++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548

กล้วยน้ำว้า

ผลไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็นธัญญาหารของชาวโลก ที่หาง่ายและราคาถูก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Musa sapientum Linn. วงศ์ Musaceae ชื่อท้องถิ่น กล้วยน้ำว้า
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ เป็นพืชล้มลุก ลำต้นสูง ลำต้นที่อยู่เหนือดินรูปร่างกลม
มีกาบใบหุ้มซ้อนกัน ใบสีเขียวขนาดใหญ่ ก้านใบยาวและเห็นชัดเจน
ดอกออกที่ปลายเป็นช่อ ลักษณะห้อยหัวลง ยาว 1-2 ศอก เรียกว่า ปลี
มีดอกย่อยออกเป็นแผงผลจะติดกันเป็นแผงเรียกว่า หวี ซ้อนกันหลายหวีเรียกว่า
เครือ
การปลูกนิยมใชัหน่อปลูก กล้วยชอบดินร่วนซุยค่อนไปทางดินเหนียวที่อุ้มน้ำได้ดี
แต่ไม่ชอบน้ำขังควรปลูกต้นฤดูฝน
ส่วนที่ใช้เป็นยา
ลูกดิบหรือลูกห่าม โดยเก็บลูกกล้วยช่วงเปลือกยังเป็นสีเขียว
ต้นกล้วยจะให้ผลในช่วงอายุ 8- I2 เดือน
รสและสรรพคุณยาไทย
ลูกดิบ รสฝาด ฤทธิฝาดสมานแผลได้ดีเป็นพิเศษ
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
ผลกล้วยมีสารแทนนิน ( Tannin) มีมากในกล้วยดิบ, เพกติน(Pectin)
มีมากในกล้วยสุก, Essential OiI, Norepinephrine และกรดอินทรีย์หลายชนิด
จากการศึกษาวิจัยพบว่า สารสกัดจากเนื้อและเปลือกของกล้วยมีฤทธิ์ต้าน
เชื้อราและเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุให้เกิดหนองได้ กล้วยดิบมีสารแทนนินมาก
ช่วยรักษาอาการท้องเสียแบบไม่รุนแรงได้ มีการวิจัยที่น่าสนใจจากประเทศอังกฤษ
ในปี พ.ศ. 2527 Best และคณะได้รายงานว่ากล้วยดิบนั้นมีฤทธิ์รักษาแผลใน
กระเพาะหนูขาว ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นโดยแอสไพริน (Aspirin) สามารถป้องกัน
ไม่ให้เกิดแผลเมื่อให้หนูกินผงกล้วยดิบ 5 กรัม และรักษาแผลที่เป็นแล้วเมื่อให้
หนูขาวกินผงกล้วยดิบ 7 กรัม ผู้วิจัยเข้าใจว่ากล้วยดิบไปกระตุ้นให้ เซลล์ใน
เยื่อบุกระเพาะ หลั่งสารพวกมิวซิน (Mucin) ออกมาเคลือบกระเพาะ กลไกนี่แตกต่างไป
จากยากระเพาะทั่วไป ฤทธิ์ในการรักษาแผลได้ผลเฉพาะกล้วยดิบ กล้วยสุกไม่ได้ผล
(ปัจจุบันในประเทศไทยมี องค์กรภาคเอกชนคือ "กลุ่มศึกษาปัญหายา " เผยแพร่
ความรู้การใช้กล้วยหักมุกดิบรักษาแผลในกระเพาะ โดยเอากล้วยดิบมาหั่นตากแดด
บดผงรับประทาน วันละ 4 ครั้ง ครั้งละ 1-2 ช้อนแกง ก่อนอาหารและก่อนนอน
จากประสบการณ์ของผู้ป่วยพบว่าได้ผลดี)
วิธีใช้
กล้วยดิบรักษาอาการท้องเสียที่ไม่รุ่นแรง โดยใช้กล้วยน้ำว้าห่าม
รับประทานครั้งละครึ่งถึงหนึ่งผล หรือ ใช้กล้วยน้ำว้าดิบฝานเป็นแว่นตากแดดให้
แห้งบดเป็นผงชงน้ำดื่มครั้งละครึ่งถึงหนึ่งผล หรือบดเป็นผงปั้นเป็น
ยาลูกกลอนรับประทานครั้งละ 4 เม็ด วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้าและก่อนนอน เมื่อ
รับประทานแล้วอาจมีอาการ ท้องอืดเฟ้อ ป้องกันโดยใช้ ร่วมกับยาขับลม เช่น น้ำขิง
พริกไทย เป็นต้น
กล้วยสุก
มีมากมายหลายชนิดทั่วโลก
กล้วยนั้นได้ชื่อว่าเป็นธัญญาหารสำคัญของมนุษย์
และสัตว์หลายชนิด เพราะใน กล้วยสุกประกอบด้วยวิตามินเอและวิตามินซีมากมาย
นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ธาตุ เหล็กซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายรวมด้วย
กล้วยสุกจึง เป็นอาหารสำคัญของเด็กที่กำลังเติบโต และเหมาะสม
คนที่มีไขมันในเส้นเลือดสูง และคนที่พยายามลดน้ำหนัก การรับประทานกล้วยสุกจะ
ทำให้รู้สึกอิ่มโดยไม่ต้องพึ่งอาหารประเภทอื่นมากนัก
ส่วนกล้วยสุกที่นำไป ตากแห้ง นอกจากจะสามารถ เก็บรักษาไว้รับประทานได้ นานแล้ว
ยังมีวิตามินดีจากแสงแดดเพิ่มมาด้วย ซึ่งวิธีทำกล้วยตากไม่ยากเย็นอะไร
สามารถจะทำเองได้ง่ายๆ ดังนี้
1.ใช้มีดคมๆ ตัดหัวท้ายของกล้วย แล้วตัดออก เป็น 2-3 ท่อน
ตามที่ต้องการ
2.ปอกเปลือกกล้วย ด้วยมีดตามทางยาวของ กล้วย อย่าใช้มีดตัดลึกจน
โดนเนื้อกล้วยอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้กล้วยช้ำ
3. จากนั้นจึงฝานกล้วยที่ปอกแล้วออกเป็นแผ่นตามความยาว หนาบางตาม
ชอบใจและนำไปตากแดด 1-2 วัน หรือใช้อบในเตาอบ แทนการนำไปตากแดดก็ได้
จึงนำมาเก็บไว้ในขวดโหล หรือภาชนะที่ปิดมิดชิดไว้ รับประทานได้

(จากคอลัมน์คุณค่าของธรรมชาติ LISA ฉบับ 14 31 สิงหาคม 2543 หน้า 20)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น