มีผู้เชิญให้ไปบรรยายเรื่องเกี่ยวกับผู้จะเกษียณอายุราชการบ่อยเป็นที่น่าสังเกต หัวข้อบรรยาย เช่นการเตรียมใจของผู้จะเกษียณบ้าง ธรรมะสำหรับผู้เกษียณบ้าง ทุกข์ของผู้เกษียณบ้าง ฯลฯ ฟังแล้วแปลก
แสดงว่าผู้จัด (ซึ่งยังไม่เกษียณ) คิดเอาว่า คนเกษียณไปแล้วมีปัญหา มีความทุกข์หนักถึงกับต้องเตรียมใจไว้รับ หรือเอาธรรมะเข้าข่ม เพื่อให้ทุกข์มันบรรเทาเบาบาง
การเหมาเอาว่า คนเกษียณอายุราชการแล้วทุกข์ มากกว่าคนที่กำลังรับราชการอยู่ เห็นจะผิดแล้วนะครับ ลงคนมันจะทุกข์แล้ว ไม่ว่ากำลังทำงานอยู่ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน หรือเกษียณอายุไปแล้วก็ทุกข์พอๆ กัน
ผมเองก็เป็นข้าราชการเกษียณ ถึงจะเกษียณก่อนกำหนดสิบปี ก็เรียกว่าเกษียณเหมือนกัน ผมกลับรู้สึกว่า ทันทีที่พ้นหน้าที่ "เช้าชามเย็นชาม" ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ที่จะได้ทำงานที่อยากทำ ซึ่งในขณะที่รับราชการอยู่ไม่มีเวลา
ขณะนี้ได้ทำงานที่ตนรัก เป็นอิสระ ไม่เป็นลูกจ้างหรือลูกน้องใคร (ยกเว้นภรรยา) มันช่างสุขสบายเสียนี่กระไร รู้อย่างนี้ลาออกเสียนานแล้ว
คนเกษียณอายุราชการที่จะทุกข์มีอยู่ประเภทเดียวคือ คนที่ไม่รู้จักโลกธรรมแปด คือลาภ-เสื่อมลาภ, ยศ-เสื่อมยศ, สรรเสริญ-นินทา, สุข-ทุกข์ ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็น "ความจริง" ของชีวิตที่ต้องประสบพบพานกันทุกคน มันมาแล้วไป ไปแล้วก็มา เหมือนแขกมาเยี่ยมบ้านเรา ชั่วประเดี๋ยวประด๋าวก็อำลาจากไป คนเคยเป็นใหญ่เป็นโต ไปไหนมาไหนมีคนล้อมหน้าล้อมหลัง
พูดอะไรถึงเชยเขาก็ว่าเฉียบแหลมยังกับขงเบ้ง ทำอะไรไม่เข้าท่าเขาก็ว่าท่านเก่ง ใครพูดขัดหูยังไม่ทันพยักหน้าเลย ลูกน้อง "จัดการ" แทนแล้ว ไล่เตะได้ก็เตะ เตะไม่ได้ก็เอาแค่พังรั้วบ้าน "นายข้าใครอย่าแตะ" ว่างั้นเถอะ
"ภาพ" เหล่านี้จะเห็นในขณะที่ยังมียศศักดิ์อยู่เท่านั้น พอเกษียณไปแล้วก็จะหายวับไปทันทีไม่ต่างอะไรกับความฝัน หมดอำนาจวาสนา ไม่อยู่ในฐานะให้คุณให้โทษแก่เขาอีกต่อไปแล้ว อย่าหวังจะได้ความเคารพนับถือเหมือนเดิม เขายังจำได้ว่าเคยเป็นนายก็บุญแล้ว
นี่คือโลกธรรม ที่จะต้องเข้าใจ "ปลง" เสียให้ตก แล้วจะไม่มีทุกข์ ได้เครื่องบินปีกทองฝังเพชรวันนี้ วันต่อไปถึงจะไม่ได้อะไรอีก เดินผ่านหน้า ความจำเขาเสื่อม จำเราไม่ได้ ก็ไม่เป็นทุกข์ เพราะเราปลงได้แล้วนี่ครับ
ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ/เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ข่าวสดออนไลน์, 27 มีนาคม 2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น