...+
▼
วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
นักวิจัย จุฬาฯ เผย"สารสกัดเมล็ดองุ่น" ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
นักวิจัย คณะสหเวชศาสตร์ จุฬา เผยผลวิจัยสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันเบต้าเซลล์ ในตับอ่อน สร้างฮอร์โมนอินซูลิน ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย ส่วนการรับประทาน เมล็ดองุ่นและเคี้ยวเมล็ด ช่วยให้ร่างกายได้สารโพลิฟีนอลต้านอนุมูลอิสระในปริมาณหนึ่ง แต่ไม่ดีเท่ากับรับประทานสารสกัดเข้มข้นจากเมล็ดองุ่น
โรคเบาหวานเป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังที่คุกคามสุขภาพคนไทย ปัจจุบันมีความพยายามของบุคลากรทางการแพทย์ เภสัชศาสตร์ และศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้องในการศึกษาวิจัยเพื่อหาวิธีควบคุมโรคดังกล่าวให้ได้ผล ทั้งนี้พฤติกรรมการบริโภคมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ต่อผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคคาร์โบไฮเดรตในปริมาณมาก มีผลให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนและการเกิด โรคเบาหวานชนิดที่ 2
ด้วยเหตุนี้ อ.ดร.สุวิมล ทรัพย์วโรบล ภาควิชาโภชนาการและการกำหนดอาหาร คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ และคณะ ซึ่งศึกษาวิจัยเรื่อง "ผลของสารสกัดจากเมล็ดองุ่นต่อระดับน้ำตาลหลังอาหารในอาสาสมัคร ที่มีสุขภาพดี" เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีคนจำนวนมากประสบปัญหาเป็นโรคเบาหวานและมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ในทางโภชนาการ นอกจากการให้ความรู้แก่ผู้ป่วย รวมถึงประชาชนทั่วไปในการป้องกันตนเองไม่ให้น้ำตาลในเลือด เพิ่มสูงขึ้นแล้วยังมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อให้ได้สารที่สกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์ในการ ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ หนึ่งในนั้นคือสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
"จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าสารสกัดที่ได้ จากเมล็ดองุ่นสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ เมื่อนำมาศึกษาในหนูทดลองซึ่งมีการให้อาหาร ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง พบว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่นมีฤทธิ์ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ได้ รวมทั้งยังป้องกันเบต้าเซลล์ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ในตับอ่อน มีหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนอินซูลิน ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย ซึ่งผู้ป่วยเบาหวานจะมีฮอร์โมนอินซูลินน้อย หรือตับอ่อนสร้างฮอร์โมนชนิดนี้ไม่เพียงพอ รวมถึงฮอร์โมนอินซูลินในร่างกายผู้ป่วยทำงาน ได้ไม่ดี"
อ.ดร.สุวิมล กล่าวต่อไปว่า ได้ทำการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้ในอาสามัครที่มีสุขภาพดี โดยให้รับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เพื่อกระตุ้นให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น จากนั้น จึงให้สารสกัดจากเมล็ดองุ่นแก่อาสามัครในระดับ 100 และ 300 มิลลิกรัม โดยมีการเจาะเลือดอาสาสมัครทุกๆครึ่งชั่วโมง เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ผลการศึกษาในเบื้องต้นพบว่าอาสาสมัครที่เป็นคนปกติ ซึ่งรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น 100 และ 300มิลลิกรัม มีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงทั้งสองกลุ่ม โดยอาสาสมัครที่รับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น 300 มิลิกรัมมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะทำการศึกษาวิจัยต่อไป ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งมีความยุ่งยากซับซ้อนและมีปัจจัยต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องมากกว่าคน ที่มีสุขภาพดี เนื่องจากผู้ป่วยต้องรับประทานยาหลายชนิดที่มีฤทธิ์กระตุ้นเบต้าเซลล์ให้ทำงานดีขึ้น
อ.ดร.สุวิมล กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลจากการศึกษาวิจัยในครั้งนี้เป็นไปตามสมมุติฐานที่ได้ตั้งไว้ ว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่นช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้จริง ปัจจุบันได้มีการนำสารสกัดจาก เมล็ดองุ่นมาทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในคนปกติได้ ส่วนการรับประทาน เมล็ดองุ่นและเคี้ยวเมล็ดไปด้วยนั้น จะทำให้ร่างกายได้สารโพลิฟีนอลต้านอนุมูลอิสระในปริมาณหนึ่งซึ่ง ไม่เท่ากับการรับประทานสารสกัดเข้มข้นจากเมล็ดองุ่น ทั้งนี้หน้าที่ของนักโภชนาการและการกำหนดอาหาร คือการให้ความรู้ แก่ผู้ป่วยว่าหลังจากรับประทานอาหารเข้าไปสารต่างๆในอาหารจะออกฤทธิ์อย่างไร รวมถึงการออกฤทธิ์ของยาที่รับประทานให้ได้ผล สูงสุด ดังนั้นผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าป่วยเป็นโรคที่เกิดจากโภชนาการจะถูกส่งต่อมายังนักกำหนดอาหารเพื่อขอคำแนะนำให้ความรู้ในเรื่องปริมาณและชนิดของอาหารที่จะต้องรับประทานในแต่ละมื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยเบาหวาน จำเป็นต้องได้รับความรู้ในเรื่องคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ซึ่งมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นในระยะเวลาต่างๆกัน โดยคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลไม่ซับซ้อนจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ในเวลาที่รวดเร็วเพียงไม่กี่นาที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น