++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

หมี (๒)

ปรีดี อู่ทรัพย์

...ในป่าทึบ แสงอาทิตย์ส่องไม่ถึงพื้นดิน แมลงเดินทางบินไปทางไหน ในขณะนั้นดวงอาทิตย์อยู่ทางนั้น การก่อไฟหุงต้มในป่าแต่ละครั้ง ก่อนออกเดินทางต้องดับไฟให้สนิทเพื่อไม่ให้ไฟทำลายป่าอีกต่อไป .. สิ้นแสงอาทิตย์แล้ว ต้นไม้ในที่โล่วง ถ้าเอามือไปโอบกอด ซีกไหนยังมีความอบอุ่นมากที่สุด ซีกนั้นคือทิศตะวันตก นี่คือ วิชาเดินป่าล่องไพร

วิญญาณป่า...ขณะใดที่ป่าเงียบสงัดสัตว์ไม่ร้อง สรรพเสียงต่างๆ ไม่ปรากฎตามธรรมชาติปกติ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าสัตว์ร้ายกำลังออกหากิน เช่น เสือ


ในเวลารุ่งเช้า เมื่อเตรียมเสบียงอาหารและอุปกรณ์การล่าสัตว์เสร็จแล้ว กำนันพร้อมก็พาพวกเราเดินทางเข้าป่าลึก ขึ้นเขาลงห้วยไปหลายแห่ง ตามทางด่านผ่านเข้าไปดงดิบ หมู่ไม้สูงยืนต้นเสียดยอด ฝูงนกป่าพากันเพรียกพร้องออกหากิน บนพื้นดินสัตว์นานาชนิดวิ่งตัดผ่านในระยะใกล้ๆ เป็นบางครั้ง เช่น อีเห็น กระจง พังพอน กระต่ายป่า แต่เราก็ไม่ได้ยิงมัน รอเอาโชคยิงสัตว์ใหญ่

ป่าดงดิบดำขณะนั้น สารพัดปรากฏรอยเท้าบนทางด่วน สับสนทั้งรอยเก่ารอยใหม่ รอยเท้าช้างป่าลูกอ่อน ที่เดินตามไม่ยอมห่างพ่อ รอยเก้งกวางที่ตะกุยลึกลงไปในดินขณะที่ตื่นตกใจ รอยเสือใหญ่ไม่ต่ำกว่า ๖ ศอก ขี้วัวกระทิงที่เกลื่อนบนทางด่วน ยังปรากฏไออุ่นลอยกรุ่น แสดงว่า มันผ่านไปข้างหน้าในระยะเวลาอันไม่นานนัก


บ่ายลงแล้ว คณะของเราเดินทางมาถึงป่าต้นยางกลุ่มหนึ่ง มีประมาณ ๗-๘ ต้น ผึ้งรังใหญ่ขนาดกระด้งแขวนอยู่ตามกิ่งยางทุกต้น ต้นละสิบกว่ารังขึ้นไป เปลือกยางบางต้นมีรอยหมีใหญ่ตะกายขึ้นไปกินผึ้ง เป็นรอยสดใหม่น่าสนใจ

เพราะเหตุนี้ที่ผึ้งป่าเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายและอยู่ในที่สูงและบางรังอยู่ในกอไผ่ หมีจึงต้องใช้วิธีการต่างๆ สุดความสามารถ มิฉะนั้น มันก็ไม่สามารถกินผึ้งได้

การตีผึ้งเพื่อกินรังและกินน้ำหวานของผึ้ง พรานไผ่บอกว่า หมีใช้วิธีการผิดกันตามขนาดเล็กใหญ่ของรังผึ้งและใช้เวลาตีแตกต่างกัน

กล่าวคือ สัตว์จำพวกผึ้งนั้น สายตาไม่ดีในเวลากลางคืน มันจะใช้เวลาหาอาหารของมันเฉพาะเวลากลางวันตลอดวันเท่านั้น ตกเย็นผึ้งทุกตัวจะเข้ารังพักผ่อนตลอดคืน

หมีป่า เป็นนักเลงตีผึ้ง มันสามารถเรียนรู้สภาพชีวิตของผึ้งได้ดีเหมือนพรานป่า มันจึงแบ่งเวลาตีผึ้งแตกต่างกัน คือ ผึ้งรังเล็กที่เรียกว่า มิ้ม หรือ ผึ้งหวี หรือผึ้งขนาดกลางไม่มีพิษสงในการต่อยเจ็บปวดเท่าไรนัก หมีป่าพบเข้าแล้วจะไม่เลือกเวลาเข้าตี พบกลางวันตีกินกลางวัน พบกลางคืนตีกินกลางคืน แต่ถ้าเป็นผึ้งป่าขนาดใหญ่แล้ว หมีจะต้องพิจารณาให้รอบคอบว่า จะปีนขึ้นเล่นงานกลางวันหรือกลางคืนดี ถ้าเห็นท่าไม่ดีมันก็จะบุกในตอนกลางคืน เพราะมันรู้ว่ามันจะปลอดภัยจากการถูกล่าตอบจากเจ้าผึ้งป่าดุร้าย ซึ่งมีสายตาไม่ดีในความมืด

วิธตีผึ้งของหมีป่านั้น มันจะปีนขึ้นไปอยู่ที่กิ่งไม้ที่สูงกว่ารังผึ้ง ใช้ขาหน้าปาดตัวผึ้งให้ตกลงมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่รู้ตัว แล้วมันจะรีบคว้ารังผึ้งมากินโดยเร็ว พร้อมกับหลับตาข่มขู่คำรามอยู่ตลอดเวลา แต่ในบางกรณีที่มันไม่สามารถกินได้อย่างง่ายๆ หมีป่าจะขย่มกิ่งไม้ให้หักลงมาพร้อมทั้งรังผึ้ง โดยมันปีนตามลงมากินทีหลัง

การตีผึ้งรังใหญ่กินในเวลากลางคืน เมื่อฝูงผึ้งรุมเล่นงานมันหนักจนเหลือกำลังต้านทาน มันจะไต่ขึ้นกิ่งสูงอาศัยความมืดเป็นฉากกำบังภัย เพราะผึ้งไม่สามารถมองเห็นในความมืด ถ้าใครไปดูหมีในสวนสัตว์แล้ว จะเห็นว่าขนบริเวณหน้าของหมีแข็งและยาว เปลือกตามีความหนามาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เหมือนกับหมีป่า ที่สามารถป้องกันการต่อยของฝูงผึ่งได้โดยมันหลับตาในเวลากินผึ้ง

เวลาเกิดพายุฝนตกหนักในป่า ลมพายุจะพัดพาให้ผึ้งปลิวตามลมแตกแยกจากกัน น้ำฝนจะทำให้ปีกของผึ้งเปียกไม่สามารถจะต้านทานฝนตกหนักได้ โอกาสที่เกิดพายุฝนจึงเป็นโอกาสทองของหมีที่จะปีนป่าย ขึ้นไปเล่นงานผึ้งป่ารังใหญ่บนต้นยางหรือต้นเสลี่ยงได้อย่างหวานคอ

ผู้ที่ล่าผึ้งสูญไปจากป่าจำนวนมากนั้น ความจริงหาใช่มนุษย์ไม่ ที่แท้คือ เจ้าหมีนักเลงล่าผึ้งซึ่งเป็นแชมป์ของป่านั่นเอง ซึ่งสัตว์อื่นจะล่าผึ้งได้อย่างหมีนั้นยากมาก




(อ่านต่อตอนที่ ๓)




ที่มา ต่วยตูน เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๐ ปีที่ ๑๖ ฉบับที่ ๙

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น