กาฬสินธุ์ - สนง.ทรัพยากรธรรมชาติฯ จังหวัดกาฬสินธุ์
ร่วมกับเทศบาลตำบลคำบง
และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน
จังหวัดกาฬสินธุ์ ทำพิธีสืบชะตาแหล่งน้ำสาธารณะหนองบึงใหญ่
หลังประสบปัญหาน้ำเสียจากโรงงานแป้งมันนานหลายปี
พร้อมจัดการฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อม
หวังสร้างเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของตนเอง
และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันนี้ (11 ก.ย.) นายเดชา ตันติยวรงค์
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นางพิไลลักษณ์ ตันติยวรงค์ นายกเหล่ากาชาด
จ.กาฬสินธุ์ นายสุระพงษ์ ศรีอักษร
ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์
พร้อมด้วยอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านจังหวัด
ข้าราชการ พนักงาน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนกว่า 1,000 คน
ร่วมกันทำพิธีสืบชะตา ปล่อยพันธุ์ปลา
เทน้ำหมักชีวภาพลงในแหล่งน้ำสาธารณะหนองบึงใหญ่
ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของชาว ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์
เนื่องจากถูกโรงงานแป้งมันในพื้นที่ปล่อยน้ำเสียลงมาสู่แหล่งน้ำดังกล่าวจน
ทำให้น้ำเน่าเสียมานานหลายปี
พร้อม ทั้งปลูกต้นไม้เพื่อสร้างความร่มรื่นและความสมดุลรอบหนองบึงใหญ่
โดยพิธีดังกล่าวได้มีการนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูปมาทำพิธีทางศาสนา
และมีการทำพิธีพราหมณ์สู่ขวัญและสืบชะตาแหล่งน้ำ
นาย นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า
จังหวัดกาฬสินธุ์มีแหล่งน้ำและสระน้ำสาธารณะประจำหมู่บ้านทุกหมู่บ้าน
ซึ่งมีอยู่กว่า 1,400 แห่ง
มีแหล่งน้ำสาธารณะที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนที่ควรอนุรักษ์ของท้อง
ถิ่นประมาณ 185 แห่ง
และมีแหล่งน้ำธรรมชาติที่ได้อนุรักษ์ผ่านเกณฑ์ประเมินเพียง 9 แห่ง
ซึ่งยังเหลืออีกหลายแห่งที่ต้องเร่งอนุรักษ์ฟื้นฟู
สำหรับหนองบึงใหญ่เป็นแห่ลงน้ำอีกแห่งหนึ่งที่จำเป็นต้องเร่งทำการ
ฟื้นฟูและอนุรักษ์โดยเร็ว
เพราะเป็นแหล่งน้ำที่ประชาชนใช้ประโยชน์เพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตร
ประมง ปศุสัตว์ อุตสาหกรรม
เปรียบได้ว่าหนองบึงใหญ่คือสายใยชีวิตที่หล่อเลี้ยงการดำรงชีวิตของชาวบ้าน
ในตำบลคำบงทั้ง 15 หมู่บ้าน
นายเดชากล่าวอีกว่า
ที่ผ่านมาหนองบึงใหญ่เกิดวิกฤติจากมลพิษทางน้ำหลายครั้ง
เนื่องจากถูกโรงงานอุสาหกรรมแป้งมันในพื้นที่ปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำ
จนทำให้เกิดผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกด้าน
จากปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นจังหวัดกาฬสินธุ์และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ได้เล็งเห็นความสำคัญของการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย
ของหนองบึงใหญ่จึงได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลคำบง
อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านจังหวัด
ข้าราชการ พนักงาน นักเรียน
และประชาชนกว่าทำพิธีสืบชะตาแหล่งน้ำสาธารณะหนองบึงใหญ่ขึ้น
เพื่อกู้วิกฤตปัญหาน้ำเสีย
หาทางออกในการแก้ไขปัญหาตลอดจนเป็นการต่อชะตาแหล่งน้ำให้อยู่คู่กับชาวบ้าน
สืบไปชั่วลูกชั่วหลานและเป็นการขอขมาพระแม่คงคาอีกด้วย
ด้าน นายสุระพงษ์ ศรีอักษร
ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า
เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 82
พรรษา เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านซึ่งเป็นบิดาแห่งสิ่งแวดล้อมไทย
ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ซึ่งปัจจุบันปัญหาน้ำเสียของประเทศไทยเกิดขึ้นจำนวนมาก
หลายพื้นที่อยู่ในขั้นวิกฤต ส่งผลต่อสภาสิ่งแวดล้อมโดยรวม
แม้ ที่ผ่านมารัฐบาลและหลายหน่วยงานได้ให้ความสำคัญในการจัดการน้ำเสีย
การก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนในท้องถิ่นแต่ก็ยังเกิดปัญหาดังกล่าวอยู่
นาย สุระพงษ์กล่าวอีกว่า
สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์จึงได้ทำพิธีสืบ
ชะตาแหล่งน้ำสาธารณะหนองบึงใหญ่
พร้อมทั้งตั้งอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน
จังหวัดขึ้น เพื่อให้เกิดเครือข่ายภาคประชาชนในการจัดการสิ่งแวดล้อมแบบบูรณาการและเกิด
องค์ความรู้ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สอดคลองกับวิถี
ชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ขณะที่ นายสุระชัย ไชยทองศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลต.คำบง อ.ห้วยผึ่ง
จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า
ที่ผ่านมาหนองบึงใหญ่เกิดวิกฤตจากมลพิษทางน้ำหลายครั้ง
เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังขนาดใหญ่ 2 แห่ง
และโรงงานผลิตแก๊สชีวภาพขนาดกลาง อีก 1 แห่ง
ได้ปล่อยน้ำเสียลงสู่หนองบึงใหญ่ จนทำให้คุณภาพน้ำอยู่ในขั้นต่ำ
สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่น้ำตายจำนวนมาก
โดย มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ในระดับ 6
ปริมาณความสกปรกของน้ำในรูปสารอินทรีย์สูงถึง 49.5 มิลลิกรัมต่อลิตร
ซึ่งมาตรฐานแหล่งน้ำผิวดินทั่วไปเพียง 1.5.4 มิลลิกรัมต่อลิตรเท่านั้น
หากไม่รับบำบัดฟื้นฟูอนาคตจะเป็นแหล่งน้ำเสียในที่สุด
นายสุระชัยกล่าวอีกว่า จากปัญหาดังกล่าวทางเทศบาล ต.คำบง
ได้เข้าสอบถามกับโรงงานดังกล่าวเพื่อที่จะหาทางแก้ไขแล้ว
แต่ก็ได้รับคำตอบในเชิงแก้ตัวว่าแนวกันกากแป้งขาด
น้ำเสียจากแป้งจึงไหลลงมายังหนองบึงใหญ่
เรื่องดังกล่าวจึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอุสาหกรรมจังหวัด
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่ง
ด่วน
เพราะหากปล่อยละเลยไปนานๆ
ก็ยิ่งจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพและวิถีชีวิตของชาวบ้านมากยิ่งขึ้น
สำหรับ กิจกรรมในวันนี้ได้มีทำพิธีสืบชะตาหนองบึงใหญ่ขึ้น
ซึ่งถือเป็นความเชื่อของชาวอีสานและคนในชุมชนว่าการทำพิธีสืบชะตา
จะทำให้หนองบึงใหญ่จะอยู่คู่กับชาวบ้านไปชั่วลูกชั่วหลาน
และเป็นการขมาพระแม่คงคา ช่วยดลบันดาลให้แหล่งน้ำกลับคืนสู่สภาวะปกติ
ตลอดจนเป็นการปลูกจิตสำนึกให้ชาวบ้านให้รัก
หวงแหนและต่อต้านผู้ที่ทำให้แหล่งน้ำของชุมชนเกิดความเน่าเสีย
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000105641
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น