เงินเดือนออกแล้ว ค่าโอทีก็ได้ตั้งแยะ
แบบนี้ต้องชวนไปฉลอง ก็โถ...วันนี้กำลัง ล่ำซำนี่นา
น่าจะให้รางวัลกับบางวันของ ชีวิตบ้างซี
มนุษย์เงินเดือน หรือแม้แต่ผู้ใช้ แรงงานที่ได้ค่าจ้างรายวัน
บางคนพอมีเงินเข้าหน่อยเป็นไม่ได้
ต้องดีใจจนกระเป๋าฉีกทู้กทีไม่รู้เป็นไง
พอหาเงินได้เองก็สนุกมือกับการจับจ่าย ใช้สอย ซื้อโน่นซื้อนี่
เพราะแหมใช่ว่าจะมีเงินเต็มกระเป๋าทุกวันที่ไหนล่ะใช่มะ ดังนั้นพอมีเงิน
เราก็ซื้อเต็มที่สิ ใช่เปล่า
ถ้าเอามันนี่ที่แปลว่าเงิน
ซึ่งอุตส่าห์หามาได้ชนิดเลือดตาแทบกระเด็นไปซื้อสิ่งของที่มี
"ความจำเป็น" มากกว่า "ความต้องการ" เช่น ซื้อข้าวปลาอาหาร, ซื้อบ้าน
หรือเจียดรายรับไปเลี้ยงดูปูเสื่อพ่อแม่บ้างย่อมดีกว่าเอาเงินไปจมขวดเหล้า,
เข้าบาร์ หรือลงอ่างอาบอบนวดแน่นอน
ฉะนั้น เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ขยันขันแข็งทำมาหาได้ในวันนี้
ท่านผู้เจริญแล้ว ควรจัดสรรปันส่วน
หาวิธีใช้และเก็บอย่างเป็นระบบระเบียบหน่อย เรียกว่า
เป็นวิธีจัดการกับงบประมาณส่วนบุคคล ก็ย่อมได้
การจัดการกับงบประมาณส่วนตัวนี่ก็ไม่ต้อง
ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดให้ยุ่งยากแต่อย่างใด
แค่ปฏิบัติตามหลักคำสอนทางพุทธศาสนา โดยเฉพาะเลือก "เดินทางสายกลาง"
ไว้ก่อนดีกว่า จะได้ไม่ตึงเกินไป หรือหย่อนเกินไป เช่นถ้ามีรายได้ 100
บาท ก็อย่าใช้ซื้อนู่นซื้อนี่เกิน 75 บาท เพราะอีก 25 บาท
เราควรเก็บไว้เป็นหลักประกันในอนาคตมั่งนะ แต่บอกอย่างนี้
บางคนอาจโอดครวญว่า เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมีร้อยแล้วให้เก็บตั้ง 25%
ขอเก็บแค่ร้อยละ 10 ได้ไหม? คำตอบคือ ก็แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ
ตราบใดที่ยังมีการออม ก็แสดงว่า
ภาวะเศรษฐกิจการเงินในกระเป๋าของคุณยังอาการดีอยู่
ไม่ปั่นป่วนหรือเข้าขั้นวิกฤติจนถึงขั้นจับไข้หัวโกร๋น
จึงเป็นเรื่องดีทั้งนั้นถ้าจะเก็บเล็ก ผสมน้อยหรือเก็บมากยิ่งดี
ใน เงินทองต้องวางแผน ซึ่งสถาบันคีนันแห่งเอเชียจับมือกับ ม.กรุงเทพ
และมูลนิธิอเมริกัน เอ๊กซ์เพรส
อธิบายถึงวิธีบริหารการเงินส่วนบุคคลได้น่าสนใจ ซึ่งใครๆ
จะนำไปใช้ในชีวิต ประจำวันมั่งก็ได้ เค้าว่า
ตามหลักการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล เชื่อว่า
คนเราควรแบ่งรายรับเพื่อกะเก็งว่าจะจ่ายออกเป็น 5 ส่วน ดังนี้คือ
1.เจียดรายได้ไว้เป็นค่าใช้จ่ายประจำในแต่ละเดือน เช่น ค่าอาหาร, ค่าน้ำ, ค่าไฟ
2.แบ่งเป็นเงินเก็บเมื่อคราวจำเป็น เช่น ใช้
สำหรับการรักษาพยาบาลเมื่อปุ๊บปั๊บเกิดเจ็บไข้ ได้ป่วยขึ้นมา
อย่างน้อยจะได้อุ่นใจว่า มีค่าหยูกค่ายาค่าหมอ
ไม่ใช่ป่วยก็ให้เดี้ยงอยู่อย่างนั้น
3.แบ่งเป็นเงินเก็บออม น่าจะเปิดบัญชีออมทรัพย์เพื่อการเกษียณรอไว้เลยก็ดีออก
4.เจียดเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายเพื่ออนาคต เช่น ไว้วางแผนซื้อบ้าน ซื้อรถไง
5.เป็นส่วนที่ใช้สำหรับให้รางวัลตัวเอง
เช่นเก็บไว้ใช้จ่ายเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ, ท่องเที่ยว, ซื้อเสื้อผ้า
กระเป๋า, รองเท้า ฮัดโธ่ ถึงแม้จะประหยัด แต่
เดี๊ยนก็ต้องสวยอย่างมีคุณค่า เหมือนกันนะฮ้า
เรื่องไรจะปล่อยให้ตัวเองโทรมเอาโทรมเอาล่ะตัว.
"คนสมถะ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น