++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

เป็นมนุษย์สุดดีก็ที่ปาก (๒)

"ศุภลักษณ์"

.... คิง โอ มอลลี่ ไปพักรักษาตัวอยู่ที่อีม ปาร์ค ริมแม่น้ำ ฟิทซรอย เป็นเวลานานถึงสองปีเต็มๆ เขาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางพวกคนป่าอะบอริจิน จนกระทั่งในไม่ช้าอาการโรคปอดของเขาก็ทุเลาลงจนกระทั่งหายขาด คิง โอ มอลลี่ เขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงบริษัทประกันภัยในอเมริกา ที่เขาเคยทำงานด้วย ในจดหมาย คิง ขอให้บริษัทประกัน แต่งตั้งเขาเป็นผู้แทนสาขาในประเทศออสเตรเลีย บริษัทประกันภัยตกลงตกลงแต่งตั้งเขาเป็นผู้แทนสาขา ตามที่คิง เสนอมา คิง โอ มอลลี่ เริ่มงานขายประกันไปทั่วออสเตรเลีย เขาประสบความสำเร็จในงานอาชีพเป็นอย่างดี เพราะคุณสมบัติ "เป็นมนุษย์สุดดีก็ที่ปาก จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา" นี่เอง ด้วยลิ้นสาริกาของเขา คิง สามารถทำให้คนที่เขาพูดด้วยเชื่อคำพูดของเขาทุกคน ครั้งหนึ่งเขาไปหาประกันที่ซีดนีย์ นักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งพูดกับคิงว่า เวลาของเขามีค่าเกินกว่าที่จะมาเสียเวลาฟังคำพูดของนายหน้าหาประกันอย่าง โอ มอลลี่ ในทันทีที่เขาพูดจบ คิง วางเหรียญทองคำตั้งหนึ่งลงตรงหน้านักธุรกิจผู้นั้นพร้อมกับพูดว่า

"ใช่ครับ เวลาของคุณมีค่ามาก ผมขอซื้อเวลาของคุณสักห้านาทีได้ไหมคครับ"
นักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ของซีดนีย์คาดไม่ถึงว่าจะเจอไม้นี้เข้า พูดไม่ออก โอ มอลลี่ถือเอาว่า อาการอ้ำอึ้งของเขาคือ คำตอบรับ จึงเริ่มงานของเขาทันที

เพียงสี่นาทีผ่านไป นักธุรกิจคนนั้นก็หัวร่อฮ่า-ฮ่า พอถึงนาทีที่ห้าของโอ มอลลี่ นักธุรกิจก็เจรจาเรื่องประกันภัยกับเขาอย่างเต็มใจ

จากซีดนีย์ คิง โอ มอลลี่ ขยายเขตการทำงานของเขาออกไปถึงเมืองอเดเลต เมืองหลวงของรัฐเซ้าท์ออสเตรเลีย ในปี ค.ศ. ๑๘๙๖ คิงเร่มสนใจการเมืองและลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรของรัฐสภาแห่งรัฐเซ้าท์ออสเตรเลีย เขาเลือกลงรับเลือกตั้งในเขตเอ็นเคาน์เตอร์ เบย์ ในนามของพรรคอิสระคริสเตียน โซเชียลลิสต์ ผู้คนในแถบเอ็นเคาน์เตอร์ เบย์ ไปฟังโอ มอลลี่หาเสียงแล้วก็อดทึ่งในนักพูดฝีปากเอกคนนี้ไม่ได้ เพราะไม่เคยมีนักการเมืองคนไหนออกไปพูดหาเสียงกับประชาชนด้วยวิธีพูดแบบ โอ มอลลี่ มาก่อนเลย ทุกคนประทับใจในบุคลิกของนักการเมืองหน้าใหม่คนนี้มาก เวลาหาเสียง โอ มอลลี่ ยืนผึ่งผายอยู่ตรงหน้าคนเป้นจำนวนมาก ร่างผอมบางของเขายืดตรงด้วยความมั่นใจในตนเองเต็มเปี่ยม เขาชอบสวมหมวกปีกกว้างอย่างที่พวกโคบาลใช้กันเป็นประจำ สวมเสื้อตัวในสีขาวผูกริบบิ้นลูกไม้สีดำแถบเล็กๆที่คอเสื้อ ใส่เสื้อโค้ตตัวยาวสีน้ำตาล ชายกางเกงขายาวซุกอยู่ในรองเท้าบู๊ต โอ มอลลี่ ขึ้นต้นคำปราศรัยของเขาว่า

"พี่น้องคริสเตียนที่รักของผม"
ถ้อยคำปราศรับแพรวพราวด้วยวจีไพเราะจับใจ แต่เมื่อพูดถึงฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมือง โอ มอลลี่ ก็สามารถใช้คำพูดเชือดเฉือนคู่ต่อสู้ได้อย่างเจ็บแสบที่สุด เขามักจะพูดถึงคู่แข่งทางการเมือง ด้วยการเปรียบเทียบเสียดสีอย่างถึงแก่น เช่น ในคำปราศรัยตอนหนึ่ง โอ มอลลี่เรียกนักการเมืองที่อยู่ต่างพรรคกับเขาว่า

"ฝูงสุนัขจิ้งจอกอดโซที่ยังชีพอยู่ด้วยการเลียแผลเน่าเฟอะของเสือลำบากที่นอนรอวันตาย"
และด้วยสำนวนยียวนเช่นนี้แหละทีทำให้โอ มอลลี่ ชนะคู่แข่ง เพราะประชาชนเทคะแนนให้เขาอย่างล้นหลาม แต่ก็น่าเสียดายที่การเลือกตั้งในสมัยต่อมา โอ มอลลี่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ชาวเมืองอเดเลดเลือก โอ มอลลี่เป้นผู้แทนของเขาเพียงสมัยเดียวเท่านั้น

ความยั่วยวนของชีวิตนักการเมืองที่เคยลิ้มรสมาแล้วสมัยหนึ่งทำให้ โอ มอลลี่ กระหายที่จะเข้าไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง และแล้ว เมื่อการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศออสเตรเลียเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ครั้งแรกในปี ค.ศ.๑๙๐๑ ก็เป็นโอกาสอันดีที่ โอ มอลลี่ จะได้วัดดวงอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เขาโดดไปสมัครรับเลือกตั้งที่รัฐทัสมาเนีย รัฐเล็กที่สุดของออสเตรเลีย โชคเข้าข้างเขา โอ มอลลี่ ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในห้าคนของผู้แทนจากรัฐทัสมาเนีย


(อ่านต่อตอนจบ....)

ที่มา ต่วยตูน เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๐ ปีที่ ๑๖ ฉบับที่ ๙

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น