"งาน งาน และก็งาน เครียดจะแย่อยู่แล้ว...รู้ไหมจ๊ะ
การคุยกับคนใกล้ตัวช่วยคลายเครียดได้ "
นี้คือที่มาของ " 5 วิธีจัดการกับความเครียด แบบเหมียวๆ "
ฝีไม้ลายมือการเล่าเรื่องจาก "สุวรรณา แย้มเรือง"
ศิษย์เก่าคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่หยิบยกเคล็ด(ไม่) ลับ
สไตล์น่ารัก สมวัยใสมาแนะนำเพื่อนๆ
เราลองมาดูสิว่าเรื่องเล่านักศึกษาฉบับนี้ มีอะไรดีๆ มาฝากกันบ้าง
...เพื่อนๆ เคยสังเกตไหมคะว่า ทำไมน้องเหมียวของเราถึงอารมณ์ดี
สดใส ร่าเริงตลอดเวลา !!!
อาจเป็นเพราะธรรมชาติของเจ้าเหมียวไม่ได้ยึดติดกับสิ่งใดเหมือนอย่างมนุษย์
เจ้าปัญหา จึงไม่แปลก
ถ้าเจ้าเหมียวจะมาเป็นครูสอนวิธีจัดการกับความเครียดแก่มนุษย์อย่างเราๆ
ด้วยวิธีการเรียบง่าย ธรรมดาๆ แต่รับรองได้ผล
เรามาพบกับ 5 วิธีการกับความเครียดแบบเหมียวๆ กันเลย
เจ้าเหมียวตัวแรก บอกเอาไว้ว่า
มันเข้าใจคุณค่าของการมีช่วงเวลาส่วนตัวดี มันจึงชอบปลีกวิเวกอยู่เสมอๆ
บทเรียนที่ 1 มนุษย์ เจ้าปัญหา
ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเวลาส่วนตัวเท่าที่ควร
ซึ่งที่จริงแล้วมันจำเป็นมาก เหมือนกับการชาร์จแบตให้กับตัวเอง
ดังนั้นเหล่ามนุษย์ทั้งหลายจงหาเวลาพักผ่อนตอนกลางวันอย่างน้อยสัก 5 นาที
ให้พ้นจากสิ่งกวนใจแล้วอย่าลืมปิดมือถือด้วยล่ะ
เจ้า เหมียวตัวต่อมายังเล่าต่อว่า
เมื่อพบเจอกับเหตุการณ์อันน่ารำคาญใจ มันจะซิ่งหนีทันที เช่น
เสียงคนคุยกันดังๆ หรือเด็กร้องไห้ เพราะมันรู้และเข้าใจดีว่า
มันไม่จำเป็นต้องทนเห็นเหตุการณ์แบบนี้ แม้แต่น้อยนิด
บทเรียนที่ 2 แทน ที่จะเผชิญหน้า
แต่แมวเลือกที่จะเดินหนีจากสถานการณ์ที่กวนใจ
แมวจะไปหาที่ใหม่ที่ใช้พลังงานและก่อให้เกิดความเครียดน้อยกว่า
แม้ว่ามนุษย์จะหลีกหนีจากเรื่องที่ไม่พึงใจไม่ได้ทุกครั้ง
แต่มันคงจะดีกับร่างกายรวมทั้งจิตใจ
ถ้าเรียนรู้จากแมวแล้วเดินหนีเรื่องบางเรื่องไปบ้าง
เจ้าเหมียวตัว ที่ 3 ทำหน้าซน ส่งเสียงดังว่า
มันใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของปัจจุบัน มันคงมีสุขภาพจิตดี
ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไร้ซึ่งความกังวลใดๆ มองโลกในมุมสดใส
แมวไม่มีทางมีทุกข์ได้
บทเรียนที่ 3 มนุษย์ จมปลักอยู่กับความคาดหวัง
ยึดติดอยู่กับอดีตและอนาคตมากเกินไป
ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตอย่างยิ่ง
ดังนั้นมนุษย์ควรเอาอย่างแมวอยู่กับปัจจุบันให้ได้
ส่วนอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด รับมือไปตามเหตุการณ์น่าจะดีกว่า
เจ้าเหมียวแฝด ผู้พี่ ยอมรับว่า แมวนั้นจริงใจกับความรู้สึก
หากมันอยากได้อะไรมันก็จะร้องขอ ถ้ามันชอบอะไรมันก็จะไล่ล่า
อย่างบ้าคลั่งเหมือนเวลาที่มันรอง้าบเจ้าจิ้งจกโชคร้าย
บทเรียนที่ 4 ความ เครียดของคนเราจะน้อยลง
หากเรารู้จักที่จะสื่อถึงความต้องการของตัวเองออกมา ดังเช่นที่แมวทำ
หลายครั้งเราอาจลังเลไม่กล้าเรียกร้อง
อาจเป็นเพราะเราไม่เห็นคุณค่าในตัวเองเหมือนที่แมวเห็น
คิดว่าไม่คู่ควรบ้างละ เกรงใจบ้างละ แต่แมวไม่ใช่อย่างนั้น
มันมีอะไรมันก็บอกออกมาไต้งๆ
ถ้าไม่ได้อย่างที่ต้องการมันก็ไปทำอย่างอื่นต่อไปง่าย ตรงไป ตรงมา
และน่าเอาอย่างเป็นที่สุด
เจ้าเหมียวแฝด ผู้น้อง ยังโม้ปิดท้ายว่า มันไม่ใช่พวกวัตถุนิยม
มันพอใจในสิ่งที่มีอยู่
ซึ่งอาจจะมีคุณค่าหรือเล่นสนุกกว่าของเล่นแพงแสนแพงที่คุณซื้อให้ก็ได้
เข้าตำราแมวพอเพียงว่างั้นเถอะ
บทเรียนสุดท้าย การ
ตามแฟชั่นอาจสร้างความเครียดทั้งต่อกระเป๋าเงินและจิตใจได้
หากคุณมีชีวิตเพื่อแสวงหาสิ่งใหม่ที่สุด หรือที่ดีอยู่ตลอดเวลา
ก็เป็นการแสวงหาที่จะไม่มีวันค้นพบอย่างแท้จริง ข้อแนะนำ คือ
ควรซื้อสิ่งที่มีคุณค่ากับตัวเองมากกว่าซื้อเพียงเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นคน
ทันสมัย ไม่ตกเทรนด์
ข้อคิดแบบเจ้าเหมียวแสนซนแบบนี้
อาจทำให้คุณรู้สึกสบายที่กายและใจมากขึ้น หากลองเอาไปทำดู
แล้วคุณอาจจะพบว่า ตัวเองมีเสน่ห์มากขึ้นก็เป็นได้ ใครจะไปรู้...
**ขอบคุณภาพจาก http://picpost.mthai.com
http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000100227
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น