เข้ามายึดครองพื้นที่ที่เป็นเขตของประเทศไทย
ที่อยู่นอกเหนือจากคำตัดสินของศาลโลก
ที่ตัดสินให้เฉพาะตัวปราสาทเขาพระวิหารเท่านั้น ที่เป็นของเขมร
แต่บริเวณรอบนอก เป็นของประเทศไทย แต่ในปัจจุบันนี้ ทหารเขมร ชาวเขมร
เข้ามาตั้งบ้านเรือน สร้างวัด สร้างถนนในพื้นที่ของประเทศไทย
โดยที่ทหารได้แต่ยืนมองตาปริบๆ
ยิ่งเห็นวิดีโอที่คุณวีระ สมความคิด และทีมงานได้เดินทางเข้าไปในพื้นที่
เมื่อ 28 ส.ค.2552 แล้ว ยิ่งเศร้าสลดใจ ที่ผืนแผ่นดินไทย
ถูกคนเขมรเข้ามายึด ครอบครอง อาศัยอย่างหน้าตาเฉย
ถ้าเป็นประเทศอื่น แค่ประเทศเพื่อนบ้านล้ำเขตเข้ามานิดเดียว
เป็นได้เปิดสงคราม แย่งชิงพื้นที่กลับคืนมาทันที
แต่ทำไมประเทศไทยถึงไม่ทำอย่างนั้น
ปล่อยให้เขมรเข้ามายึดพื้นที่ได้อย่างไรกัน
เรายอมเขมรมากจนเกินไปแล้ว
มีคนบอกว่า เป็นเพราะผลประโยชน์ สัมปทานที่นักการเมืองเขมรมอบให้
เป็นตัวเงินมหาศาล เลยยอมขายชาติ ขายแผ่นดินตัวเอง
เลยต้องยินยอมเขมรทุกอย่าง อย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ
เมื่อมีคนรู้ทัน ต้องการเรียกร้องในสิทธิที่ของไทยที่ควรจะทำได้
เหมือนกับบรรพบุรุษที่ต่อสู้ปกป้องผืนแผ่นดิน ด้วยเลือด
เนื้อชีวิตมายาวนาน จนเป็นประเทศไทยมาได้ในวันนี้ แต่ทำไม
คนที่มีหน้าที่ปกป้อง ดูแลประเทศชาติ บริหารปกครองประเทศไทยในเวลานี้
กลับไม่ทำหน้าที่ที่ควรจะทำ ในการดูแล ปกป้องพื้นที่ชายแดนไทย กัมพูชา
ปล่อยให้เขมรเข้ามาข่มเหงอยู่ได้ตลอด
เมื่อพี่น้องประชาชน รวมตัวกันไปแสดงพลังเรียกร้อง
ทวงพื้นที่ที่เป็นของประเทศไทย ในวันที่ 19 กันยายน 2552
แต่บุคคลที่มีอำนาจ หน้าที่บางคน กลับออกมาพูดว่า
ไม่ควรที่จะแสดงอาการคลั่งชาติมากจนเกินไป ได้ยินแล้วผิดหวังอย่างแรง
ถ้าเมืองไทยมีคนแบบนี้ ประเทศไทยคงจะต้องเสียดินแดนไปเรื่อยๆ
จนมีพื้นที่เล็กลงๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ
ความรักชาติของนักการเมืองในปัจจุบัน มันน้อยกว่า ผลประโยชน์ส่วนตัวไปแล้ว
เราอยู่ในผืนแผ่นดินที่บรรพบุรษ ปกป้อง หวงแหน
ดูแลรักษาเป็นมรดกให้แก่ลูกหลานมายาวนาน
แทนที่ลูกหลานจะช่วยกันปกป้องรักษา กลับนิ่งดูดาย แล้วใช้สำนวนโวหาร
บอกว่า อย่าคลั่งชาติ
ขนาดเรามีที่ดินผืนเล็กๆ ในตัวเมืองขอนแก่น ปลูกบ้านชั้นเดียว
แต่เรายังดูแลที่ดินของเราทุกตารางนิ้วเป็นอย่างดี เพราะเป็นที่ของเรา
ที่ตั้งบ้านของเรา จะเอาไว้ให้เป็นมรดกแก่ลูกของเรา
เช่นเดียวกับพื้นที่ทุกตารางนิ้วของประเทศไทย
ที่เป็นบ้านที่อบอุ่นของชาวไทยทุกคน เราก็หวงแหน
ไม่อยากให้ต่างชาติมาแบ่งแยกดินแดนของเราไป
เพราะความรู้สึกว่า นั่นคือ พื้นที่ของคนไทย
เราจึงสมควรที่จะต้องปกป้อง
แต่เมื่อเห็นนักการเมือง นักอ่านข่าว นักเล่าข่าวหลายคน
พูดถึงเรื่องเขาพระวิหาร ชี้บอกว่า นั่นคือพวกคลั่งชาติ เห็นแล้วเศร้าใจ
เพราะพวกคุณไม่มีความรู้สึกรัก และหวงแหนผืนแผ่นดินไทยที่คุณเติบโต
อยู่อาศัยอย่างสงบสุขมาหลายปี
พวกคุณไม่มีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของ
พวกคุณไม่เห็นความสำคัญ ไม่เห็นคุณค่าพื้นที่ตรงนั้น
คนไทยหลายคน รักชาติแต่ปากพูดเท่านั้น
เมื่อคนที่มีหน้าที่ แต่ไม่ยอมทำหน้าที่ ก็คงต้องเป็นพวกเราที่มองเห็น
เห็นคุณค่า เห็นความสำคัญ ที่จะต้องออกแรงขับเคลื่อนอีกครั้ง
สิ่งที่เป็นของคนไทย ก็ควรเป็นของไทย ไม่ควรให้ใครมายึดครองไป
พวกเราได้ยินบทเพลงปลุกใจหลายครั้ง แต่คนไทยบางกลุ่ม
คงไม่ได้ใส่ใจกับบทเพลงปลุกใจให้รัก และหวงแหนชาติแล้วกระมัง
เพราะเอาแต่ฟังเพลง รัก อกหัก คิดถึง เพลงในกระแสตลาด เพื่อขายเทป ขาย CD
และให้ดาวน์โหลดเสียงรอสาย ริงโทน ลงในโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
ที่พวกคุณอยู่ได้อย่างสงบสุข เพราะบรรพบุรษได้สละชีวิต เลือดเนื้อ แรงกาย
ปกป้องผืนแผ่นดินมาให้พวกคุณอยู่
คุณจะว่าพวกเราเป็นอย่างไรก็ตาม
แต่พวกเราจะขอเรียกร้อง ทวงแผ่นดินที่เป็นของไทย ที่เขาพระวิหารกลับคืนมา
อย่างน้อย ให้ได้รู้กันว่า ยังมีคนไทยที่รัก และหวงแหนผืนแผ่นดินไทย ใน
พ.ศ.2552 เช่นกัน
บรรพบุรุษไทยจะได้ภูมิใจ ที่ได้สละชีวิต และเลือดเนื้อ
ปกป้องผืนแผ่นดินให้พวกเรามา.....
สุวิทย์ คนโคราช
15 ก.ย.2552
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น