...+

วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ใครจะใหญ่เกินกรรม











ใครจะใหญ่เกินกรรม




เมื่อยี่สิบกว่าปีมาแล้ว
ที่จังหวัดสระบุรีมีอุบัติเหตุรถบรรทุกชนรถสองแถวซึ่งบรรทุกนักเรียนอยู่เต็มคัน
เด็กนักเรียนทั้งหมดเสียชีวิตและหนึงในนั้นเพิ่งจะได้มีโอกาสตามญาติผู้ใหญ่
ไปกราบนมัสการหลวงปู่ดู่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย
คำถามที่ค้างคาใจในเวลานั้นคือทำไมหนอ

หลวงปู่จึงไม่เมตตาช่วยให้เด็กน้อยอันเป็นแก้วตาดวงใจของผู้เป็นพ่อและแม่
ให้แคล้วคลาดจากภยันตราย ทั้ง
ๆที่เด็กน้อยผู้นั้นก็มีวัตถุมงคลของหลวงปู่ติดตัวอยู่ แล้วทำไมกับศิษย์บางคนหลวงปู่จึงสงเคราะห์ให้เขาแคล้วคลาด หรือกระทั่งต่ออายุให้แก่เขา
คำถามอันจัดเป็นมิจฉาทิฏฐินั้นค่อย ๆ คลี่คลายลง เมื่อได้ยินเรื่องราวว่า วิญญาณ
ของเด็กน้อยผู้นั้น ได้ไปปรากฏตัว โดยมีหลวงปู่ทวดยืนอยู่ข้าง ๆ
ให้ลูกศิษย์ของหลวงปู่ที่อยู่ที่กรุงเทพฯ
ซึ่งเป็นญาติกันได้เห็นในเย็นวันเกิดเหตุ (ซึ่งขณะนั้น
ทางคุณพ่อคุณแม่ของเด็กก็ยังไม่ได้ส่งข่าวว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว)
เด็กนั้นได้ฝากคำพูดผ่านลูกศิษย์หลวงปู่ผู้นั้นไปถึงคุณแม่ว่า
"หนูออกมาแล้ว หนูไม่เจ็บเลย ชาติหน้าหนูขอมาเป็นลูกของแม่อีก
บอกแม่หนูด้วย"จากนั้น ตอนค่ำ
ทางญาติของเด็กน้อยนี้จึงได้ส่งข่าวให้ลูกศิษย์หลวงปู่ผู้นั้นได้ทราบว่า
เด็กเสียชีวิตแล้ว !

วันต่อมา
ครอบครัวของผู้ตายได้พากันไปทำบุญกับหลวงน้าสายหยุด
หลวงน้าบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง
เด็กน้อยนี้อยู่ในความอุปการะของหลวงปู่ทวดแล้ว
ซึ่งก็ตรงกันกับภาพที่มาปรากฏให้ลูกศิษย์หลวงปู่ผู้นั้นได้เห็น
บาง
ครั้งแม้เหตุปัจจัยจะไม่เอื้อให้หลวงปู่สงเคราะห์ให้เขารอดตายได้
แต่ท่านก็จะสงเคราะห์ด้วยการอุปการะดวงจิตของผู้ตายให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี
ซึ่งก็อาจจะดีเสียกว่ามาเสียชีวิตภายหลังแต่จากไปอย่างเคว้งคว้าง ล่องลอย
หรือไปสู่ภพภูมิที่ไม่ดี

กาลเวลาผ่านไป ประกอบกับประสบการณ์ต่าง ๆ
ที่ได้พบเห็นทำให้ได้ข้อสังเกตอันหนึ่งว่าบุคคลที่หลวงปู่จะสงเคราะห์ต่อ
อายุให้แก่เขาได้มักเป็นผู้ปฏิบัติธรรม
หรือเป็นผู้ที่จะทำประโยชน์ไว้กับพระพุทธศาสนานั่นคืออาศัยบุญบารมีและกุศล
เจตนาของตัวผู้นั้นเองด้วยว่าหากรอดชีวิตไปแล้ว
จะเป็นที่แน่นอนว่าเขาจะบำเพ็ญธรรมสั่งสมคุณงามความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
เหนือสิ่งอื่นใด เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ใครจะใหญ่เกินกรรม”





ขอบคุณข้อมูล จากพี่พันวฤทธิ์ด้วยครับ(luangpordu)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น