พัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ "บิสกิตถั่วเขียว" และ
"สแนคเบญจรงค์ข้าว 5 สี" ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ
ใช้ไขมันและเกลือโซเดียมในปริมาณต่ำ
เสริมแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
และจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็ก
พร้อมบรรจุภัณฑ์ทันสมัยดึงดูดใจผู้บริโภค
นักวิจัยสถาบันค้น คว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
พัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ "บิสกิตถั่วเขียว" และ
"สแนคเบญจรงค์ข้าว 5 สี"
เนตรนภิส วัฒนสุชาติ นักวิจัยสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.) กล่าวว่า
จากภาวะเศรษฐกิจและสังคมวิถีในการดำรงชีวิตของคนไทยได้รับอิทธิพลจากกระแส
โลกาภิวัตน์ ส่งผลกระทบต่อการบริโภคอาหารที่ไม่สมดุลเกินปริมาณความต้องการของร่างกาย
โดยเฉพาะอาหารที่มีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียม (เกลือ) สูง
ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ฯลฯ
"บิสกิสถั่วเขียว" (Healthy Bean Biscuits)
"คณะนักวิจัย จึงเกิดแนวคิดวิจัยผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวต้นแบบ
โดยการปรับปรุงสูตรให้เหมาะสมกับผู้บริโภคที่ส่วนใหญ่เป็นเด็ก
และเยาวชนโดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้าง
สุขภาพ (สสส.) ได้แก่
"บิสกิสถั่วเขียว" (Healthy Bean Biscuits) ทำจากถั่วเมล็ดแห้ง
เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ และถั่วเหลือง
ซึ่งเป็นแหล่งอาหารประเภทโปรตีนที่ได้จากพืชคุณภาพดี ราคาถูก
มีโปรตีนร้อยละ 20 - 40 มีใยอาหาร โฟเลท วิตามิน และเกลือแร่สูง
อีกทั้งการบริโภคถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ จะช่วย
ให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานให้ดีขึ้น
และทำให้ระดับโคเลสเตอรอช่วยป้องกันอาการท้องผูก โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของลในเลือดลดลง
ซึ่ง บิสกิตถั่วเขียวเพื่อสุขภาพ
เป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเด็กเพื่อสุขภาพที่พัฒนาสูตรโดยการเติมถั่ว
เขียว หรือ ถั่วแดง ร้อยละ 40 ของน้ำหนักแป้ง โดยมีส่วนผสมโปรตีนเข้มข้น
(Whey Protein Concentrate) และแคลเซียม
เพื่อช่วยเสริมคุณค่าโภชนาการให้ครบถ้วน
"สแนคเบญจรงค์"
และ "สแนคเบญจรงค์" ทำจาก ข้าว
ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของไทยมาทำการแปรรูปให้ได้ผลิตภัณฑ์
ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และเหมาะสำหรับเป็นขนมเด็กเพื่อสุขภาพ
ข้าวที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลัก คือ ข้าวกล้องจากข้าวหอม
และข้าวเจ้าหอมนิล ผ่านกระบวน การเอกซ์ทรูชัน (Extrusion Process)
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย
และมีประสิทธิภาพต่อการผลิตในระดับอุตสาหกรรม
ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะ พอง กรอบ และมีความปลอดภัย ต่อการบริโภค
ซึ่งนอกจากข้าวแล้ว "สแนคเบญจรงค์" ยังประกอบไปด้วยวัตถุดิบอื่น ๆ
ที่มีคุณค่า รวมทั้งสารสร้างสุขภาพ (Functional Food)
ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ทั้งนี้ได้มีการพัฒนารูปลักษณ์สะดุดตา และจูงใจผู้บริโภค
โดยมีรูปร่างคล้ายโดนัทชิ้นเล็กแต่งเติมให้มีสีสันสะดุดตาจากวัตถุดิบจาก
ธรรมชาติ 5 สี ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง ใบหม่อน (mulberry) ขมิ้น
(turmeric) และข้าวแดง (angkak) ซึ่ง มีคุณประโยชน์ในด้าน
การต้านอนุมูลอิสระ และลดโคเลสเตอรอลในร่างกาย
เหมาะที่จะเป็นอาหารว่างสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยการพัฒนาสูตร ประกอบด้วย
ข้าวกล้องจากข้าวหอม แป้งสาลี ข้าวโพด คอร์นกริต
แป้งถั่วเหลืองพร่องไขมัน แป้งถั่วเหลืองไขมันเต็ม และแคลเซียมคาร์บอเนต
เป็นต้น
นักวิจัย มก.กล่าวต่อว่า
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ขนมทางเลือกเพื่อสุขภาพทั้งสองชนิดนี้ก็คือ คุณ
ค่าทางโภชนาการสารอาหาร ซึ่งมีปริมาณน้ำตาล ไขมัน
และโซเดียมต่ำกว่าสูตรทั่วไปที่จำหน่ายในท้องตลาด มีองค์ประกอบโปรตีนใน
ปริมาณ ที่พอเหมาะและแคลเซียมร้อยละ 15 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน
โดยเพิ่มวัตถุดิบจากธรรมชาติ ได้แก่ ธัญพืช ถั่ว ฯลฯ
ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อคิดปริมาณต่อขนาดบรรจุ 30 กรัม
หรือหนึ่งหน่วยบริโภคผลวิเคราะห์สารอาหาร และฉลากข้อมูลโภชนาการ
" บิสกิตถั่วเขียว และ สแนคเบญจรงค์ข้าว 5 สี
ที่พัฒนาขึ้นนี้เหมาะสำหรับเป็นต้นแบบให้ภาค
อุตสาหกรรมทำการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมของบริษัทตนเองเพื่อจำหน่ายในท้อง
ตลาดเนื่องจาก เป็นขนมทางเลือกใหม่ที่ลดน้ำตาล ไขมัน และโซเดียม
ลงต่ำกว่าเกณฑ์อาหารอ้างอิงร้อยละ 25 ซึ่งเป็น
ไปตามหลักเกณฑ์การรับรองอาหารลดน้ำตาล ไขมัน และโซเดียม
ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงในการผลิตและ จำหน่ายให้กับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ
โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือเด็กและเยาวชน และสามารถวางขาย
ในร้านสะดวกซื้อทั่วไป"
สำหรับผู้ผลิตและผู้ประกอบการที่ผลิตขนมทางเลือกเพื่อสุขภาพในเชิงการค้า
สามารถนำหลักการพัฒนาการปรับปรุงสูตรโดยการลดไขมัน น้ำตาล
และโซเดียมให้ต่ำลง เพื่อให้ขนมที่ผลิตมีคุณภาพทางโภชนาการดีขึ้น ทั้ง
นี้สามารถเพิ่มธัญชาติ ผัก ผลไม้ ถั่วต่าง ๆ แหล่งสารอาหารโปรตีน
และแคลเซียมที่เหมาะสมสำหรับเป็นอาหารมื้อว่างที่มีประโยชน์สำหรับเด็ก
ขณะนี้ ได้มีบริษัทเอกชนหลายแห่งเข้าร่วมโครงการผลิตผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ
กับสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มก.
และได้นำร่องผลิตขนมทางเลือกต่าง ๆ ออกสู่ตลาด เช่น
บิสกิตถั่วแดงและถั่วเขียว ขนมผิงเกษตร ธัญพืชอบกรอบ สแนคข้าวโพดอบกรอบ
ปลาแผ่นกรอบ และแครกเกอร์โฮลวีทผสมแป้งถั่ว
นอกจากนี้เพื่อเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การอาหารและ
โภชนาการเพื่อสุขภาพ
** สอบถามรายละเอียดข้อมูลได้ที่
สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทร.
0-2942-8629-35
http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000109274
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น