++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

อ่านแล้วน้ำตาไหล...อยากให้คนไทยทุกคนได้อ่าน

เพื่อนรักของพ่อคนนั้นเล่าว่า...

วัน หนึ่งนั่งรถแท็กซี่ แท็กซี่ก็พูดเรื่องราวต่างๆ
มากมายอย่างที่แท็กซี่สมัยนี้ชอบพูดกัน
เพื่อนพ่อนั่งฟังอยู่สักพักก็บอกกับคนขับว่า ขอพูดอะไรสักอย่างได้ไหม
ผมไม่ใช่สีอะไร หรือเสื้อสีอะไรทั้งนั้น
แต่แค่สงสัยว่าคนไทยเป็นอะไรกัน..

ครั้ง หนึ่งมีคนกลุ่มหนึ่งไปแย่งอำนาจการปกครองมา มีครอบครัวเล็กๆ
ครอบครัวหนึ่งที่แสนจะธรรมดาหลบหลีกความวุ่นวายขณะนั้น
ไปใช้ชีวิตเรียบง่ายสมถะ ณ แดนไกล อาศัยอยู่ตามอัตภาพในประเทศเล็กๆ
ประเทศหนึ่ง จากนั้นเมื่อคนกลุ่มที่ได้อำนาจตกลงกันไม่ได้ก็ตามให้ครอบครัวนั้นกลับมา
แล้วคนในครอบครัวเล็กๆ ธรรมดานั้นก็ทำงานให้คนไทยมาตลอดทั้งชีวิต
อย่างทุ่มเท

แล้วพอวันเวลาผ่าน ไป...จู่ๆ ก็มีคนมาไล่คนๆ
นั้นที่ทำงานอย่างไม่เคยอยากได้อะไรตอบแทน...

คุณจะให้เขาไปอยู่ที่ไหน เมื่อเขามีอายุมากขนาดนี้

ถ้าเป็นผมครบ 60 ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมาตรากตรำทำงานอีก
ผมเองนี่ก็ใกล้แล้ว นอนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ดีกว่าหรือ

คุณจะให้เขาไปอยู่ไหน...

คนไทยเป็นอะไรกันไปแล้ว...

ความคิดที่ไม่ซับซ้อนของเพื่อนพ่อ และการเล่าเรื่องที่ฟังง่ายๆ
แต่เราว่ามันลึกซึ้งเหลือเกินในความรู้สึก

เราคิดว่าคงไม่ใช่แค่คนขับ แท็กซี่หรอกที่นิ่งอึ้งไป

เราก็รู้สึกเหมือนมีก้อนสะอื้นอะไรสักอย่างอยู่ในลำคอ

คุณก็คงเหมือนกัน ...ถ้าคุณยังพอมีความทรงจำเกี่ยวกับท่านอยู่บ้าง

ท่านที่ทรงงานหนักเพื่อคนไทย
ท่านที่ใครมาบอกว่าร่ำรวยที่สุดในเอเชียอะไรนั่น (คุณคิดเช่นนั้นหรือ)
ท่านผู้ทรงไม่เคยใช้ชีวิตอย่างเศรษฐี เหมือนที่หลายคนทำ
ท่าน ที่ทรงเป็นพระผู้ให้คนไทยมากว่า 60 ปี
ท่านผู้ทรงมีพระชนมายุกว่า 80 พรรษา
คุณอยากได้อะไรจากท่านอีกหรือ
คุณเคยทำอะไรให้ใครเท่า ท่านผู้นี้หรือไม่...

จาก forward mail ของเพื่อนคนหนึ่งค่ะ

1 ความคิดเห็น:

  1. จงมีความกตัญญู กตเวทิตากันบ้าง ที่สำคัญอย่าเนรคุณแผ่นดินเกิด จะได้ตายกันอย่างนอนตายตาหลับ

    ตอบลบ