม่ ผัว เมีย แฟน...มันไม่มีความหมายอะไรเลย!!

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000098074

ละครที่คุณต่อแนะนำนั้น น่าดูเกือบทุกเรื่อง เพียงแต่ว่า อารมย์
ร่วมในการดูตอนนั้นมันทำให้เราเข้าถึงละครได้มากแค่ไหน
ถ้าดูเป็นบันเทิงนะ
ละครญี่ปุ่นเค้าเลยตรงนี้ไปแล้วละครเค้าเป็นละครที่ใส่สาระดีๆ
สอนคนดูไปด้วย บางเรื่องบอกถึงความสำคัญของการมีเพื่อน
บางเรื่องของพ่อแม่ บางเรื่องของครู บางเรื่องของสามี มีเยอะแยะ
แต่พวกเราไม่ชอบอะไรที่มันต้องคิดไง เราชอบสบายๆ ขำๆ ไม่ต้องมีเหตุมีผล
เราอยู่แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ผู้นำเราก็เป็นแบบนั้น
สังคมเราถึงเป็นแบบนี้ไง ขอบคุณ คุณต่อนะที่แนะนำหนังดีๆให้
ริกะ

.เรื่องนี้บอกได้แค่ว่าเป็นซีรีส์ที่ดีมากๆ...คุณเคยนั่งดูซีรีส์รวดเดียวจบ
เลยหรือเปล่า พอดูเรื่องนี้แล้วทำให้เกิดปรากฏการณ์แบบนั้นสิ่งที่เรื่องนี้ถ่ายทอดได้
ชัดเจน คือความเป็นตัวตนของตัวละครแต่ละตัว
รุกะน่าสงสารมากเมื่อเทียบกับทอมในบ้านเรา
ทาเครุ เป็นตัวละครที่เราชอบมาก เขาแสดงได้ดีมากๆ
เป็นนักแสดงที่เราติดตามผลงานมาหลายเรื่องเรื่องนี้เล่นดีสุดๆ
แต่นักแสดงที่เรื่องนี้เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเรียวแห่งวง NEW
เรื่องนี้เรียวเล่นดีมากๆๆๆๆถือเป็นการพลิกบทบาทที่สำคัญ
บทสรุปของเรื่องสำหรับ โซซุเกะ (เรียว)
ทำให้เรารู้สึกและตั้งคำถามว่าทำไมคนที่รักกันและความรักต้องมีจุดจบและทางออกแบบนี้
มิตรภาพของเพื่อนในเรื่องช่างงดงามจริงๆ
(เพลงเพราะมาก ส่งเสริมละครได้ดีมากๆ)
เรื่องนี้ให้เต็มสิบค่ะ
Little_Park

ชอบนะเรื่องนี้ รู้สึกว่า นิชิคิโดะ เรียว
เหมาะกับบทผัวโรคจิตชอบซาดิสม์อย่างพี่ต่อพงษ์ว่ามามากๆ
พอดูเรื่องนี้แล้วไปดู 1 lite of tears
รู้สึกว่าน้องไม่เหมาะกับบทผู้ชายแสนดีเรย ฮ่าๆๆ
แต่แบบรู้สึกว่าเรียวนี่ท่าจะสาวๆ กรี๊ดไม่เบาจากการแวะไปหาข้อมูลมา
แต่น้องหน้าตาให้มากๆๆๆ(คนชอบเรียวจะโกรธมั้ยหว่า)

ชอบ เอตะ นะ แสดงได้ดี ให้เราเชื่อเลยว่าพี่แกสับสนจะเป็นอะไรดี
ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย ประทับใจเอตะจากเรื่องนี้เลยไปหาเรื่องอื่นๆ
ที่เอตะแสดงมาดู ก็ยังคิดว่า Last Friend
คือเรื่องที่เอตะแสดงได้ดีที่สุดอยู่นะ

จูริ ไม่ต้องพูดถึง เจ๋งมากๆอยู่แล้ว จากน้องโนเนะ
โนดาเมะมาเป็นสาวทอมบอย แบบไม่ใช่ว่าสาวห้าวนะ แต่เป็นทอมจริงๆ อ่ะ คือ
อึ้งไปเลย

ส่วน เอริ ก็เป็นสิสันให้กับเรื่อง ในเรื่องมีแต่งชุดไทยด้วยนะ
เอาสไบมาห่ม น่ารักดี แต่เหมือนสะท้อนชีวิตของสาวยุคใหม่อ่ะ คือ
รักใครก็ง่ายๆ และถ้าเค้าจะไปก็ปล่อยเค้าไป
ไม่มีมานั่งคิดว่าเค้ามีเมียแล้ว เราจะเป็นมือที่สามสี่ห้าหรือเปล่า
แต่มันสะท้อนมาในมุมมองที่มองโลกในแง่ดีมากกว่าไง

แต่ตอนจบดูแล้วน้ำตาซึมเลย รู้สึกซึ้ง

Last Friend มี SP ด้วยนะ แต่มีเรื่องใหม่ๆ จริงๆ แค่ประมาณ 9 นาทีเอง
ส่วนที่เหลือเหมือนเอาเรื่องเก่าๆ มาย้อนเล่าใหม่อีกนิดหน่อย เสียดาย
อยากให้ทำเป็นเรื่องราวเลย

ชอบเพลงประกอบด้วย เพราะมากๆ คุณอุทาดะ ฮิคารุ ร้องนะ ฟังแล้วขนลุกเลย
แฟนซีรี่ย์ญี่ปุ่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น