โดย ว.ร.ฤทธาคนี
นับวันการแสดงออกซึ่งตัวตนของ
พ.ต.ท.ทักษิณที่ต้องการมีอำนาจเพื่อกิเลสของตัวเองก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นทุกวั
น และเขาไม่ต้องการให้ชาติบ้านเมืองสงบสุขเพราะการโฟนอินเป็นสัญลักษณ์ของการท
ำสงครามจิตวิทยาขั้นแตกหักกับประเทศชาติเขาเอง
เพราะการโฟนอินทุกครั้งเป็นการปลุกระดมและการรักษากำลังรบสงครามจิตวิทยาของ
เขาให้ศัตรูการเมืองเห็นว่า ยังมีคนโอบอุ้มเขาอยู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงความพร้อมกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
โดยมีเงื่อนไขว่า
หากประชาชนยังต้องการเขาอยู่ และบอกว่า "ถ้าประชาชนยอมพ่ายแพ้
ผมก็หมดหน้าที่"
วลีประโยคนี้เป็นอันตรายเพราะการกระตุ้นให้ประชาชนที่สนับสนุนเขาทั้งรู้เท่
าถึงการณ์และรู้เท่าไม่ถึงการณ์มีความรู้สึกว่าเสียศักดิ์ศรี
และต้องการเอาศักดิ์ศรีนั้นกลับคืนมา
เพราะการพ่ายแพ้ต่อความถูกต้องชอบธรรมทั้งที่เป็นเรื่องนิตินัยและพฤตินัยที
่ทับถมพ.ต.ท.ทักษิณนั้นเจ้าตัวรับไม่ได้
จึงโทษระบบความยุติธรรมซึ่งเปิดให้เขาเข้ามาแก้ต่างอยู่แล้วแต่กำลังดึงให้ค
นที่หลงใหลในอำนาจเงินก็ดี หรือจากสำนวนลิ้นปลิ้นปล้อนของเขาก็ดี
รวมตัวกันทำลายสันติสุขของรัฐ
ในการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ
มีการเปรียบเทียบเอาอย่างประธานาธิบดี เนลสัน แมนเดลา
ประธานาธิบดีแอฟริกันคนแรกที่ทำลายระบอบแบ่งแยกผิวในสาธารณรัฐอเมริกาใต้
แต่ท่านต้องติดคุกอยู่หลายวาระในข้อหาร้ายแรงคือ เป็นผู้ก่อการร้าย
หากจะวิเคราะห์แล้ววิธีการต่อสู้ของประธานาธิบดี เนลสัน แมนเดลา
นั้นเป็นการสร้างความชอบธรรม ความเสมอภาคระหว่างผิวดำกับผิวขาว
และเสียงกลุ่มชนส่วนใหญ่ที่เป็นคนดำต้องได้สิทธิการปกครองและบริหารประเทศ
พ.ต.ท.ทักษิณ
เข้าสู้อำนาจรัฐได้นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องทุนหรือเงินเพียงอย่างเดียว
เพราะพรรคการเมืองในประเทศไทยต้องการทุนในการเลี้ยงดูลูกพรรค
พรรคไหนรวยก็ได้อำนาจรัฐ
เพราะว่าการปลูกฝังให้นักการเมืองเล่นการเมืองเพราะอุดมการณ์นั้นเป็นเรื่อง
ห่างไกลจากตำรับการเมืองไทยตั้งแต่การเมืองท้องถิ่นที่เงินคือกุญแจสู่อำนาจ
พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยต่อสู้อะไรเลยนอกจากใช้เงินซื้อ
ข้อพิสูจน์หนึ่งที่กล้าพูดได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ
ใช้เงินนำทางสู้อำนาจรัฐ ก็เพราะครั้งหนึ่งเมื่อถูกถามว่า
"ทำอย่างไรจะป้องกันมิให้มีการทุจริตคอร์รัปชันขึ้นในรัฐบาล
หากว่าเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี" เขาตอบว่า "ผมได้จัดสรรเงินไว้สามส่วนคือ
ส่วนธุรกิจครอบครัว ส่วนเลี้ยงดูครอบครัว และส่วนเล่นการเมือง
โดยสามารถเอาเงินให้นักการเมืองได้เมื่อเขาต้องการเงินโดยไม่ต้องโกงกิน"
แต่จากยุทธศาสตร์การปราบปรามและป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันที่ใช้เป็นอาวุธใ
นการทำสงครามการเมืองโฆษณาชวนเชื่อ
เอาชนะพรรคประชาธิปัตย์มาแล้วในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2544
แต่ยุทธศาสตร์นี้เป็นยุทธศาสตร์ล้วงและล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเพราะคนใกล้ชิดเ
ขาและตัวเขาเองโกงเอง
จึงถือได้ว่าเขาหลอกลวงประชาชนเพื่อที่จะได้อำนาจรัฐ
ดังนั้น การเปรียบตัวเองกับประธานาธิบดี เนลสัน แมนเดลา
นั้นคนละเรื่องกัน เพราะว่าเนลสันเป็นเสือจริงๆ
จึงขอเสนอสำนวนจากโคลงโลกนิติซึ่งแปลว่าระเบียบแบบแผนแห่งโลกบทหนึ่งที่ว่า
ถึงจนทนสู้กัด กินเกลือ
อย่าเที่ยวแล่เนื้อเถือ พวกพ้อง
อดอยากเยี่ยงอย่างเสือ สงวนศักดิ์
โซก็เสาะใส่ท้อง จับเนื้อกินเอง
โคลงโลกนิติเชื่อว่ามีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาที่นักปราชญ์ไทยศึกษา
และคัดจากคาถาสุภาษิตภาษาบาลีและสันสกฤตที่ปรากฏในคัมภีร์ต่างๆ เช่น
คัมภีร์โลกนิติ คัมภีร์ธรรมนิติ คัมภีร์ราชนิติ หิโตปเทศ ธรรมบท
และพระไตรปิฎก
สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ
ให้ปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในปี 2374
และทรงโปรดให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร
ทรงธำรงโคลงโลกนิติให้ไพเราะแล้วจารึกไว้เป็นวิทยาทานในวัดจำนวน 434 บท
หากเมื่อตีความหมายแห่งการต่อสู้ของประธานาธิบดี เนลสัน แมนเดลา
แล้วพบว่า ความอดทนที่ต้องทนทุกข์ในคุกเพราะอุดมการณ์ความเสมอภาคของมนุษย์
และเขาก็ไม่เคยหักหลังเพื่อนหรือเอารัดเอาเปรียบโกหกเพื่อนหรือประชาชนที่สน
ับสนุนเขา ไม่ยอมที่จะได้สิทธิพิเศษจากการที่เป็นผู้นำชาวแอฟริกาผิวดำ
เมื่อมีการเสนอให้เขาได้รับอิสรภาพ แต่ต้องเลิกเล่นการเมือง
แต่ก็ทนอย่างเสือที่แสวงหาอำนาจตัวเองด้วยตัวเอง ด้วยปัญญา ด้วยความอดทน
ด้วยความไม่โลภ ทั้งเงินตรา และสรรเสริญ
จนในที่สุดก็บรรลุเป้าหมายของชีวิตคือ ทำให้คนขาวยอมให้คนดำปกครองประเทศ
การดิ้นรนของ พ.ต.ท.ทักษิณ
เป็นการดิ้นรนเพื่อการมีอำนาจเพื่อที่ลบล้างความผิด เพื่อที่จะล้างแค้น
เพื่อที่จะปกป้องทรัพย์สินซึ่งได้มาจากการใช้อำนาจรัฐช่วงชิงมา
และอำนาจนิติบัญญัติตรากฎหมายเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง
รวมทั้งการเอาเปรียบคู่แข่งทางการเมือง
ก ารเปรียบเทียบว่า ตัวเองเป็นเยี่ยงประธานาธิบดี เนลสัน แมนเดลา
จึงเป็นการอุปมาอุปไมยที่ผิดอย่างมหาศาล
เพราะการกระทำเพื่ออุดมการณ์กับการกระทำเพื่ออำนาจ
ความโลภและความหลงตัวเองนั้นไม่ใช่เป็นการกระทำของเสือครับ
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000013718
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น