++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

ทริคสุขภาพสำหรับคนชอบจ้อโทรศัพท์นาน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

การคุยโทรศัพท์นานๆนับเป็นเรื่องธรรมดาสามัญสำหรับ
วัยรุ่นยุคนี้ไปเสียแล้ว ด้วยเนื่องอาจวัยรุ่นเป็นวัยที่ติดเพื่อนฝูง
หรือไม่ก็ติดการใช้เครื่องมือสื่อสาร
แต่ทว่าการบริโภคการสื่อสารมากเกินไปนอกจากจะส่งผลให้เกิดพฤติกรรมอันเคยชิน
แล้ว บางทียังส่งผลต่อสุขลักษณะอนามัยของผู้ใช้เครื่องมือเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วย

เคยไหมเวลาที่เราคุยสนทนาพาทีแล้วติดพันจนลืมวาง ?
หากแฟนๆของไลฟ์ ออนแคมปัส มีใครตอบว่า "เคย"
เราก็จะขอถามต่ออีกข้อหนึ่งว่า หลังจากนั้นเคยรู้สึกบ้างไหมว่า
หูของตัวเอง "ร้อน" เนื่องจากโทรศัพท์ร้อน
หรือมีเลือดผสมหนองไหลออกมาจากหู ?

และถ้าหากมีอาการเหล่านี้ หรือเกรงว่าจะมีอาการเหล่านี้
ก็อย่ารอช้ารีบไปไขข้อข้องใจกับไลฟ์ออนแคมปัสที่เก็บความรู้ฝากกัน

" สาเหตุของอาการนั้น
มาจากการคุยโทรศัพท์มือถือติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ติดเชื้อโรคต่างๆ
ได้ง่าย เพราะความร้อนจากโทรศัพท์จะเข้าไปอยู่ในหู ทำให้เกิดอาการคัน
ซึ่งเมื่อเกิดอาการแล้วตัวเรายังคง แคะ หรือเกาก็จะทำให้ผิวหนังเป็นแผล
ดังนั้นเชื้อโรคต่างๆ จึงสามารถเข้าสู่แผลได้ง่ายขึ้น
ทำให้ช่องหูเป็นสิวหรืออักแสบได้
นอกจากนี้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์ยังเป็นตัวการทำลายเส้นประสาทในรูหู
และเซลล์สมองอีกด้วย ทำให้เป็นเนื้องอกขึ้นมาได้"

ส่วนวิธีป้องกันของบรรดาขาเม้าท์ชอบคุยโทรศัพท์เป็นเวลานานๆ
ล่ะก็อยากแนะนำให้ใช้ "สมอลล์ทอล์ค หรือบูลทูธ" แทน
เพราะจะช่วยป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้
จากนั้นให้นำสำลีจุ่มแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือวันละ 2
ครั้ง เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรค

และก็ไม่เว้นแต่ขาเมาท์กระจายเท่านั้น
เหล่าคอดนตรีก็มีเหตุให้ได้เสี่ยงเหมือนกัน ซึ่งเหตุนั้นก็มาจากเจ้า
"หูฟัง" จากการใช้ฟังเพลงติดต่อเป็นเวลานาน
ทำให้เกิดความดันของคลื่นเสียง ซึ่งจะทำลายเซลล์ประสาทหูและเซลล์ขนในหู
แต่ถ้าได้ยินเสียงเหมือนแมงหวี่ร้อง
หรือเสียงวิทยุจูนผิดคลื่นตลอดเวลาล่ะก็
แสดงว่าเริ่มมีอาการประสาทรับเสียงเสียงเสื่อมนะ
นอกจากนี้หูฟังที่ใช้ฟังเพลงนั้น
ยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรค
ซึ่งจะทำให้เป็นโรคหนองในหู และการอักแสบในช่องหูได้


ทีนี้ลองตามมาดูวิธีป้องกัน 3 ข้อของนักฟังเพลงกัน
ข้อแรกให้เริ่มที่ตนเองคือ ควรที่จะเปิดเสียงในเครื่องเล่นเอ็มพี
3ให้มีระดับความดังเพียงแค่ครึ่งเดียวของระดับเสียงที่เครื่องมีอยู่
จากนั้นก็อย่าเพิ่งรักดนตรีจนมากเกินไปอยากให้เลือกสถานที่และเวลาจงเลือกฟังเพลงในช่วงเวลาที่ต้องการเท่านั้น
เพื่อเป็นการช่วยหยุดพักการทำงานของหู ถัดมาข้อสุดท้ายอันนี้สำคัญ คือ
หลีกเลี่ยงการใช้หูฟังร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจจะทำให้ติดเชื้อโรคได้
ควรที่จะเปลี่ยนฟองน้ำและทำความสะอาดหูฟังเป็นประจำ

เอาล่ะ !เพื่อสุขภาพร่างกายของตัวเอง
อย่างไรซะจึงควรที่จะใช้โทรศัพท์มือถือ , เครื่องเล่นเพลงเอ็มพี 3 ฯลฯ
ให้เหมาะสมไม่มากจนเกินไป
และดูแลสุขลักษณะกันเสียหน่อยปิดกั้นบรรดาช่องทางโรคแปลกๆต่างๆที่เกิดขึ้น
ไม่ให้รุกลาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น