โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ศรีสะเกษ - ขบวนทัพ ปชช.ทวงคืนแผ่นดินไทยเขาวิหาร ยอมถอยจากอุทยาน
เตรียมส่งตัวแทนอ่านแถลงการณ์พรุ่งนี้
หลังฝ่าฝ่าม็อบมารจัดตั้งป่าเถื่อนที่คอยดักปะทะไล่ทุบตีที่หน้า"บ้านภูมิ
ซรอล" จนบาดเจ็บระนาว เผยต้องเข้า รพ.5 ราย รถยนต์ร่วมขบวนเสียหายอื้อ
ขณะผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ และรอง ผบช.ภ. 3 หมดปัญญาระงับเหตุ
วันนี้ (19ก.ย.) เมื่อเวลา 09.15
น.ขบวนเครือข่ายประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหารจากทั่วประเทศ และ
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นำโดย นายวีระ สมความคิด
ได้เคลื่อนขบวนออกจากชุมชนศีรษะอโศก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
โดยรถยนต์ประมาณ 600 คัน ตามถนนกันทรลักษ์- เขาพระวิหาร
มุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย
อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ รวมเป็นขบวนรถยาวเหยียดประมาณ 10 กิโลเมตร
เมื่อมาถึงบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย
อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า
ได้พบกับด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านสกัดอยู่
โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 2,000 นาย
เข้าแถวเรียงหน้ากระดานพร้อมโล่ตั้งแนวสกัดไว้ นำโดย พล.ต.ต.อำนวย มหาผล
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ. 3) และ พล.ต.ต.สมพงษ์
ทองวีระประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมให้ขบวนประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร
ผ่านขึ้นไป
ต่อมาเวลา 10.00 น.กลุ่มขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร
ได้พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอผ่านขึ้นไป แต่ว่าไม่เป็นผล
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่าอาจมีการปะทะกันกับกลุ่มชาวบ้านภูมิซรอล
ที่ถูกปลุกระดมมาชุมนุมอยู่บริเวณหน้าวัดบ้านภูมิซรอล ห่างออกไปประมาณ
100 เมตร เท่านั้น
ขณะที่ม็อบจัดตั้งกลุ่มชาวบ้านประมาณ 3,000 คน นำโดย นายวีระยุทธ
ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย
ได้ใช้เครื่องขยายเสียงโจมตีขบวนประชาชนทวงคืเขาพระวิหารและ
กลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เข้ามาสร้างความวุ่นวายในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ
และขอให้กลับออกไป
ขณะที่ขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร ได้นำเอาธงชาติขนาดใหญ่
กว้างประมาณ 6 ม. ยาวประมาณ 15 เมตร มากางออกเต็มถนน
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นอยู่ตรงกลาง
ระหว่างขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหารกับม็อบจัดตั้งกลุ่มชาวบ้าน
ต่อมาเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน นายระพี ผ่องบุพกิจ
ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ ได้เข้าไปเจรจากับกลุ่มชาวบ้าน
เพื่อขอให้ชาวบ้านเปิดทางให้ขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร
ผ่านเข้าไปยังบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
โดยจะส่งตัวแทนกลุ่มพันธมิตรฯ
ขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเพื่อประกาศเจตนารมณ์
แต่ฝ่ายม็อบกลุ่มชาวบ้านไม่ยอม
ระหว่างนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเจรจา เพื่อให้ทั้ง 2
ฝ่ายได้ลดความตึงเครียดลง
ต่อมาเวลา 13.15 น.กลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ
ได้รวมตัวกันและผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านอยู่และสามารถฝ่าแนวกั้น
ของตำรวจเข้ามาได้
จากนั้นม็อบจัดตั้งกลุ่มชาวบ้านภูมิซรอลที่รวมตัวกันอยู่ประมาณ 3,000 คน
ได้ใช้ไม้ กระบอง ก้อนอิฐ และก้อนหิน รวมทั้งหนังสติ๊กยิงถล่มใส่
จนเกิดปะทะกันขึ้นและใช้ไม้ไล่ตีกันอย่างชุลมุน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นำโดย พล.ต.ต.อำนวย มหาผล ได้พยายามเข้าสกัดกั้นระงับเหตุรุนแรง
ผลการปะทะกัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบราย
ในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นต้องนำส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์ จำนวน 5 ราย
คือ 1.นายพงษ์ศักดิ์ ฤทธิชัยกุล อายุ 44 ปี ชาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
ถูกยิงด้วยหนังสติ๊กที่บริเวณตาขวา มีเลือดออกบริเวณนัยน์ตา
2.น.ส.สุวนันท์ คำจันทร์ดี อายุ 15 ปี เป็นชาว จ.อุดรธานี
ปวดท้องอย่างรุนแรง 3. น.ส.รัชตวรรณ เมธาสุธารัตน์ อายุ 31 ปี เขตยานนาวา
กรุงเทพฯ เป็นลมหน้ามืด 4. นายประเสริฐ ผิวขาว อายุ 21 ปี ชาวบ้านบึงมะลู
อ.กันทรลักษ์ ถูกยิงด้วยหนังสติ๊กที่บริเวณคางด้านซ้าย ฟันหัก 3 ซี่
แพทย์ต้องผ่าตัดด่วน 5. นายสุทธิชัย แก้มแกมจันทร์ อายุ 35 ปี
ถูกยิงด้วยปืนแก๊ปที่บริเวณขาข้างขวา
ซึ่งแพทย์พยาบาลเร่งให้การรักษาช่วยเหลือ ล่าสุดผู้บาดเจ็บปลอดภัยทุกราย
ต่อมาเวลา 13.45 น.ขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร
สามารถผ่านด่านม็อบจัดตั้งต่อต้านเข้าไปได้
แต่กลุ่มม็อบชาวบ้านยังได้ใช้หนังสติ๊ก ก้อนอิฐ
ก้อนหินยิงถล่มใส่ขบวนรถยนต์ทุกชนิดที่ผ่านบริเวณที่ชาวบ้านรวมตัวกันอยู่
ภายในวัดบ้านภูมิซรอล ทำให้รถยนต์ของขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร
ได้รับความเสียหายหลาย 10 คัน
ส่วนมากกระจกข้างรถและด้านหน้ารถถูกยิงด้วยหนังสติ๊กแตกร้าวเสียหาย
และด้านข้างรถถูกก้อนหินบุบเสียหาย ซึ่งกลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ
ได้พยายามป้องกันตัวและตอบโต้โดยใช้ก้อนหิน
หนังสติ๊กยิงใส่กลุ่มชาวบ้านเช่นกัน
ต่อมาเวลา 15.00 น.ขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร
สามารถผ่านไปถึงที่บริเวณหน้าสถานีควบคุมไฟป่า
ซึ่งอยู่ห่างจากด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารประมาณ 500
เมตร และไม่สามารถผ่านไปได้ เนื่องจากมีด่านกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร
ถึง 3 ด่านสกัดกั้นอยู่ โดยด่านแรกเป็นด่านของตำรวจ
ตั้งแนวสกัดกั้นอยู่ประมาณ 500 นาย, ด่านที่ 2 เป็นด่านของทหารประมาณ 100
นาย และด่านที่ 3 เป็นด่านของทหาร ซึ่งมีกำลังทหารรวมทั้งสิ้นประมาณ 400
นาย สกัดกั้นอยู่ และไม่ยอมให้ขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร
ผ่านขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งนายวีระ สมความคิด
แกนนำขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร ได้พยายามเจรจา แต่ไม่เป็นผล
ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพน้อยที่ 2
ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติ
เขาพระวิหาร และได้เชิญ นายวีระ สมความคิด
แกนนำขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ
และตัวแทนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ
ขึ้นไปเจรจาหารือกันที่บริเวณศูนย์บริการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพระ
วิหาร บริเวณผามออีแดง
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ได้ข้อตกลงร่วมกันว่า
ขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร จะกลับไปพักอาศัยอยู่ที่ชุมชนศีรษะอโศก
อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อความปลอดภัย ก่อนที่จะส่งตัวแทนจังหวัดละ 1
คน รวมจำนวน 76 คน กลับมาประกาศเจตนารมณ์ทวงคืนเขาพระวิหาร ในวันพรุ่งนี้
(20 ก.ย.)
นายวีระ สมความคิด เปิดเผยว่า ทหารไม่อนุญาตให้กลุ่มพันธมิตรฯ
ขึ้นไปพักค้างคืนบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
อ้างว่าบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารประกาศเป็นเขตกฎอัยการศึก
จึงห้ามไม่ให้ขึ้นไปพักค้างคืน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.)
ตนและตัวแทนแต่ละจังหวัดทั่วประเทศพร้อมด้วยสื่อมวลจะขึ้นไปอ่านประกาศ
แถลงการณ์แสดงเจตนารมณ์บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
เพื่อเรียกร้องให้กัมพูชาออกไปจากเขตแดนไทยในพื้นที่ 4.6
ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหาร
และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์พื้นที่บริเวณเขาพระวิหาร
ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000109616
ผู้รักชาติยอมถอยก่อนส่งตัวแทนขึ้นอ่านแถลงการณ์พรุ่งนี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กันยายน 2552 18:29 น.
ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ประชาชนผู้รักชาติ
ยอมถอยออกจากบริเวฯด่านอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารแล้ว
หลังเจรจากับแม่ทัพน้อยได้ข้อยุติ
เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุมในยามค่ำมืด
พร้อมส่งเจ้าหน้าที่คุ้มกันออกไปพักที่ศีรษะอโศกและในตัวเมืองศรีสะเกษ
ก่อนส่งตัวแทน 76 คน กลับขึ้นไปอ่านแถลงการณ์ทวงดินแดนพรุ่งนี้
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ที่ผ่านมา
การเจรจาระหว่างตัวแทนเครือข่ายประชาชนทวงคืนเขาพระวิหารนำโดยนายวีระ
สมความคิด กับเจ้าหน้าที่ทหารที่รักษาการอยู่บริเวณด่านทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาพระ
วิหาร ก็ได้ข้อสรุป
โดยทางแม่ทัพน้อยเห็นว่าบรรยากาศโดยทั่วไปมืดคำลงแล้วหากกลุ่มผู้ชุมนุมยัง
อยู่ในพื้นที่อาจได้รับอันตราย
จึงขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ไปก่อน
และในวันพรุ่งนี้ให้ส่งตัวแทนกลับไปอ่านแถลงการณ์ทวงคืนดินแดนที่บริเวณผา
มืออีแดง
หลังจากนั้น
ขบวนของประชาชนผู้รักชาติได้เคลื่อนออกจากบริเวณด่านโดยมีทหารคอยคุ้มกัน
ผ่านออกมาทางหมู่บ้านภูมิซรอล เพื่อกลับไปพักผ่อนที่ศีรษะอโศก
อ.กันทรลักษ์ และในตัวเมืองศรีสะเกษ โดยในวันพรุ่งนี้ จะส่งตัวแทน 76 คน
กลับขึ้นไปอ่านแถลงการณ์อีกครั้ง
http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000109601
คุณวีระ สมความคิด ผมเป็นห่วงคุณ และพี่น้องพันธมิตร
เป็นห่วงประชาชนที่ไปกับคุณวันนี้จริง ๆ ผมเฝ้าติดตามคุณอยู่ตลอดทั้งวัน(
พธม.หน้าจอ ) ช่อง FM TV
ทำไม ชาวบ้านแถวนั้นถึงเป็นแบบนี้ ไม่รักชาติ ไม่รักแผ่นดินแล้วหรือ
ถึงไม่ลงมือปกป้องชาติแผ่นดิน(แบบผม) ก็ไม่ควรขัดขวาง ทำร้ายกันเอง
ผมเสียใจมาก
โล่งไปเปราะหนึ่งที่พวกเราลงจากพื้นที่ก่อนที่มันจะมือ ค่ำมากกว่านี้
คืนนี้ผมก็คงนอนหลับ ...อยากให้ประเทศไทยมีคนอย่าง วีระ สมความคิด
และพี่น้องที่รักชาติ ยอมเสียสละความสุขสบาย มีความกล้าหาญ อย่างนี้มาก ๆ
อายพวกท่านจริง ๆ
ตอนแรกที่ผมทราบข่าวว่าพธม.จะไปที่เขาพระวิหาร
ไปทวงแผ่นดินไทยคืนนั้นผมตกใจมาก
ตกใจเพราะความเป็นห่วงพี่น้องพธม.ด้วยกัน
การที่เราจะเดินทางไปถึงชายแดนนั้นในความเห็นของผมมันอันตรายมากเพราะฝ่าย
ตรงข้ามที่น่ากลัวก็คือทหารเขมร
หากท่าไม่ดีมันคงเล่นงานเราโดยที่ทหารตำรวจไทยไม่ช่วยเราอย่างแน่นอน
แต่ พ่อกับแม่ผมบอกว่า ไปสิดี
ถ้าพ่อกับแม่ไม่ติดงานพ่อกับแม่ก็ไปด้วยแน่ๆ
ไม่ใช่ราชการทวงคืนก็ต้องเป็นเราแล้วแหละ
มันเจ็บใจตรงที่คนไทยคนอื่นมันไม่เดือดเนื้อร้อนใจนี่สิ แม่ผมเคยบอกผมว่า
ชีวิตเรามันก็แค่เรื่องสมมติ ถ้าจะตายเพื่อชาติมันก็คุ้มค่าที่สุดแล้ว
ขอ เป็นกำลังใจให้พี่น้องพธม.สู้ๆครับ
คนอื่นจะว่ายังงัยก็ช่างเขาเถอะครับ
สุดท้ายแล้วเมื่อฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้งทุกคนจะสดุดีวีรกรรมของเราเอง
ผมเชื่อว่าวันนั้นต้องมาถึง
คนอื่นจะชั่วจะดียังไง เขาจะคิดว่าพวกเขาดีเลิศแค่ไหน
สุดท้ายก็ไปเจอกันที่ทางสามแพร่ง จากโลกมนุษย์ ไปสวรรค์ ไปนรกเท่านั้นเอง
ใครจะต้องเลี้ยงทางไหนก็จะได้เห็นดีกัน
หลุมหลิมสินปะกำ
ประวัติศาสตร์ พศ 2310
สยามประเทศ ต้องตกเป็นเมืองขึ้นให้กับพม่า
สืบเนื่องจาก คนไทยขัดแย้งกันเอง
แม้นว่าข้าศึกจะยาตรามาประชิด กำแพงเมือง
พวก อ้าย อี ทีกลัวเสียงปืนใหญ่ที่จะ ยิง ไปยังข้าศึก
ก็สั่งห้ามพวกที่ต้องการ ขับไล่พวกพม่า
ดั่งเช่น วีรบุรุษ วีรสตรี เสื้อเหลือง ที่กำลังแสดงออก เพื่อปก ป้อง
ผืนแผ่นดินเกิดของ พวกเค้า แม้ตัวจะตายก็ยอมสละ
ข้าพเจ้า ขอกราบแทบเท้าพวกท่านอย่างไม่รู้สึกอาย
และเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
พวกท่านแสดงออถีง ความเป็นผู้รักชาติ สมดั่ง
บรรพบุรุษของเรา แห่งบ้านบางระจัน
บุญใดที่ท่านไว้ให้กับแผ่นดินเกิดนี้
ขอบุญนั้นจงสนองตอบคืนสู่บิดา มารดร
ลูกหลานของพวกท่าน ในบัดดล
จงเป็นผลสำเร็จๆ ทุกปรการ เทอญ
ประชาชน
ขบวนผู้รักชาติจ่ออุทยาน"พระวิหาร"-ชาวบ้านโดนปั่นหัวตีท้ายขบวนเจ็บหลายราย
ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ขบวนเครือข่ายคนไทย รักชาติฝ่าด่านภูมิซรอล
จ่ออุทยานพระวิหารแล้ว หลังถูกกลุ่มต่อต้านใช้วิธีป่าเถื่อน ขว้างก้อนหิน
ท่อนไม้เข้าใส่อย่างหนัก ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหลายราย
แต่ก็เจอด่านตำรวจด้านหน้าสถานีดับไฟป่าเขาพระวิหารสกัดอีกรอบ
ส่งผลให้พี่น้องผู้รักชาติท้ายขบวนต้องโจมตีหนักบาดเจ็บอีกรอบ
วันนี้ (19ก.ย.52) เมื่อเวลา 13.20
น.หลังจากที่กลุ่มเครือข่ายประชาชนทวงคืนเขาพระวิหารเจรจาเพื่อขอผ่านด่าน
ที่หน้าโรงเรียนภูมิซรอล ไม่ได้ข้อยุติ
เนื่องจากชาวบ้านที่ต่อต้านการประกาศเจตนารมณ์ทวงคืนดินแดนเขาพระวิหาร
ไม่ยอมเจรจากับพี่น้องเครือข่ายชาวไทยที่รักชาติ ฝ่าด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งยังตั้งเวทีชาวบ้านบริเวณหน้าวัดภูมิซรอล
ไม่ยอมให้ขบวนผู้รักชาติเคลื่อนโดยง่าย
โดยขบวนผู้รักชาติประกาศว่าจะขอเข้าไปประกาศเจตนารมณ์เท่านั้น
ไม่มีการใช้อาวุธ แต่ก็ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ หรือแม้กระทั่งเด็กเล็ก
ยืนถือท่อนไม้ ก้อนหิน
ขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนกลุ่มผู้ทวงคืนเขาพระวิหารอย่างต่อ
เนื่อง โดยมีการจุดประทัดยักษ์ข่มขู่เป็นระยะ
ผลจากการปะทะดังกล่าว
ทำให้การ์ดพันธมิตรรวมถึงประชาชนได้รับบาดเจ็บถ้วนหน้า ไม่ต่ำกว่า 20 คน
ลักษณะถูกท่อนไม้ตีเข้าที่แขน ขา ลำตัว ถูกขวดบาด ถูกก้อนหินขว้างใส่
และช่างภาพของ"ASTVผู้จัดการ"ถูกหนังสติ๊กยิงที่ศีรษะเป็นแผลแตกเย็บ 5
เข็มด้วย
กระทั่งเวลา 13.50 น.
ขบวนผู้รักชาติสามารถฝ่าด่านออกไปจากบริเวณหน้าวัดภูมิซรอลได้
แต่เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณหน้าสถานีดับไฟป่าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ/ทหารมากกว่า 100 นาย พร้อมตั้งด่านลวดหนามสะกัด
โดยมีการส่งตัวแทนเข้าไปเจรจา
อย่างไรก็ตาม
ในช่วงที่รอการเจรจาขอผ่านด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณดังกล่าว
ซึ่งขบวนรถยนต์ที่ยาวเหยียดมากกว่า 1,000 คัน ระยะทางมากกว่า 1 กิโลเมตร
ทำให้ประชาชนที่อยู่ด้านท้ายขบวนบริเวณหน้าวัดภูมิซรอลและโรงเรียนภูมิซรอล
เป็นเป้าถูกกลุ่มชาวบ้านฝ่ายต่อต้านเข้าโจมตีอีกครั้ง ด้วยท่อนไม้
ก้อนหิน ขว้างใส่อย่างหนัก
และเป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านอยู่กลับไม่เข้ามาช่วย
เหลือกลุ่มเครือข่ายประชาชนผู้รักชาติแต่อย่างใด
ซึ่งมีผู้บาดเจ็บจากการถูกโจมตีรอบหลังอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้มีรายงานว่า กลุ่มที่มาต่อต้านการทวงคืนเขาพระวิหารนั้น
เป็นคนที่มาจากพื้นที่อื่น
โดยมาตั้งเวทีปราศรัยยั่วยุให้ชาวบ้านภูมิซรอลต่อต้านพันธมิตร
และยั่วยุให้ระดมขว้างปาขวดน้ำ
ท่อนไม้เข้าใส่กลุ่มผู้รักชาติอยู่ตลอดเวลา
รายงานล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.
คณะของนายวีระได้ให้การ์ดเคลียร์เส้นทางขึ้นเขาพระวิหาร
เนื่องจากมีรถของพี่น้องประชาชนเดินทางมาจำนวนมาและเข้ามาสมทบอย่างต่อ
เนื่อง โดยขณะนี้มวลชนยังรออยู่ที่หน้าด่านขึ้นเขาพระวิหาร
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 200 นายรักษาการอยู่และทหารตั้งลวดหนามสกัดเอาไว้
ท่าทีล่าสุดนายวีระยังยืนยันขอเจรจากับเจ้าหน้าที่เพื่อขึ้นไปอ่าน
ประกาศเจตนารมณ์ทวงดินแดนเขาพระวิหารบนผามออีแดงให้ได้
ขณะที่บรรยากาศโดยทั่วไปเริ่มมืดค่ำลงแล้ว
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงรักษาการอยู่อย่างเข้มงวด
http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000109563
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น